ตอนที่ 707 เจ้าแห่งกระดูก
”ว้าว! คางคกกำลังบิน!”
”ฮึ. ฉันสามารถระเบิดขยะสองชิ้นนั้นได้ง่ายมาก!”
“จะดีกว่าที่จะระมัดระวังมากขึ้น ฉันคิดว่าเราควรยืนดูการต่อสู้ก่อน…”
“หุบปาก! แกมันน่ารำคาญ!”
“ไอ้จี้นั่นหล่อขึ้นเรื่อยๆ ฉันล่ะน้ำลายสอ… ”
เจ็ดหัวของเจ็ดบาปต่างร้องอุทาน และหัวสีทองที่มีเขาอยู่ตรงกลางคำราม “พวกแก หุบปาก! ไม่เห็นเหรอว่ามันอันตรายแค่ไหน? เราจะเอาชนะราชาสวรรค์ดีชั่วได้หากพวกแกเชื่อฟังมากกว่านี้ เราควรจะอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ!”
หัวอื่นๆ เงียบไป ไม่กล้าพูดอะไร
”ฆ่ามัน!”
หัวที่มีเขาคำรามและหมุนหินบนพื้นให้เป็นมือขนาดยักษ์หลายมือมุ่งคว้าจี้หยวนเฟิง
ในทางกลับกัน ซูผิงถูกขั’อยู่ในกระแสอสูรร้ายกับโครงกระดูกน้อย มังกรเพลิงนรก และอสูรอื่นๆ เขาปล่อยทักษะทุกประเภท และเลือกที่จะไม่ผสานกับโครงกระดูกน้อย เพราะมีอสูรร้ายมากเกินไป มันจะเร็วกว่าถ้าพวกเขาช่วยกันฆ่า
นอกจากนี้ ศัตรูสภาวะชะตากรรมในกระแสอสูรร้ายกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการกับจี้หยวนเฟิง ดังนั้นซูผิงจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการซุ่มโจมตี เขาไม่ต้องพึ่งพาการคุ้มครองของโครงกระดูกน้อยอีกต่อไป
ปัง! ปัง! ปัง!
ซูผิงพุ่งใส่ท่ามกลางอสูรร้ายทำให้เลือดที่สาดกระเซ็น ทำให้อสูรป่าล้มตายมากมาย
ไม่ไกลจากพวกเขามากนัก อสูรของรองหัวหน้าก็อาละวาดไล่ตามอสูรป่า
เย่อู่ซิวและนักรบในตำนานคนอื่น ๆ อยู่ข้างหลังเขา พวกเขาช่วยกันสกัดกั้นและบดขยี้ฝูงอสูรร้าย อสูรป่าทั้งหมดกำลังวิ่งหนี!
การสังหารหมู่ทำให้ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังแนวป้องกันรู้สึกตื่นเต้น
เมื่อเวลาผ่านไป ซากศพจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกทิ้งไว้ในฝูงอสูรร้าย ซึ่งถูกแยกออกเป็นหลายส่วน อสูรร้ายบางตัววิ่งหนีไปได้
คนที่ศูนย์บัญชาการรู้ว่าทิศใต้ปลอดภัยแล้ว หากอสูรป่าที่ต่อสู้ในทิศใต้คือศัตรูทั้งหมด แสดงว่าพวกเขาชนะ!
อย่างไรก็ตาม…
กระแสอสูรร้ายกำลังจะมาถึงในอีกสามทิศ!
เมื่อสถานการณ์ทางใต้คลี่คลาย พวกเขาก็เปลี่ยนไปสนใจทางทิศเหนือและทิศตะวันออก ที่ซึ่งอสูรร้ายมากมายพอๆ กับทางใต้กำลังเข้ามาใกล้
”พวกเราทำยังไงดี? กระแสอสูรร้ายทางเหนือกำลังจะมาถึง มีอสูรสภาวะชะตากรรมอยู่สามตัว!”
“เป็นไปไม่ได้ที่จะส่งนักรบในตำนานคนอื่นๆ ไปปราบปรามพวกมัน”
อารมณ์ของที่ปรึกษาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมี
จากการต่อสู้กับอสูรร่างมนุษย์ พวกเขาสามารถยืนยันได้ว่านักรบในตำนานทั่วไปไม่ต่างจากนักรบกิตติมศักดิ์เมื่ออยู่ต่อหน้าราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรม
ศัตรูของสภาวะชะตากรรมจะต้องถูกกำจัดโดยนักรบสภาวะชะตากรรม!
อย่างไรก็ตามมีนักรบสภาวะชะตากรรมเพียงสี่คนที่อยู่ฝั่งมนุษย์
ดังนั้นแต่ละคนจึงต้องป้องกันคนละทิศ แม้แต่กู่ซือผิงก็ยังต้องลงมือ!
“ผมจะดูแลทางเหนือ ทางตะวันออกให้น้องซูดูแล และด้านตะวันตกให้รองหัวหน้า” กู่ซือผิงกล่าวอย่างเคร่งขรึมขณะนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับกอดอก
ที่ปรึกษามองแต่ไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าไม่มีทางเลือก
ไม่มีนักรบในตำนานสภาวะชะตากรรมอีกแล้ว!
“เดี๋ยวก่อน อสูรป่าทางเหนือดูเหมือนจะหยุดแล้ว”
”ฮะ? ตะวันออกก็เหมือนกัน!”
“ทางตะวันตกก็เหมือนกัน…”
ทันใดนั้นที่ปรึกษาสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ กระแสอสูรร้ายในทิศทางอื่นๆหยุด
“ให้ทหารรักษาการณ์ส่งวิดีโอมา!”
“อย่าลืมทางตะวันออก!”
ที่ปรึกษาออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
ในไม่ช้ามีการส่งคลิปวิดีโอสองสามคลิปมาให้พวกเขา และที่ปรึกษาเปิดขึ้นทีละรายการ
วิดีโอถูกถ่ายโดยอินทรี
จะเห็นได้ว่าฝูงอสูรป่าหยุดอยู่หน้ากล้อง และหยุดเคลื่อนไหวราวกับกำลังพักผ่อน!
ไม่ใช่แค่ทิศเหนือ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเหมือนกัน!
กระแสอสูรร้ายทั้งสามทิศทางหยุดลงทั้งที่อยู่ห่างจากแนวป้องกันเพียงสิบนาที พวกมันจะเข้าสู่พื้นที่ซุ่มโจมตีในอีกห้านาที
”เกิดอะไรขึ้น? พวกมันกำลังรออะไร? พวกมันรู้สถานการณ์ทางใต้หรอ? ไม่สิ พวกมันคงจะโจมตีแรงกว่านี้ถ้าเป็นแบบนั้น…”
ที่ปรึกษาประหลาดใจและสงสัย
ไม่ใช่ว่าอสูรร้ายหยุดเพื่อสังเกตุการณ์?
หากพวกมันพุ่งเข้าทันที พวกมันจะบรรเทาแรงกดดันต่ออสูรร้ายในทางใต้ และเปิดโอกาสให้ทางใต้ได้หายใจ ถึงกระนั้นพวกมันตัดสินใจหยุดอย่างน่าประหลาดใจ
มีความขัดแย้งใด ๆ ในหมู่อสูรเหล่านั้นหรือเปล่า?
ทุกคนประหลาดใจโดยไม่รู้ว่าอสูรร้ายกำลังทำอะไรอยู่
กู่ซือผิงรู้สึกงุนงงเหมือนคนอื่น ๆ แต่เขามีความรู้สึกแปลก ๆ เป็นลางสังหรณ์
“ส่งคนไปตามหาราชาอสูรที่นำฝูงอสูร!” กู่ซือผิงสั่ว
ที่ปรึกษาต่างตกใจเมื่อรู้ว่ากู่ซือผิงหมายถึงอะไร
หากราชาอสูรร้ายในกระแสอสูรร้ายทั้งหมดไปเสริมกำลังทางใต้ ทางใต้จะกลายเป็นตำแหน่งที่น่ากลัวที่สุดในเวลานี้!
