ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 898 คลื่นในจักรวาล

“หือ?’
ฟางหานเสวี่ยตกใจมากจนตัวของเธอเกร็ง เธอเบิกตากว้างพอเห็นว่าคนแปลกหน้าเป็นใคร
“รอก่อน คุณซู!”ฟางหานเสวี่ยพูดโพล่งออกมาด้วยความยินดีและตกใจ
เธอไม่คิดว่าจะได้พบกับแชมป์เร็วขนาดนี้ ก่อนหน้าเธอประจบเขา ขอความคุ้มครองและพวกเขาก็เจอกับหลังการแข่งขันเริ่ม!
เธอโชคดีจริงๆ!
“คุณบาดเจ็บ?”ซูผิงขมวดคิ้วพอเห็นสภาพเธอ
ฟางหานเสวี่ยตัวสั่น ความยินดีหายไป เธอรีบพูด”ฉันไม่เป็นไร แค่บาดแผลเล็กน้อย ฉันมียา..ฉันจะไม่ถ่วงคุณ”
“งั้นเหรอ?งั้นก็ปกปิดกลิ่นอายคุณและตามผมมาแล้วกัน”ซูผิงพูด　　“เยี่ยม!”
ฟางหานเสวี่ยรีบพยักหน้า เธอรีบหายาลับแสนล้ำค่าที่เธอเก็บไว้และกลืนลงไปโดยไม่ลังเล บาดแผลของเธอหายอย่างรวดเร็ว และพลังดวงดาวเธอก็ยังฟื้นกลับ แม้กระทั่งเนื้อที่หายไปบนไหล่ก็ยังงอกใหม่
เมื่อเธอฟื้นฟูเต็มที่ เธอก็นึกถึงผู้หญิงเกราะเงินที่หนีไป”คุณซู ฉันมีคู่หูจากกาแล็กซี่เรา คุณอยากไปหาเธอไหม?”
หญิงเกราะเงินได้ทิ้งเธอไปก่อนหน้านี้ แต่เธอก็ไม่ตำหนิอีกฝ่าย ทั้งคู่คงตายถ้าเลือกอยู่
“ได้”
ซูผิงพยักหน้า เนื่องจากเขาต้องจับกลุ่ม เขาจึงจะหาสมาชิกให้ได้มากที่สุด
อึดใจต่อมา
ทั้งซูผิงและฟางหานเสวี่ยพบกับหญิงเกราะเงิน ขากรรไกรของอีกฝ่ายแทบตกลงพื้นตอนเห็นซูผิง เธอไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่จู่ๆก็หายไปจะเป็นแชมป์!
เธอพลันรู้สึกโล่งใจ
พวกเธอจะสามารถทนได้นานด้วยซูผิงที่คอยช่วย ต่อให้โดนกำจัดในท่ายที่สุด มันก็อาจติดร้อยอันดับ!
หญิงเกราะเงินชื่อชีลี่ เธอเป็นคนในครอบครัวชื่อดัง
“ชายที่ซุ่มโจมตีเราโดนฆ่าแล้ว?”
“ไม่ได้โดนฆ่า แค่ล้ม”
พวกเขาเดินไปขณะคุยกันไป ฟางหานเสวี่ยกับชีลี่รู้ว่าซูผิงได้จัดการอัจฉริยะที่ซุ่มโจมตีพวกเธอไปแล้ว พวกเธอตกใจที่พบว่าชายที่แข็งกว่าพวกเธอมากกลับโดนจัดการง่ายๆ!
“ซุ่มโจมตี!”
ทั้งสามเพิ่งเดินทางได้ไม่กี่สิบกิโลซูผิงก็ทำท่าให้หยุด ป้าแสนสงบกลับกลายเป็นแปลกไปหลังซูผิงพูด
ทั้งฟางหานเสวี่ยกับชีลี่ตกใจ พวกเธอยังยืนนิ่ง กลัวว่าจะรบกวนเขา พวกเธอกวาดมองรอบตัวอย่างระมัดระวัง ค้นหาศัตรูด้วยวิชาลับ
ซูผิงมองรอบๆอย่างเย็นชา จากนั้นก็หรี่ตา และหายตัวไป
มีชายสามคนซ่อนตัวอยู่ในมิติชั้นสามหลังต้นไม้ใหญ่ พวกเขาคืออัจฉริยะจากกาแล็กซี่เดียวกันที่วางกับดัก
“โอ้ ไม่!”
ผู้ซุ่มโจมตีทั้งสามรู้สึกขนลุกทั่วหลังพอเห็นว่าหนึ่งในผู้มาใหม่หายไป จากนั้น หมัดสีทองก็โผล่ออกมาและชกใส่หนึ่งในพวกเขา
ชายคนนั้นคำรามอย่างโกรธและฟันดาบที่ล้อมด้วยพลังกฏ
แต่ทว่า หมัดทองกลับไม่อาจหยุดยั้งและบดขยี้มันง่ายๆ กระแทกชายคนนั้นออกมิติชั้นสามและเข้ามิติชั้นสอง ทำให้เขาอาเจียนเป็นเลือด
พอหมัดทองชกออกไป ลูกเตะคล้ายสายฟ้าฟาดก็กวาดออกมาและเตะพวกเขาออกมิติชั้นสามและกระแทกกับต้นไม้
หนึ่งในนั้นถูกล้อมด้วยสาวสวยสองคน เขาพลันโดนรุมกระทืบ
อีกสองโดนซูผิงจัดการ
เขาแข็งแกร่งมาก!
ฟางหานเสวี่ยและชีลี่ตกใจมาก พวกเธอคงแพ้แน่ถ้าไม่มีซูผิงอยู่ ผู้ซุ่มโจมตีทั้งสามแข็งแกร่งมาก แต่ซูผิงก็จับตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วและฆ่าพวกเขา ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสบการณ์ต่อสู้ของ!
ตามคาด สัตว์ประหลาดอย่างเขาผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วน ฉันไม่ใกล้เคียงกับเขาเลย!ทั้งสองสาวคิด
ซูผิงไปหาสองสาวหลังจัดการคนเหล่านั้น ไม่ช้า ตราพวกเขาก็เรือนแสงอีกครั้ง ให้พวกเขารู้ว่ามีพรรคพวกแถวนี้
..
ยานรบกับยานอวกาศได้รวมกันเพื่อสังเกตการแข่งขันที่จัดขึ้นบนทวีปมิติลึก　　ตระกูลที่แข็งแกร่งมากมายมาครบ เพราะผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่คือลูกหลานของพวกเขา พวกเขากังวลว่าลูกหลานพวกเขาอาจโดนตระกูลศัตรูฆ่าหลังการแข่งขันเพราะผลงานที่ยอดเยี่ยม พวกเขาจึงมาเพื่อจับตาดู
องค์กรที่แข็งแกร่งบางแห่งยังมาเพื่อหาคนมีพรสวรรค์
นอกจากพวกเขา ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวบางคนยังคอยสังเกตจากสภาะเทพอมตะ
มีวังหรูหราที่นั่น มันมีระเบียงที่ให้ทิวทัศน์ไกลเกินสภาเทพอมตะ มีแค่พวกสภาวะเทพดวงดาวถึงมีสิทธิ์อยู่ที่นี่
บนระเบียง
ชายชราสวมเกราะทองที่ดูเหมือนสิงโตทองคำพูดขึ้น”ทำไมถงเทียนถึงมาอยู่นี่ได้?เขาไม่ได้ไปเข้าร่วมงานเช่นนี้หรือ?”
ชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีเงินพูด”ฉันได้ยินว่าเขากำลังเก็บตัวบ่มเพาะ เขาต้องเล็งเห็นถึงหายนะที่กำลังมาหลังสังเกตเห็นระลอกคลื่นของจักรวาลมั้ง?เพื่อนของเราหลายคนเองก็ต่างปิดด่านบ่มเพาะ”
“เรามีความก้าวหน้าน้อยมากตลอดหมื่นปีที่ผ่านมา อาจมีเทพดวงดาวหลายคนที่ตายในครั้งนี้”ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวพูดอย่างเป็นกังวล เขาอดแหงนมองสภาเทพอมตะที่เปล่งแสงไม่ได้
“ฉันได้ยินมาว่าเทพดวงดาวเห็นโลงศพโบราณลอยอยู่ในมิติชั้นลึก ลึกในเขตดาวทะเลเลือด มันกำลังทำลายกฏทั้งหมดระหว่างทาง นั่นจริงไหม?”เทพดวงดาวอีกคนถาม
“ฉันได้ยินข่าวลือแบบนั้นมาเหมือนกัน ดูเหมือนลอร์ดสูงสุดของเขตดาวทะเลเลือดจะไปผนึกโลงศพมารนั่นเองเลย!”เทพดวงดาวชุดขาวที่ดูเหมือนนักเดินทางพูด
“ฉันได้ยินว่ามีหัวมังกรลอยในมิติชั้นแปดของเขตดาวกวางฤดูใบไม้ร่วง ว่ากันว่าสายพันธุ์มังกรนั่นสูญพันธุ์ไปล้านปีก่อนแล้ว นายของมันต้องตายไปแล้ว!” 　　“ถ้านายของมันตาย สัญญาจะยังอยู่ไหม?”
“ใครจะไปรู้?พวกคนน่ากลัวจากยุคโบราณอาจมีวิธีพิเศษเพื่อสร้างสัญญาพิเศษ”
“มันต้องเป็นอสูรสภาวะเทพอมตะเป็นอย่างน้อยถึงลอยล่องในมิติชั้นแปดได้ มันต้องเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกัน?”
“ใครจะไปรู้?สภาวะเทพอมตะเป็นระดับสูงสุดที่เราสามารถแหงนมองได้แล้ว”
“จิ๊ๆ”
“นี่เป็นช่วงเวลายากลำบาก!”บางคนพูดด้วยความรู้สึกผสมปนเป
คนอื่นเองก็กำลังคุยถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน พวกเขามุ่งเน้นความสนใจไปที่การแข่งขันหลังตระหนักว่าไม่ได้ข้อสรุปอะไร
การเป็นเทพดวงดาว พวกเขาจึงได้เห็นผู้เข้าแข่งขันมากมายเหมือนพวกเขา อัจฉริยะที่เจิดจรัสจะปรากฏตัวทุกครั้ง แต่ส่วนใหญ่จบสิ้นระหว่างทางและมีน้อยคนถึงเป็นเทพดวงดาวได้ และก็มีแค่ผู้ที่แข็งแกร่งสุดในบรรดาพวกเขาถึงอาจเป็นเทพอมตะได้
ดังนั้น ไม่มียอดฝีมือคนใดจะทึ่ง ถึงแม้เด็กเหล่านี้จะแข็งแกร่งกว่านักรบสภาวะชะตากรรมทั่วไปมาก Aileen-novel
บางคนหัวเราะและพูดหลังจากดูสักพัก”ได้ยินว่าสมบัติชั้นยอดปรากฏในอาณาจักรลับทะเลเทพ ผู้เข้าแข่งขันเห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งกว่าปีก่อนๆมาก”
“ใช่ ดูเด็กสองคนนั้นสิ พวกเขายังมีเวลาไปล่าอสูรสภาวะดวงดาว”
“เด็กคนนั้นก็ไม่เลว เขาไม่ออมมือเลย”
“ทั้งหมดกำลังจับกลุ่มกัน มันต้องเป็นคำสั่งของพวกผู้อาวุโสของพวกเขาแน่ เนื่องจากมันจะเพิ่มอัตราชนะ”
เทพดวงดาวหลายคนกำลังกิน ดื่มและดู เหมือนจักรพรรดิโบราณที่ดูการแสดง
…
บนทวีปมิติชั้นลึก　　หลายชั่วโมงผ่านไป คนแปดคนได้รวมกันรอบซูผิง ทวีปค่อนข้างกว้าง ขณะที่มีตัวแทนจากซิลวี่แค่ร้อยคน ซูผิงได้เอาชนะศัตรูไปหลายสิบแล้วระหว่างทาง
หนึ่งในแปดคนคือจอมดาบคลั่งจากสถาบันเทพดาบ ผู้เป็นอัจฉริยะระดับสูง แต่ทว่า เขาวิ่งไปเจออัจฉริยะกาแล็กซี่อื่นและก็ปะทะกัน
อัจฉริยะคนนั้นแข็งแกร่งมาก อ่อนแอกว่าหลิงหู่เจี้ยนแค่เล็กน้อยเท่านั้น จอมดาบคลั่งบาดเจ็บหนัก เขาคงตายไปแล้วถ้าไม่มีซูผิง
ปัจจุบันเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม และก็ฟังคำสั่งของซูผิง
ซูผิงตัดสินใจให้พวกเขาพักหลังเดินสักพัก”มาพักกันก่อน นายบาดเจ็บ”
“เราจะล่าอสูรเป็นอาหาร”ชายหนุ่มสองคนอาสาและเดินออกไป เสียงคำรามของอสูรดังก้องในป่า แต่พวกมันก็ตายอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าชายหนุ่มสองคนก็กลับมาพร้อมสิ่งที่เหมือนจระเข้　　ชายหนุ่มหน้าตาไม่แยแสในชุดขาวขมวดคิ้ว”มันจะไม่เตะตาไปเหรอถ้าเรากินที่นี่?มีศัตรูอยู่ทั่ว เราควรระวัง”
ชายหนุ่มสองคนตกตะลึง พวกเขามองซูผิง
ซูผิงโบกมือ”ไม่จำเป็น ฉันหิวมาก เราแค่ต้องกระทืบใครก็ตามที่เผยตัว การต่อสู้นั้นเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว!”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วและไม่เห็นด้วยกับซูผิง รู้สึกว่าเขาอวดดี”แต่เราควรรอให้กลุ่มเราใหญ่ขึ้น อัตราชนะของเราจึงจะสูงขึ้น”
ซูผิงเลิกคิ้วและพูด”ไม่เป็นไร ฉันจะคุ้มกันนาย”
สีหน้าของชายหนุ่มชุดขาวเปลี่ยนไป เขากัดฟัน แต่ไม่พูดอะไร
คนอื่นมองชายหนุ่มและส่ายหัว ดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้ตัวว่าพวกเขาต้องการซูผิง
ซูผิงยังสามารถเอาชีวิตรอดได้จนจบโดยไม่มีพวกเขา　　“ไม่ต้องไปสนใจเขา กินกัน”
จอมดาบคลั่งเดินมาใกล้ เขาคืออัจฉริยะที่แข็งแกร่งสุดในตอนนี้ยกเว้นซูผิง และยังมีความภาคภูมิใจ เขาไม่อยากหดหัวเหมือนหนูตอนซูผิงอยู่ข้างๆ
เหนือสิ่งอื่นใด ต่อให้พวกเขาเจออัจฉริยะจากกาแล็กซี่อื่น ถ้าอีกฝ่ายยังไม่จับเป็นกลุ่มใหญ่ พวกเขาก็ยังเอาชนะได้โดยมีซูผิงเป็นผู้นำ
นักล่าหนุ่มสองคนดีใจที่ได้รับคำอนุญาตของซูผิง พวกเขารีบชำแหละศพและมอบแก่นของมันให้ซูผิง
ซูผิงเรียกโครงกระดูกน้อยและมอบแก่นให้มัน
โครงกระดูกน้อยกัดและดูดซับ แก่นค่อยๆฟางและเปลี่ยนเป็นหินขาวซีด และตกลงพื้น
พออิ่ม มันก็แตกตัวเป็นกองกระดูก และลวดลายแวววาวบนกระดูกก็หายไป มันเหมือนไร้ชีวิต อสูรที่ผ่านมาจะเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นซากกระดูกของมนุษย์เด็ก
คนอื่นดูแปลกตอนเห็นโครงกระดูกน้อย พวกเขารู้ว่าลวดลายซับซ้อนบนกระดูกมันคือตัวบ่งชี้ถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกฏ
ไม่ช้า อสูรก็ถูกฟางหานเสวี่ยกับชีลี่ย่าง บางคนนำเครื่องปรุงมาทาเนื้อ กลิ่นหอมจึงกระจาย
ฟางหานเสวี่ยแล่ส่วนขาที่อร่อยสุดให้ซูผิง จากนั้นคนอื่นก็แบ่งส่วนที่เหลือ
ชายหนุ่มชุดขาวก็น้ำลายไหลเช่นกัน แต่ทุกคนเลือกเมินเขา เขาเองก็หยิ่งเกินกว่าจะขอเนื้อ
ในขณะที่พวกเขากำลังกินอย่างสบาย หินยักษ์ก็โผล่ออกจากมิติเหนือหัวพวกเขาและตกลงมาเสียงดังสนั่น
ซูผิงเลิกคิ้วและชกหมัด ทำลายหินเป็นชิ้นๆ คนอื่นเองก็ระวัง รู้ว่าศัตรูมา
“ตาย!” 　　จอมดาบคลั่งชักดาบและเล็งศัตรู จากนั้นก็พุ่งตัวไป
อัจฉริยะคนอื่นเองก็ลงมือและเรียกอสูรที่แข็งแกร่งสุดออกมา พวกเขาไม่ใช้อสูรรองเพื่อเลี่ยงการเปิดเผยพลัง เหนือสิ่งอื่นใด อัจฉริยะชั้นนำอย่างพวกเขาแข็งแกร่งกว่าอสูรของพวกเขามาก อสูรของพวกเขาจะทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุนระหว่างการต่อสู้เท่านั้น