ในอาณาจักรลับของตระกูลไรอัน
โอนีลค่อนข้างตกตะลึงเมื่อได้ยินข่าว
มีนักรบระดับดวงดาวสองคน? ไม่ใช่แค่หนึ่ง?
อีกคนดูเหมือนจะอยู่ที่ขั้นสูงสุด?
ระดับดวงดาวสองคนคนทำธุรกิจร่วม? มันควรจะเป็นแค่เรื่องล้อเล่นหรือเปล่า?
สิ่งที่ทำให้โอนีลตะลึงยิ่งกว่านั้นก็คือคนที่แข็งแกร่งกว่าอาจอยู่เบื้องหลังคนสองคนที่ทรงพลังนั้น อาจจะเป็นเจ้าดวงดาวหลายคน …
เขาไม่สามารถทำให้พวกเขาโกรธได้!
เขามีความคิดที่จะยอมแพ้ การดื้อดึงจะทำให้ตระกูลของเขาต้องทนทุกข์ทรมาน แค่“เจ้าของร้าน”ก่อนหน้านี้นั้นก็ยากพออยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงผู้ชายคนนั้นอาจมีพันธมิตร เขาอาจจะไม่สามารถจัดการพวกเขาได้แม้ว่าเขาจะเชิญเพื่อน ๆ ของเขามาช่วยก็ตาม และแม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้กัน ดาวทั้งดวงก็จะถูกทำลาย
เว้นแต่… เขาจะขอความช่วยเหลือจากตระกูลไลเยฟา
ท้ายที่สุดแล้ว ดาวเคราะห์ดวงนี้อยู่ในระบบสุริยะของตระกูลไลเยฟา และความเจริญรุ่งเรืองของดาวเคราะห์นี้ก็เป็นผลประโยชน์สูงสุดของพวกเขา
แต่!
ถ้าเขาเริ่มต้นสงครามดาวเคราะห์เพียงเพราะหลานชายคนหนึ่งของเขาเสียชีวิต เขาจะถูกลงโทษและถูกตระกูลไลเยฟาฆ่าในภายหลังหรือไม่?
เขาไม่สงสัยในเรื่องนี้
ท้ายที่สุดสิ่งทั้งหมดได้เกิดขึ้นเพราะหลานชายของเขาแรนดัลพยายามจะขโมยอสูรของยอดฝีมือระดับดวงดาว ทำให้เขาขุ่นเคือง การถูกฆ่าตายเป็นผลโดยธรรมชาติ
แม้ว่าระดับดวงดาวคนอื่นๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ พวกเขาก็จะเห็นด้วยว่าเขาสมควรตาย
ดังนั้นเรื่องทั้งหมดจึงค่อนข้างยุ่งยาก
การตอบโต้ของเขาไม่สมเหตุสมผล
เขาจะไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ถึงการกระทำของเขาถ้าเขาแข็งแกร่งพอ แต่นี่ไม่ใช่ นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับ
ไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลถ้าเขาสามารถบดขยี้ศัตรูได้ แต่เขาจะต้องให้เหตุผลถ้าไม่แกร่งพอ
จะทำยังไงดี?
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้
ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ โอนีลก็ยิ่งดูแย่มากขึ้นเท่านั้น ในที่สุดเขาก็สูดหายใจลึก ค่อย ๆ หายใจเอาความโกรธของเขาออกและฟื้นคืนความสงบ
เสียหน้าดีกว่าต้องทนกับความสูญเสียที่มากกว่า
“ถ่ายทอดคำสั่งของฉันออกไป อย่าทำให้ร้านนั้นโกรธอีก ส่งคนไปเจรจากับพวกเขาให้ปล่อยการ์แลนด์ ให้สิ่งที่พวกเขาต้องการ ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ขอเกินไป” โอนีลกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ชายชราชุดม่วงพยักหน้าและยอมรับภารกิจ เขาโล่งใจที่เห็นว่าพ่อของเขาไม่ประมาท
หลายปีที่เขาดูแลตระกูล ต้องขอบคุณบุคลิกที่สงบและมีน้ำใจของเขา แม้การตายของแรนดัลจะทำให้เขาโกรธ แต่ความโกรธไม่สามารถแก้ปัญหาได้ มันจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงเท่านั้น
เขาได้รับเลือกให้จัดการทุกเรื่องในตระกูล ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ เพราะเขามีเหตุผลและใจเย็นมากพอ!
ถ้าหลานชายหายไป หลานชายอีกคนก็เกิดใหม่ได้เสมอ
นอกจากนี้ยังมีลูกชายอีกสองคนที่ดูมีแวว
แรนดัลได้ยั่วยุศัตรูที่น่าเกรงขาม ส่งผลต่อตระกูลก่อนที่เขาจะโตเต็มที่ เขาสมควรตายจริงๆ!
ชายชราชุดม่วงครุ่นคิดทุกอย่าง สิ่งเดียวที่ทำให้เขาโกรธคือหลานชายไร้ค่าคนนั้นทำให้ตระกูลต้องอับอาย!