“ส่งนักรบกิตติมศักดิ์ไปที่นั่น พวกเขาต้องหาให้ได้ว่าราชาอสูรร้ายอยู่ที่ไหน แม้ว่าพวกเขาจะต้องเสียสละตัวเองก็ตาม!” ปรึกษาตะโกนขณะที่เขาติดต่อกับทหาร
ในขณะที่มีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ซูผิงและคนอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้กับฝูงอสูรร้ายทางใต้ได้ยินเสียงคำราม จากนั้นพวกเขาก็เห็นว่ามีบางอย่างถูกโยนกลับมาจากท้องฟ้าใกล้กับฝูงอสูรร้าย
ซูผิงค่อนข้างตกใจเมื่อพบว่ามันคล้ายกับจี้หยวนเฟิง!
จี้หยวนเฟิงดูแย่มากในขณะนี้ ปีกของเขาสูญเสียขนส่วนใหญ่ไป และเสื้อคลุมสีขาวของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ เผยให้เห็นเกราะที่ส่องแสงระยิบระยับอยู่ภายใน
”ท่าน?!”
ในอีกด้านหนึ่ง รองหัวหน้าเบิกตากว้างเมื่อเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น
จี้หยวนเฟิงที่ทรงพลังมากในสายตาของเขาพ่ายแพ้?
“พวกมันมีกำลังเสริม…”
จี้หยวนเฟิงลุกขึ้นยืน เขามองไปที่ซูผิงและรองหัวหน้าโดยไม่ลังเลอีกต่อไป มีเพียงความมุ่งมั่นเท่านั้นที่ยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา
ซูผิงกำลังจะพูด แต่สัมผัสได้ถึงบางสิ่งและหรี่ตาลง
บูม!
บูม!!
บูม!!
อสูรร้ายที่อยู่ด้านหลังทั้งหมดหยุดหนี และคุกเข่าลงด้วยความตกใจ แม้แต่อสูรป่าระดับเก้าที่อาศัยอยู่ในทางเดินก็ยังก้มหน้าและก้มตัวลง กลัวเกินกว่าจะขยับตัว
เสียงดังก้องกังวานจนคนที่อยู่หลังแนวป้องกันยังได้ยิน
น้ำในถ้วยบนโต๊ะกระเพื่อม!
“หนึ่ง สอง สาม… เจ็ด แปด…”
ไม่ไกลนัก รองหัวหน้าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาพึมพำจนพูดอะไรไม่ออก
ศัตรูทั้งหมดสิบตัวในสภาวะชะตากรรมเข้ามาใกล้พวกเขา!
จำนวนนี้มากกว่าอสูรป่าสภาวะชะตากรรมที่พวกเขาตรวจพบก่อนหน้านี้ถึงสามเท่า!
ซูผิงก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน เขารู้ว่ากระแสอสูรร้ายทุกตัวในทิศทางอื่น ๆ นั้นนำโดยอสูรป่าสภาวะชะตากรรมสองหรือสามตัว ทั้งหมดอยู่ที่นี่หมดเลยหรอ?
“มีอสูรป่าสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดสามตัว และเพื่อนเก่า … ”จี้หยวนเฟิงแสดงท่าทางเคร่งขรึม เนื่องจาก “เพื่อนเก่า” เพียงคนเดียวทำให้เขากดดันอย่างมาก
เพื่อนเก่าคนนั้นคือราชาสวรรค์ดีชั่ว ผู้นำของราชาสวรรค์ทั้งสี่ที่เขาเคยต่อสู้และไม่สามารถเอาชนะได้!
“จี้หยวนเฟิงแกฝึกช้าเกินไป…” เสียงแปลก ๆ ดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ
เสียงนั้นแปลกเพราะฟังดูไร้เพศและไร้อายุ ดูเหมือนว่าทุกพยางค์จะเปลี่ยนเป็นเสียงของวัยและเพศที่แตกต่างกัน
จี้หยวนเฟิงตอบอย่างเศร้าโศก “ลองออกมาดูสิว่าฉันช้าเกินไปไหม ถ้าแกกล้า”
“ฉันจะทำหลังจากที่ฉันกระทืบแกแล้ว ดีที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้กินแกซะ ในที่สุดวันนี้ฉันก็สามารถหาความสุขให้ตัวเองได้ซะที!” เสียงแปลก ๆ นั้นเอาแน่เอานอนไม่ได้ และไม่แยแส
จี้หยวนเฟิงเงียบจนน่ากลัว
เขาจะไม่มีทางเสียเปรียบถ้าราชาสวรรค์ดีชั่วมาตัวเดียว อย่างไรก็ตามศัตรูได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรสภาวะชะตากรรมสูงสุดถึงสองตัว ในขณะที่เขามีเพียงซูผิงและลูกศิษย์ของเขา
ที่เลวร้ายไปกว่านั้น มีศัตรูสภาวะชะตากรรมเพิ่มมาอีกเจ็ดตัว!
เจ็ดบาป—ซึ่งอยู่สภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุด—เป็นหนึ่งในเจ็ดศัตรูของสภาวะชะตากรรม
“จักรพรรดิมหาสมุทรอยู่ที่นี่หรือเปล่า?” ซูผิงถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ขณะที่เขามองอสูรป่าขนาดมหึมาที่ใกล้เข้ามา
เขาได้ยินมาว่าจักรพรรดิมหาสมุทรซึ่งปกครองอสูรในมหาสมุทรนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าราชาสวรรค์ดีชั่ว เขาอยู่ที่สภาวะชะตากรรมขั้นสุดท้ายและเข้าใกล้ระดับดวงดาวมาก
รูม่านตาของจี้หยวนเฟิงหดเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะตอบอย่างช้าๆ “ไม่”
การแสดงออกของซูผิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ศัตรูตรงหน้าน่ากลัวพอแล้ว และจักรพรรดิมหาสมุทรก็ไม่ได้อยู่ในนี้อีก?
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและติดต่อกู่ซือผิงอย่างรวดเร็ว “ราชาอสูรร้ายจากทางอื่นมารวมตัวกันที่นี่ใช่ไหม?”
หลังจากเงียบไปชั่วครู่กู่ซือผิงก็ตอบว่า “ยังไม่ถึง…” เสียงของเขาสั่นเทา
คราวนี้กู่ซือผิงตื่นตระหนกอย่างแท้จริง
จากการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมในทิศทางอื่นยังคงอยู่ที่เดิม!
หมายความว่าราชาอสูรร้ายทางใต้เป็นอสูรป่าทั้งหมดที่ไม่เคยปรากฏตัวออกมาจากกองทัพของถ้ำลึก จักรพรรดิมหาสมุทรผู้ปกครองท้องทะเลยังคงซุ่มซ่อนอยู่ในความมืดเช่นกัน!
ศัตรูของพวกเขามากมายขนาดไหนกัน?
ราชาอสูรร้ายกว่ายั่สิบตัวได้ปรากฏตัวแล้ว ซึ่งเกินกว่าที่กู่ซือผิงจะคำนวณได้ เนื่องจากจักรพรรดิมหาสมุทรยังคงซ่อนตัวอยู่ เขาไม่สงสัยเลยว่าจะต้องมีราชาอสูรร้ายมาเพิ่มอีก!
มันมากกว่าสิ่งที่กู่ซือผิงสามารถจินตนาการได้
ปะ!
