ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 907 ชิ้นส่วนที่แตกหัก

ตอนที่ 907 ชิ้นส่วนที่แตกหัก

ดวงตาของซูผิงเป็นประกาย เขาทำลายคมมีดด้วยกฎแห่งการทำลายล้าง และเอื้อมมือไปที่อันสุดท้าย
ใบมีดคมแทงเข้าที่ฝ่ามือของเขา มีความรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
ซูผิงตื่นตระหนกเล็กน้อยเมื่อเห็นเลือดในมือ เขามองไปที่บันไดอื่น ๆ และพบว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ต่างก็อดทนต่อการโจมตีที่คล้ายกัน และพยายามป้องกันตัวเอง
“ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ภาพลวงตา”
ซูผิงยังคงปีนต่อไป
การโจมตีครั้งก่อนนั้นเทียบเท่ากับพลังของระดับดวงดาวขั้นต้น ซูผิงไม่ได้เร่งรีบ พวกเขามีเวลาสามวัน และความสูงตอนจบต่างหากที่สำคัญ
“หลีกไป หลีกไป!”
“ออกไป!”
ที่ด้านหลัง—มีคนพูดอย่างหมดความอดทน กดดันผู้เข้าแข่งขันทุกคน เขาเดินไปที่บันไดขั้นหนึ่ง ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชายหนุ่มที่มีร่างเทพซึ่งทำให้คนจำนวนมากหวาดกลัว
อัจฉริยะคนอื่นๆ ที่ยังคงเฝ้าดูอยู่ก็มุ่งความสนใจไปที่ชายผู้สง่างามและกระซิบกัน “ฉันได้ยินมาว่ามีคนปลุกเทคนิคที่สืบทอดมาจากร่างเทพ คือเขาหรอ?”
“กายาของเขาเกี่ยวข้องกับการกลับชาติมาเกิด มันสามารถเกิดใหม่ได้แม้ว่าจะถูกฆ่าตายได้จริงๆ!”
“หนึ่งในเก้าร่างเทพ? นายจริงจังหรอ! ฉันไม่คิดว่าจะมียอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวหลายคนมีกายาหายากเช่นนี้!”
น่าเสียดายที่เขาเย่อหยิ่งเกินไป ทำให้หลายคนที่อยากเป็นเพื่อนกับเขาลังเล กลัวว่าจะโดนตบหน้า
ในเวลานั้นชายหนุ่มที่มีร่างเทพก็มาถึงบันไดที่ชายสองคนกำลังใช้อยู่ พวกเขาได้ยินเสียงแว่วมาจากข้างหลังและหันกลับไปมอง ทั้งสองคนสีหน้าเปลี่ยน
”ฮึ!”
ชายหนุ่มที่มีร่างเทพไม่พูดอะไร เขาก้มตัวแล้วกระโดดสูงหลายสิบเมตรไปถึงที่จับที่สิบเอ็ดของบันได
เขาจับที่จับและท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะตระหนักถึงความไม่ปกติของภูเขาวิถีสวรรค์
”น่าสนใจ”
เขาเหลือบไปรอบๆ และเห็นซูผิงที่กำลังใช้บันไดอีกขั้นอยู่ เขาตะโกนว่า “เจ้าหนู น่าเสียดายที่กฎเปลี่ยนไปแล้ว และฉันสู้กับนายไม่ได้ ทำไมเราไม่แข่งกันไปด้านบนแทนล่ะ”
”ฮะ?” ซูผิงไม่คิดว่าเขาจะต้องการแข่งขัน เขาคิดว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณของผู้ชายที่ช่วยเหลือเขาก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่าคนๆ นั้นจะไม่ได้ช่วยเหลือเขาฟรีๆ
”ดี เราควรแข่งขันกันยังไง?” ซูผิงถาม
“สิบที่จับเป็นไง?” Aileen-novel
ชายหนุ่มที่มีร่างเทพโบกมือและพูดว่า “นายจะชนะ ถ้าตำแหน่งสุดท้ายของนายอยู่ในระยะสิบที่จับจากฉัน!”
ในขณะที่มึนงงเล็กน้อย ซูผิงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “ดี”
“งั้นก็พยายามเข้าล่ะ!” ชายหนุ่มที่มีร่างเทพหัวเราะคิกคักและออกแรงใส่ที่จับ พุ่งไปที่ที่จับที่สิบเจ็ดอย่างรวดเร็ว
เขาไม่หันกลับมามองอีกเลย และมุ่งขึ้นไปข้างบนอย่างเดียว
ซูผิงมองไปที่เขาครู่หนึ่งแล้วละสายตา เขาไม่รีบร้อน เขาเพียงแค่ปีนที่จับไปที่ละอัน
“ผู้ชายคนนั้นช่างอวดดีเสียจริง!”
“เขามีเหตุผลทุกอย่างที่จะอวดดี อีกคนหนึ่งก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน แต่เขาอาจจะเทียบไม่ได้กับผู้ที่มีร่างเทพ”
“นายพูดอย่างนี้รู้หรอว่าเขามีกายาอะไร?”
หลายคนเคยได้ยินเกี่ยวกับการเดิมพันระหว่างชายหนุ่มที่มีร่างเทพกับซูผิง ซูผิงไม่ได้น่ากลัวเท่าชายหนุ่มที่มีร่างเทพ แต่เขาเป็นอัจฉริยะระดับสูง ชายหนุ่มที่มีร่างเทพดูถูกคนอื่นอย่างเปิดเผย อีกคนก็คงเหมือนกัน
พวกเขาคงไม่ต่างจากคนที่เดินผ่านไปมาในสายตาของชายหนุ่ม
อย่างไรก็ตามแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นอัจฉริยะที่ดีที่สุดที่คัดเลือกมาจากผู้คนหลายหมื่นล้านคนจากดาวเคราะห์หลายสิบดวง
ผู้คนจำนวนมากตกตะลึงกับคำถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต่อสู้เคียงข้างซูผิงหรือต่อสู้กับเขา
ซูผิงมีกายาอะไร?
พวกเขาไม่เคยเห็นซูผิงปลดปล่อยพลังแห่งกายาของเขาเลย
”รอเดี๋ยว”
ผู้ชายคนนั้นน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้โดยไม่ใช้กายาของเขาอย่างงั้นหรอ?
หลายคนตกใจเมื่อคิดเช่นนั้น พวกเขาหันไปมองซูผิงด้วยความหวาดเกรง
สัตว์ประหลาดชัดๆ… หลายคนคิดตาม
หลิงหู่เจี้ยน จักรพรรดิมังกร และคนอื่นๆ ก็เงียบเช่นกัน
เขาเป็นคนไร้เดียงสาจริงๆหรือ? ซูจินเอ๋อที่อยู่ไกลมองแผ่นหลังของซูผิงด้วยดวงตาวาววับ เธอไม่พบกลิ่นอายที่คล้ายกับของเธอมาจากซูผิง พรสวรรค์ของเขาน่าตกใจจริง ๆ ถ้าเขาเป็นแค่ชายไร้เดียงสา!

