ตอนที่ 729 การต่อสู้
มันเป็นโลกที่เต็มไปด้วยหิน
ไม่มีวัชพืชหรือพืชชนิดใดๆ มีแค่ก้อนหิน
จู่ๆ ก็มีผู้มาใหม่สองสามคนปรากฏขึ้นในพื้นที่เปิดโล่ง ขยายอย่างรวดเร็วทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาสามคนกลายเป็นอสูรร้ายสูงร้อยเมตรในพริบตา
ซูผิงและโครงกระดูกน้อยยังคงเหมือนเดิม
ซูผิงสัมผัสได้ถึงธาตุหินที่หนาแน่นในอากาศ ขณะที่เขามองโลกหินลอยตรงหน้า อสูรธาตุหินสามารถบ่มเพาะที่นี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธาตุนั้นหนาแน่นกว่าในเขตที่เขาเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเขตนี้เป็นเศรษฐกิจระดับ 1 หรือระดับ 3
ทั้งมังกรเพลิงนรกและสุนัขมังกรดำต่างมองไปรอบๆ
เสือน้อยน่ารักยังเผยให้เห็นรูปร่างที่น่าเกรงขามของมัน มันมองรอบๆ จากนั้นก็คำรามใส่ซูผิงราวกับถามว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนกัน
สัญญาชั่วคราวทำให้อสูรเลิกไม่ชอบซูผิง แต่มันก็ไม่เชื่อฟังอย่างสมบูรณ์เช่นกัน
ซูผิงเพิกเฉยและมองไปที่สุนัขมังกรดำ “ฉันเลือกที่นี่สำหรับแก แกควรฝึกที่นี่เพราะแกชอบทักษะการป้องกันตัวมาก พยายามเรียนรู้ทักษะสายเลือดของทีเร็กหินให้ได้ละ; มันป้องกันได้ยอดเยี่ยมเลยล่ะ”
เขาควรจะเดินทางมาเพื่อดูแลอสูรของมีอา แต่เขาไม่จำเป็นต้องเลือกสนามบ่มเพาะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับมัน เพราะมันเป็นเพียงการฝึกปกติ ความจริงเขาจะต้องฝึกเสือ แต่อสูรที่เขาตั้งใจจะฝึกจริงๆ คือสุนัขมังกรดำและโครงกระดูกน้อย
“โฮ่งงง?”
สุนัขมังกรดำตกตะลึงครู่หนึ่ง แต่ก็รู้สึกตื่นเต้น เมื่อได้รับอนุญาตจากซูผิง ในที่สุดก็สามารถศึกษาทักษะการป้องกันได้มากเท่าที่ต้องการ!
”ไปกันเถอะ!” ซูผิงกล่าว
นี่คือสนามบ่มเพาะขั้นกลางที่เต็มไปด้วยราชาอสูร อสูรระดับดวงดาว และแม้แต่เจ้าดวงดาวมากมาย ซูผิงไม่กล้าที่จะประมาท
เพื่อเริ่มการฝึก ซูผิงผสานกับโครงกระดูกน้อยและปลดปล่อยกลิ่นอายดุร้ายออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ในไม่ช้าอสูรจำนวนมากก็ถูกดึงดูดจากกลิ่นอายของเขา
ซูผิงเคร่งขรึมในทันทีเมื่อรู้สึกว่ามีศัตรูที่ทรงพลังจำนวนมากกำลังเข้ามาใกล้
ในไม่ช้าทีเร็กหินก็อยู่ในสายตาของซูผิงมันเป็นสิ่งมีชีวิตยาวกว่าสามร้อยเมตร มีเกล็ดหินและผลึกมืดที่กระดูกสันหลัง ทีเร็กหินที่วิวัฒนาการแล้วจะแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันมีกลิ่นอายระดับดวงดาว!
”ไปกันเถอะ!” ซูผิงคำรามและบอกให้สุนัขมังกรดำ มังกรเพลิงนรก และเสือต่อสู้กับศัตรูด้วยกัน!
สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกเตรียมพร้อมแล้ว พวกมันคำรามและพุ่งออกไปโดยไม่คิดขัเขืน
เสือ: “???”
แกล้อเล่นหรือเปล่า
เสือตัวสั่นเมื่อเห็น ทีเร็กหินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากนั้นมองไปที่ซูผิงด้วยความไม่เชื่อและโกรธ แกต้องการให้ฉันโจมตีหรอ? แกไม่เห็นช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่งระหว่างฉันกับมันหรือยังไง?
”ไป!”
ซูผิงมองอย่างเย็นชา เขาจะไม่แสดงความเมตตาต่อเสืออีกต่อไปเมื่อพวกเขาเข้ามาในสนามบ่มเพาะ
โฮกกก!
เสือคำราม คิดจะหักหลังและกลืนเจ้านายของมัน!
มันค่อนข้างอยากจะต่อสู้กับซูผิงมากกว่าทีเร็กระดับดวงดาว ที่น่าสะพรึงกลัว มันอาจคิดว่าพอใจซูผิงเนื่องจากสัญญา แต่ความจงรักภักดีและความเป็นมิตรที่มีต่อซูผิงได้ลดลงอย่างมากหลังจากได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจฆ่าตัวตาย
ฉันจะกินแกก่อน!
แกคิดว่าฉันเป็นแมวหรือยังไง?
ซูผิงก็พุ่งประชิดมันและกระทืบหัวอย่างไร้ความปราณี
หลังจากเสียงดัง เสือก็ถูกกดลงกับพื้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างสมบูรณ์!
หูของมันส่งเสียงดัง วิญญาณที่น่าสงสารนั้นค่อนข้างจะท่วมท้น
มันโกรธมากเมื่อมันได้สติ ตัดสินใจที่จะโจมตีซูผิงด้วยทักษะทั้งหมดที่มี
ซูผิงยกนิ้วของเขาเป็นเหมือนดาบฟันไปที่เสือ ทำให้เกิดร่องรอยของดาบแห่งความว่างเปล่าซึ่งฉีกทักษะทั้งหมดออกจากกันและหยุดอยู่ตรงหน้าหน้าผากของเสือ!
ดวงตาของเสือเปิดกว้างเท่าที่จะทำได้ ความกลัวถูกเขียนอยู่ทั่วใบหน้า
มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
มันตรวจพบว่าซูผิงอยู่ในสภาวะสมุทร ระดับของเขาต่ำกว่าของมันด้วยซ้ำ!
อย่างไรก็ตามพลังที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นช่างน่ากลัว จู่ ๆ มันก็รู้สึกว่าซูผิงนั้นร้ายกาจพอ ๆ กับทีเร็กหินที่กำลังใกล้เข้ามา!
“ไป!”
ซูผิงปล่อยพลังดวงดาวและหมุนมิติรอบตัวเขา เสือที่กลัวเกินกว่าจะขยับไปข้างหน้าซูผิงได้หายตัวไปในทันทีและปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าทีเร็กหินในวินาทีถัดมา
เคลื่อนย้ายมิติ!
มันเป็นวิธีการที่มีเพียงสภาวะชะตากรรมเท่านั้นถึงสามารถทำได้ แต่ซูผิงทำได้
ฟ่อ!!
เสือร้องด้วยความกลัวเมื่อเห็นศัตรูตัวฉกาจอย่างใกล้ชิด ขนของมันเหมือนหนามของเม่น มันกำลังจะหมอบและขอความเมตตา
มันไม่สามารถเรียกความกล้ามาเผชิญหน้ากับศัตรูระดับดวงดาวได้ ช่องว่างนั้นใหญ่เกินไป!
“ทักษะอสูร: เจตนาฆ่า!”
ซูผิงยืนอยู่ในระยะไกล และจู่ ๆ ก็ปล่อยพลังด้วยนิ้วของเขา
ทักษะอสูรตัวแรกที่เขาได้รับจากระบบถูกยิงเข้าไปในร่างของเสืออย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเสือก็สั่นสะท้านและสัมผัสได้ถึงความดุร้ายรุนแรงออกมาจากหัวใจของมัน ดวงตาที่เคยกระตุกและสั่นเทาของมันก็แดงก่ำในทันใด
ทักษะนี้น่าจะไปกระตุ้นทักษะการต่อสู้ของอสูร และกระตุ้นให้มันต่อสู้อย่างดุเดือด
อย่างไรก็ตามซูผิงปรับเปลี่ยนทักษะเมื่อเขากลายเป็นนักรบในตำนานและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎ ผลกระทบไม่เพียงแต่จะกระตุ้นจิตวิญญาณการต่อสู้ของอสูรเท่านั้น แต่ยังถ่ายโอนเจตนาฆ่าของเขาไปยังอสูรได้อีกด้วย
สำหรับว่าจะโอนไปเท่าไหร่นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
เขาเพิ่งโอนเจตนาฆ่าของเขาไปครึ่งหนึ่งเมื่อเสือได้ปลดปล่อยกลิ่นอายดุร้ายและควบคุมไม่ได้แล้ว ทันใดนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นและคำรามไปที่ทีเร็กเหนือตัวมันเอง!
เสียงคำรามอย่างฉับพลันดังมากจนแม้แต่ศัตรูตัวโตก็ยังตกใจเล็กน้อย จากนั้นมันก็โกรธเมื่อสังเกตเห็นว่าศัตรูเป็นเพียงเสือสภาวะว่างเปล่า
มันไม่ใช่อสูรที่เป็นมิตรตั้งแต่แรก จะปล่อยให้อาหารคำรามกลับมาได้ยังไง?
มีเสียงดังขึ้น ดินกลิ้งและมิติสั่นสะเทือนเนื่องจากอำนาจของกฎ เสือเริ่มมีเลือดออก พลังมิติบีบรัดมากเกินกว่าจะรับไหว
เสือพยายามอย่างสุดกำลังที่จะต้านทาน อย่างไรก็ตามกระดูกของมันก็แตกและถูกบีบจนกลายเป็นหมอกเลือดในที่สุด!
คืนชีพ!
ซูผิงสั่งการในระยะไกล
เสือที่ตายแล้วคืนชีพทันที ผลของทักษะเจตนาฆ่าได้หมดลงแล้ว และอสูรไม่รู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเห็นทีเร็กหิน เสือก็ตัวสั่นและหมอบลงกับพื้นอีกครั้งด้วยความกลัว
“เจตนาฆ่า!”
ซูผิงดีดนิ้วและปล่อยทักษะอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาทำการปรับเปลี่ยนและโอนไปเพียงหนึ่งในสิบของเจตนาฆ่าของเขาเพื่อให้เสือได้รับรู้ว่าต้องต่อสู้
ไม่นานหลังจากนั้น เสือที่ตัวสั่นก็คำราม มันกลับมากระหายเลือดอีกครั้ง พร้อมกับพุ่งกระโจนใส่ทีเร็กตัวโต
ทีเร็กหินค่อนข้างตกใจ คืนชีพ? ไม่น่าเชื่อว่าอสูรสภาวะว่างเปล่าจะรู้จักทักษะที่ซับซ้อนแบบนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎแห่งเวลาและชีวิตขั้นสูงสุด!
มันโกรธอีกครั้งเมื่อเสือพยายามจะโจมตีมันอีก มันจึงตอบโต้อย่างรวดเร็ว
ในทางกลับกันมังกรเพลิงนรกและสุนัขมังกรดำไม่ได้แค่ดูเท่านั้น พวกมันเองก็ลงมือเช่นกัน เมื่อพิจารณาถึงพลังต่อสู้สุนัขมังกรดำอยู่ในสภาวะว่างเปล่าขั้นกลาง เหตุผลเดียวที่มันสามารถทนต่อการโจมตีของเจ้าแห่งถ้ำลึกได้หนึ่งวินาทีก็คือมันทุ่มเทให้กับกลยุทธ์การป้องกัน
ซูผิงมองสุนัขมังกรดำที่ใช้ทักษะกับมังกรเพลิงนรก แต่ชั้นป้องกันถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เหมือนกับกระดาษจากการโจมตีของระดับดวงดาว
สุนัขมังกรดำบ้ายิ่งกว่าเดิม และได้ปลดปล่อยทักษะออกมามากขึ้น ทักษะบางอย่างถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้การป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ซูผิงเงียบ สุนัขมังกรดำไม่ผ่อนปรนเลย ไม่เหมือนปกติในการฝึกซ้อมครั้งก่อนๆ มันขยันพอๆ กับตอนที่ต่อสู้กับเจ้าแห่งถ้ำลึก
การต่อสู้ครั้งนั้นทำให้บอบช้ำมากไปหรือเปล่า?
ซูผิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ หลังจากเห็นว่าการต่อสู้มันหนักหนาเพียงใด ก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะปกป้องพวกมันมากขึ้นไปอีก
อสูรอื่นๆ ส่วนใหญ่ถอยเมื่อทีเร็กหินปล่อยกลิ่นอายออกมา บางตัวถึงกับหันหลังหนี
ทีเร็กหินเป็นผู้ปกครองที่นี่ และเผ่าพันธุ์ของมันก็ครองโลกนี้!
ซูผิงเพียงแค่ยืนและออกคำสั่งกับอสูร
ในทางกลับกัน เสือก็มีความโดดเด่นมากขึ้นหลังจากที่มันตายอย่างต่อเนื่อง ซูผิงต้องปลูกฝังเจตนาฆ่าของตัวเองในตอนแรกเพื่อเพิ่มความกล้าหาญ แต่ต่อมาเขาเพียงต้องการกระตุ้นความตั้งใจในการฆ่าของอสูรเองเพื่อให้มันต่อสู้อย่างไม่ลดละ
เสือเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด มันรับรู้ทักษะสามอย่างติดต่อกัน และหนึ่งในนั้นคือทักษะขั้นสูงโบราณ ซึ่งทรงพลังพอๆ กับการโจมตีของสภาวะชะตากรรม
ในที่สุดก็สามารถสู้ได้สามวินาทีก่อนจะตายแทนที่จะเป็นตายทันทีแบบตอนแรก!
ในทางกลับกันซูผิงพบว่าสุนัขมังกรดำเองก็คืบหน้าเช่นกัน นอกเหนือจากทักษะป้องกันแล้ว มันใช้ทักษะยับยั้งเป็นครั้งแรกในการพยายามดักจับทีเร็กหินที่โจมตี โชคไม่ดีที่ทักษะนั้นไม่ทรงพลังพอ และเป้าหมายก็หลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามหากเป้าหมายคือราชาอสูรร้าย มันอาจถูกจับไว้หนึ่งหรือสองวินาที
หนึ่งหรือสองวินาทีอาจน้อยเกินไป แต่มันก็เพียงพอสำหรับที่มังกรเพลิงนรกที่จะฆ่ามัน!
ทีเร็กหินเริ่มโกรธมากขึ้นเมื่อการต่อสู้ดำเนินไป มันไม่สามารถฆ่าแมลงตัวน้อยสามตัวได้ ในที่สุดมันก็ตัดสินใจว่ามันไม่คุ้มและต้องการหนี
การหนีเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในเมื่อฉันฆ่าพวกแกไม่ได้
ซูผิงฟันอย่างรวดเร็ว
ทีเร็กหินตกใจกับรังสีดาบของซูผิง มันคำรามใส่เขา
ซูผิงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยืนขวางทางด้วยดาบในมือ
ความหมายของเขาชัดเจน แกต้องการที่จะหนีหรอ? ไม่มีโอกาส
ทีเร็กหินคำรามและพุ่งเข้าใส่ซูผิงทันที
ซูผิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า เขาเร็วกว่าการหายตัวเข้ามิติชั้นสอง ทีเร็กหินนั้น—เป็นอสูรร้ายธาตุหินที่โดดเด่นเรื่องความแข็งแกร่ง—มันช้าเกินกว่าจะจับเขาได้ มันถูกซูผิงฟันดาบใส่และทำได้เพียงร้องด้วยความเจ็บปวด
ซูผิงต้องยอมรับว่ามันแข็งแกร่งกว่าเจ้าแห่งถ้ำลึกอย่างน้อยสามเท่า
เขาได้ฆ่าเจ้าแห่งถ้ำลึกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่การโจมตีแบบเดียวกันนั้นทำได้เพียงทำให้ทีเร็กหินกรีดร้อง
ในที่สุดอสูรร้ายก็ได้รับบาดเจ็บเมื่อซูผิงเข้าร่วมต่อสู้ด้วย มันตกใจและกลัว รู้สึกถึงภัยคุกคามต่อความตายขณะเผชิญหน้ากับซูผิง โดยรู้ว่ามันอาจจะตายในการต่อสู้ครั้งนี้
มันเพิกเฉยต่อซูผิงและพยายามวิ่งหนี
เนื่องจากไม่สามารถหายตัวได้
ซูผิงฟันอย่างต่อเนื่องและพยายามจะหยุดมัน อย่างไรก็ตาม ทีเร็กหินมุ่งมั่นที่จะหลบหนี เขาต้องฆ่ามันหรือไม่ก็ปล่อยมันหนีไป
ช่างเถอะ ฉันจะมองหาเป้าหมายอื่น
ซูผิงถอนหายใจและปล่อยมันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเสือบาดเจ็บมากแค่ไหน
ท้ายที่สุดมันเองก็เหน็ดเหนื่อยจากการสู้รบที่ยืดเยื้อ
เขาเรียกสุนัขมังกรดำและอสูรตัวอื่นๆ มา จากนั้นเดินไปรอบๆ พร้อมกับพวกมัน มองหาคู่ต่อสู้ใหม่
เสือมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดสำหรับการฝึกธรรมดาแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่เพียงแค่สามชั่วโมง ซึ่งเท่ากับสิบห้านาทีในโลกภายนอก เขาต้องรอจนกว่าเวลาในโลกภายนอกจะผ่านไปอีกสองชั่วโมงกว่า
…
เวลาผ่านไป
แคร่ก!