สายถูกตัด
ซูผิงสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขาเคยเห็นอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมแปดตัวตอนไปที่ทางเดิน แม้ว่ามันจะว่างเปล่าแล้วก็ตาม
ไม่มีใครบอกได้ว่าอสูรป่าสภาวะชะตากรรมทั้งแปดตัวนั้นออกมาแล้วหรือไม่ ซูผิงไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกโชคดีหรือเศร้า
“เราต้องสู้” ซูผิงพูดอย่างจริงจัง
ทั้งจี้หยวนเฟิงและรองหัวหน้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการตัดสินใจของซูผิง พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะตัดสินใจต่อสู้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจำนวนมากขนาดนี้
พวกเขาได้ยินการสื่อสารของซูผิงกับกู่ซือผิง
สถานการณ์เลวร้ายมากจริงๆ
มีอสูรป่าสภาวะชะตากรรมจากถ้ำลึกและมหาสมุทรมากเกินไป!
พวกเขาได้รับการเตือนอีกครั้งว่ามนุษย์ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินมานับพันปีได้ยังไง
มนุษย์ได้สร้างเมืองฐานขึ้นทีละแห่ง และมอบหมายให้แต่ละเมืองไปสำรวจดินแดนรกร้างและล่าอสูรป่า พวกเขาไม่ใช่เจ้าของทวีปนั้น เป็นเพียงผู้รอดชีวิตเท่านั้น
พวกเขายืนกรานเช่นนั้นมานานเพราะข้อตกลงที่จะไม่รุกรานของจักรพรรดิมหาสมุทรกับเจ้าหอคอยรุ่นแรก และเพราะว่าราชาสวรรค์ทั้งสี่มักจะต่อสู้กันเองและไม่ค่อยโจมตีมนุษย์
ท้ายที่สุดมนุษย์ก็ไม่ได้น่ากินไปกว่าอสูรป่าชนิดอื่นๆ อย่างแน่นอน และมันไม่ง่ายเลยที่จะกินมนุษย์!
ในขณะนั้นอสูรป่าจากมหาสมุทรและถ้ำลึกที่เติบโตและเพิ่มจำนวนในพันปีก็ร่วมมือกัน กระแสอสูรร้ายร่วมของพวกมันจะถมดาวเคราะห์สีน้ำเงินจนจม!
มนุษย์เป็นเหมือนเรือลำเล็ก ๆ ในกระแสน้ำ แม้แต่คลื่นที่เล็กที่สุดก็สามารถแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้!
ซูผิงได้ยินบางอย่างจึงหันหน้าและเห็นว่ารองหัวหน้ากำลังสั่น
ยอดฝีมือสภาวะชะตากรรมตัวสั่นด้วยความกลัว!
ซูผิงมีท่าทีจริงจัง แต่ในขณะนี้เขาไม่ได้ดูถูกชายที่เขาเกลียดชังมาตลอด เพราะเขาคงจะรู้สึกสิ้นหวังในสถานการณ์นี้เช่นกัน ถ้าเขาไม่มีระบบของร้านค้าให้พึ่งพา
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณระบบ… เขายังไม่สูญเสีย และเขายังสามารถคิดให้ละเอียดได้
อันที่จริงมีน้อยมากที่เขาคิดออก กลอุบายใด ๆ ก็ไร้ประโยชน์เมื่อต้องเผชิญกับความแข็งแกร่ง สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือสู้!
“พวกมัน… พวกมันทั้งหมด…”
”มันเป็นไปได้ยังไงกัน? อสูรสภาวะชะตากรรมทั้งหมดนี่ไม่ใช่ศัตรูจากทิศอื่น?”
ไกลออกไปเย่อู่ซิวและคนอื่น ๆ ที่กำลังต่อสู้อยู่ในกระแสอสูรร้ายมองไปที่อสูรป่าสภาวะชะตากรรมซึ่งมีขนาดใหญ่เท่าภูเขา พวกเขาเริ่มสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออสูรป่าเข้ามาใกล้ แม้แต่ทหารผ่านศึกอย่างเย่อู่ซิวก็ยังตกตะลึง
พวกเขาเคยได้ยินจำนวนของราชาอสูรที่ตรวจพบ แต่เมื่อเห็นหลายตัวรวมตัวกันด้วยตาของพวกเขาเองก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น!
หวืด!
ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาใกล้จากระยะไกล เขาสวมชุดเกราะสีทองและถือหอกยาว ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกู่ซือผิง
เมื่อทุกอย่างมาถึงจุดนี้ เขาไม่สามารถอยู่ในศูนย์บัญชาการได้อีกต่อไป
ศัตรูสภาวะชะตากรรมจำนวนมากได้ปรากฏตัวขึ้น หากเขาไม่ออกมาต่อสู้ เป็นไปไม่ได้ที่ซูผิงและจี้หยวนเฟิงจะต้านทานการโจมตีของพวกมัน ถ้าคนใดคนหนึ่งถูกฆ่า อีกคนจะต้องทนต่อแรงกดดันที่มากขึ้นทวีคูณ
หากทุกคนล้มลง แนวป้องกันทั้งหมดจะถูกทำลายโดยศัตรูสภาวะชะตากรรม ปลาที่รอดตายเพียงตัวเดียวที่อยู่เบื้องหลังก็คือกู่ซือผิง และเขาจะไม่รอดเช่นกัน!
ดังนั้นเขาจึงต้องรีบหนีหรือสู้!
หลังจากพิจารณาข้อดีข้อเสียแล้ว เขาเลือกอย่างหลัง
ท้ายที่สุด เขาไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ใด และเขาตั้งใจจะต่อสู้ต่อไปอีกสักพัก อาจจะมีปาฏิหาริย์!
”ฮะ?”
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นกู่ซิผิง เขาอดไม่ได้ที่จะเคารพชายคนนี้ที่เลือกไม่หนีจากอันตรายร้ายแรงเช่นนี้
จี้หยวนเฟิงมองเขาและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ปล่อยราชาสวรรค์ดีชั่วให้ฉันจัดการ ส่วนศัตรูอีกสองตัว จัดการหนึ่งในนั้นแล้วฉันจะจัดการกับอีกตัวหนึ่ง”
วังวนปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาขณะที่เขาพูด และอากาศที่น่าสยดสยองก็กระจายออกไป อสูรสภาวะชะตากรรมสี่ตัว ทั้งหมดอยู่ในขั้นสูงสุด เดินออกมาตามลำดับ!
พวกมันเป็นไพ่ตายของจี้หยวนเฟิง
กู่ซือผิงตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นอสูรสภาวะชะตากรรม จากนั้นเขาก็บังคับตัวเองให้ทำตัวปกติและพยักหน้า “ไม่มีปัญหา”
“สองคน… ต้องจัดการสภาวะชะตากรรมตัวอื่น แค่อย่าให้พวกมันครอบงำ”จี้หยวนเฟิงมองไปที่ซูผิงและลูกศิษย์ของเขาด้วยความกังวล ท้ายที่สุดแล้วอสูรป่าทั้งเจ็ดของสภาวะชะตากรรมนั้นไม่ได้รับมือได้ง่ายๆ และมันก็ยากเกินไปสำหรับซูผิงและลูกศิษย์ของเขาที่ครอบงำพวกมัน
อย่างไรก็ตามเมื่อทุกอย่างมาถึงจุดนี้ จี้หยวนเฟิงก็ไม่มีทางเลือก
ท้ายที่สุดเขาไม่สามารถช่วยพวกเขาได้อีกต่อไป
การแสดงออกของรองหัวหน้าเปลี่ยนไป เขาเปิดปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่มีทางเลือกในสถานการณ์แบบนี้ และไม่มีใครมีทางเลือก
เขาต้องหนีหรือสู้!