มันยกโทษให้ไม่ได้!
ในเมืองวอฟเฟ็ต—
อสูรจำนวนมากกำลังซ่อมแซมถนน พวกมันมีทักษะที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างผ่านการฝึกอบรมพิเศษ
ในไม่ช้าถนนก็ได้รับการซ่อมแซมเสร็จ
ร้านค้าที่พังเสียหายบางส่วนก็ได้รับการปรับปรุงและเสริมความแข็งแกร่งเช่นกัน
แถวด้านนอกของร้านขายอสูรพิกซี่นั้นยาวมาก มีคนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากรู้ว่ามีคนจากตระกูลไลเยฟาอยู่ที่นี่
ดวงดาวและดวงจันทร์ค่อยๆ หายไป และดวงอาทิตย์ก็ขึ้นมาแทนที่
วันรุ่งขึ้นก็มาถึงในไม่ช้า..ไอรีนโนเวล
อสูรและแผนกก่อสร้างเมืองพากันกลับออกไปแล้ว จึงเหลือเพียงผู้พิทักษ์เมือง ซึ่งอยู่รักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อช่วยร้านของซูผิง พวกเขาอ้างว่ามีคนรอมากเกินไปและอาจเกิดความขัดแย้งขึ้น
ผู้ที่รอเข้าแถวล้วนเป็นนักรบอสูร พวกเขาไม่ใช่คนโง่ จะเกิดความขัดแย้งขึ้นได้ยังไง?
มันเป็นเพียงการแสดงความเป็นมิตร
ไม่นานก็สิบโมงเช้า
“ทำไมประตูยังไม่เปิด”
“ร้านยังปิดเพราะการต่อสู้เมื่อวานหรือเปล่า?”
“ ทำไมยังไม่เปิดร้านอีก? เขาทำธุรกิจแบบนี้หรอ?”
“เรารออะไรอยู่เนี่ย?”
”หุบปาก จะพูดว่ารอแล้วไม่ได้อะไรได้ยังไง แม้ว่าวันนี้ร้านจะไม่เปิดแต่พรุ่งนี้ก็อาจจะเปิด การรอจะคุ้มค่าแม้ว่าฉันต้องยืนที่นี่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์!”
”จริงด้วย อสูรทุกตัวที่นี่มีไหวพริบระดับ A การรอคอยวันเดียวนั่นไม่มีความหมายเลย ออกไปจากที่นี่ซะถ้าไม่อยากรอ”
ทุกคนในแถวซุบซิบกัน ตอนนั้นเองที่ประตูร้านเปิดออกอย่างช้าๆ และซูผิงก็ยืนอยู่ข้างประตู มีหนวดขึ้นบนใบหน้าของเขาหลังจากผ่านไปแค่คืนเดียว
ซูผิงเปิดประตูโดยไม่สนใจจะโกนเพราะรู้ว่าลูกค้ารออยู่เป็นเวลานานแล้ว
“นายกลับมาแล้ว”
ซูผิงมองและยิ้ม
ถังยู่หรานและจงหลิงถงที่ยืนอยู่ตรงนั้นรีบวิ่งมาหาเขา จงหลิงถงแลบลิ้นแล้วพูดว่า “อาจารย์สุดยอดมาก ร้านของเราดังมากหลังจากเพิ่งเปิดใหม่ได้ยังไง?”
“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าร้านของเราเพิ่งขายอสูรระดับA จริงหรือเปล่า?” ถังยู่หราน ก็อยากรู้เช่นกัน
ทั้ง 2 คนคาดไม่ถึงว่าร้านจะได้รับความนิยมมากเสียยิ่งกว่าตอนอยู่บนดาวเคราะห์เดิม มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงหลังจากพวกเธอกลับมาจากโรงเรียนสอนภาษา
“ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเธอจะพูดกันคล่องแคล่วเชียว” ซูผิงหัวเราะเมื่อได้ยินพวกเธอพูด
ถังยู่หรานพ่นลมหายใจและกล่าวว่า “แน่นอน พวกเราเป็นอัจฉริยะ”
“อัจฉริยะหรอ? ไปต้อนรับลูกค้าไป”
ซูผิงยิ้มแล้วเข้าไปในร้าน
“ให้คนที่มารับอสูรเข้ามาก่อน” ซูผิงกล่าว
ถังยู่หรานกลับสู่ความเป็นมืออาชีพเหมือนตอนอยู่บนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน เธอทำความเคารพและพูดว่า “ตามที่สั่ง!” จากนั้นเธอยืนอยู่ที่ประตูา ก่อนที่เธอจะตะโกนว่า “เข้ามาเลยถ้าคุณมาที่นี่เพื่อรับอสูร หากคุณต้องการบริการอื่น ๆ โปรดรอสักครู่”
”ฮะ? ทำไม? ฉันต้องรอต่ออีกหรอ?” มีคนในแถวตะโกนกับคำประกาศของหญิงสาว
ถังยู่หรานเป็นนักรบระดับ 9 ซึ่งค่อนข้างโดดเด่นในดาวเคราะห์สีน้ำเงิน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่นี่เป็นนักรบสภาวะสมุทรพวกเขาไม่พอใจเธอเลย
แม้ว่าจะเป็นเรื่องแปลกที่ได้เห็นใครบางคนที่แข็งแกร่งอย่างเธอทำงานเป็นพนักงานร้านค้า แต่พวกเขาได้เห็นหญิงผมบลอนด์แล้ว การปรากฏตัวของถังยู่หรานนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
“กฎก็คือกฎ!” ถังยู่หรานกลอกตาและตะโกนใส่ผู้ชายที่บ่นคนนั้น
ชายหนุ่มเงียบลงหลังจากได้ยิน ทุกคนค้นหากฎออนไลน์ในร้านของซูผิงขณะที่พวกเขารอคิว กฎนั้นแปลก แต่พวกเขาก็ต้องเชื่อฟัง
กฎบางอย่างไม่สามารถหักล้างได้ แม้แต่ด้วยเงิน อย่างเช่นการแซงคิวหรือการซื้อที่
ลูกค้าที่มาที่นี่เพื่อรับอสูรของพวกเขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะปฏิบัติตามที่ถังยู่หรานบอก ทุกคนเข้าไปในร้านและทักทายซูผิง
ซูผิงขอให้โจแอนนานำอสูรออกมาและคืนให้ตามรายชื่อ
พวกเขารู้สึกเกรงกลัวโจแอนนาผู้ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าอยู่ในระดับดวงดาว เธอทำให้หัวหน้าผู้พิทักษ์เมืองคุกเข่าในคืนก่อน แม้แต่ชายหนุ่มผมแดงระดับดวงดาวที่อยู่ข้างหลังเธอก็ยังแสดงท่าทีเชื่อฟัง
ตอนนั้นเองที่เจ้าของอสูรเห็นชายหนุ่มผมแดงอยู่บนโซฟา
ใจของพวกเขาเริ่มเต้นแรงเมื่อเห็นเขานั่งนิ่งอยู่บนโซฟา พวกเขาสรุปฐานบ่มเพาะของโจแอนนาหลังจากสังเกตเห็นพฤติกรรมของหัวหน้าผู้พิทักษ์เมือง แต่ซูผิงและชายหนุ่มผมแดงนั้นเป็นนักรบระดับดวงดาวอย่างไม่ต้องสงสัย!
ไม่มีลูกค้ารายใดที่มารับอสูรแล้วทดสอบผลการฝึกในร้านของซูผิง พวกเขาเพียงแค่บอกลาและไปที่ร้านประเมินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน
คนที่ฉลาดกว่าไปถนนใกล้เคียงเพื่อทำการทดสอบ เกรงว่าซูผิงจะโกรธเพราะคิดว่าพวกเขาไม่เชื่อใจเขา
“จะ เจ้าของ ฉันมารับอสูรของฉัน”
คลีโอมาถึงพร้อมกับฝูงชนและมองไปรอบๆ รูม่านตาของเธอหดเกร็งเมื่อเห็นการ์แลนด์ จากนั้นเธอก็ละสายตาออกไปอย่างรวดเร็ว เธอไม่กล้าแสดงท่าทางเย่อหยิ่งเหมือนเมื่อก่อนตอนที่เธอมาที่ร้านนี้อีกต่อไป
”ชื่อ?”
“…คลีโอ”
คลีโอไม่รู้จะพูดอะไร เขาลืมชื่อฉันหลังจากผ่านไปวันเดียว? ไม่มีใครที่อยู่ในระดับดวงดาวแล้วจะมีความทรงจำไม่ดีเช่นนี้ เว้นแต่เขาไม่เคยคิดจะจำชื่อของเธอ
“โอ้ อสูรของเธอกำลังได้รับการฝึกฝนมืออาชีพ มันยังฝึกไม่เสร็จ” ซูผิงกล่าวอย่างสบายๆ ขณะมองเธอ
คำตอบเป็นไปตามคาด เธอพยักหน้าและตอบว่า “เข้าใจแล้ว”
เธอมาที่นี่เพื่อตรวจสอบการ์แลนด์เป็นหลัก ดังนั้นเธอจึงหันหลังกลับและจากไป
การ์แลนด์เปลอดภัย…ในตอนนี้
ไม่นานคลีโอก็กลับมาถึงร้านประเมินผลของเธอ พร้อมที่จะส่งข่าวกลับไปให้ตระกูล
แต่แล้วเสียงอุทานก็ดังขึ้นที่โถงต้อนรับเมื่อเธอก้าวเข้ามาในร้าน
คลีโอเงยหน้าขึ้นและลูกตาของเธอก็หดเกร็ง
เสาทดสอบตรงกลางโถงต้อนรับแสดงการอ่านระดับ A!
อสูรระดับ A อีกตัว?
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 780 ยอมแพ้
ตอนที่ 780 ยอมแพ้
Posted by ? Views, Released on พฤษภาคม 31, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…