ประตูห้องอสูรถูกเปิดออก ซูผิงจัดผมหน้าประตูและเช็ดว่าเขาหล่อหรือยังก่อนเดินออกไปในที่สุด
เสือดุร้ายอยู่ข้างหลังเขา มันหดกลับกลายเป็นเสือตัวเล็กน่ารักอีกครั้ง
โครงกระดูกน้อย สุนัขมังกรดำ และมังกรเพลิงนรก ถูกวางไว้ในคอกเลี้ยงดู
เมื่อเขามองนาฬิกาในร้าน ซูผิงยืนยันว่าเวลาผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว ตามที่เขาคาดไว้
เห็นได้ชัดว่าเป็นครั้งแรกที่เสือถูกฝึกแบบนี้ การบริการค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลาน้อยกว่าที่ซูผิงคาดไว้
ซูผิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโจแอนนา มีอา และคนอื่นๆ เขารู้สึกโล่งใจเมื่อพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่เขาไม่อยู่
เขาไปที่เวทีเสมือนจริงและพบว่ามีอา, ถังยู่หราน, โจแอนนา กับเลย์นต่างสวมหมวก ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังต่อสู้อยู่ในขณะนี้
ถังยู่หรานดูผ่อนคลาย เธอยิ้มทั้งที่หลับตา
ในทางกลับกัน มีอาขมวดคิ้ว มีหยาดเหงื่ออยู่บนหน้าผากของเธอ
ซูผิงค่อนข้างตกใจ ถังยู่หรานมีความก้าวหน้าในช่วงสามชั่วโมงที่ผ่านมาและเธอสามารถบดขยี้มีอาได้แล้วหรอ?
เขากดปุ่มแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ของถังยู่หรานอย่างสงสัย
ถังยู่หรานออกจากโลกเสมือนจริงและถอดหมวก เธอดีใจที่ได้เห็นซูผิง “นายกลับมาแล้ว ใช้เวลานานแค่ไหนเนี่ย?”
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและแปลกใจ “สามชั่วโมง? เสร็จแล้วหรอ?”
ซูผิงพยักหน้า เขาประหลาดใจที่เห็นว่ามีอายังไม่ออกมา เขาถามว่า “ทำไมมันยังไม่จบ?”
ถังยู่หรานสังเกตเห็นเช่นกันและยิ้ม “ฮิฮิ เธอไม่ได้ฝึกกับฉัน แต่อยู่กับเธอ!” เธอพยักหน้าให้โจแอนนา
ซูผิงตกตะลึง
อะไร?
เธอกำลังฝึกซ้อมกับโจแอนนา?
ซูผิงหมดคำพูด ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีอาจะมีสีหน้าไม่ค่อยดีราวกับว่าเธอท้องผูก
เธอกำลังต่อสู้กับโจแอนนา เทพธิดาแห่งสงครามจากหลุมศพกึ่งเทพ!
ระดับของโจแอนนาสูงกว่ามีอา แม้ว่าจะถูกปรับระดับให้เท่ากันก็ตาม… ซูผิงเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะโจแอนนาได้ด้วยซ้ำ
พวกเขาไม่เคยฝึกด้วยกันมาก่อน เนื่องจากพวกเขาเพิ่งมีเวทีเสมือนจริง บางทีเขาอาจจะซ้อมกับโจแอนนาในสักวันหนึ่ง… ซูผิงกระแอมเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นว่ามีอาหน้าซีดอยู่ตรงนั้น เขากดปุ่มแจ้งเตือนบนอุปกรณ์ของโจแอนนา
ไม่นานหลังจากนั้น มีอาลืมตาขึ้นอย่างกะทันหันและยืนนิ่งเหมือนคนหมดแรง
โจแอนนาลืมตาขึ้นและมองซูผิงอย่างใจเย็น “แค่สามชั่วโมงเอง ฝึกเสร็จแล้วเหรอ?”
ซูผิงประหลาดใจเพราะเขาสังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้ตรวจสอบเวลา “รู้ได้ไงว่าสามชั่วโมงแล้ว”
“ฉันคำนวณเอง” โจแอนนาพูดพร้อมชี้ไปที่หัวของเธอ
ซูผิงพูดไม่ออก เธอให้ความสนใจกับกระแสเวลาในขณะที่ต่อสู้กับมีอาอย่างงั้นหรอ?
มีอาตื่นขึ้นจากการตอบสนองของโจแอนนา ทำหน้าตกใจราวกับแมวที่เพิ่งเหยียบหางตัวเอง เธอยืนขึ้นทันทีและมองเข้าไปในดวงตาของโจแอนนา “เธอคำนวณเวลาตลอดเลยหรอ? เธอไม่ได้เอาจริงในการต่อสู้เลยเหรอ?”
โจแอนนามองเธอเหมือนพบเจอเรื่องประหลาด ดวงตาของเธอดูเหมือนจะพูดว่า ‘ฉันจำเป็นต้องเอาจริงด้วยเหรอ?’
โดยธรรมชาติแล้ว ซูผิงเข้าใจคำพูดที่ไม่ได้พูดของโจแอนนา เขาเหงื่อออกและไอ ก่อนที่เขาจะพูดกับโจแอนนาผ่านกระแสจิตว่า “ยังไงเธอก็เป็นลูกค้า พยายามอย่าใจร้ายกับเธอนักเลย เธอเป็นถึงเทพธิดาแห่งสงครามเชียวนะ!””
โจแอนนามองกลับมาที่ซูผิงและตอบกลับทางกระแสจิตว่า “ฉันไม่ได้ใจร้ายกับเธอ แค่ไม่คิดว่าเธอจะอ่อนแอขนาดนี้ ฉันก็เลยเผลอฆ่าเธอไปสองครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นฉันก็ควบคุมความแข็งแกร่งของฉันและต่อสู้กับเธอเป็นเวลาสามชั่วโมงอย่างเท่าเทียมกัน ฉันสามารถทำให้การต่อสู้ดำเนินต่อไปเช่นนั้นเป็นเวลาห้าหรือแปดชั่วโมงหากนายไม่กลับมา แต่ฉันไม่คิดว่าพลังวิญญาณของเธอจะทนได้นานขนาดนั้น…”
ซูผิง: “…”
การต่อสู้นี้ดำเนินเป็นเวลาสามชั่วโมงแล้ว?
ซูผิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรและได้แต่มองดูท่าทางสงบของโจแอนนาเท่านั้น นี่มันจะดูถูกกันเกินไปแล้ว!
โชคดีที่มีอาไม่รู้เรื่องนี้ ถ้ารู้เธอจะยิ่งรู้สึกหดหู่
“มาแข่งกันอีกรอบเพราะเธอไม่ได้เอาจริง!” มีอาพูดพร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เธอพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าเธอแพ้ให้กับพนักงานจากร้านค้าข้างถนน
ตอนแรกเธอพ่ายแพ้ต่อโจแอนนาสองครั้งติดต่อกัน แล้วโจแอนนาก็บอกเธอว่ามันเป็นข้อผิดพลาดของอุปกรณ์ เธอเชื่อเพราะว่าเธอแพ้เร็วเกินไป และไม่มีโอกาสได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!
อย่างไรก็ตามเธอมึนงงเพราะการต่อสู้ที่ยาวนาน และสิ่งที่โจแอนนาเพิ่งพูด
เธอต่อสู้กับพนักงานสาวเป็นเวลาสามชั่วโมงโดยไม่สามารถชนะได้ และพนักงานก็จัดการกับเธอได้อย่างง่ายดาย!
เมื่อซูผิงมาถึง โจแอนนาก็โจมตีใส่จุดอ่อนของเธอและจบการแข่งขันอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้เอาจริงเลยแม้แต่น้อย!
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ
เธอไม่ได้ขาดพรสวรรค์ และเธอก็ดีกว่าคนส่วนใหญ่ในระดับเดียวกับเธอ เธอเคารพคนอยู่เพียงไม่กี่คน ยกเว้นอัจฉริยะในตระกูลและที่โรงเรียน การโจแอนนาไม่ตั้งใจต่อสู้กับเธอ และเอาชนะเธอได้นั้นเป็นอะไรที่รับได้ยาก
ถังยู่หรานมีความสุขมากขึ้นที่ได้เห็นความหงุดหงิดและน้ำตาบนใบหน้าของมีอา ในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็ได้ลิ้มรสชาติแบบเดียวกันกับเธอ
อย่างไรก็ตามเธอยังสังเกตเห็นบางสิ่งหลังจากสังเกตการต่อสู้สามชั่วโมงของทั้งคู่
โจแอนนาไม่ได้ตั้งใจต่อสู้ การฆ่าสองครั้งในตอนแรกไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของอุปกรณ์ แต่เป็นเพราะพลังแท้จริงของเธอ!
โจแอนนาเหนือกว่าผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน!
ถังยู่หรานค่อนข้างผิดหวังกับความคิดนั้น โจแอนนาเป็นพนักงานของซูผิงในขณะที่เธอทำได้เพียงอยู่ในตำแหน่งชั่วคราวเท่านั้น เธอเคยคิดว่าโจแอนนาเป็นเพียงนักรบในตำนาน แต่ตอนนี้เธอพบว่าโจแอนนามีฝีมือการต่อสู้สูงกว่าตัวเธอมาก
“ก็…” เมื่อเห็นว่ามีอาตั้งใจจะต่อสู้อีกครั้ง ซูผิงก็รีบพูดขึ้นว่า “มาพูดถึงการฝึกฝนกันก่อน อสูรของคุณได้รับการฝึกฝนเสร็จแล้ว ลองตรวจสอบดูก่อนไหม?”
การกล่าวถึงอสูรของเธอทำให้มีอากลับมาสู่ความเป็นจริง ในที่สุดเธอก็จำได้ว่าเธอกำลังรอให้ซูผิงฝึกอสูรของเธอ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้บอกว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวันเหรอ? ทำไมมันถึงเสร็จในเวลาแค่สามชั่วโมง?
เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูผิง แล้วรีบจับตามองเสือน้อยน่ารักของเธอ
ทันใดนั้นเธอก็พบว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับอสูรของเธอ
สัญญาที่เลือนรางก่อนหน้านี้ในหัวของเธอกลับมาชัดเจนอีกครั้ง แต่ความรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้หายไป เธอพบว่าเจ้าขาวน้อยดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยกลิ่นอายที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อก่อนตาของมันช่างอ่อนโยนและน่ารัก แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเฉียบแหลม เต็มไปด้วยความคิด
…
ตอนที่ 730 ความสามารถของระดับดวงดาว
“เจ้าขาวน้อย?”
มีอาค่อนข้างสงสัย
เสือหันหน้าไปเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มันมองไปที่มีอาและความก้าวร้าวในดวงตาของมันก็ค่อยๆ จางหายไป มันครางแล้วกระโดดเข้าหาเธอ คุกเข่าลงที่เท้าของเธออย่างแรง
ช่างเป็นขาที่คุ้นเคยอะไรอย่างนี้!
เสือแทบน้ำตาไหลด้วยความปิติ ในที่สุดมันก็จำได้ว่าใครเป็นเจ้านายที่แท้จริง
สำหรับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ มัน… มันมองที่เขาแล้วหันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว
เขาเป็นปีศาจ!
“แกคือเจ้าขาวน้อยจริงๆ นะ…”มีอาอยู่ในภวังค์ขณะที่เธอรู้สึกมึนงงกับความคุ้นเคย เสือกลับมาอ่อนหวานและน่ารักอีกครั้ง ไม่ก้าวร้าวเหมือนเมื่อครู่ก่อนหน้านี้
ตาฝาดเหรอ?
เธอหยิบอุปกรณ์ของเธอออกมา และตรวจอสูรที่อยู่ที่เท้าของเธอ
จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างด้วยความไม่เชื่อ
ผลลัพธ์ของเจ้าขาวน้อยนั้นดีจนน่าประหลาดใจ และเพิ่มขึ้นอย่างมาก ค่าพลังเพียงอย่างเดียวได้เพิ่มเป็น 2.7 ซึ่งเกือบจะดีเท่ากับค่าของมังกรเกล็ดเยือกแข็งหลังจากบริโภคผลไม้ผลึกน้ำแข็งสวรรค์เจ็ดพันปีสองลูกติดต่อกัน!
“คะ คุณทำได้ยังไง?”มีอาค่อนข้างตกตะลึง มันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ จากข้อมูลนี้เวลาผ่านไปเพียงสามชั่วโมงและพลังต่อสู้ของอสูรของเธอได้รับการพัฒนาอย่างน้อยห้าสิบเปอร์เซ็นต์!
การพัฒนาห้าสิบเปอร์เซ็นต์นี่มันหมายความว่ายังไง
พลังต่อสู้ของเจ้าขาวน้อยเพิ่งจะถึงสภาวะว่างเปล่าขั้นสูงเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามมันแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงพอที่จะฆ่าอสูรส่วนใหญ่ในสภาวะว่างเปล่าขั้นสูง!
ด้วยพลังต่อสู้แบบนี้ มันเกือบจะเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอ!
“มันสามารถรับรู้ได้สามทักษะ คุณสามารถตรวจสอบได้ในห้องทดสอบที่อยู่ถัดไป แอนนา นำเธอไป” ซูผิงกล่าว
โจแอนนาลุกขึ้นยืนหลังจากได้ยินอย่างนั้น
มีอาตกตะลึง เธอถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง “มันรับรู้ได้ถึงสามทักษะ?”
เธอสงสัยว่าซูผิงได้ป้อนยาผิดกฎหมายอะไรให้กับอสูรของเธอเพื่อให้ข้อมูลของมันพุ่งสูงขึ้นหรือเปล่า และข้อมูลจะตกลงในไม่ช้าก็เร็วพร้อมกับผลข้างเคียงอื่นๆ อย่างไรก็ตามเขาอ้างว่าเจ้าขาวน้อยได้รับสามทักษะ? ทักษะไม่สามารถปลอมแปลงได้!
ไม่มียาผิดกฎหมายใดในสหพันธ์ที่สามารถทำให้อสูรรับรู้ทักษะใหม่ ๆ
วิธีเดียวคือผ่านการฝึกฝน!
“มันพยายามอย่างดีที่สุด” ซูผิงหัวเราะคิกคัก
มีอาชะงักไปครู่หนึ่ง โจแอนนานำทาง “เชิญทางนี้ค่ะ”
มีอารู้สึกกังวลเมื่อมองเธอ เธอไม่คิดว่าผู้หญิงที่โจมตีเธอได้ง่าย ๆ จะเชื่อฟังซูผิงและทำงานเป็นลูกจ้างของเขา
เธอเดินตามมีอาพร้อมกับเจ้าขาวน้อย
เลย์นกำลังจะตามไป แต่ซูผิงยื่นมือหยุดเขา
“พวกเขากำลังจะทดสอบอสูร นายไม่ควรไป” ซูผิงมองที่เลย์นอย่างไม่ใส่ใจ เป็นความรับผิดชอบของเขาในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
เลย์นค่อนข้างโกรธเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาหันมาจ้องซูผิงอย่างเย็นชาหลังจากเห็นว่ามีอาเดินออกไปพร้อมกับโจแอนนาแล้ว “ฉันไม่รู้ว่านายทำแบบนี้ได้ยังไง แต่จำไว้ว่าวันนี้นายทำให้ตระกูลไรอันไม่พอใจ เราเป็นผู้ปกครองของดาวนี้!”
“อย่างนั้นหรอ?” ซูผิงเลิกคิ้วขึ้น เขาทำให้เจ้าของบ้านโกรธในทันทีที่เขามาถึงเลยหรอเนี่ย?
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย
“เจ้าของเพิ่งย้ายมายังภูมิภาคใหม่ นายต้องการสแกนพื้นที่และรับแผนที่ของพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่?” ระบบถามอย่างไม่ใส่ใจ
“บอกมาสิว่าราคาเท่าไหร่?”
“หมื่นแต้มพลังงาน”
“นายก็ไม่ได้เนรคุณสักหน่อยนี่นะ” ซูผิงรู้สึกโล่งใจ
แต้มพลังงานหมื่นแต้มหมายถึงเหรียญดาวหนึ่งล้านเหรียญ แม้แต่ผลไม้ผลึกน้ำแข็งสวรรค์ที่เขาขายไปก่อนหน้านี้ยังมีมูลค่าถึงหกล้าน
ข้อมูลจำนวนมากไหลเข้ามาในหัวของเขาหลังจากยอมรับข้อเสนอ
หลายวินาทีต่อมา ในที่สุดซูผิงก็เข้าใจสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น
ดาวเคราะห์ที่เขาอยู่มีชื่อว่า รีอา เป็นดาวเคราะห์ระดับ 3 และมีเศรษฐกิจระดับ 3 ตามระบบ
โชคไม่ดี การสุ่มนั้นมีตั้งแต่ระดับ 1 ถึงระดับ 3 แต่มันส่งเขามาภูมิภาคระดับสาม 3
รีอาร่วมกับดาวเคราะห์อีกแปดดวงอยู่ในระบบสุริยะชื่อเซรุปรัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของกาแล็กซีซิลวี่
ซูผิงได้เรียนรู้ว่ากาแล็กซีซิลวี่เป็นระบบสุริยะหลักที่ควบคุมโดยยอดฝีมือสภาวะสวรรค์ ประกอบด้วยระบบสุริยะที่เล็กกว่าหลายระบบ เซรุปรันเป็นหนึ่งในนั้น ซิลวี่ถูกควบคุมดูแลโดยตระกูลไลเยฟา!
ซูผิงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นศัตรูกับตระกูลไรอันซึ่งควบคุมดาวที่ร้านค้าของเขาตั้งอยู่ หรือทำข้อตกลงกับใครบางคนจากตระกูลไลเยฟาซึ่งควบคุมระบบสุริยะทั้งหมดตั้งแต่วันแรก
เขามีความรู้สึกที่หลากหลาย แต่เขาไม่กลัว เขาจะปลอดภัยตราบที่เขาอยู่ในร้าน แม้แต่ยอดฝีมือสภาวะสวรรค์ของซิลวี่ก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ นับประสาอะไรกับผู้นำดาวรีอาที่ยังไม่ใช่เจ้าดวงดาวด้วยซ้ำ
“ระดับที่สูงกว่าสภาวะดวงดาวคืออะไร?” ซูผิงมองไปที่เลย์นและถามเขาด้วยความสงสัย
เลย์น : “???”
เขาค่อนข้างจะงุนงงเมื่อเห็นใบหน้าของซูผิงที่ดูสนใจอย่างจริงใจ
ฉันขู่นายเมื่อกี้ ทำไมจู่ๆ นายถึงพูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน?
นายกำลังทำให้ฉันไม่ได้ระบายความโกรธ! ฉันโกรธ!
”นายหมายถึงอะไร? ทุกคนรู้ว่าเจ้าดวงดาวและสภาวะสวรรค์ อยู่เหนือระดับดวงดาว แม้แต่นักรบที่อยู่ต่ำกว่าสภาวะสมุทรก็รู้ดี!” เลนน์ตะคอก
ซูผิงถามด้วยความประหลาดใจ “มีแค่นี้เหรอ? ระดับดวงดาว ระดับเจ้าดวงดาว ระดับสวรรค์?”
“ฮึ่ม มีระดับที่สูงกว่าสภาวะสวรรค์ แต่มันไม่มีประโยชน์สำหรับนายที่จะรู้เรื่องนี้ นายไม่สามารถมองขึ้นไปถึงความสูงนั้นได้!”เลย์นเยาะเย้ยด้วยความดูถูก
ซูผิงเลิกคิ้วและตระหนักว่าอะไรเป็นอะไร
ระดับตำนานประกอบด้วยสภาวะสมุทร สภาวะว่างเปล่า และสภาวะชะตากรรม
ในทางกลับกันระดับดวงดาวนั้นรวมถึงสภาวะดวงดาว เจ้าดวงดาว และสภาวะสวรรค์
นอกจากนี้ยังมีระดับที่สูงกว่าสภาวะสวรรค์ด้วย ตัวตนเหล่านี้จะต้องยิ่งใหญ่ในสหพันธ์ บางทีสุดยอดเทพในหลุมศพกึ่งเทพที่แข็งแกร่งกว่าโจแอนนาก็อาจจะอยู่ในระดับนั้น!
“เจ้าดวงดาวสามารถควบคุมระบบสุริยะขนาดเล็กได้ เจ้าดวงดาวที่แข็งแกร่งกว่าจะควบคุมระบบสุริยะที่ใหญ่กว่า ผู้ที่อยู่ในสภาวะสวรรค์จะควบคุมระบบสุริยะสำคัญ…” ซูผิงพึมพำกับตัวเองและเรียนรู้เกี่ยวกับสหพันธ์เพิ่มเติม
พูดได้ว่าชายที่ดูแลดาวรีอาน่าจะเป็นนักรบสภาวะดวงดาวเท่านั้น
เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ระดับ 3 หมายความว่าผู้นำสภาวะดวงดาวของตระกูลไรอันก็ไม่เลว ผู้นำของดาวเคราะห์ระดับ 1 นั้นน่าจะแข็งแกร่งกว่ามาก อาจมีศักยภาพเป็นเจ้าดวงดาว!
ซูผิงยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่เขานึกถึงดาวเคราะห์สีน้ำเงิน โดยสงสัยว่าเมื่อใดที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินจะสามารถเลื่อนจากระดับ 5 ไปเป็นระดับ 1 ได้ มันจะต้องอาศัยความแข็งแกร่งของเจ้าของดาวเคราะห์และเศรษฐกิจบนดาวนั้นเอง
อีกอย่างเศรษฐกิจมักจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเจ้าของดาว
มีเพียงชนชั้นสูงที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะนำทรัพยากรและรายได้ไปยังดาวเคราะห์ของพวกเขาได้ การค้าส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับปัจจัยของมนุษย์ ไม่มีใครเต็มใจทำธุรกิจบนดาวเคราะห์ระดับ 5 เจ้าของจะต้องอ้อนวอนและใช้เส้นสายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดูเหมือนว่าฉันไม่ใช่เจ้าของที่มีคุณสมบัติเลย ไม่เหมาะสมที่จะปล่อยให้เนี่ยฮั่วเฟิงและคนอื่นๆ ทำงานทั้งหมดเอง ฉันควรพยายามหาผู้อุปถัมภ์ดาวเคราะห์สีน้ำเงินบ้าง ซูผิงคิด
เขาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าแห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงินอยู่แล้ว และเขารู้สึกผิดถ้าเขาหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทั้งหมดที่เขาต้องรับผิดชอบ
“นายบ่นอะไร?”เลย์นขมวดคิ้วเมื่อได้ยินซูผิงซุบซิบกับตัวเอง เขาพูดอย่างเย็นชา “บางทีฉันอาจจะยกโทษให้ถ้านายขอโทษตอนนี้”
ซูผิงกลับมารู้สึกตัวและมองไปที่ชายคนนั้น ก่อนที่เขาจะถามด้วยความสงสัย “นายบอกว่าพวกไรอันครองดาวนี้ แล้วตระกูลของนายมีคนแบบนายกี่คน? นายเป็นคนเดียวเหรอ?”
เลย์หน้าถมึงทึงทันทีและจ้องมองซูผิงอย่างเย็นชา “นายหมายถึงอะไร?”
สิ่งที่ซูผิงเพิ่งพูดถึงเป็นจุดที่เจ็บปวดในหัวใจของเขา
ตระกูลไรอันนั้นยิ่งใหญ่มาก มีรุ่นเยาว์อยู่หนึ่งพันคน โดยมีชายหนุ่มเกือบสิบคนที่มีความสามารถพอๆ กับเขา เขามีลุงและปู่หลายคน สายสัมพันธุ์ภายในตระกูลนั้นซับซ้อนมาก
เขาและลูกพี่ลูกน้องรู้ดีว่าถึงแม้พวกเขาจะดูแข็งแกร่งในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลไรอัน โชคดีกว่าคนส่วนใหญ่บนดาวดวงนี้ แต่พวกเขาถูกห้ามไม่ให้ทำสิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาต
แม้ตระกูลไรอันจะมีพลัง แต่ก็ไม่สามารถใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจ พวกเขาทำได้เพียงใช้พลังเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งไม่ได้มากมายนัก
การเป็นทายาทของตระกูลใหญ่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน!
นั่นคือเหตุผลที่เลย์นมาตามตอแยมีอา ตำแหน่งของเขาในตระกูลจะสูงขึ้นถ้าเขาได้เป็นแฟนกับมีอา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แต่งงานก็ตาม เขาสามารถแยกแยะตัวเองจากหมู่ญาติๆได้!
”ไม่มีอะไร ฉันแค่เห็นนายพูดถึงตระกูลของนายตลอดเวลา ฉันจึงอยากจะรู้ว่าตระกูลของนายจะทำให้ร้านของฉันลำบากแค่เพราะนายหรือปล่า?” ซูผิงหัวเราะคิกคัก
การดูหมิ่นของเขาทำให้เลย์นหน้าแดง และกำหมัดแน่น
เขาโกรจัด อย่างไรก็ตามเขาได้รับการอบรมสั่งสอนมา มันทำให้เขาระงับความต้องการได้อย่างมีเหตุผล ขณะที่เขาโกรธซูผิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเกี่ยวกับความเย่อหยิ่งของชายคนนี้
เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ เขาเป็นนักรบในตำนานได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เข้าเรียนในสภาบันเดียวกับมีอา หนึ่งในห้าสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดซิลวี่!
ทุกคนที่จบการศึกษาจากสถาบันล้วนมีศักยภาพที่จะไปถึงระดับดวงดาว!
”นายเป็นใคร?”เลย์นจ้องซูผิง
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้โกรธและตะโกนใส่เขาเป็นเพราะเขากลัวความกล้าของฉันหรือเปล่า? ซูผิงหัวเราะคิกคัก ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ไร้ค่านัก
เขายิ้มและเลือกที่จะไม่ตอบ
เนื่องจากนายกลัวฉัน นายก็แค่ทำหน้าที่ของนายและเดาตัวตนของฉันเอง
เขาไม่สนใจหากจะต้องกำจัดผู้ชายคนนี้ออกไป ถ้าเขาสร้างปัญหา
เลย์นขมวดคิ้วเมื่อเห็นปฏิกิริยาของซูผิงแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาคาดว่าซูผิงจะไม่เปิดเผยสิ่งใด ดังนั้นเขาจะตรวจสอบตัวเขาเอง
เครือข่ายข่าวกรองของตระกูลไรอันสามารถช่วยให้เขาสามารถตรวจสอบยี่ห้อกางเกงในของซูผิงได้สบายๆ ตราบเท่าที่เขาอยู่บนดาวดวงนั้น!
มีอาและโจแอนนากลับมาทันที มีอารู้สึกตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เธอรีบเดินปรี่มาหาซูผิงทันทีที่เธอเห็นเขาและพูดว่า “เจ้าของร้าน การฝึกฝนของคุณช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ!”
การแสดงออกของเธอเพียงพอที่จะบอกได้ว่าเธอยืนยันทักษะของเสือได้ เขาหัวเราะและพูดว่า “ผมดีใจที่คุณไม่ผิดหวัง”
“ไม่ ไม่แน่นอน”มีอาโบกมืออย่างรวดเร็ว เธอมักจะเลี้ยงอสูรของเธออย่างดีมากๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งเธอเป็นคนประเภทที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนอื่นมากนัก แต่ชอบคลุกอยู่กับอสูร
“มัน—น่าทึ่งมากที่เห็นว่าการฝึกฝนที่มีค่าใช้จ่ายร้อยล้านสามารถมีประสิทธิภาพได้มากขนาดนี้!” มีอาไม่ใช่คนพูดเก่งและไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของเธอยังไง
หนึ่งร้อยล้านเป็นเงินจำนวนที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถหาได้ตลอดชีวิต!
มันไม่มากเกินหรือน้อยเกินไปสำหรับการฝึกอสูรสภาวะว่างเปล่า แต่ผลการฝึกของซูผิงนั้นคุ้มค่าอย่างมาก เธอรู้สึกว่าเธออาจไม่มีทางได้ผลแบบเดียวกันนี้จากที่อื่นแม้ว่าเธอจะจ่ายเงินเป็นพันล้านก็ตาม
นอกจากนี้ การฝึกของซูผิงใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงเท่านั้น
มันวิเศษมาก!
ซูผิงหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่น่าแปลกใจมาก การฝึกครั้งแรกมีผลดีเสมอ ครั้งที่สองจะให้ผลลัพธ์น้อยกว่านี้ แต่ก็ยังช่วยให้อสูรของคุณเรียนรู้ทักษะใหม่อย่างน้อยหนึ่งทักษะ ไม่อย่างนั้นผมจะฝึกมันจนกว่าอสูรจะได้รับทักษะใหม่”
ตอนนี้มีอาเชื่อใจซูผิงมาก เธอพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดกับเขาด้วยสายตาเฉียบแหลมแปลก ๆ ของเธอว่า “เจ้าของร้าน คุณช่วยฝึกอสูรตัวอื่น ๆ ของฉันได้ไหม?”
ซูผิงกำลังจะเสนอสิ่งนั้น ท้ายที่สุดภารกิจของเขาคือให้เธอใช้แต้มพลังงานสิบล้านแต้ม และคือเหรียญดวงดาวร้อยล้านเหรียญที่เธอจ่ายให้กับการฝึกเสือนั้นมีเท่ากับล้านแต้มพลังงานเท่านั้น เขาต้องทำให้เธอจ่ายเงินสำหรับการฝึกอีกเก้าครั้ง
”ไม่มีปัญหา” ซูผิงพยักหน้า
”จริงหรอ? ขอบคุณมากเจ้าของร้าน!” มีอาตื่นเต้นมากจนต้องคำนับซูผิงตามมารยาทของไลเยฟา
จากนั้นเธอก็พูดอย่างไม่สบายใจ “แล้วราคา…”
“ราคาจะยังคงเป็นร้อยล้านสำหรับแต่ละครั้งต่อตัว หากอสูรอยู่ในสภาวะว่างเปล่าเหมือนเดิม” ซูผิงตอบและลดความกังวลของเธอ
มีอาตาเป็นประกาย “เจ้าของร้านคุณเป็นคนดีจริงๆ!”
ซูผิงรู้สึกอยากจะเอามือปิดหน้า ทำไมเสียงของเธอดูเหมือนคำสารภาพรักเลยล่ะ?
เลย์นรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยหลังจากเห็นใบหน้าที่สวยงามของมีอา เธอหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้นและปล่อยเสน่ห์เย้ายวน อย่างไรก็ตามเขาถูกล่อลวงไปพร้อม ๆ กัน เขาเกิดความตั้งใจที่จะจีบผู้หญิงคนนี้ให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 729 -730
ตอนที่ 729 -730
Posted by ? Views, Released on เมษายน 15, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…