เขาก้มหน้าลงเงียบๆด้วยแววตาวาววับ
ซูผิงที่เงียบตลอดเวลากล่าวในทันใดว่า “คุณไปจัดการอีกเจ็ดตัว ปล่อยสามตัวนี้ไว้ให้ผม”
ทุกคนนิ่งเงียบกับสิ่งที่เขาพูด
ซูผิงเงยหน้าขึ้นด้วยความมุ่งมั่น เขาไม่ได้อธิบายอะไรเขาเพียงแค่ส่งความคิดทางกระแสจิต ทันทีหลังจากนั้น ลำแสงก็พุ่งเข้ามาจากระยะไกล และเข้าสู่ร่างกายของเขา
เสียงแตกดังลั่น และกลิ่นอายรุนแรงที่น่าเกรงขามของราชาก็เล็ดลอดออกมาจากซูผิง
กระดูกสีขาวงอกขึ้นปกคลุมร่างกายของเขา แม้กระทั่งแก้มของเขา เขาสูงขึ้นกว่าเดิมมาก และปล่อยกลิ่นอายความรุนแรงออกมา
จี้หยวนเฟิงค่อนข้างตกใจหลังจากสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานที่แผ่ออกมาจากซูผิง
ตอนที่ 708 สังหารศัตรูสภาวะชะตากรรม
เป็นกลิ่นอายที่ดุดันมาก!
จี้หยวนเฟิงตระหนักว่าเขายังไม่สามารถบอกระดับของซูผิงได้ พูดให้ถูกคือ เขาไม่เคยสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตสภาวะชะตากรรมจากซูผิง!
แต่น่าแปลกที่พลังดวงดาวที่ซูผิงปล่อยออกมานั้นน่ากลัวมากแม้กระทั่งกับเขา มันสมบูรณ์จนรู้สึกเหมือนมหาสมุทรอันไร้ขอบเขต!
เมื่อกลับมารู้สึกตัวจี้หยวนเฟิงพูดอย่างรวดเร็วว่า “น้องซูอย่าประมาท เนื่องจากคุณมีพลังต่อสู้สูง เราแต่ละคนจะดูแลหนึ่งในสามอสูรสภาวะชะตากรรม!”
“นั่นไม่จำเป็น คุณต้องฆ่าอสูรสภาวะชะตากรรมตัวอื่นให้เร็วที่สุด ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ! อย่าลืมว่ากระแสอสูรร้ายทางทิศอื่นยังรอเราอยู่…” ซูผิงกล่าวอย่างเย็นชาและแน่วแน่ราวกับเขาเป็นราชา
ดวงตาของเขาที่มืดมนราวกับขุมนรกที่ไร้ก้นบึ้ง เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการทำลายล้าง ซึ่งทำให้จี้หยวนเฟิงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงหยุดชักชวนเขา
ใช่ เขารู้สึกทึ่งกับซูผิง
ที่ทำให้เขาตกตะลึงไม่ใช่พลังงานที่พุ่งพล่านจากซูผิง แต่มันเป็นอากาศแปลก ๆ ที่ผสมอยู่ในพลังงานนั้น ดูเหมือนว่าจะมาจากสิ่งมีชีวิตในสมัยโบราณ ซึ่งน่ากลัวเข้าไปถึงในระดับเซลล์
ขณะที่เขาอยู่ในภวังค์ ซูผิงก็คำรามขึ้นไปบนท้องฟ้า
เขากระโดดขึ้นไปในอากาศ และเสียงสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวก็ดังก้องไปทั่วความว่างเปล่า!
”ฮะ?”
”เกิดอะไรขึ้น? มันแข็งแกร่งมาก!”
“มันไม่ได้อยู่ที่สภาวะชะตากรรมไม่ใช่หรอ?”
ราชาอสูรสภาวะชะตากรรมทั้งหมดที่โผล่ออกมาจากกระแสอสูรร้ายต่างตกตะลึง แม้ว่าซูผิงจะตัวเล็ก แต่พวกมันไม่สามารถละเลยเขาได้
พลังงานของเขาแผดเผามาก แต่ความรู้สึกของเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกมัน ซึ่งค่อนข้างแปลก!
“ขนมนี้น่าสนใจ มันเป็นของฉัน!”
อสูรร้ายสภาวะชะตากรรมตัวหนึ่งเดินมาข้างหน้า ทำให้มีเสียงดังก้องอยู่ใต้พื้นดิน
อสูรร้ายนั้นดูเหมือนแรดแต่ใหญ่กว่าถึงสิบเท่า มันมีเขี้ยวแหลมอยู่ในปากและมีเขาสั้นสีขาวทั่วทั้งตัว ภาพรวมทำให้มันดูแข็งแรง
มันมองลงมาที่ซูผิงราวกับว่ากำลังมองเค้กแสนอร่อยชิ้นหนึ่ง จากนั้นมันก็ยกขาหน้าขึ้นและกระทืบ
หลังจากการระเบิดหลายครั้ง มังกรหินพุ่งออกมาจากพื้นดินและไล่ตามซูผิงกลางอากาศ
มิติรอบ ๆ ซูผิงถูกกักขังอย่างสมบูรณ์ ทำให้เขาไม่สามารถวิ่งได้
หวืด หวืด หวืด หวืด!
ลมที่โหมกระหน่ำใส่ใบหน้าของซูผิงทำให้ผมของเขาสะบัดแรง
ทรายและหินพัดกระทบใบหน้าของซูผิง ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับแสงสว่างจ้าที่ส่องประกายออกไป ในเวลาต่อมาดาบในมือของเขาได้ปล่อยแสงสีดำที่ส่องประกายซึ่งกลืนกินแสงทั้งหมดบนสมรภูมิ!
”ไปลงนรกซะ!!”
พลังปีศาจและกฎแห่งการทำลายล้างถูกกระตุ้นเมื่อคลื่นพลังงานดวงดาวนับไม่ถ้วนในมิติกักขังของซูผิงระเบิด พวกมันทั้งหมดถูกฉีกจนระเบิดด้วยดาบของเขา
ทันใดนั้นคลื่นแห่งการทำลายล้างก็แผ่ขยายออกไป
ดาบแห่งความว่างเปล่าฟันไปข้างหน้า!
”ไม่!”
”ฮะ?”
แรดโหดที่เพิ่งโจมตีเขาจู่ ๆ ก็รู้สึกถึงกลิ่นอายน่าสยดสยอง การแสดงออกที่ผ่อนคลายของมันถูกแทนที่ด้วยความตกใจ
ราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมอีกสองตัวที่อยู่ข้างหลังก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกมันมองซูผิงด้วยความตกใจ
ปัง ปัง ปัง!
กำแพงสูงขึ้นตรงหน้าแรด! หินที่สร้างกำแพงนั้นตกผลึกอย่างรวดเร็ว เพิ่มการป้องกันของพวกมัน อสูรร้ายอ้าปากและพ่นเกราะสีดำหมุนระหว่างกระบวนการตกผลึก โล่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสามเมตร และปกป้องกึ่งกลางไว้
ซูผิงฟันด้วยดาบของเขาทันทีที่โล่สีดำปรากฏขึ้น
เมฆบนท้องฟ้าถูกแยกออก ราวกับได้รับคำสั่งให้ทำเช่นนั้น!
ดาบของเขาผ่าอากาศ พื้นดิน และมิติออกจากกัน!
รอยร้าวสีดำที่น่ากลัวปรากฏขึ้น มิติ—ซึ่งถูกแยกออกจากกันโดยสิ่งมีชีวิตสภาวะว่างเปล่าด้วยความเข้าใจในมิติ—ถูกฉีกขาดอย่างไร้ความปราณี!
บูม! บูม! บูม!
กำแพงที่ตกผลึกด้านหน้าแรดถูกทำลายราวกับมันเป็นแค่กระดาษ ถึงแม้ว่าแต่ละกำแพงจะต้านทานการทิ้งระเบิดของยอดฝีมือสภาวะว่างเปล่าได้หลายชั่วโมงก็ตาม!
เอี๊ยด!!
หลังจากการระเบิด มีบางอย่างถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ คลื่นเสียงสูงกระจายไปทั่วสนามรบ อสูรป่าธรรมดาจำนวนมากที่อยู่ใกล้ๆแรดเลือดออกและตาย!
สนามรบขนาดใหญ่ตกอยู่ในความเงียบแปลกๆจากผลพวง
แม้แต่อสูรร้ายที่แสนดุร้ายก็ยังหยุดคำราม
บูม!
ราวกับว่าเวลาผ่านไปหนึ่งศตวรรษ—แม้ว่าจะเป็นเพียงความเงียบเพียงไม่กี่วินาที—ก็มีเสียงดังอีกเสียงหนึ่งดังก้อง จากนั้นแรดก็ทรุดตัวลง ทุกคนตกใจ!
มันร่วงลงขณะที่ถูกผ่าออกเป็นสอง!
เลือดและเนื้อของมันกระจายไปทุกที่ ซากของอสูรป่าสามารถเห็นได้ในอวัยวะบางส่วนของอสูรแรด
”ดี…”
จี้หยวนเฟิง กู่ซือผิงและคนอื่น ๆ รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
ชายคนนั้นได้ฆ่าศัตรูสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
พวกเขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นภาพลวงตา หรืออาจเป็นความฝัน
ผู้คนในฐานทัพต่างตกตะลึง การโจมตีของซูผิงนั้นทรงพลังเกินไป มันทำให้ทั้งสนามรบเงียบ เชาฆ่าหนึ่งในผู้นำของอสูรป่า น่าเหลือเชื่อ!
โล่ดำแตก มันตกอยู่ข้างๆศพแรด ค่ายกลที่จารึกไว้ก็ถูกทำลายเช่นกัน เสียงแตกก่อนหน้านี้คือมันพยายามต้านทานการโจมตีของซูผิง จนกระทั่งล้มเหลวและถูกบดขยี้ในที่สุด!
ราชาอสูรร้ายทั้งหมดงุนงงขณะยืนอยู่ด้านหลังศพ
ราชาอสูรร้าย—ซึ่งเดินเตร่อยู่แนวหน้า—เริ่มหนาวสั่น พวกมันมองชายหนุ่มร่างเล็กราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด!
นั่นคือแรกยักษ์กระหายเลือดสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุด แต่ยังถูกเขาฆ่าด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว?
โจมตีเพียงครั้งเดียว!
ฆ่าทันที!
ชายหนุ่มคนนี้ก้าวข้ามระดับหรือเปล่า?
ในสถานที่ใกล้เคียง ราชาสวรรค์ดีชั่วและอสูรป่าสภาวะชะตากรรมอื่น ๆ ตกใจเกินกว่าจะเชื่อได้
ราชาสวรรค์ดีชั่วตกตะลึงมากที่สุด มันรู้ว่าจี้หยวนเฟิงเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดและรับมือค่อนข้างยาก มันแทบไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นคนที่น่ากลัวยิ่งกว่าจี้หยวนเฟิง!
ชายคนนั้นเปรียบได้กับจักรพรรดิมหาสมุทร! ไม่สิ เขาน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าจักรพรรดิมหาสมุทร!
ฮู… ฮู…
ซูผิงหายใจแรง เขามองไปที่ราชาสวรรค์ดีชั่วด้วยความเยือกเย็น นั่นคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดในสามศัตรูสภาวะชะตากรรม
ราชาสวรรค์ดีชั่วเป็นมังกรที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำและสีขาว มันมีสองหัว เกล็ดของมันไม่ได้ผสมกัน เพราะมันอยู่บนร่างกายสองด้านที่ต่างกัน ราวกับว่าถูกรวมเข้าด้วยกันจากมังกรสองตัว มันดูไม่ค่อยไปด้วยกัน
ซูผิงเคยได้ยินมามากมายเกี่ยวกับราชาสวรรค์ดีชั่ว
เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่น่าสยดสยองหลังจากที่เขาได้เห็นมันในที่สุด
ราชาสวรรค์ดีชั่วเป็นมังกรสภาวะชะตากรรมที่มีกลิ่นอายของความตาย
เมื่อพิจารณาถึงเลือดอาชูร่าในร่างกายของเขา ซูผิงได้พัฒนาประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลมกับทุกสิ่งจากอันเดธ เขาสามารถบอกได้ว่าราชาสวรรค์ดีชั่วเป็นส่วนผสมของมังกรและปีศาจ ซึ่งทั้งสองเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งมาก ไม่น่าแปลกใจที่มันสามารถเป็นผู้นำของราชาสวรรค์ทั้งสี่ได้!
”แกคือรายต่อไป!”
ซูผิงบินเข้าหาราชาสวรรค์ดีชั่วขณะถือดาบของเขา
ดูเหมือนว่าเขาจะท้าทายอสูรป่าสภาวะชะตากรรมทั้งหมดในสนามรบโดยไม่มีอะไรเลย นอกจากดาบ!
ฉากนั้นตกตะลึงจนคนมากมายในเมืองฐานต่างพูดอะไรไม่ออก
แผ่นหลังโดดเดี่ยวของเขาดูเหมือนกำแพงที่ทำลายไม่ได้!
ณ บ้านหลังหนึ่งในเมืองฐานหลงเจียง—จู่ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งก็ปิดปาก และหยุดร้องไห้ไม่ได้
เธอคือหลี่ฉิงรู่ แม่ของซูผิง
พักนี้ซูผิงไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำนอกบ้านและทัศนคติที่เปลี่ยนไปของทั้งห้าตระกูล รวมถึงตระกูลฉินทำให้เธอตระหนักว่าลูกชายของเธอไม่ใช่คนเดิมอีก
ถึงกระนั้น… ลูกชายของเธอกำลังต่อสู้ในสนามรบอย่างเต็มกำลัง!
แม่คนไหนจะทนดูลูกสู้ขนาดนั้นได้?
ซูหยวนชานโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและปลอบโยนเธอ ขณะที่เขาดูทีวีด้วยท่าทางซับซ้อน
…
ในคฤหาสน์สูงตระหง่าน นักรบกิตติมศักดิ์และชนชั้นสูงอายุน้อยของตระกูลถังจำนวนมากรวมตัวกัน
“พอคิดดูว่าครั้งหนึ่งเราเคยพยายามจะมีปัญหากับเขา!”
พวกเขาตกตะลึงมากเมื่อเห็นวิดีโอบนหน้าจอ
ถังหลินจ้านที่ยืนอยู่ตรงกลางอ้าปากเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าจะตอบคำพูดของถังหยวนชิงอย่างไร
ถังยู่หยูที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็ตกใจอย่างมาก เธอจำได้ว่าเธอได้พบกับซูผิงครั้งแรกระหว่างลีกสูงสุด ย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มจะเติบโตได้ถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้!
ในเวลาเดียวกัน-
ทุกคนที่สมาคมผู้ฝึกสอน—ซึ่งย้ายมาอยู่หลังแนวป้องกัน—ตกใจเกินกว่าจะพูด
ซูผิงเคยไปเยี่ยมชมสมาคมผู้ฝึกสอนและในที่สุดก็ได้รับการรับรองว่าเป็นผู้ฝึกสอนชั้นนำ อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นนักรบในตำนาน!
…
ในสนามรบ
ซูผิงรีบเข้าหาราชาสวรรค์ดีชั่วอย่างรวดเร็ว เขาปล่อยเจตนาฆ่ารุนแรงจนเปลือกตาของราชาสวรรค์ดีชั่วกระตุก มันอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังและรู้สึกอยากหนี อย่างไรก็ตามมันรู้ถึงผลที่ตามมาของการวิ่งหนี
“มาโจมตีมันด้วยกัน!” ราชาสวรรค์ดีชั่วคำรามอย่างโกรธจัด มันไม่มีเวลาสนใจศักดิ์ศรีของตัวเองอีกต่อไป สู้กันตัวต่อตัว? มีแต่คนงี่เง่าเท่านั้นที่จะทำแบบนั้น! ใช่ คนที่ท้าทายก่อนและถูกฆ่าคือคนงี่เง่า!
อสูรมีจำนวนมากกว่ามนุษย์ ทำไมถึงต่อสู้แบบตัวต่อตัวบนโลก?
เมื่อราชาสวรรค์ดีชั่วคำราม อสูรป่าสภาวะชะตากรรมตัวอื่นตระหนักว่าชายผู้นี้เป็นศัตรูตัวฉกาจที่สุดของพวกมัน และพวกมันต้องร่วมกันโจมตีเขา
ใกล้ๆ กัน ราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรม—ซึ่งดูเหมือนมังกรทะเล—ตะโกนว่า “ฆ่ามันให้จบๆ!”
มันเป็นอสูรร้ายขนาดมหึมาที่มีร่างกายเป็นปลาวาฬ หัวจระเข้ และแขนขาเป็นกิ้งก่า มันอ้าปากและพ่นน้ำสีดำออกมา
น้ำสีดำมีกลิ่นเหม็นและปกคลุมซูผิงเหมือนใยแมงมุม ทำให้มิติรอบตัวเขาบิดเบี้ยว
ราชาอสูรร้ายตัวอื่นก็ปลดปล่อยทักษะของพวกมันอย่างรวดเร็ว ทักษะการฆ่าอันน่าสยดสยองของสภาวะชะตากรรมได้ลดพลังงานในพื้นที่ลงจนกลายเป็นความโกลาหล
ทักษะอันน่าสะพรึงกลัวเกือบแปดอย่างปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมๆ กัน ทำให้ดูเหมือนวันสิ้นโลกมาถึง
ทักษะใด ๆ เหล่านั้นจะทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ในแนวป้องกันหากเกิดการโจมตี!
เมื่อเห็นว่าราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมผนึกกำลังกันโจมตีซูผิง จี้หยวนเฟิงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปด้วยพลังงานรุนแรงและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป หากมีอะไรเกิดขึ้นกับซูผิง… เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะหยุดยั้งราชาอสูรด้วยตัวของพวกเขาเอง
“มาช่วยกัน!”จี้หยวนเฟิงคำรามและพุ่งเข้าใส่ฝูงอสูร เขาปล่อยพายุทอร์นาโดหลายลูกไปยังทักษะเหล่านั้นบนท้องฟ้า โดยหวังว่าจะระเบิดพวกมันได้ก่อน
ทักษะเหล่านั้นล้วนสร้างมาจากพลังงาน โครงสร้างพลังงานของพวกมันอาจถูกทำลายได้หากได้รับผลกระทบมหาศาลที่จะทำให้เกิดการระเบิดแต่เนิ่นๆ
“หยุด!”
ราชาสวรรค์ดีชั่วคำรามเมื่อจี้หยวนเฟิงลงมือ พายุทอร์นาโดที่ปล่อยออกมาถูกหยุดในจุดนั้น ไม่สามารถพุ่งต่อไปได้!
มันเป็นฉากที่น่าตกใจและคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เมื่อได้เห็นพายุทอร์นาโดเหล่านั้นหยุดลงอย่างสมบูรณ์!
ทั้งกู่ซือผิงและรองหัวหน้าอยู่ในสภาพไม่ค่อยดี พวกเขาลงมืออย่างรวดเร็วและรวมเข้ากับอสูรของพวกเขา ปลดปล่อยทักษะอันทรงพลัง
รองหัวหน้าหงายมือและชักดาบออกมา ก่อนจะใช้ผู้กลืนกินเทพซึ่งเขาใช้ในการต่อสู้กับซูผิงในหอคอย!
เกล็ดมังกรทองปรากฏบนร่างกายของเขา จากนั้นเขาก็เต็มไปด้วยแรงโน้มถ่วงของมังกร
เงากำลังเคลื่อนตัวอยู่ในสนามพลังที่อยู่ข้างหลังเขา ราวกับว่าเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่อยู่ด้านหลังเขา
เขาใช้พลังสูงสุดในการโจมตีครั้งแรก รังสีสีทองวาววับพุ่งออกมาจากดาบทันทีและฉีกช่องว่างออกเป็นชิ้นๆ ตัดทักษะมากมายในแนวนอน
ราชาสวรรค์ดีชั่วคำรามด้วยความตกใจและโกรธ “ปิดกั้นมัน!”
รังสีของดาบนั้นทรงพลังและเฉียบคม แรงกดดันที่ราชาสวรรค์ดีชั่วปล่อยออกมาถูกตัดขาด มันไม่สามารถหยุดได้อย่างสมบูรณ์!
ราชาอสูรร้ายที่อยู่ใกล้ซึ่งดูเหมือนมังกรทะเลคำรามและรวมกลุ่มไอระเหยขนาดใหญ่ ซึ่งพุ่งขึ้นเพื่อสกัดกั้นรังสีดาบ น้ำเป็นสิ่งที่นุ่มนวลที่สุดและยืดหยุ่นมากที่สุด
ไม่นานรังสีดาบก็หายไปในไอคลื่น และไม่สามารถทะลุผ่านได้
ในอีกด้านหนึ่งกู่ซือผิงคำรามและและปล่อยรังสีหอกซึ่งฉีกความว่างเปล่าออกเป็นชิ้น ๆ ราวกับสายฟ้าใส่ทักษะทั้งหมด มันแทงทะลุทะเลไฟในทันที และทำให้มันกลายเป็นฝนไฟแทน
ขณะที่เขามองฉากฝนไฟ ทักษะอื่นที่ปกคลุมสายตากับราชาสวรรค์ที่ชั่วที่จ้องมองเขาด้วยความโกรธ ซูผิงก็หยุดเดิม
เขาชักดาบแล้วกำหมัดแน่น!
แสงสีทองส่องประกายจากหมัดของเขา ทำให้ดูเหมือนดอกบัวบาน พลังเทพมากมายระเบิดออกมา ทันใดนั้นราวกับว่าเทพเจ้ากำลังร่ายมนตร์!
สนามพลังปรากฏขึ้นด้านหลังซูผิง มีเงาสลัวของปีศาจและเหล่าทวยเทพอยู่ข้างใน เขาดูเหมือนราชาของราชาอีกที!
จากนั้นเสียงคำรามยาวก็ดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ “ทำลาย!!”
ซูผิงต่อย ออร่าหมัดของเขาขยายอย่างรวดเร็วจนมีขนาดที่น่าตกใจ ก่อนที่มันจะไปปะทะกับทักษะของสภาวะชะตากรรมบนท้องฟ้า!
บูม! บูม! บูม!
ทั้งโลกสับสนวุ่นวาย พลังงานที่รุนแรงและปั่นป่วนกระจายออกไป ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เนื่องจากความถี่ของพวกมันอยู่นอกเหนือเกณฑ์ทางประสาทสัมผัสของมนุษย์
ไม่ถึงสิบวินาทีต่อมาเสียงก็เบาลงจนถึงจุดที่มนุษย์ได้ยิน เสียงระเบิดดังก้องกังวาน และเมืองฐานทั้งหมดที่อยู่หลังแนวป้องกันได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจนดูเหมือนเกิดแผ่นดินไหว
ทักษะหลายอย่างถูกจุดชนวนจากหมัดขับไล่วิญญาณจองซูผิง ซูผิงถูกแรงระเบิดสะท้อนกลับทำให้ถอยหลังแต่ไม่ไกลนัก เนื่องจากร่างกายของเขาแข็งแกร่ง และสามารถรับมือกับแรงกระแทกได้
หวืด!
ซูผิงหรี่ตาและพุ่งออกไปเพื่อออกจากพายุพลังงาน
มิติกำลังสั่นและเขาไม่สามารถขยับได้เหมือนปกติ เขาต้องเข้าหาศัตรูด้วยการพุ่งเข้าไป!
“บัดซบ!”
ราชาสวรรค์ดีชั่วอยู่อีกด้านหนึ่งของความปั่นป่วน มันโกรธเพราะการโจมตีที่ล้มเหลว มันยังตกตะลึงกับทักษะหมัดอันน่าสะพรึงกลัวของซูผิง
มันพร้อมที่จะเริ่มการโจมตีอีกระลอกหนึ่ง เมื่อมันตรวจพบกลิ่นอายสังหารที่อ่อนแอแต่เฉียบแหลม
ท่าทางของมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการโจมตีด้วยดาบอันทรงพลังของซูผิงได้สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งให้พวกมัน
“สนามพลังแห่งความมืด!”
มันเปิดใช้งานทักษะสายเลือดของมันอย่างรวดเร็ว โลกรอบตัวถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ผู้ที่ติดอยู่ในสนามพลังนั่นจะถูกลิดรอนประสาทสัมผัสทั้งหมด ในขณะที่พลังงานของพวกมันจะถูกทำให้เสื่อมเสียและถูกดูดซับโดยไม่รู้ตัว
“เขาอยู่ที่นี่!”
แทบจะไม่มีการเปิดสนามพลังเมื่อราชาสวรรค์ดีชั่วตรวจพบผู้บุกรุก
ความโหดร้ายเล็ดลอดออกมาจากดวงตาของมัน ซูผิงตามืดบอดในสนามพลังนั่น
มันง่ายมากที่จะเอาชนะคนที่ตาบอดเมื่ออีกคนมองเห็น!
ทันใดนั้นหัวที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีขาวก็อ้าปาก ที่ซึ่งดาบศักดิ์สิทธิ์สีขาวบริสุทธิ์กำลังควบแน่น มันคมพอที่จะตัดหัวอสูรป่าสภาวะชะตากรรมออกจากกัน
หวืด!
แสงที่แผ่ออกมาจากดาบศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทำให้สนามพลังแห่งความมืดสว่างขึ้น แต่มันทำให้ดาบสว่างยิ่งขึ้น น่าแปลกที่ไม่มีอะไรสามารถมองเห็นได้ในสนามพลังแห่งความมืด ซึ่งดูเหมือนจะปิดตาของทุกคนด้วยเมือก มองไม่เห็นแม้แต่แสงที่สว่างที่สุด เว้นแต่ว่ามันจะอยู่ใกล้ตามากๆ
มันเป็นความมืดที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยแสง!
แสงศักดิ์สิทธิ์กำลังจะพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย แต่ซูผิงโน้มตัวลงและวิ่งทันที!
ชายคนนั้นพุ่งไปข้างหน้าทันทีด้วยเทคนิคการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาด!
ราชาสวรรค์ดีชั่วตกตะลึงและเบิกตากว้าง อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา มันก็หวาดกลัวเกินกว่าจะพิจารณาว่าทำไมซูผิงถึงมองเห็นสิ่งต่างๆ ในสนามพลังแห่งความมืด มันจำการโจมตีครั้งก่อนของเขาได้
ไม่ ฉันไม่อยากตาย!
มันตกใจและโกรธจัด มันพ่นลมหายใจมังกรออกจากหัวทั้งสอง!
สองลมหายใจของมังกร หนึ่งสีดำและอีกหนึ่งสีขาวพ่นออกมา หนึ่งมีบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์และแผดเผา และอีกหนึ่งเย็นชาและวุ่นวาย
อย่างไรก็ตาม ซูผิงชักดาบของเขาในวินาทีต่อมา การโจมตีอันน่าสยดสยองที่ราชาสวรรค์ดีชั่วไม่สามารถลืมได้เกิดขึ้นอีกครั้งจากระยะใกล้!
ปัง!!
เมื่อดาบฟันออกไป รัศมีแห่งการทำลายล้างที่มองไม่เห็นก็ฉีกสนามพลังแห่งความมืดออกจากกันราวกับมันเป็นแค่ม่านสีดำ!
จากนั้นรัศมีของดาบก็ไปถึงราชาสวรรค์ดีชั่วในชั่วพริบตาและตัดหัวของมัน หัวที่มีเกล็ดสีขาวระเบิด คอและตัวของมันที่อยู่ใต้หัวก็ถูกตัดออกจากกันด้วย!
ไม่มีเลือดไหลออกมา มีไอน้ำสีขาวปรากฏขึ้นแทน เลือดที่กำลังจะไหลออกมาภายใต้การบีบของเส้นเลือดก็ระเหยไปในทันที
“ซู…”
“…”
จี้หยวนเฟิง กู่ซือผิงและรองหัวหน้าที่มาช่วยด้วยความกระวนกระวายใจ ต่างก็ประหลาดใจเมื่อสนามพลังแห่งความมืดจางหายไป
ราชาสวรรค์ดีชั่วถูกตัดหัว?
ทุกคนต่างตกใจ นั่นไม่ใช่แค่ราชาอสูรเท่านั้น! มันเป็นราชาสวรรค์ดีชั่วที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่ราชาสวรรค์บนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน!
ถึงกระนั้น มันก็พ่ายแพ้และถูกซูผิงตัดหัว!
ดวงตาของจี้หยวนเฟิงเกือบจะถลนออกมา เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าราชาสวรรค์ดีชั่วซึ่งเขาต่อสู้มาหลายร้อยปีตายไปแบบนั้น!
เขาเคยต่อสู้กับราชาสวรรค์ดีชั่ว และไม่มีฝ่ายไหนสามารถเอาชนะกันและกันได้ ดังนั้นเขาจึงบ่มเพาะอย่างสันโดษและพยายามไปให้ถึงระดับดวงดาว อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าราชาสวรรค์ดีชั่วเป็นอสูรป่าที่มีพรสวรรค์
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าหลายร้อยปีต่อมา ซูผิงจะฆ่ามันได้ก่อนที่เขาจะมีโอกาสเอาชนะมันได้!
ชายคนนั้นได้ฆ่าอสูรสภาวะชะตากรรมขั้นสูงสุดสองตัวติดต่อกัน เขาเป็นมนุษย์จริงๆเหรอ?
บริเวณใกล้เคียงราชาอสูรสภาวะชะตากรรมตัวอื่นๆก็ตัวแข็งเป็นหิน
พวกมันรู้ดีถึงความน่าสะพรึงกลัวของราชาสวรรค์ดีชั่ว ราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมบางตัวจากถ้ำลึกมีความขัดแย้งกับราชาทั้งสี่บนดินหลังจากที่พวกมันออกมาจากโลกใต้ดิน อย่างไรก็ตามพวกมันทั้งหมดถูกปราบหรือไม่ก็โดนสังหารโดยราชาสวรรค์ดีชั่ว
“ราชาสวรรค์ดีชั่วตายแล้ว ราชาสวรรค์ดีชั่วตายแล้ว…”
หัวหน้าเจ็ดบาปที่ชอบพูดซ้ำพึมพำด้วยความตกใจและหงุดหงิด
อีกหัวที่ประกาศเสมอว่ามันจะระเบิดศัตรูก็เงียบไปเช่นกัน และทำแค่เป่าปาก
มันอาจจะรู้จักราชาสวรรค์ดีชั่วดีกว่าใครๆ ท้ายที่สุดราชาสวรรค์ดีชั่วอยู่สูงกว่ามันเสมอ และมันไม่เคยเต็มใจที่จะยอมรับความต่ำต้อยของมัน
แต่มันก็ยอมรับว่าราชาสวรรค์ดีชั่วนั้นแข็งแกร่งกว่า
”ฮะ?”
ซูผิงกำลังจะจัดการกับศัตรูตัวสุดท้ายในสภาวะชะตากรรม แต่เขาพบว่าราชาสวรรค์ดีชั่วยังคงหายใจอยู่!
เขาหันหัวไปเพียงเพื่อได้เห็นว่าหัวที่มีเกล็ดสีดำของมันแสร้งทำเป็นตาย
เมื่อสังเกตเห็นดวงตาของซูผิง ทันใดนั้นหัวก็อ้าปากและพ่นไฟสีดำออกมา ในเวลาเดียวกันหนวดหินหลายเส้นก็คว้าร่างของมันแล้วหนีไปใต้ดิน!
มันหนีไปแล้ว!
การแสดงออกของซูผิงเปลี่ยนไป เขาผ่าร่างของราชาสวรรค์ดีชั่วไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่มันก็ยังไม่ตาย สองหัวหมายถึงสองชีวิตหรอ?
แต่มันสูญเสียเนื้อและหัวใจไปแล้ว มันจะอยู่ได้ยังไง?
ซูผิงมองไปข้างหน้าว่าดินเคลื่อนตัวไปทางไหน และราชาสวรรค์ดีชั่วก็ปรากฏตัวขึ้น
ถัดจากราชาสวรรค์ดีชั่วคือราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมที่ดูเหมือนมังกรทะเล มันตกใจและโกรธเมื่อเห็นว่าราชาสวรรค์วิ่งเข้ามาหามัน
บ้าเอ๊ย แกมาหาฉันทำไม
ทำไมแกถึงคิดว่าฉันสามารถจัดการพวกมันได้ในเมื่อแกยังไม่สามารถเอาชนะมนุษย์นั่นได้
แต่เราไม่ควรเมินเฉยกับพันธมิตร มันพ่นของเหลวสีทองปกคลุมร่างกายของราชาสวรรค์ดีชั่ว ก่อนที่มันจะพูดว่า “นี่คือน้ำพุแห่งชีวิตที่จักรพรรดิมหาสมุทรมอบให้ฉัน จำความเมตตาของฉันไว้ด้วยล่ะ!”
“ขอบคุณ” หัวของราชาสวรรค์ดีชั่วกล่าวด้วยความจริงใจและขอบคุณ
มังกรทะเลพ่นลมหายใจด้วยความเสียใจ เนื่องจากน้ำพุแห่งชีวิตมีค่ามาก มันอาจจะเป็นประโยชน์ในการคืนชีพของมันในภายหลัง
“เรียกจักรพรรดิมหาสมุทรมา เราไม่สามารถเอาชนะผู้ชายคนนี้ได้ด้วยตัวเอง” ราชาอสูรร้ายกล่าวขณะเพลิดเพลินกับการรักษา
มังกรทะเลพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ทำไมฉันถึงจะรู้ว่าจักรพรรดิมหาสมุทรอยู่ที่ไหน? แค่รักษาตัวเอง ฉันคิดว่ามนุษย์สูญเสียพลังงานไปมากแล้ว มันไม่สามารถใช้การโจมตีที่ทรงพลังได้เรื่อยๆ จักรพรรดิมหาสมุทรอาจจะมาถึงในไม่ช้าถ้าเรายืนหยัดต่อไปอีกสักพัก”
ราชาสวรรค์ดีกับชั่วตกตะลึง ไม่คาดคิดว่ามังกรทะเล—อสูรร้ายชะตากรรมขั้นสูงสุดจากมหาสมุทร และเป็นหนึ่งในสามแม่ทัพที่เก่งกาจสุดของจักรพรรดิมหาสมุทร—จะไม่สามารถเข้าถึงจักรพรรดิมหาสมุทรได้
มีหัวหน้าและลูกน้องที่ไหนเหมือนพวกมันอีกไหม?
ไม่ต้องพึ่งพาการเสริมกำลังอีกต่อไป ราชาสวรรค์ดีชั่วมุ่งเน้นไปที่การรักษาตัวเอง
ซูผิงมองไปที่ของเหลวสีทองบนตัวราชาสวรรค์และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพืชและพลังงานเทพจากมัน คิ้วของเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย มีพลังงานเทพบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินด้วยหรอ? หรือได้มาจากสมบัติบางอย่าง?
เขาไม่มีเวลาคิด เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากเนื่องจากเขาล้มเหลวในการฆ่าศัตรู
“พยายามหยุดยั้งราชาสวรรค์ไม่ให้มันรักษาได้ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” ซูผิงรีบพูดกับจี้หยวนเฟิงและคนอื่นๆ
จี้หยวนเฟิงที่เห็นว่าราชาสวรรค์รักษาตัว การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและพยักหน้า
ซูผิงก้าวไปทางมังกรทะเล
อสูรน้ำแอบร้องไห้เมื่อเห็นซูผิงขยับเข้ามาใกล้ แต่มันไม่ปรากฏบนใบหน้าอย่างแน่นอน มันตะโกนอย่างโหดเหี้ยม “ไอ้หนู แกจะต้องตายแน่ถ้าแกกล้าทำร้ายฉัน!”
ริมฝีปากของซูผิงกระตุกเล็กน้อย อสูรตัวนี้กลัวแม้กระทั่งก่อนจะเริ่มต่อสู้เนี่ยนะ?
ราชาอสูรร้ายนั้นค่อนข้างแปลกและน่าเอ็นดู
“น่าเสียดายที่ฉันไม่มีแหวนจับอสูร ไม่เช่นนั้นฉันจะจับแกเป็นอสูร” ซูผิงกล่าว
มังกรทะเลโกรธเคืองทันที “แกต้องการได้ฉันไปเป็นอสูรหรอ? แกคิดว่าแกทำได้จริงๆ เหรอ?”
จากนั้นมันก็ก่อให้เกิดกระแสน้ำมหาศาลใส่ซูผิง
หอกน้ำแข็งพุ่งออกมาจากกระแสน้ำ พวกมันคมพอที่จะผ่าช่องว่างออกจากกันหรือทำลายสมบัติลับของสภาวะว่างเปล่า
“ถ้าแกใช้น้ำ ฉันจะตอบโต้ด้วยสายฟ้า!”
เมื่อเห็นกระแสน้ำ ซูผิงก็นึกถึงลูกศรสายฟ้าและโยนลงไปในกระแสน้ำ จากนั้นมันก็เบี่ยงไปตามกระแสน้ำและพุ่งต่อไปยังมังกรทะเล
อสูรทะเลมึนงงและโกรธ มันเปราะบางต่อฟ้าผ่า และสายฟ้าที่ซูผิงปล่อยออกมานั้นทรงพลังมากจนรู้สึกแข็งแกร่งราวกับถูกปลดปล่อยมาจากอสูรสภาวะชะตากรรมตระกูลสายฟ้า
ซูผิงก้าวไปข้างหน้าและบดขยี้กระแสน้ำ เขายืนอยู่เหนือกระแสน้ำและยกดาบขึ้นอีกครั้ง ตั้งใจที่จะกำจัดราชาอสูรร้ายให้จบๆ
มังกรทะเลตัวสั่นเมื่อซูผิงยกดาบของเขาขึ้น มันไม่มีความมั่นใจในการต่อต้านการโจมตีของเขา
เมื่อซูผิงกำลังจะปล่อยดาบแห่งความว่างเปล่า อุณหภูมิในอากาศก็ลดลงอย่างกะทันหัน และเกล็ดหิมะก็เริ่มร่วงตกลงมา
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 707-708
ตอนที่ 707-708
Posted by ? Views, Released on เมษายน 4, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…