ขณะที่ผู้เข้าแข่งขันบนบันไดถูกโจมตีทีละคน พวกเขาจึงตระหนักดีว่าเหตุใดคนอื่นๆ จึงไม่เข้าร่วมการต่อสู้ พวกเขาเดาได้อยู่แล้วว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า
ผู้เข้าแข่งขันหลายคนหยุดที่เชิงเขาหน้าภูเขาวิถีสวรรค์ เตรียมพร้อมที่จะค้นหาว่ามันอันตรายแค่ไหน
ไม่นานหลังจากนั้น ชายหนุ่มที่มีร่างเทพก็ปีนขึ้นไปบนด้ามจับที่ยี่สิบอย่างรวดเร็ว
เมฆฝนฟ้าคะนองปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขาจากมิติลึก มันเต็มไปด้วยพลังของกฎ
ชายหนุ่มที่มีร่างเทพก็เงยหน้าขึ้นและอ้าปาก ดูดเมฆเข้าไป
จากนั้นเขาก็เรอและหัวเราะ “อ่อน! อ่อนมาก!”
เขาปีนต่อไปและไปถึงที่จับที่ 25 ในพริบตา จู่ๆเขาก็หยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เขาหัวเราะและปีนต่อไป
ผู้ชายคนนั้นปีนไปถึงขั้นสี่สิบอย่างสบายๆ ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นอีก ยกเว้นร่างกายของเขาที่สั่นเล็กน้อยทุกครั้งที่จับที่จับอันใหม่
สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับนักปีนเขาคนอื่น ๆ แต่หลังจากจับที่ที่จับอันที่ยี่สิบเท่านั้น
มีคนคาดเดา “นี่จะต้องเป็นการออกแบบเพื่อป้องกันไม่ให้เราโกง เรามองไม่เห็นการโจมตีที่พวกเขาได้รับจากภายนอก ดูเหมือนว่าเราไม่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นได้ เราต้องพึ่งตัวเอง”
ข้างหลังซูผิง ชายหนุ่มขมวดคิ้วและพูดว่า “ฉันจะกระโดดไปที่นั่นถ้านายไม่รีบร้อน”
เขาคงไม่สุภาพมากหากไม่ได้เห็นความสามารถของซูผิง
ปัจจุบันซูผิงเพิ่งไปถึงที่จับที่ยี่สิบ ผู้เข้าแข่งขันบางคนที่เริ่มปีนเขาช้ากว่าซูผิงข้ามไปที่จับที่สามสิบแล้ว ชายหนุ่มที่มีร่างเทพผ่านที่จับที่สี่สิบแล้ว
“มาได้เลย”
ซูผิงหันหลังกลับเพื่อให้มีที่ว่างให้ชายคนนั้นผ่านไป
ชายหนุ่มกระโดดข้ามและยืนอยู่ในตำแหน่งเหนือหัวของซูผิงโดยไม่พูดอะไร
ที่จับเหล่านั้นถูกตอกเข้าไปในภูเขาราวกับตะปู
ชายหนุ่มที่แซงหน้าซูผิงหยุดชั่วครู่ จากนั้นเขาก็ออกแรงอีกครั้งและกระโดดไปที่ที่จับที่สูงขึ้น
ซูผิงมองไปที่เขาและปีนต่อไปด้วยตัวเขาเอง
เขาต้องทนกับการโจมตีด้วยกฎทุกครั้งที่เขาไปถึงที่จับใหม่ จะมีเศษกฎกระจายเมื่อเขาทำลายการโจมตี แม้ว่ากฎดังกล่าวจะค่อนข้างตื้น แต่ก็ยังมีประโยชน์หลังจากรวบรวมกันแล้ว
แต่พวกมันไม่ได้ไร้ประโยชน์สำหรับอัจฉริยะคนอื่น ๆ ผู้ที่เข้าใจกฎข้อเดียวดี พวกเขาจะพัฒนาโดยใช้ชิ้นส่วนที่แตกหักเหล่านั้น

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท