ซูผิงต่อสู้เป็นเวลาครึ่งเดือนในซากมิติ
และผ่านไปเพียงสิบห้าชั่วโมงในโลกภายนอก
เที่ยงของวันถัดไปแล้วร้านของซูผิงยังไม่เปิด
ลูกค้าที่รอนอกร้านเริ่มกังวล
“มันช้ากว่าเมื่อวานด้วยซ้ำ”
“เมื่อวานร้านเปิดตอนเก้าโมงเช้า วันนี้จะไม่เปิดเหรอ?”
“ฉันสงสัยว่าวันนี้พวกเขาจะรับลูกค้ากี่ราย ดูจากที่เราอยู่ เราจะต้องรออย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์”
“เมื่อวานมีคนเสนอซื้อตำแหน่งของฉันในราคาสามสิบล้าน แต่ฉันเลือกที่จะไม่ขาย”
ลูกค้าที่รอต่อแถวกระซิบคุยกัน
คิวยาวขึ้นเรื่อยๆ อสูรทั้งหมดที่ฝึกจากร้านของซูผิงได้พัฒนาและมีไหวพริบระดับ A
ข่าวที่น่าตกใจดึงดูดผู้คนมาที่ร้านนับไม่ถ้วน
บางคนสงสัยว่าทั้งหมดเป็นเพียงการตลาด การประชาสัมพันธ์ด้วยเรื่องเกินจริงเป็นเรื่องธรรมดา พวกเขาไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เว้นแต่ร้านจะมีผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์
ในไม่ช้าก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่อย่างที่พวกเขาสงสัย ซูผิงได้แสดงความสามารถระดับดวงดาวระหว่างการต่อสู้กับการ์แลนด์ มีคนจำนวนมากที่ได้เห็นสิ่งนั้น
คนใหญ่คนโตระดับดวงดาวจะไม่สนใจเงินจำนวนเล็กน้อยนี้อย่างแน่นอนใช่ไหมล่ะ?
ทำไมเขาต้องหลอกลวงเพื่อโฆษณาร้านด้วย?
จากความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ ร้านของซูผิงจึงเป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าเดิม ชื่อของร้านค่อยๆ กระจายออกจากทวีปแคมป์ไปยังส่วนอื่นๆ ของดาวเคราะห์
ตำแหน่งในแถวมีมูลค่าหลายสิบล้าน ไม่ยากเลยที่จะจินตนาการว่ามีคนสนใจร้านของซูผิงมากแค่ไหน
เมืองวอฟเฟ็ตมีชื่อเสียงในชั่วข้ามคืนทั่วทั้งทวีปแคมป์
ที่ร้านค้า-
ซูผิงปรากฏตัวในร้าน
เสื้อผ้าของเขาขาด ผมของเขากระเซอะกระซฺง เขาดูสกปรกราวกับทหารผ่านศึกที่กลับมาจากสนามรบ
อย่างไรก็ตามดวงตาของเขายังคงเฉียบคมราวกับเหยี่ยว
เขารีบละทิ้งรัศมีแหลมคมและกลับสู่ท่าทางปกติของเขา รัศมีของเขาแตกต่างไปจากเดิมมาก
การต่อสู้ครึ่งเดือนในซากมิติได้เพิ่มพลังต่อสู้ของเขา ทำให้เขาเกิดใหม่
เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกฎแห่งมิติ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในมิติชั้นที่สี่เพื่อฝึกฝน ยกเว้นมีโอกาสดีๆที่เขาสามารถเข้าสู่มิติชั้นห้าได้
ต่อมาเขาก็สามารถฉีกเข้าไปในมิติชั้นห้าได้ด้วยตัวเอง
ซูผิงพยายามที่จะเข้าไปลึกขึ้นอีกและไปถึงมิติชั้นหก แต่เขาไม่สามารถตรวจจับมิติชั้นหกได้ด้วยความแข็งแกร่งและการรับรู้ในปัจจุบันของเขา
มันเหมือนกับที่คนทั่วไปไม่สามารถตรวจจับมิติชั้นรองได้
สภาวะว่างเปล่าขั้นสูงสุด…
สิ่งที่ได้รับในช่วงครึ่งเดือนนั้นเยอะ ซูผิงพบซากของเจ้าดวงดาวบางคนในมิติชั้นห้า แม้ว่าซากส่วนใหญ่จะเป็นกระดูกแล้วก็ตาม พวกมันยังคงไม่บุบสลายด้วยการปกป้องที่ได้รับจากพลังแห่งศรัทธา
ซากบางส่วนมีพลังดวงดาวซ่อนอยู่ การสะสมพลังนั้นมหาศาลพอ ๆ กับพลังแห่งดวงดาวที่เนี่ยฮั่วเฟิงเก็บเอาไว้
ซูผิงดูดซับพลังดวงดาวจนเต็มอิ่ม เขาอยู่ห่างจากสภาวะชะตากรรมเพียงไม่กี่ก้าว
นอกเหนือจากการเพิ่มระดับ เทคนิคการต่อสู้และประสบการณ์ของซูผิงในมิติยังได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ เขาแตกต่างไปจากตัวเขาเองเมื่อวันก่อน
ซูผิงรู้สึกว่าเขาสามารถเอาชนะการ์แลนด์ได้อย่างง่ายดายหากเขาเจอกันอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เขามีโอกาสได้หนีด้วยซ้ำ!
เช้าวันใหม่แล้วหรอ…?
ซูผิงรู้สึกทึ่งเมื่อเขามองแสงอาทิตย์ที่พร่ามัวผ่านหน้าต่าง
เขายังพบว่าตัวเขาเองสว่างใส
เขาอยู่ในซากมิตินั้นใช้เวลานานเกินไป ที่นั่นไม่มีแสงแดดเลย
เขาโกนหนวดอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเปิดประตู
”มันเปิดแล้ว! เปิดแล้ว!”
”ยอดเยี่ยม!”
“ในที่สุดเจ้าของร้านก็ออกมา”
ลูกค้าประหลาดใจเมื่อเห็นประตูเปิด จากนั้นพวกเขาก็ตื่นเต้นมาก
ซูผิงได้ตรวจพบสถานการณ์ภายนอกแล้วและไม่ได้ตกใจกับมันมากนัก ถึงกระนั้นความนิยมก็เกินความคาดหมายของเขา เขาไม่ได้คาดหวังว่าธุรกิจของเขาจะเติบโตเร็วขนาดนี้
“มีคนมาที่นี่เพื่อรับอสูรหรือเปล่า? ออกมาข้างหน้าก่อน” ซูผิงกล่าว
“ผม ผม”
”ฉันด้วย”
ในไม่ช้าลูกค้าจำนวนมากก็เข้ามาในร้านและรับอสูรของพวกเขา
ซูผิงพยักหน้า ถังยู่หรานและจงหลิงถงไม่อยู่ในขณะนี้ แต่เขาขี้เกียจเกินไปที่จะโทรหาพวกเธอ เขาเพียงแค่ขอให้ลูกค้าเหล่านั้นเข้าแถว จากนั้นเขาก็คืนอสูรของพวกเขาตามบันทึกการฝึก
“ขอบคุณครับเจ้าของร้าน”
“ผมไม่รู้จะขอบคุณยังไงให้เหมาะสม เจ้าของร้าน”
“…”
ลูกค้าทุกคนที่รับอสูรของพวกเขาต่างตื่นเต้นและให้เกียรติซูผิง ท้ายที่สุดพวกเขาได้เห็นแล้วว่าซูผิงเป็นนักรบระดับดวงดาว
ซูผิงไม่รู้จะพูดอะไร ฉันเป็นแค่นักธุรกิจ ทำไมคุณขอบคุณ
พวกนายคิดว่าฉันไม่ต้องการเก็บเงินมากขึ้นหรือไง? ฉันแค่ทำไม่ได้!
ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มารับอสูรออกไปโดยไม่ได้ทดลองอสูรในร้านของเขา พวกเขาเลือกวิ่งไปที่ร้านประเมินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน
ผลการประเมินมีความแม่นยำมากกว่าการทดสอบด้วยตนเอง แถมร้านประเมินยังคุ้นเคยกับระบบการประเมินที่ใช้ในสหพันธ์มากกว่า
อย่างไรก็ตามผู้คนจำนวนมากเลือกที่จะออกไปและประเมินอสูรของพวกเขาที่อื่น ซึ่งเป็นเพราะระวังตัวกลัวจะมีใครอยากได้อสูรของพวกเขา
ถนนกลายเป็นที่นิยมในทันที ทั้งหมดเป็นเพราะร้านของซูผิง
ถนนสายนี้ควรจะเป็นย่านธุรกิจธรรมดาในเมืองวอฟเฟ็ต เมื่อเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆในเมืองนี้หลายสิบร้าน อย่างไรก็ตามมันกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เหนือกว่า บนถนนมีร้านค้ากระเป๋าหนักไม่มากนัก แต่ตอนนี้คุณสามารถหาคนรวยได้มากเท่าบนถนนสายธุรกิจชั้นนำ
ท้ายที่สุดค่าใช้จ่ายในการฝึกอสูรในร้านของซูผิงอาจสูงถึงร้อยล้านได้ง่ายๆ
การฝึกฝนมืออาชีพต้องใช้เงินหมื่นล้าน ธุรกรรมที่ราคาสูงเช่นนี้มักจะต้องทำธุรกรรมด้วยการกำกับดูแลของแผนกที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เว้นแต่ทั้งสองฝ่ายจะมีอำนาจและบัญชีของพวกเขาในธนาคารจักรวาลมีระดับสูงพอ
“ระดับ A!!”
“โอ้ พระเจ้า ระดับ A อีกตัว!”
“มันต้องมาจากร้านนั้นแน่ๆ ตอนเช้ายังไม่มีอสูรระดับ A เลย มามีตอนที่ร้านเปิดแล้ว”
“ จิ้จิ้ ฉันสงสัยว่าใครคือคนที่โชคดี”
“ไปกันเถอะ ไปกัน เข้าแถว ฉันจะรอแม้ว่าจะต้องรอถึงปีหน้า!”
“ร้านนั้นดีมาก ฉันได้ยินมาว่าค่าฝึกแค่ร้อยล้านเท่านั้น เงินร้อยล้านสำหรับอสูรระดับA นั้นเกือบจะเหมือนกับการบริจาค!”
ร้านประเมินวุ่นวายอีกครั้ง ผล “ระดับ A” บนเสาทดสอบเรียกความอิจฉาอีกรอบ
ระดับ A ตัวอื่นปรากฏขึ้นบนเสาหลังจากนั้นไม่นาน แต่ หลายคนพากันอิจฉา
มันเป็นความจริง! บริการจากร้านค้านั้นทำให้อสูรอยู่ในระดับ A เท่านั้น!
จากชั้นสองคลีโอค่อนข้างประหลาดใจกับรายงานบนเสาทดสอบ
รายได้ของร้านเธอก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเพราะซูผิง อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายสำหรับอสูรระดับ A นั้นสูงกว่าอสูรระดับ B มาก
กฎนี้ใช้ในร้านประเมินทุกแห่ง
ฉันต้องแจ้งตระกูล ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เพื่อแสดงว่าฉันกำลังทำหน้าที่ของฉัน และตระกูลของเราได้ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่เลือกจะไม่เผชิญหน้ากับเขา… คลีโอคิด
ร้านของซูผิงมีความสำคัญมากขึ้นในสายตาของตระกูลไรอัน
เธอรู้ดีว่าแม้พวกไรอันจะเป็นผู้ครอบครองดาวเคราะห์โดยพฤตินัย—และเธอภูมิใจจริงๆ ที่ได้เป็นสมาชิกของตระกูล—แต่มันเทียบไม่ได้กับร้านของซูผิง
หลังจากส่งนักสู้ไปสามคน รวมถึงการ์แลนด์ มันได้แสดงให้เห็นถึงพลังต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวของเขา
ความเชี่ยวชาญในการฝึกของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ธรรมดาเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นคือการฝึกใช้เวลาเพียงแค่วันเดียว!
ผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ที่ทำงานให้กับตระกูลไรอันไม่สามารถฝึกอสูรระดับA ได้มากมายขนาดนี้ในหนึ่งวัน!
….Aileen-novel.
ถนนมีคนเต็มไปหมดไม่นานหลังจากที่ซูผิงเปิดร้าน
เสียงอุทานจากร้านประเมินทำให้ลูกค้าที่รอเข้าแถวตาแดงก่ำ พวกเขาจ้องไปที่ร้านค้าของซูผิงราวกับว่ามันเป็นสิ่งสวยงามที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้
การแจ้งเตือนถึงอสูรระดับ A มีมาเรื่อยๆ บรรดาผู้ที่บ่นเรื่องแถวยาวล้วนพูดไม่ออก
พวกเขากระสับกระส่ายและโกรธเพราะร้านของซูผิงเพิ่งจะเปิดตอนเที่ยงวัน แต่ตอนนี้ในสายตาของพวกเขาเหลือเพียงความบ้าคลั่ง
พวกเขาเกลียดที่ไม่สามารถผลักทุกคนที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา และวิ่งเข้าไปในร้านของซูผิงได้
ภายในร้าน—
ซูผิงต้อนรับลูกค้าใหม่
ลูกค้าเก่าบางคนเลือกที่จะฝึกอสูรอีกครั้ง แต่ส่วนใหญ่ไม่มีเงิน แม้ว่าพวกเขาต้องการ
ท้ายที่สุดไม่ใช่ทุกคนที่รวย
“เจ้าของร้าน ฉัน—ฉันต้องการฝึกอสูรแปดตัว”
ลูกค้าใหม่เป็นชายหนุ่ม เขาตื่นเต้นมากที่ได้เผชิญหน้ากับซูผิง
ซูผิงยิ้มและขอให้เขาเลือกระหว่างการฝึกปกติและแบบมืออาชีพ
จ่ายเงินแล้วส่งอสูร
…
ข่าวเกี่ยวกับร้านของซูผิงถูกส่งไปยังตระกูลไรอัน ก่อนที่คลีโอจะรายงาน
ตระกูลไรอันมีทีมข่าวกรองของตัวเองซึ่งได้รับข่าวกรองเร็วที่สุด
ผู้นำตระกูลตกใจมากที่ได้รับข้อความดังกล่าว
พวกเขาสงสัยว่าการทดสอบครั้งก่อนเป็นเพราะโชคดีหรืออาจเป็นเพราะเหตุผลอื่น อย่างไรก็ตามอสูรที่เพิ่งฝึกมาใหม่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์อยู่ในร้าน!
ไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไป
ผู้หญิงที่สง่างามกำลังร้องไห้อยู่ในห้องโถงอันหรูหราข้าง ๆ ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อผ้ายับย่น “ลูกของฉัน แรนดัลของฉัน…”
”หุบปาก!” ชายวัยกลางคนตะโกนอย่างโกรธจัด
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ถูกข่มขู่เลยแม้แต่น้อย เธอกลับตะโกนอย่างบ้าคลั่งสวน “หยุดตะโกนใส่ฉันซะที! แรนดัลตาย! ลูกของเราตายตั้งแต่ยังเด็ก แต่คุณไม่กล้าพูดอะไรในฐานะพ่อของเขา คุณยังมีคุณสมบัติจะเป็นพ่ออยู่อีกหรอ?”
”หุบปาก! หุบปาก!”
ชายวัยกลางคนเหมือนถูกตบหน้า เขาลุกขึ้นยืนและคำราม “เธอคิดว่าฉันไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากพ่อเหรอ? เขาส่งการ์แลนด์และยอดฝีมือคนอื่นไปแล้ว แต่ชายคนนั้นเป็นยอดฝีมือระดับดวงดาวและได้รับการสนับสนุนจากผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์ เราจะล้างแค้นให้ลูกชายของเราได้ยังไง? พ่อของฉันเตือนฉันแล้ว อยากให้ฉันตายด้วยหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงและพูดไม่ออก เธอรู้ว่าพ่อตาของเธอแข็งแกร่งเพียงใด—ผู้นำตระกูลไรอัน คำพูดที่ชายคนนั้นพูดก็เหมือนกับพระราชกฤษฎีกา!
“แต่ลูกของเรา…”
“ทั้งหมดเป็นเพราะเธอทำให้เขาเสียคน ฉันบอกแล้วว่าควรส่งเขาไปเรียน แต่เธอกลับยืนกรานที่จะให้เขาอยู่บ้าน เธอไม่เห็นปัญหาที่เขาก่อหรือไง?” ชายวัยกลางคนกล่าวโทษด้วยความโกรธยิ่งกว่าเดิม
ความโกรธอยู่ทั่วใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น จากนั้นเธอก็สูญเสียความสง่างามทั้งหมด และเพียงแค่กัดปากตัวเองเงียบๆ
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก พ่อของฉันบอกว่าเขาจะช่วยตามเช็ดเพื่อชดเชย พ่อของฉันมีเมตตามากพอแล้วที่เขาไม่ได้ตำหนิเราให้อับอายขายหน้าคนในตระกูล”
ความเสียใจและความไม่พอใจถูกเขียนอยู่ทั่วดวงตาของคนเป็นแม่ แต่อารมณ์หลักคือความกลัว
เธอรู้ว่าเธอไม่อาจขัดขืนพ่อตาของเธอได้ ไม่อย่างนั้นเธอจะสูญเสียทุกอย่าง!
…
ในไม่ช้าข่าวของผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์ที่ปรากฏตัวก็ถูกส่งไปยังผู้อาวุโสของตระกูลไรอัน
“อสูรหลายสิบตัวที่มีไหวพริบระดับ A ได้รับการฝึกฝนในหนึ่งวัน?” ชายชราผมสีเงินที่อยู่ในสวนกล่าวด้วยความงุนงงกับเหตุการณ์ดังกล่าว
เขากำลังใส่ปุ๋ยดอกไม้ด้วยปัสสาวะมังกรอยู่
พืชทั้งหมดในสวนเป็นอาหารอสูรราคาแพง
ชายวัยกลางคนที่เป็นนักวิชาการก้มหน้าและรายงานสถานการณ์อย่างรวดเร็ว “ครับท่าน มันทำให้เกิดความโกลาหลและกล่าวกันว่ามีหลักฐานยืนยังชัดเจน ตามที่เรารู้จนถึงตอนนี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น…”
เมื่อเขาได้รับฟังการบรรยายสรุป ชายชราพูดด้วยดวงตาเป็นประกายว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างชี้ให้เห็นว่ามีผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์ตัวจริงทำงานอยู่ในร้านนั้น อย่างน้อยฉันก็ไม่สามารถทำแบบที่ร้านนั้นทำได้”
ชายวัยกลางคนค่อนข้างตกใจเมื่อได้ยิน
ท้ายที่สุดชายชราเป็นผู้ฝึกสอนที่ซื่อสัตย์ แม้แต่ยอดฝีมือระดับดวงดาวต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ ถึงกระนั้นเขาก็ยอมรับข้อบกพร่องของตัวเขาเอง
ไม่ใช่ข้อพิสูจน์อีกหรือว่ามีเพียงผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถบรรลุผลดังกล่าวได้?
ผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์ให้ความสำคัญกับรีอาของเราจริงๆหรอ?
มันเกือบจะเหมือนกับจักรพรรดิที่มาเยือนหมู่บ้านเล็กๆ ขณะสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆ ตระกูลไรอันสั่งคนไปยืนต้อนรับเขาเรียงแถวตั้งแต่วอฟเฟ็ตมาถึงนี่ถ้าเขาแสดงตัวตนของเขาอย่างเปิดเผย
“ไปพบเขากันเถอะ” ชายชราตื่นเต้นและหยุดการใส่ปุ๋ย ความสามารถในการฝึกฝนของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากถ้าเขาสามารถรู้แจ้งจากผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์ มันเป็นโอกาสที่หายากจริงๆ
หลังจากช็อกไปชั่วขณะ ชายวัยกลางคนก็ลังเลและพูดว่า “ท่านครับ เขาเพิ่งฆ่าหลานชายของผู้นำเราคนหนึ่ง ถ้าเราเลือกที่จะไปเยี่ยมเขา ตระกูลไรอันก็คงไม่…”
“อย่างที่นายพูด เขาเพิ่งฆ่าหลานชายคนหนึ่ง แต่ว่าโอนีลขาดทายาทหรือไม่? เขาไม่ใช่ลูกชายด้วยซ้ำ นับประสากับหลาน!” เยาะเย้ยชายชรา
ริมฝีปากของชายวัยกลางคนกระตุกขณะฟัง
แค่หลานชาย…
…
ร้านขายอสูรพิกซี่—เมืองวอฟเฟ็ต
ซูผิงทำงานสองชั่วโมงและรับลูกค้าหลายสิบราย ที่ว่างก็เต็มอีกครั้งในไม่ช้า
“ขออภัย แต่เรารับลูกค้าจนเต็มแล้ว โปรดมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้” ซูผิงขอโทษลูกค้าที่อยู่ในแถว
ปิดอีกแล้ว?
คนข้างนอกรู้สึกเหมือนจะร้องไห้
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องรอต่อไป
ความสุภาพของซูผิงนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับพวกเขา แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนใหญ่คนโตระดับดวงดาวจะขอโทษพวกเขา
“เจ้าของร้านคุณดีเกินไปแล้ว เรารู้สึกขอบคุณมากที่คุณยินดีฝึกอสูรของเรา”
“ใช่ๆ เจ้าของพักผ่อนบ้าง สุขภาพของคุณเป็นสิ่งสำคัญมาก”
ฝูงชนแสดงความคิดเห็นคล้ายๆกัน
ซูผิงไม่เคยชินกับที่พวกเขาสุภาพมากเกินไป เขาปิดร้านทันที
ลูกค้าที่เหลือไม่ไปไหนตามคำแนะนำ พวกเขาทั้งหมดยังคงยืนอยู่ที่เดิม ในวันถัดไปจะไม่มีที่ว่างใด ๆ เหลือหากพวกเขาเลือกที่จะจากไป
…
ที่ร้าน ซูผิงหยุดพักและกลับไปฝึกซ้อมต่อ
เขาสนุกกับกระบวนการนี้ เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วยการต่อสู้
ซูผิงเหมือนมีระเบิดเมื่อต่อสู้เคียงข้างกับโครงกระดูกน้อย สุนัขมังกรดำ และอสูรอื่นๆ ของเขา
ซากมิติได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสถานที่ซึ่งเทพเจ้าโบราณเสียชีวิตไปแล้ว แต่ซูผิงยังไม่พบซากของเทพเจ้าใด ๆ หลังจากการต่อสู้มากว่าครึ่งเดือน
ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ จุดประสงค์หลักของเขาคือการฝึกฝนตัวเองในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย
เขาพบศพของเจ้าดวงดาวลอยอยู่ในมิติชั้นห้า พวกเขาอาจมาที่นี่เพื่อสำรวจมิติชั้นห้าและเสียชีวิตในที่สุด
มนุษย์มักจะโลภเสมอไม่ว่าพวกเขาจะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม
เวลาผ่านไป
หลายวันต่อมา—
การแข่งขันอสูรที่จัดขึ้นทุก ๆ สองปีในรีอาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้คนลงทะเบียนจากทุกสารทิศ
ชาวต่างดาวจำนวนมากเดินทางมายังดาวรีอาเพราะการแข่งจัน รวมทั้งฤดูผสมพันธุ์ในทวีปสายฟ้าคำราม
ร้านขายอสูรและสถานประกอบการใด ๆ ที่ให้บริการอสูรมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ร้านของซูผิงเป็นที่นิยมมากที่สุด
เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกๆวัน ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ได้เรียนรู้ถึงการมีอยู่ของร้าน และมุ่งหน้ามาจากที่ต่างๆ
แถวนอกร้านของซูผิงได้ขยายออกไปจนถึงนอกถนนแล้ว ศาลากลางได้กำหนดเส้นทางพิเศษสำหรับผู้ที่รอรับบริการ
ผู้ที่ต่อแถวยาวจนเกือบจะถึงเขตเมืองแล้ว!
แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้วางแผนที่จะฝึกอสูรก็มาต่อแถว ทุกคนมีความตั้งใจที่จะขายตำแหน่งของตนในราคาที่สูงในภายหลัง เป็นธุรกิจที่ค่อนข้างเฟื่องฟู
ความกระตือรือร้นของผู้คนมากมายทำให้ร้านของซูผิงเป็นที่นิยมมาก จนทุกคนในเมืองได้รับรู้เกี่ยวกับร้านของเขา!
“การแข่งขันอสูรกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ฉันจะเป็นราชาอสูรสภาวะสมุทรในเมืองวอฟเฟ็ต!”
“นายคิดว่านายจะได้จริงๆเหรอ? อสูรของฉันได้รับการฝึกฝนในร้านขายอสูรพิกซี่ถึงสามครั้งแล้ว ฉันทุ่มเงินทั้งหมดไปกับอสูร ไหวพริบของมันก็คือ A+ แล้ว!”
“แม้ว่าจะเป็น A+ แล้วจะยังไง? ฉันมีมังกรไฟสภาวะสมุทร มันสามารถเอาชนะอสูรของนายได้ง่ายๆ!”
ทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับการแข่งขันอสูรที่กำลังจะมีขึ้นขณะรออยู่นอกร้าน
…
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 789 การแข่งขันอสูร
ตอนที่ 789 การแข่งขันอสูร
Posted by ? Views, Released on มิถุนายน 9, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…