ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 849 ขอการรับรอง

ภายในโลกใบเล็ก สมาชิกของพันธมิตรดวงดาวกระซิบกันอย่างมีความหวัง
“ฉันได้ยินมาว่ามีขุมกำลังพิทักษ์อยู่นอกทวีปนี้”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่มิเชลล์ ฉันได้ยินมาว่าอสูรร้ายในทะเลทั้งหมดได้รับการฝึกให้เชื่อง ทุกตารางนิ้วของที่ดินบนมิเชลล์นั้นมีค่าและได้รับการพัฒนา”
“เล่าอีกๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มาที่มิเชลล์ แม้แต่ผู้ที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่าก็ไม่ได้รับการอนุมัติเสมอไป”
“นี่คือสถาบันราชวงศ์อามิลล์หรอ? หลานสาวของเพื่อนฉันเรียนที่นี่”
คราวนี้พวกเขาเลือกที่จะติดตาม ทั้งเพื่อมีความสนิทสนมกับซูผิงและคัดเลือกนักศึกษาที่มีศักยภาพจากผู้เข้าแข่งขัน
แน่นอน พวกเขาไม่ได้พิจารณาอัจฉริยะที่มีอันดับสูงเกินไป อัจฉริยะเหล่านั้นคงจะไม่สนใจพวกเขาเช่นกัน พวกเขาจะเลือกเฉพาะนักเรียนที่สอนได้ และพวกเขาพอใจเท่านั้น
ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาไปถึงท้องฟ้าเหนือสถาบันราชวงศ์อามิลล์
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ไม่สามารถแยกช่องว่างออกจากกันได้ สาเหตุหลักมาจากมิติลึกในภูมิภาคนี้ถูกปิดกั้นโดยยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว มิฉะนั้นวิทยาเขตอาจถูกจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งใจในมิติลึก
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์มองขึ้นไปที่รูปปั้นที่อยู่ด้านหลังรูปปั้นอื่น ซึ่งเป็นรูปปั้นของชายวัยกลางคนที่สูงและดูมีความรู้ เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันราชวงศ์อามิลล์ และเป็นยอดฝีมือของสภาวะเทพดวงดาว!
รูปปั้นค่อนข้างยิ่งใหญ่ คนธรรมดาคงรู้สึกกดดันถ้าเห็น
“อาจารย์ใหญ่อลัน!”
“ท่านอลัน!”
สมาชิกของพันธมิตรดวงดาวเริ่มเคร่งขรึม ยืนตรงอย่างเคารพเมื่อเห็นรูปปั้น พวกเขารู้ว่าอาจารย์ใหญ่คนปัจจุบันแข็งแกร่งมาก และเคยสอนนักเรียนสภาวะเทพดวงดาวเป็นการส่วนตัว
อย่างไรก็ตามซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์เลิกคิ้วราวกับว่าเธอไม่ชอบอาจารย์ใหญ่คนนี้
“หึ ตาแก่เจ้าเล่ห์”
หวืด!
ทันใดนั้น ชายระดับดวงดาวคนหนึ่งก็บินผ่านมา เขาเหลือบมองทุกคนด้วยทัศนคติที่เย็นชาและหยิ่งทนง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขามองซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ แต่เขาก็ยังพูดเสียงหยิ่งๆว่า“พวกเธอมาทำไมถึงสถาบันราชวงศ์อามิลล์นี่?”
”ฮะ?”
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์เลิกคิ้วและพูดอย่างเย็นชาว่า “นายเพิ่งเริ่มทำงานที่นี่หรือไง? ไม่รู้จักฉันเหรอ?”
”เธอ…”
ชายวัยกลางคนอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาคงจะดุเธอถ้าเธออยู่ในระดับดวงดาว แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นเจ้าดวงดาว ด้วยความรู้สึกงงงวยเขาสังเกตเธออย่างระมัดระวัง และตัวสั่น ตาเบิกกว้างครู่หนึ่ง
“คุณ—คุณคือซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ คนที่ติดอันดับสูงสุดของอันดับราชวงศ์?”
สมาชิกของพันธมิตรดวงดาวก็ตกใจเช่นกัน
“อันดับสูงสุดของอันดับราชวงศ์?”
”เวร นั่นเป็นอันดับทองที่สูงสุดในสถาบันราชวงศ์อามิลล์ ผู้นำของเราอยู่บนสุดเลยหรอ?”
“มีเพียงอัจฉริยะระดับสุดยอดเท่านั้นที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ ผู้นำของเราเจ๋งมาก! เธอคู่ควรที่จะเป็นเทพธิดาแห่งสวรรค์ทั้งเก้าที่ไม่มีใครเทียบได้!”
“ฉันอยากจะบูชาผู้นำของเราในฐานะเทพธิดาของฉัน!”
”ผ่อนคลายหน่อย นี่ไม่ได้มีอะไรเลย เพียงแค่ความสำเร็จเล็กน้อยที่ผู้นำของเราทำสำเร็จ”
”ใจเย็น ๆ…”
ซูผิงไม่ได้พูดอะไร แต่เขาพบว่าทุกคนพยายามจะทำให้เธอพอใจ
พันธมิตรดวงดาวเป็นกลุ่มที่น่าสนใจจริงๆ
เมื่อพิจารณาถึงพันธมิตรอื่นๆ แม้ว่าสมาชิกต้องการทำให้ผู้นำพอใจ พวกเขาคงไม่พยายามประจบประแจงอย่างโจ่งแจ้ง ผู้หญิงคนนี้เป็นคนเดียวที่ไม่สนใจเรื่องนี้ เธอยังคงชื่นชอบมัน …
“อันดับสูงสุดของอันดับราชวงศ์นั้นไม่มีอะไร ฉันทำได้สองปีหลังจากที่ฉันมาที่นี่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่”ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์กล่าวอย่างไม่เป็นทางการ แต่ดวงตาของเธอมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
การไปถึงอันดับสูงสุดในเวลาเพียงสองปีเป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์สำหรับสถาบัน แม้แต่สถาบันหลักอื่น ๆ ก็ได้รู้เกี่ยวกับข่าวนี้ของเธอเช่นกัน และเชิญเธอไปศึกษาที่นั่น
”สุดยอด ผู้นำของเราเป็นมนุษย์ที่ไม่อาจจินตนาการได้อย่างแท้จริงสำหรับเรา”
“น้องทำลายสวรรค์น่าจะเป็นคนเดียวที่สามารถไล่ตามผู้นำได้”
ทุกคนแสดงความคิดเห็นแต่ไม่มีความรู้สึกร่วม พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าการได้รับการจัดอันดับนั้นยากเพียงใด การขึ้นไปถึงสิบอันดับแรกอาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา!
ชายวัยกลางคนตกเป็นเหยื่อของความตะลึงงันไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะเป็นอัจฉริยะที่ทำลายสถิติของสถาบัน เธอเป็นอัจฉริยะที่สำเร็จการศึกษาไปเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ตำนานของเธอยังเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน ผู้สูงวัยส่วนใหญ่ในมิเชลล์จำเธอได้เกือบทั้งหมด!
“ผม— ผมจำคุณไม่ได้ คุณหนูเซินเอ๋อ อะไรทำให้คุณมาถึงที่นี่?” ชายวัยกลางคนเปลี่ยนท่าทางและยิ้มประจบ
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ตะคอก “ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาอีกหรือไง?”
“เอ่อ แน่นอน คุณมาได้เสมอครับ ที่ปรึกษาของคุณจะต้องดีใจมากเมื่อรู้ว่าคุณกลับมาเยี่ยม สถาบันคือบ้านหลังที่สองของคุณ ที่นี่ยินดีต้อนรับคุณเสมอ” ชายวัยกลางคนกล่าวขอโทษ Aileen-novel
หลายคนในสสถาบันรู้ว่าซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ไม่ได้เป็นเพียงอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นลูกของผู้ปกครองสภาวะเทพดวงดาว เธอเป็นคนที่ไม่ควรล้อเล่นด้วยอย่างแน่นอน
”ฮึ จริงสิฉันต้องคุยกับที่ปรึกษาของฉัน ช่วยบอกเขาที”
”ครับ โปรดตามผมมาคุณหนูเซินเอ๋อ”
ชายวัยกลางคนนำทางไปอย่างนอบน้อม
สมาชิกของพันธมิตรดวงดาวมีความรู้สึกที่หลากหลายเมื่อเห็นทัศนคติที่เปลี่ยนไป พวกเขาเป็นคนใหญ่คนโตเช่นกัน แต่พวกเขาไม่มีค่าอะไรเลยเมื่ออยู่หน้าสถาบันราชวงศ์อามิลล์ มีเพียงเจ้าดวงดาวเท่านั้นที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ไม่ได้เป็นแค่เจ้าดวงดาว แต่ยังเป็นสุดยอดอัจฉริยะ
เธอจะไม่ได้รับความเคารพจากแค่กับคนที่แข็งแกร่งพอเท่านั้น
“การแข่งขันของสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาลได้เริ่มขึ้นแล้ว พวกเขามีสิทธิ์แนะนำสิบคนใช่ไหม พวกเขาแนะนำครบหรือยัง?”ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์ถามระหว่างทาง
ชายวัยกลางคนตกตะลึง แต่เขาตระหนักถึงจุดประสงค์ของการมาเยี่ยมของเธอ เขาส่ายหัวและพูดว่า “ผมเป็นแค่คนเฝ้าประตู ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนั้น คุณมีคนที่คุณตั้งใจจะแนะนำหรือครับ?
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์เลิกคิ้ว ไม่สนใจแม้แต่จะตอบคำถาม
ชายวัยกลางคนยิ้มเจื่อนๆหลังจากเห็นว่าคำถามของเขายังไม่ได้รับคำตอบ แต่เขาไม่ได้ไม่พอใจอะไร เขาเพียงแต่นำทางไปตามหน้าที่
ไม่นานก็มีชายคนหนึ่งบินมาจากป่าทางด้านหลัง เขาสวมเสื้อคลุมสีดำและสีทองที่เห็นได้ชัดว่าเป็นเครื่องแบบบางประเภท มีตราทองคำบนหน้าอก บ่งบอกว่าเขาเป็นอาจารย์ระดับสูงในสถาบันราชวงศ์อามิลล์
“เซินเอ๋อ!”
ชายคนนี้มีผมสีขาวและดูแก่ เขาดูค่อนข้างเป็นมิตร หลังจากร้องด้วยความตื่นเต้น เขาก็ขยับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วราวกับเกล็ดหิมะที่คาดเดาไม่ได้ เขาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนทันทีราวกับว่าเขาหายตัวมา
ชายวัยกลางคนที่นำทางเห็นเขาและทักทายเขาด้วยความเคารพ “คุณเฟรนเคียล!”
ชายชรามองเขาและพยักหน้าเล็กน้อย
ชายวัยกลางคนคำนับต่อหน้าซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์และถอยกลับ
“ขอฉันดูหน่อย… ฉันได้ยินมานานแล้วว่าเธอกลายเป็นเจ้าดวงดาว คลื่นในโลกใบเล็กของเธอเกือบจะทรงพลังเท่ากับของฉัน เก่งมาก ฮ่าฮ่า!” เฟรนเคียลหัวเราะหลังจากสังเกตเธอ
เขายังเป็นเจ้าดวงดาวและเป็นหนึ่งในสิบสองที่ปรึกษาทองคำในสถาบันราชวงศ์อามิลล์!
“เกือบจะแข็งแกร่งเท่ากับอาจารย์? หนูแซงหน้าอาจารย์ไปแล้ว หนูแค่ไม่ทำตัวเด่นเท่านั้นเอง”ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์อวด
เฟรนเคียลยิ้ม เขาคุ้นเคยกับสิ่งนี้แล้ว เขาถามว่า “ทำไมเธอไม่บอกก่อนล่ะว่าจะมา? เธอมาเยี่ยมฉันหรอ?”
“เปล่า หนูมาหาอาจารย์เพราะมีธุระ การแข่งขันสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาลได้เริ่มขึ้นแล้ว สถาบันของเราแนะนำได้ 10 คนใช่ไหม หนูต้องการมัน”ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์กล่าวอย่างไม่เป็นทางการ
“เรื่องนั้น…” เฟรนเคียลยิ้มขมขื่น แต่เขาไม่ได้อารมณ์เสีย จริงๆ แล้วเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้หมายความอย่างที่พูดไป เขาถามว่า “ทำไม มีใครที่เธออยากแนะนำหรอ? อาจไม่มีเหลือแล้ว ในปีนี้มีผู้สมัครที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเพื่อนของอาจารย์ใหญ่บางคนที่ต้องการที่ด้วย ฉันกลัวว่า…”
“อาจารย์กลัว?”
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์รู้สึกเย็นชาหลังจากได้ยินแบบนั้น เธอกล่าวว่า “มันไม่ง่ายสำหรับหนูที่จะกลับมาที่สถาบันหรอกนะ แต่กลับไม่มีตำแหน่งเหลือ? หนูเป็นความภาคภูมิใจของสถาบัน นี่เป็นวิธีที่อาจารย์ปฏิบัติต่อความภาคภูมิใจของอาจารย์หรอ?”
เฟรนเคียล: “…”
เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “อย่าทำตัวเป็นเด็กนักเลย การแข่งขันสำหรับตำแหน่งแนะนำนั้นดุเดือดจะตาย เธอจะได้รับมันก่อนอย่างแน่นอนหากเธอยังไม่ถึงระดับดวงดาว เราไม่เคยปฏิบัติต่อเธออย่างไม่ยุติธรรมนิใช่ไหม เดี๋ยวนะ เธอกำลังขอที่แนะนำให้ใคร? ฉันจำได้ว่าเธอหยิ่งเกินกว่าจะรู้จักคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับดวงดาว ไม่ใช่หรอ?