ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 717-718

ตอนที่ 717-718

ตอนที่ 717 บททดสอบที่ครอบคลุมทั้งทวีป
”เกิดอะไรขึ้น?”
จี้หยวนเฟิง เย่อู่ซิวและคนอื่น ๆ เงยหน้าขึ้น ตะลึงกับท้องฟ้าที่มีเมฆหนาแน่น
พวกเขาตรวจพบในทันใดว่ามีบางอย่างที่คุ้นเคยเกี่ยวกับเมฆดำนั่น
มันคือ… บททดสอบสวรรค์หรือเปล่า?
ซูผิงบุกทะลวงสู่ระดับดวงดาวแล้วหรอ?
ขณะที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนก็เบิกตากว้างด้วยความปีติยินดี!
ในทางกลับกันจี้หยวนเฟิงและรองหัวหน้ารู้สึกสับสน จี้หยวนเฟิงจ้องไปที่ก้อนเมฆและกล่าวว่า “ฉันไม่คิดว่ามันเกี่ยวข้องกับบททดสอบระดับดวงดาว!”
”ฮะ?”
ทุกคนมองมาที่เขาจี้หยวนเฟิงที่อยู่ในสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุด และเข้าใกล้ระดับดวงดาวมากกว่าคนอื่น เขารู้มากกว่าคนอื่นๆ
“หัวหน้าหมายความว่ายังไง?” หยวนเทียนเฉินถาม
จี้หยวนเฟิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่บันทึกไว้ในหนังสือโบราณ บททดสอบระดับดวงดาวไม่ใช่สายฟ้าผ่า แต่เป็นบททดสอบภายในร่างกายของคุณเอง ดังนั้นคุณจะต้องผ่านบททดสอบในตัวเอง…”
ทุกคนตกตะลึงเพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน
บททดสอบจะเกิดขึ้นภายในร่างกายของคุณเพื่อเข้าสู่ระดับดวงดาว?
แล้วบททดสอบเกี่ยวกับอะไร?
หลี่หยวนเฟิงจำ “เรื่องตลก” ที่ซูผิงเล่าตลอดเวลาได้ เขาพูดด้วยความตกใจสุดขีด “คือ— เขากำลังทำบททดสอบของนักรบในตำนานหรอ?”
ทุกคนตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น
บททดสอบนักรบในตำนาน?
การแสดงออกของจี้หยวนเฟิงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าเขาไม่สามารถตรวจระดับของซูผิงได้!
เขาอยู่ที่สภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดแล้ว มันยากและไม่จำเป็นสำหรับซูผิงที่จะซ่อนระดับจากเขา ท้ายที่สุดพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกัน เขาไม่สามารถวัดระดับที่แท้จริงของซูผิงได้ด้วยซ้ำ
สิ่งที่เขาสัมผัสได้ก็คือซูผิงเป็นเพียงนักรบกิตติมศักดิ์…
นั่นคือระดับที่แท้จริงของเขาหรอ?
จิตใจของจี้หยวนเฟิงว่างเปล่าราวกับว่ามันเพิ่งจะระเบิดหลังจากคิดเรื่องนี้
นักรบกิตติมศักดิ์ได้ต่อสู้เคียงข้างพวกเขา และจริงๆแล้วเขาแข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาทุกคน?
นักรบในตำนานคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจกับความคิดเห็นของหลี่หยวนเฟิง
“เจ้าของร้านซูมักจะอ้างว่าเขาเป็นเพียงนักรบกิตติมศักดิ์ ผมคิดมาตลอดว่าเขาล้อเล่น…” ฉินตู้หวงตะลึงงัน
โจวเทียนหลินก็มึนงงกับความคิดนี้เช่นกัน
เจ้าแห่งถ้ำลึกก็ตกตะลึงเมื่อเห็นกลุ่มเมฆ มันตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างและมองไปที่ซูผิงด้วยความตกใจ
ตอนแรกมันรู้สึกว่ามนุษย์ไม่ใช่นักรบในตำนานด้วยซ้ำ!
แต่ก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่
เดิมที มันสรุปว่าซูผิงได้บ่มเพาะเทคนิคปกปิดแบบโบราณบางอย่าง ท้ายที่สุดแล้วเขาจะหายตัวจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งหรือใช้พลังแห่งกฎได้ยังไงถ้าเขาเป็นแค่นักรบอสูรระดับเก้าจริงๆ?
นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนในระดับเก้าสามารถทำได้!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้มันเชื่อว่ามนุษย์อยู่แค่ระดับเก้าจริงๆ!
ผู้ชายที่ไม่ใช่นักรบในตำนานเกือบจะจับมันได้!
ฮึก!
เจ้าแห่งถ้ำลึกส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยว “ไอ้เวร! ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่าแก!”
ซูผิงยืนเงียบ ๆ บนท้องฟ้า เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความปรารถนาที่จะฆ่าอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดรุนแรงนั่น แต่เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยับยั้งและมองศัตรูอย่างถมึงทึง “ทำไมไม่ลองดูล่ะ?”
สิ่งที่ดีเกี่ยวกับบททดสอบสวรรค์ก็คือใครก็ตามที่โจมตีบุคคลที่กำลังทำการทดสอบจะโดนโจมตี!
เป็นที่น่าสังเกตว่าพลังของบททดสอบไม่ได้ถูกกำหนดไว้ที่ระดับตำนานเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับระดับของผู้โจมตีด้วย!
หากระดับดวงดาวเข้ามาโจมตี บททดสอบสวรรค์จะปรับตัวและจัดการกับผู้รุกรานระดับดวงดาว!
ท้ายที่สุดนี่เป็นบททดสอบที่แท้จริงจากสวรรค์!
สวรรค์จะตัดสินจากผู้ทดสอบ ใครก็ตามที่พยายามจะฆ่าผู้ทดสอบที่กำลังถูกตัดสิน ถือเป็นการดูหมิ่นและไม่เคารพต่อสวรรค์อย่างแท้จริง
ซูผิงตั้งใจที่จะฆ่าเจ้าแห่งถ้ำลึก เขาไม่กลัวการเข้ามายุ่ง เขามั่นใจในการป้องกันตัวเองแม้ว่าเจ้าแห่งถ้ำลึกจะกล้าโจมตีจริงๆ
เขาอยู่ในระดับตำนานแล้ว การผ่านบททดสอบคือขั้นสุดท้าย
เขามีพลังมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า การโจมตีด้วยดาบแห่งความว่างเปล่ากลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา!
“แกกำลังขอให้ตัวเองถูกฆ่า!” ดวงตาของเจ้าแห่งถ้ำลึกเป็นประกายดุเดือด มันถือว่าเนี่ยฮั่วเฟิงเป็นคู่ต่อสู้หลักมาโดยตลอด จากนั้นในที่สุดมันก็เอาชนะชายคนนั้นและเกือบจะฆ่าเขาได้ ถึงกระนั้นก็มีผู้ชายอีกคนปรากฏตัวขึ้น
“ต่อให้แกผ่านบททดสอบแล้วยังไงล่ะ? แกยังคงเป็นมดแม้ว่าแกจะฝ่าฟันผ่านไปได้! ฉันก็จะฆ่าแกอยู่ดี!” เจ้าแห่งถ้ำลึกขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เสียงของมันก้องไปทั่วความว่างเปล่า
เย่อู่ซิวและคนอื่น ๆ ที่พื้นดินตกใจเมื่อพบว่าการคาดเดาของพวกเขาได้รับการยืนยันแล้ว
ซูผิงกำลังจะผ่านบททดสอบของนักรบในตำนานจริงๆ!
เขาเป็นนักรบกิตติมศักดิ์มาโดยตลอด!
พวกเขาตกใจเกินกว่าจะพูดอะไรเมื่อจำได้ว่าซูผิงเดินทางไปที่ทางเดินถึงสองครั้ง พวกเขาไม่มีความสามารถหรือไม่กล้าที่จะทำอย่างนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับตำนานมานานแล้วก็ตาม!
แต่ซูผิงทำแบบนั้นตอนที่เขาเป็นเพียงนักรบกิตติมศักดิ์เท่านั้น!
“ผ ผู้ชายคนนี้…”
รองหัวหน้าหันกลับมามอง เขามองไปที่ฉินตู้หวงซึ่งค่อนข้างคุ้นเคยกับซูผิงและถามว่า “ย้อนกลับไปตอนที่เขาบุกเข้าไปในหอคอยและฆ่านักรบในตำนานสามคนติดต่อกัน ระดับของเขาคือเท่าไร?”
ฉินตู้หวงกลับมารู้สึกตัวและมองไปที่รองหัวหน้า เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าสิ่งที่ผมรับรู้ในวันนั้นถูกต้อง เขาอาจจะอยู่ที่ระดับเจ็ด…”
“…”
ความเงียบเข้าครอบงำทุกที่
ระดับเจ็ด…
ซูผิงบุกเข้าไปในหอคอยและฆ่านักรบในตำนานสามคนตอนที่เขายังเป็นนักรบระดับเจ็ด ซึ่งแทบจะไม่ใช่นักรบอสูรขั้นสูงด้วยซ้ำ!
ที่แย่ไปกว่านั้น หนึ่งในนั้นคือนักรบสภาวะว่างเปล่า!
รองหัวหน้าอ้าปากค้าง ตกตะลึงกับสิ่งที่ฉินตู้หวงพูด
เขาอยู่ในระดับเจ็ดเท่านั้น… รองหัวหน้าลงมือกับเขาเพื่อศักดิ์ศรีของหอคอย แต่ซูผิงก็สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้
ซูผิงอยู่ในระดับเจ็ดเท่านั้น?
ฉันล้มเหลวในการเอาชนะนักรบระดับเจ็ด?
ไม่ใช่แค่รองหัวหน้า หยวนเทียนเฉิน และคนอื่นๆ ล้วนตกตะลึง โดยเฉพาะหยวนเทียนเฉิน เขาจำได้ว่าซูผิงแข่งขันกับหลานสาวของเขาเพื่อแย่งสมบัติ ไม่น่าแปลกใจที่เธอไม่ชนะ… เธอกำลังแข่งขันกับสัตว์ประหลาด!
สุดยอดสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยมีมาก่อน!
“ทำไมบททดสอบในตำนานของเขาถึงใหญ่นัก?” ในขณะนี้มีคนสังเกตเห็นว่าเมฆมืดที่ปกคลุมซูผิงนั้นกว้างใหญ่เพียงใด!
ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่งตกใจเมื่อตระหนักได้
“เมฆมืดปกคลุมภูเขาทั้งลูกตอนผมกลายเป็นตำนาน นั่นก็น่าตกใจมากพออยู่แล้ว”
“เมฆมืดของผมครอบคลุมแค่ห้ากิโลเมตร มันก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนด้วย…”
“บททดสอบสวรรค์ของเขา… โอ้ พระเจ้า ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันแผ่ออกไปหลายร้อยกิโลเมตร?”
นักรบในตำนานกระซิบแลกเปลี่ยนความประทับใจของพวกเขากัน
บททดสอบสวรรค์ที่พวกเขาได้ผ่านมาแล้วนั้นน่าตกใจและยอดเยี่ยมเพียงพอแล้ว แต่มันเป็นเพียงแค่ลมเบาๆไปเลยเมื่อเทียบกับลมที่พัดเหนือหัวของซูผิง!
การแสดงออกของจี้หยวนเฟิงเปลี่ยนไป บททดสอบในตำนานของเขามีรัศมีเพียง 20 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่มากแล้ว เขาได้เรียนรู้จากตำราโบราณบางอย่างว่าขนาดของบททดสอบสวรรค์นั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้ทดสอบ
ยิ่งมีพรสวรรค์มากเท่าไหร่ บททดสอบก็จะยิ่งยากขึ้นเท่านั้น
หวืด!
จี้หยวนเฟิงลุกขึ้นจากพื้นดิน แสงดวงดาวรวมตัวกันในดวงตาของเขาขณะที่เขามองไปที่ขอบฟ้า
เขาตกใจที่พบว่ามันมองไม่เห็นขอบ!
รัศมีไม่ใช่หลายร้อยกิโลเมตร แต่อาจเป็นพันกิโลเมตร!
“ผ-ผู้ชายคนนี้…”
จี้หยวนเฟิงมองไปที่ซูผิงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า สงสัยว่าเขามีพรสวรรค์ที่ไม่น่าเชื่อขนาดไหน เขาต้องเป็นหนึ่งในอัจฉริยะระดับแนวหน้าของสหพันธ์ดวงดาว!

ในทิศเหนือ
ชายสองคนกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า
พวกเขาเป็นนักรบในตำนานสองคน หนึ่งในนั้นได้รับมอบหมายจากกู่ซือผิงให้ส่งข้อความไปยังหอคอย และอีกคนคือตำนานที่ปกป้องหอคอยมาตลอด ขณะนี้พวกเขากำลังเดินทางไปเสริมกำลังที่แนวป้องกัน
ท้ายที่สุดแม้แต่เจ้าหอคอยรุ่นแรกก็ยังไปเป็นแนวหน้า
พวกเขามองว่า เจ้าหอคอยรุ่นแรก—นักรบระดับดวงดาว—ก็เพียงพอแล้วที่จะเอาชนะกระแสอสูรร้ายได้!
มันเป็นช่วงเวลาที่เมฆรวมตัวกันบนท้องฟ้าเหนือพวกเขา
สายฟ้าก็แผ่ขยายออกไปท่ามกลางหมู่เมฆ กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างดังกล่าวได้สร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งคู่
“คือ—เป็นเมฆมืดของบททดสอบสวรรค์หรอ?!”
ทั้งสองหยุดและมองไปข้างหน้าด้วยความประหลาดใจ
”มันเป็นไปได้ยังไงกัน? บททดสอบสวรรค์ของใครที่ก่อให้เกิดเมฆมืดรุนแรงเช่นนี้ได้? เป็นบททดสอบระดับดวงดาวหรือเปล่า?”
ไกลออกไป ตรงขอบของเขตอนุทวีป น้ำก็เพิ่มสูงขึ้น และอสูรมหาสมุทรหลายชนิดก็เคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งมากขึ้น มีพวกมันมากมายจนสามารถยึดครองทุกซอกทุกมุมของทวีปได้หากพวกมันขึ้นฝั่ง!
ทันใดนั้น อสูรบางตัวในระดับสูงก็หยุดและเงยหน้าขึ้นมอง
ท้องฟ้าที่ปลายขอบฟ้าก็มืดลง เมฆมืดดูเหมือนจะรวมตัวกันและม้วนตัว
“?”
“???”
อสูรมหาสมุทรสับสน

ด้านหลังแนวป้องกัน
ท้องฟ้าทั้งท้องฟ้ามืดลงเพราะเมฆมืด
“นั่นมันตัวอะไรกันแน่?” ราชาสวรรค์ดีชั่วก็เงยหน้าขึ้นมอง
ราชาอสูรร้ายตัวอื่นๆ ก็หยุดนิ่ง ประหลาดใจกับเมฆเหนือหัวของพวกมัน
“มีคนผ่านบททดสอบสวรรค? มันเป็นของระดับดวงดาวเหรอ?”
จักรพรรดินีมหาสมุทรหรือเปล่า?”
อสูรมหาสมุทรสภาวะชะตากรรมตื่นเต้น และโห่ร้องเสียงดัง
อสูรสภาวะชะตากรรมจากถ้ำลึกมองหน้ากันด้วยความงงงวย
จักรพรรดินีมหาสมุทรอาจจะต่อสู้กับราชาของพวกมันได้ หากเธอไปถึงระดับดวงดาว อย่างไรก็ตามเสือสองตัวไม่สามารถอยู่ถ้ำเดียวได้
นอกร้านขายอสูรพิกซี่
ผู้รอดชีวิตที่ซ่อนตัวอยู่ในร้านมองท้องฟ้าสลัว และเมฆมืดสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
จักรพรรดินีที่คุกเข่าก็สังเกตเห็นความผิดปกติเช่นกัน เธอไม่สามารถเงยหน้าได้ในขณะนี้ สิ่งที่ดีที่สุดที่เธอทำได้คือมองจากหางตา เธอสังเกตเห็นว่าท้องฟ้าอันไกลโพ้นนั้นมืดสลัว
“มีคนกำลังผ่านบททดสอบสวรรค์? มันเป็นไปได้ยังไงกัน? นี่ไม่ใช่บททดสอบระดับดวงดาว!
“มันเป็นบททดสอบระดับตำนานเหรอ? ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้ มันจะกว้างใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง…”
จักรพรรดินีที่ตกตะลึงได้ปลดปล่อยพลังงานของเธอ และพยายามจะเป็นอิสระเพื่อที่เธอจะได้รู้ว่าใครกำลังถูกทดสอบ
โจแอนนาผลักฝูงชน และเดินออกจากร้าน
เธอมองเมฆหนาทึบบนท้องฟ้าและรวบรวมแสงศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาของเธอ จากนั้นอาคารต่างๆ ก็หยุดบดบังทัศนวิสัยของเธอ เธอเห็นสิ่งต่าง ๆ ในระยะไกล
“เป็นเขาจริงๆ…”
โจแอนนาอึ้งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอกระตุกเมื่อเธอมองไปที่เมฆมืด
บททดสอบสวรรค์ที่มีรัศมีร้อยกิโลเมตรที่เขาเคยก่อไว้ก่อนหน้านี้ทำให้เธอตกตะลึงมากพอแล้ว ซึ่งบ่งบอกถึงศักยภาพของระดับดวงดาวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาทำบททดสอบที่กว้างกว่านั้นอีกซึ่งเป็นขอบเขตที่เธอมองไม่เห็น เขาอาจมีพรสวรรค์ที่จะเป็นเทพ!

บูม~!
เมฆมืดทะมึนพลุ่งพล่านราวกับมังกรจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังโบยบินไปมา แรงกดดันของมันน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
ซูผิงลอยอยู่ใต้เมฆอย่างเคร่งขรึม เขามองไปที่เจ้าแห่งถ้ำลึกซึ่งได้ตัดสินใจกลับไปที่กักสวรรค์ที่ถูกทำลาย และดูดซับพลังดวงดาวอย่างตะกละตะกลามเพื่อรักษาบาดแผลของมัน
ซูผิงไม่สามารถทำอะไรได้ในขณะนั้น บททดสอบสวรรค์จะหยุดชะงักถ้าเขาพยายามขัดขวางมัน
ซูผิงมองไปที่เมฆด้านบนและคำราม “ให้ตายสิ ฟาดลงมาเดี๋ยวนี้!”
เมฆมืดขึ้นราวกับถูกยั่วยุ ท้องฟ้าที่มืดมิดดั่งหมึก ดูเหมือนมหาสมุทรกลับหัวกลับหาง สายฟ้าหนาทึบรวมตัวกันจากทุกทิศทุกทาง
”มาเลย!” ซูผิงคำราม
บูม!!
สายฟ้าฟาดลงมาจากเมฆ มีเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบร้อยเมตร ซึ่งทำให้โลกสว่างไสวราวกับเสาเรืองแสง
ในขณะนั้น ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังแนวป้องกันสัมผัสถึงเสาสายฟ้าและมองไปที่ซูผิง
“ช่างเป็นสายฟ้าที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้”
เย่อู่ซิวและคนอื่นๆ หน้าซีดเมื่อเห็นพลังดังกล่าว พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้แม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักรบสภาวะว่างเปล่า!
ในขณะที่ยังคงอยู่ในเมืองฐานที่ห่างไกล ราชาสวรรค์ดีชั่วและอสูรสภาวะชะตากรรมตัวอื่น ๆ จากถ้ำลึกได้เรียนรู้ตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตที่กำลังผ่านบททดสอบโดยใช้สายฟ้าเป็นข้อมูลอ้างอิง
”ไปกันเถอะ!”
ราชาสวรรค์ดีชั่วคำรามและพุ่งออกไป
อสูรสภาวะชะตากรรมตัวอื่นๆ ตามมันไป อยากรู้ตัวตนของผู้ทดสอบ
ราชาอสูรร้ายกำลังรวมตัวกันในสถานที่ที่ซูผิงกำลังถูกทดสอบ พวกมันทั้งหมดกระตือรือร้นที่จะชื่นชมมุมมองที่หายากเช่นนี้ แม้แต่การเข่นฆ่าก็ไม่อาจกระตุ้นความสนใจของพวกมันได้อีกต่อไป
หลังจากเสียงดัง เสาสายฟ้าก็กลืนร่างของซูผิงและกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ทำให้เกิดแผ่นดินไหวในรัศมีหนึ่งร้อยกิโลเมตร
ฟ้าแลบเป็นประกายจนไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน
สายฟ้าจางหายไปสิบวินาทีต่อมา ซูผิงยังคงลอยอยู่ที่เดิม เสื้อผ้าและชุดเกราะลับของเขาได้รับความเสียหายทั้งหมด และร่างกายแข็งแกร่งที่หลอมรวมกับอสูรของเขาก็ถูกเปิดเผย
ตอนที่ 718 สวรรค์พิโรธ
“มันถูกปิดกั้น!”
ที่ระดับพื้นดินจี้หยวนเฟิงและคนอื่น ๆ รู้สึกโล่งใจที่ได้เห็น
มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่าพวกเขาสามารถต้านทานบททดสอบอันน่าสะพรึงกลัวของสวรรค์ได้ ยกเว้นจี้หยวนเฟิงและรองหัวหน้า
ตำนานสภาวะสมุทรบางคนมีรอยยิ้มขมขื่น เพราะพวกเขาจะถูกทำให้กลายเป็นไอถ้าพวกเขาเป็นคนที่ทำบททดสอบนั้น!
มีเพียงสัตว์ประหลาดอย่างซูผิงเท่านั้นที่สามารถเรียกบททดสอบที่น่าสยดสยองแบบนี้ และอดทนกับมันได้!
บูม~!
เมฆมืดเหนือหัวของซูผิงยังคงพลุ่งพล่านหลังจากเสาสายฟ้าแรก สายฟ้าลูกที่สองกำลังก่อตัว!
ซูผิงเงยหน้าขึ้น และจ้องมองที่เมฆด้วยดวงตาเป็นประกาย
เขารอดชีวิตจากการถูกฟ้าผ่านับร้อยครั้งในหลุมศพกึ่งเทพ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่เป็นบททดสอบของคนอื่น แต่เขากลับไม่คุ้นเคยกับสายฟ้าเหล่านี้เลย เขาพบว่าสายฟ้าที่เขาเพิ่งได้รับดูเหมือนจะมีพลังมากกว่าที่เขาเคยประสบมา!
อย่างไรก็ตามมันไม่มากเกินไปจนเขาทนไม่ได้!
สายฟ้าที่น่ากลัวก่อนหน้านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นักรบสภาวะว่างเปล่ารู้สึกกดดัน แต่ก็ไม่ก่อให้เกิดอะไรนอกจากความเครียดเล็กน้อยสำหรับเขา!
ร่างกายของเขาแข็งพอๆ กับนักรบสภาวะชะตากรรมเมื่อเขามีกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง การโจมตีระดับสภาวะว่างเปล่านั้นไม่เป็นอันตรายต่อเขา
”มาเลย!” ซูผิงอ้าแขนคำราม
แสงสีทองส่องประกายออกมาจากร่างกายของเขา เขาพร้อมที่จะรับการโจมตีครั้งต่อ
เขาลอยขึ้นไปในอากาศอย่างภาคภูมิ ราวกับว่าเขาเป็นพระเจ้าที่เดินดิน!
โลกมืดมัวไปหมดหลังแนวป้องกัน หลายคนที่ซ่อนตัวอยู่ในที่กำบังเห็นแสงสีทองเป็นประกาย!
อสูรป่าที่อาละวาดก่อนหน้านี้หยุดลงเมื่อเห็นเมฆมืด อากาศเต็มไปด้วยความรู้สึกอันตรายภายใต้เมฆมืด และอสูรป่าก็ตกตะลึงอีกครั้ง บรรดาตัวที่กล้าหาญน้อยกว่าในหมู่พวกมันถึงกับหมอบ
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดกลัวฟ้าผ่ามาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ต้องพูดถึงเมฆที่หนาแน่นและมืดมนที่เกิดจากการลงทัณฑ์ของสวรรค์
บูม!!!
ราวกับว่ากำลังตอบสนองต่อซูผิง เมฆคำรามอย่างเกรี้ยวกราดและยิงสายฟ้าออกมาอีก มันไม่ได้สวยงามเหมือนก่อน แต่มันเร็วกว่ามากและมาถึงซูผิงในชั่วพริบตา
ซูผิงถูกสายฟ้าปกคลุมอย่างสมบูรณ์
ผมสีเงินของซูผิงปลิวไสวในขณะที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานมหาศาล และแสงสีทองส่องออกมาจากดวงตาของเขา เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่หน้าอก แต่ก็ไม่ร้ายแรง มันทำให้เลือดของเขาเดือดเท่านั้น
การลงทัณฑ์ของสวรรค์
ซูผิงตรวจพบพลังประหลาดในเมฆที่กำลังระเบิด
ดูเหมือนจะมีกฎซ่อนอยู่ในก้อนเมฆ หรือบางสิ่งที่อยู่นอกเหนือพวกมัน
เขาเข้าร่วมบททดสอบของคนอื่นในหลุมศพกึ่งเทพเกือบร้อยครั้ง แต่ความเข้าใจของเขาไม่เคยลึกซึ้ง ความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีก่อนหน้านี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเขา
การเห็นแจ้งไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล มันต้องอาศัยประสบการณ์และความเข้าใจของตัวเอง!
ซูผิงตรวจสอบพลังนั้นในขณะที่อยู่กลางสายฟ้าระเบิด และในไม่ช้าก็เข้าสู่สถานะการรับรู้
การลงทัณฑ์ของสวรรค์
สายฟ้า!
บูม~!
ซูผิงหลับตาและยืนอยู่กลางอากาศ เมฆมืดทะมึนพลุ่งพล่านและคำรามราวกับมังกรที่อยู่เหนือเขา สายฟ้าที่ยิงออกมาดูเหมือนจะทำลายล้างโลกได้!
ผู้คนสามารถเห็นสายฟ้าแลบวาววับในทุกที่หลังแนวป้องกัน ส่องสว่างโลกภายใต้เมฆมืด!
สายฟ้าเหล่านั้นฟาดผ่าลงมาใส่อะไรบางอย่าง ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ระหว่างสวรรค์กับมนุษย์!
ฉากนั้นตกตะลึงจนหลายคนประหลาดใจ
บูม!
บูม!
ซูผิงถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าและเปล่งประกายยิ่งขึ้น ร่างกายของเขาเหมือนแก้วสีทอง สายฟ้าฟาดต่อเนื่องไม่ได้ดับพลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของเขาแม้แต่น้อย แต่ทำให้ผิวของเขาไร้ที่ติยิ่งขึ้น มันส่องแสงสวยงามราวกับว่ามันเป็นสมบัติ!
ลวดลายสีทองแผดเผาบนหลังของซูผิง มันเป็นลายอีกาทองคำสยายปีก!
กลิ่นอายดั้งเดิมของปีศาจกระจายออกมาจากซูผิง โดยพื้นฐานแล้วเขาได้สืบทอดสายเลือดอีกาทองคำตั้งแต่เขาไปถึงกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง และโดยพื้นฐานแล้วเขาก็เป็นอีกาทองคำตัวนึง!
อีกาทองคำเป็นอสูรโบราณ มันขับกลิ่นอายออกมาจากร่างกายของซูผิงเพราะสายฟ้าฟาดและแทรกซึมระหว่างฟ้าดิน
“เขา—เขาเป็นมนุษย์จริงๆ เหรอ?”
“ฉันรู้สึกเหมือนเขาเป็นอสูรร้าย!”
จี้หยวนเฟิง เสวี่ยอวิ๋นเจินและคนอื่น ๆ ตกใจ ซูผิงไม่ได้ถูกทำลายโดยเมฆมืด ตรงกันข้าม เขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเขาจะทำลายโลก!
กลิ่นอายของซูผิงเพียงอย่างเดียวทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว ทำให้พวกเขารู้สึกอยากจะคุกเข่าต่อหน้าเขา!
ชายผู้นี้ดูน่ากลัวยิ่งกว่าเจ้าแห่งถ้ำลึกเสียอีก!
“ผู้ชายคนนั้น…”
ราชาอสูรร้ายที่มาจากทุกทิศทุกทางต่างตกตะลึง บางตัวตัวสั่น
ราชาสวรรค์ดีชั่ว ราชาสวรรค์ต่างโลก และอสูรป่าสภาวะชะตากรรมอื่น ๆ ก็กลัวเช่นกัน
พวกมันทั้งหมดมีความคิดเหมือนกัน: เราปล่อยให้มนุษย์คนนี้ทำบททดสอบต่อไปไม่ได้!
มันจะน่ากลัวแค่ไหนถ้าเขาผ่านบททดสอบจริง ๆ ?
แม้ว่าความคิดจะวนเวียนอยู่ในหัว แต่ก็ไม่มีใครกล้าลงมือทำ พวกมันยืนนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง!
พวกมันไม่มีความกล้าที่จะโจมตีซูผิงซึ่งได้ปลดปล่อยแรงกดดันมหาศาลออก และพวกมันไม่ต้องการถูกสายฟ้ากลืนกิน ไม่มีใครมั่นใจว่าจะทนได้เหมือนซูผิง!
พลังของสายฟ้าไปถึงสภาวะชะตากรรมแล้ว!
แม้แต่จี้หยวนเฟิง รองหัวหน้า และอสูรสภาวะชะตากรรมจำนวนมากก็รู้สึกกดดันเช่นกัน หากพวกเขาเข้าไปพัวพัน มันจะทำให้เมฆเดือดดาลและทำให้พวกมันรุนแรงเป็นสองเท่า!
เจ้าแห่งถ้ำลึกที่อยู่ใกล้เคียงกำลังจดจ่ออยู่กับการดูดซับพลังดวงดาวนับพันปี มันซ่อนกลิ่นอายของมันไว้โดยกลัวว่าเมฆจะตรวจจับและโจมตีมันด้วย
ตาของมันหดตัวเมื่อเห็นซูผิงที่ลอยอยู่ที่ระดับความสูงเดียวกันกับหัวของมัน มันตกใจยิ่งกว่าที่เห็นรอยสักสีทองบนหลังของซูผิง
“มันคือ—มันคือกลิ่นอายปีศาจโบราณ…”
มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายปีศาจโบราณจากซูผิง!
เหตุผลเบื้องหลังการวิวัฒนาการของมันคือพลังของปีศาจโบราณในสายเลือดของมัน มันคาดไม่ถึงว่ามนุษย์จะมีพลังนี้ด้วย!
นอกจากนี้ มันยังเป็นกลิ่นอายโบราณที่สว่างไสวและศักดิ์สิทธิ์นอกเหนือจากกลิ่นอายของปีศาจ มันทำให้เจ้าแห่งถ้ำลึกตกตะลึงจากก้นบึ้งของหัวใจ
ฉันไม่สามารถปล่อยให้มันผ่านบททดสอบได้ ฉันทำไม่ได้… ความคิดผุดขึ้นในหัวของมัน ก่อนหน้านี้มันไม่ได้คิดถึงซูผิงมากนักเพราะเขาจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า แม้ว่าเขาจะกลายเป็นนักรบในตำนานก็ตาม แต่มันก็ยังสามารถบดขยี้ซูผิงได้!
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกที่เป็นลางไม่ดีของเจ้าแห่งถ้ำลึกนั้นเพิ่มสูงขึ้นในนี้ ในที่สุดมันก็คำรามใส่ราชาอสูรร้ายบนพื้น “หยุดเขา!”
เสียงคำรามดังก้องไปทั่วโลกและปลุกราชาอสูรร้ายทั้งหมดที่หลงทางในความงุนงงจากบททดสอบของซูผิง ทุกคนเปลี่ยนการแสดงออก
จี้หยวนเฟิงและมนุษย์คนอื่นตกใจและโกรธ พวกเขาทั้งหมดตระหนักได้ถึงความต้องการของเจ้าแห่งถ้ำลึก มันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ก็ยังขอให้ราชาอสูรร้ายตัวอื่นขัดขวางซูผิง แม้ว่าพวกมันจะถูกฆ่าตาย พวกมันก็จะส่งผลกระทบต่อบททดสอบสวรรค์และเพิ่มความยากลำบาก ซูผิงอาจจะตายไปพร้อมกับพวกมัน!
“บัดซบ!”
จี้หยวนเฟิงและคนอื่นๆ โกรธ และทำได้เพียงพยายามหยุดพวกมัน
อย่างไรก็ตาม ราชาอสูรร้ายมองหน้ากันด้วยความงงงวยไม่กล้าก้าวออกไป
เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าแห่งถ้ำลึกก็โกรธ และเพ่งมองที่หนึ่งในราชาอสูรสภาวะว่างเปล่า “ไป!!!”
ราชาอสูรร้ายตัวสั่น แต่ก็ไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง มันพุ่งอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าใส่ซูผิงที่อยู่บนท้องฟ้า
การแสดงออกของของจี้หยวนเฟิงและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไป พวกเขาพยายามหยุดมัน
ในทางกลับกัน อสูรร้ายก็ลงมือเช่นกัน พวกมันไม่ได้โจมตีซูผิงแต่เพียงแค่ป้องกันจี้หยวนเฟิงและมนุษย์คนอื่น ๆ
จี้หยวนเฟิงและทุกคนค่อนข้างกังวล บททดสอบมีความสำคัญอย่างมากในขณะนี้ บททดสอบในที่สาธารณะมักจะถูกรบกวน
เสียงคำรามดังสนั่นมาจากระยะไกล ในขณะนั้นเอง
โฮกกก!!
ไกลออกไปในเมืองฐานหลงเจียง มังกรเพลิงนรก—ซึ่งซูผิงให้ไปช่วยเหลือเซี่ยจินชุ่ย— ทะยานกลับมาและส่งเสียงคำรามที่ก้องกังวานไปทั่วสนามรบ
เสียงคำรามได้รับการสืบทอดมาจากราชามังกรระดับดวงดาว มันทำให้ราชาอสูรร้ายบางตัวตกใจและหวาดกลัว
แม้ว่าความกลัวของพวกมันจะหายไปในไม่ช้า แต่พวกมันก็ยังตกใจ
มังกรเพลิงนรกบินข้ามมาอย่างรวดเร็วในขณะที่ส่งเสียงดังกึกก้อง ตัวของมันสว่างโชติช่วงด้วยสายฟ้าและไฟ มันชนเข้ากับราชาอสูรสภาวะว่างเปล่า และแสงศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งออกมาจากกรงเล็บของมัน ฉีกศัตรูออกเป็นชิ้น ๆ!
เจ้าแห่งถ้ำลึกตกใจและเดือดดาล พวกมันอาจถูกกลืนกินหากพลังงานของพวกมันส่งผลต่อซูผิงภายใต้เมฆมืด แต่อสูรของเขาไม่กลัวอะไรเลย การโจมตีของอสูรจะถือเป็นการโจมตีของซูผิงเพราะพลังสัญญา พวกมันสามารถต้านทานสายฟ้าโดยไม่เพิ่มพลังเป็นสองเท่า
”ไป! อสูรร้ายสภาวะชะตากรรม ฆ่ามัน!”
“เนตรโลหิต ไป!” เจ้าแห่งถ้ำลึกคำราม
ราชาปีศาจสภาวะชะตากรรมบางตัวจากถ้ำลึกหน้าเปลี่ยนสี โดยเฉพาะอสูรพันตาที่สั่นเทาด้วยดวงตาหรี่เล็ก มันมองเจ้าแห่งถ้ำลึกที่โกรธเกรี้ยวด้วยสายตาสิ้นหวัง ไม่คิดว่ามันจะลงเอยด้วยการเป็นอาหารอสูรขนาดใหญ่ ก่อนที่มันจะได้เพลิดเพลินไปกับโลกที่พวกมันพิชิตได้หลังจากรอมาหลายร้อยปี!
“อ๊ะๆๆๆ…”
อสูรพันตาพุ่งไปข้างหน้าอย่างโกรธจัด พร้อมตายไปกับซูผิง!
มังกรเพลิงนรกรวบรวมพลังดวงดาวและพยายามที่จะหยุดศัตรู แต่ก็มีช่องว่างระหว่างพลังอยู่ มันถูกหยุด ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
หลังจากเสียงบูม รังสีเลือดพุ่งไปที่ซูผิง
ซูผิงลืมตาขึ้นในขณะนั้น แสงเจิดจ้าและคมพุ่งออกมาจากดวงตาของเขาผ่านความมืด ส่องโลกให้สว่างไสว
ดวงตาของเขาดูนิ่งเฉย ไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าเขาจะได้เห็นโศกนาฏกรรมทั้งหมดในโลกมนุษย์ เขามองลงมาอย่างเย็นชาด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาของเขา
สายฟ้าระเบิดออกมา ทำลายรังสีเลือดจำนวนมาก จากนั้นมันก็กลายเป็นขวานยาวฟันใส่ศัตรู!
หลังจากเสียงระเบิดดังสนั่น ช่องว่างก็แตก แม้แต่มิติชั้นสองก็แตก ขวานฟันอสูรพันตาทันที
ดวงตาทั่วร่างของอสูรพันตาเกือบจะถลนออกมา ไม่เชื่อว่ามันจะไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีของซูผิงได้!
เป็นไปไม่ได้!
มันคำรามด้วยเลือดและจิตวิญญาณที่แผดเผา อย่างไรก็ตามผ่านไปครึ่งทาง ร่างกายของมันถูกตัดขาดด้วยขวานสายฟ้า!
ฉากนั้นทำให้อสูรสภาวะชะตากรรมด้านล่างอ้าปากค้าง
อสูรพันตา—อสูรสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดไม่ได้อ่อนแอเลย แต่ซูผิงก็ฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย!
บูม~!
เมฆเหนือหัวของซูผิงลุกลามอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นหลังจากตรวจพบการโจมตีของอสูรพันตา และเตรียมการโจมตีด้วยสายฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
ซูผิงเงยหน้าขึ้นมองเมฆอย่างมีความหวัง!
สายฟ้าก่อนหน้านี้ไม่ดีพอสำหรับเขา เขาตั้งตารอที่มันจะสร้างหายนะมากกว่านี้
“วิถีแห่งสายฟ้า…”
ซูผิงหลับตาลงและครุ่นคิดอีกครั้งหลังจากตรวจสอบพลังสายฟ้ารอบตัวเขา
เจ้าแห่งถ้ำลึกค่อนข้างเคร่งขรึมเมื่อเห็นซูผิงครุ่นคิด ซูผิงเติบโตขึ้นอย่างมากในเวลาเพียงครู่เดียว…ราวกับว่าเขาฝึกฝนอย่างหนักมาหลายปี
หลังจากมองสายฟ้าฟาดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันไม่ได้กระตุ้นให้ราชาอสูรตัวอื่นโจมตีอีกต่อไป
หนึ่งในอสูรร้ายได้โจมตีแล้ว ตัวอื่นไม่สามารถทำให้เมฆโกรธในระดับที่สูงขึ้นได้ พวกมันทำได้เพียงแค่ฆ่าตัวเองเท่านั้น
เจ้าแห่งถ้ำลึกต้องลงมือด้วยตนเองหรือขอให้จักรพรรดินีมหาสมุทรทำ
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ มันหาเธอไม่พบ มิฉะนั้นหากเธอโจมตีด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในกฎ เมฆก็อาจจะปล่อยสายฟ้าฟาดที่รวมพลังของกฎซึ่งจะมีทำลายล้างมากกว่า 10 เท่า และสามารถฆ่าซูผิงได้อย่างง่ายดาย!
มันสามารถทำเช่นเดียวกันได้ด้วยตัวมันเอง อย่างไรก็ตามสายฟ้าที่จะปล่อยออกมาอาจรุนแรงเกินกว่าที่มันจะต้านทานได้ เนื่องจากตอนนี้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส!
ปิ้ว!
เจ้าแห่งถ้ำลึกดูดซับพลังดวงดาวที่สะสมไว้อย่างรวดเร็วเพื่อรักษาตัวเอง นอกจากนี้ยังสวดอ้อนวอนให้ซูผิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากบททดสอบ เพื่อที่จะสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดายภายหลัง
กลับมาที่พื้นดิน อสูรร้ายสภาวะชะตากรรมทั้งหมดโล่งใจที่พบว่าเจ้าแห่งถ้ำลึกไม่กระตุ้นให้พวกมันโจมตีอีกต่อไป
จี้หยวนเฟิงและมนุษย์ก็ผ่อนคลายเช่นกัน พวกเขาหยุดและมองที่ซูผิงด้วยความกังวล เนื่องจากเห็นได้ชัดว่าเมฆมีความรุนแรงมากกว่าเดิม พวกเขาสงสัยว่าซูผิงจะรอดหรือไม่
บูม~!
ในชั่วพริบตา สายฟ้าอันทรงพลังก็ผ่ามาจากท้องฟ้าและโจมตีซูผิงอีกครั้ง
ซูผิงยังคงนิ่ง และรับสายฟ้า
ปัง! ปัง! ปัง!
ซูผิงดูเหมือนชิ้นส่วนเหล็กที่ถูกทุบด้วยค้อนสายฟ้า
อสูรป่าทั้งหมดหวังว่าซูผิงจะถูกฟ้าผ่าลงมาที่พื้น แต่ร่างกายของเขากลับใสกระจ่างขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการจู่โจม
“น่ากลัวมาก”
“การโจมตีด้วยสายฟ้าทุกครั้งมีพลังเท่ากับการโจมตีด้วยกำลังเต็มที่ของฉัน!”
“สายฟ้าฟาดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ…”
จี้หยวนเฟิงค่อนข้างตกใจเนื่องจากพลังทำลายล้างที่ซูผิงทนได้นั้นน่ากลัว ถ้าเป็นเขา เขาจะสามารถทนได้เพียงสามครั้ง แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดก็ตาม!
ในทางกลับกันซูผิงทนได้เป็นสิบ!
เย่อู่ซิว เสวี่ยอวิ๋นเจิน และคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็พูดไม่ออก พวกเขาจ้องไปที่ซูผิง หวังว่าเขาจะผ่านพ้นไปได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น!
มังกรเพลิงนรกลอยอยู่ถัดจากซูผิงราวกับผู้คุ้มกัน โดยหันหลังเข้าหาเขา มันมองไปรอบๆ อสูรป่าทั้งหมด เผื่อว่าพวกมันจะแอบลอบโจมตี
บูม!
บูม! บูม!
ในท้องฟ้าที่มืดมิดและกว้างใหญ่ ไม่มีเสียงใดนอกจากเสียงระเบิดของสายฟ้าฟาด
จำนวนสายฟ้าฟาดเกินกว่าบททดสอบปกติมาก ไม่มีใครรู้ว่ามันจะหยุดเมื่อไร

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท