ชายหนุ่มที่อยู่อันดับสาม—การกลับชาติมาเกิดของฟีนิกซ์โบราณ—มองมาที่ลอร์ดสูงสุดด้วยสายตาคาดหวัง
ทั้งซูผิงและดิแอซถูกรับเป็นศิษย์ เขาจะมีโอกาสด้วยไหม?
อย่างไรก็ตาม ลอร์ดสูงสุดไม่ได้เชิญเขา เขาเพียงแค่กล่าวว่า “การจัดอันดับของเขตดาวทองคำได้รับการตัดสินแล้ว ร้อยอันดับแรกจะเข้าร่วมในรอบชิงชนะเลิศในนามของฉัน
“ใครก็ตามที่เข้าสู่สิบอันดับแรกในรอบชิงชนะเลิศจะได้รับรางวัลเป็นสมบัติเพิ่มเติม!
“ต่อไป เธอจะมีเวลาพักสองวัน จากนั้นจะต้องออกเดินทางไปยังอาณาจักรลับทะเลเทพ ซึ่งจะมีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศขึ้นที่นั่น”
เมื่อเสียงประกาศจบ เขามองไปที่ซูผิงและดิแอซ แล้วกล่าวว่า “เธอสองคน มากับฉัน”
จากนั้นร่างจำแลงขนาดมหึมาก็หายไป เช่นเดียวกับซูผิงและดิแอซซึ่งหายไปจากภูเขาวิถีสวรรค์
ซูผิงรู้สึกว่าเขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังอันอ่อนโยนขณะที่เขาเดินทางผ่านความมืดมิด ต่อมาเขาพบว่าตัวเองอยู่ในวิหารอันวิจิตรเมื่อเขาลืมตาขึ้น..
นอกวิหารมีสวนหอมที่ปลูกหญ้าและดอกไม้ล้ำค่าหายาก
ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในศาลาที่ตั้งอยู่ในสวน เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากยอดฝีมือสภาวะเทพอมตะผู้ยิ่งใหญ่
ถัดจากเขา ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวสองคนที่ปกปิดรัศมีของพวกเขามองมาที่ซูผิงและ ดิแอซด้วยรอยยิ้ม
ดิแอซตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าพวกเขาเป็นใครและคุกเข่าลงเมื่อเห็น “เป็นเกียรติที่ได้พบท่านอาจารย์”
ซูผิงต้องคุกเข่าด้วย “เป็นเกียรติที่ได้พบท่านอาจารย์”
“ทั้งสองคน ลุกขึ้นเถอะ” ลอร์ดสูงสุดกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเธอรู้จักชื่อฉันไหม?”
ดิแอซตอบอย่างรวดเร็วว่า “ผมเคยได้ยินเรื่องราวของคุณอยู่สองสามเรื่อง ท่านอาจารย์คุณคือเซินหวง ผู้ปกครองเขตดาวทอง คุณสังหารปีศาจและมนุษย์ต่างดาวมานับไม่ถ้วน มีส่วนสนับสนุนเขตดาวทองคำอย่างมาก”
สภาวะเทพดวงดาวทั้งสองยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบ
“เป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องสังหารสัตว์ป่าและปกป้องพรมแดนของเรา” ลอร์สูงสุดกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอจะต้องไปที่ชายแดนเช่นกัน เพื่อขัดเกลาตัวเองและปกป้องมนุษยชาติเมื่อเธอไปถึงสภาวะเทพดวงดาว”
“ตามที่คุณต้องการครับอาจารย์” ดิแอซตอบอย่างเคร่งขรึม
ซูผิงโค้งคำนับและพยักหน้า
“เธอมีร่างเทพกลับชาติมาเกิด เธออาจสามารถขึ้นสู่สภาวะเทพอมตะได้หากค้นพบความลับของมัน เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง เธอจะมีอิสระที่จะเข้าสู่ระดับดวงดาวและแม้แต่เจ้าดวงดาว ภารกิจของเธอในสภาวะเทพดวงดาวจะราบรื่นยิ่งขึ้นถ้าเธอได้รับอะไรจากอาณาจักรลับทะเลเทพ”
ลอร์สูงสุดมองไปที่ ดิแอซและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เธอถูกกำหนดให้พบกับหายนะเมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน แต่เธอจะขึ้นสู่ระดับใหม่หากใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้นอย่างเต็มที่”
ดิแอซตกตะลึงกับการเปิดเผยนี้ ทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนก เขาพูดอย่างรวดเร็วว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับอาจารย์”
ลอร์ดสูงสุดมองไปที่ซูผิงและตั้งข้อสังเกต “รัศมีของสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ในร่างกายของเธอคืออีกาทองคำ ซึ่งไม่มีอยู่บนดาวที่เธอเกิด อาจเป็นปรากฏการณ์ของยีนที่อยู่ผิดยุคสมัย”
“อีกาทองคำ? ปรากฏการณ์ของยีนที่อยู่ผิดยุคสมัย.?”
ดิแอซจ้องไปที่ซูผิงด้วยความประหลาดใจ
ซูผิงไม่ได้ตกใจ แต่เขาเริ่มรู้สึกกังวล เขาไม่คิดว่าความลับของเขาจะถูกค้นพบง่ายๆ
“ผู้คนนับไม่ถ้วนได้ถือกำเนิดขึ้นในจักรวาลนี้ มักมีสิ่งที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต” ลอร์ดสูงสุดกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเธอทั้งคู่ต่างก็มีความลับอยู่พอสมควร ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับความลับเหล่านั้น”
ซูผิงถอนหายใจอย่างโล่งอก
ดิแอซก็โล่งใจมากเช่นกัน เขาเองก็มีความลับซ่อนอยู่มากมาย รวมทั้งเคล็ดบ่มเพาะของเขาด้วย
“ทั้งหมดที่เธอต้องจำไว้ก็คือเธอจะเป็นนักรบของสภาเทพอมตะ ดังนั้นเธอต้องภักดีต่อสภา เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่า” ลอร์ดสูงสุดกล่าวอย่างเคร่งขรึม
”ครับ!” ทั้งสองตอบ
“เธอเคยได้รับผลแห่งกฎมาก่อน และความเข้าใจในกฎของเธอยังไม่ลึกซึ้ง อย่างไรก็ตามเธอได้เข้าใจกฎแห่งผสานและรวมพลังของกฎเหล่านั้นเข้าด้วยกันแล้ว เธอต้องได้รับประโยชน์อย่างมากจากการปีนเขา เธอจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเธอแยกแยะความรู้ใหม่ของเธออย่างเต็มที่”
ลอร์ดสูงสุดมองไปที่ซูผิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฉันตั้งตารอดูผลงานของเธอในรอบชิงชนะเลิศ”
ซูผิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เขาถอนหายใจกับตัวเอง ที่ผู้ชายคนนี้นั้นตรวจพบสิ่งที่เขาคิด
ดิแอซอดไม่ได้ที่จะมองซูผิงหลังจากได้ยินแบบนั้น ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าที่ซูผิงช้าในตอนแรกเป็นเพราะเขาพยายามทำความเข้าใจกฎให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากภูเขาวิถีสวรรค์
พลังต่อสู้ของเขาสามารถพัฒนาได้อีกหรอ? ดิแอซรู้สึกโกรธเมื่อความคิดนั้นแล่นเข้ามาในหัวของเขา เขาถึงคอขวดแล้ว แต่ซูผิงยังคงพัฒนาได้ ฉันควรพยายามทำความเข้าใจกฎหลายข้อด้วยดีไหม?
“ชุดเกราะสองชิ้นนี้ รู้จักกันในชื่อเกราะเทพวิญญาณ มันเป็นฝีมือฉันเอง”
ลอร์ดสูงสุดหยิบวัตถุคล้ายหมอกสองชิ้นออกมาแล้วกล่าวว่า “พวกมันสามารถต้านทานการโจมตีของสภาวะเทพดวงดาวได้เป็นเวลาสิบนาที แต่จะไม่ถูกกระตุ้นจากการโจมตีของศัตรูที่ระดับต่ำกว่าสภาวะเทพดวงดาว นี่คือกำไลแห่งศรัทธาสองอันซึ่งสามารถใช้โจมตีเจ้าดวงดาวได้” Aileen-novel
กำไลสีม่วงคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา
“ส่วนการโจมตีจากศัตรูระดับที่ต่ำกว่าเจ้าดวงดาว เธอสามารถจัดการได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว พวกเขาจะไม่สามารถคุกคามเธอได้ เธอสามารถหลบหนีได้เสมอหากไม่ชนะ
“คู่ต่อสู้ของเธอในรอบต่อไปไม่จำเป็นต้องใช้เกราะเทพวิญญาณหรือกำไลแห่งศรัทธา พวกมันมีไว้เพื่อปกป้องเธอจากนักฆ่า”
กำไลสีม่วงและเกราะเทพวิญญาณบินไปหาดิแอซและซูผิงในขณะที่เขาพูด
ดวงตาของดิแอซเป็นประกายขณะที่เขาจ้องไปที่เกราะเทพวิญญาณ
มันเป็นสมบัติลับที่สามารถต้านทานการโจมตีของสภาวะเทพดวงดาวนานถึงได้สิบนาที!
ที่สำคัญกว่านั้น พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากสมบัติดังกล่าวได้ แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะชะตากรรมเท่านั้น!
โดยปกติแล้วแม้แต่อาวุธแห่งศรัทธาของเจ้าดวงดาวก็จับต้องไม่ได้สำหรับผู้ที่อยู่ต่ำกว่าเจ้าดวงดาวไม่ต้องพูดถึง สภาวะเทพดวงดาวซึ่งไม่สามารถสัมผัสได้ราวกับอยู่อีกมิติหนึ่ง
“ขอบคุณมากครับอาจารย์!” ดิแอซพูดอย่างตื่นเต้น
ซูผิงค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่จะมียอดฝีมือสภาวะเทพอมตะเป็นอาจารย์ เกราะเทพวิญญาณเพียงอย่างเดียวสามารถรับรองความปลอดภัยของเขาได้
นั่นคือข้อดีของการมีเทพอมตะเป็นอาจารย์!
”ตกลง โหยวหลงจะบอกเรื่องอื่น ๆ ที่เธอควรรู้ พยายามให้หนักขึ้นและไปให้ถึงสภาวะเทพดวงดาวภายในพันปี” ลอร์ดสูงสุดกล่าวก่อนจะหายตัวไป
สภาวะเทพดวงดาวทั้งสองที่อยู่ถัดจากเขากล่าวลาด้วยความเคารพ
จากนั้นชายหนุ่มรูปงามก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “น้องชาย ฉันเป็นพี่คนที่เจ็ดของเธอ เธออาจเรียกฉันว่าศิษย์พี่โหยวหลง”
“ศิษย์พี่โหยวหลง!” ดิแอซพูดอย่างรวดเร็ว และรู้สึกปลาบปลื้ม
ชายคนนี้เป็นสภาวะเทพดวงดาว และเขายังเป็นรุ่นพี่ของเขาอีกด้วย!
ซูผิงเรียกเขาด้วยความเคารพเช่นกัน
“นี่คือพี่คนที่เก้าของเธอเย่หลาน” โหยวหลงแนะนำชายหนุ่มอีกคน
เย่หลานดูค่อนข้างเย็นชาราวกับว่าเขาเกิดมาแบบนั้น เขาพยักหน้าให้พวกเขาและพูดว่า “เธอค่อนข้างมีพรสวรรค์ พยามยามให้มากขึ้น ฉันจะพาเธอไปที่เขตหอคอยดวงดาวเมื่อเธอไปถึงสภาวะเทพดวงดาว”
“เขตหอคอยดวงดาว?” ดิแอซรู้สึกงงเล็กน้อย
เย่หลานตอบอย่างไม่เป็นทางการว่า “มันเป็นอาณาจักรลับที่ซ่อนอยู่ในมิติลึก มีหอคอยแปลก ๆ อยู่ที่นั่น ว่ากันว่านายอาจค้นพบความลับในการไปถึงสภาวะเทพอมตะที่ด้านบนสุดของหอคอย นอกจากนั้นนายอาจพบสมบัติมากมายเช่นกัน อย่างไรก็ตามนายต้องไปฝห้ถึงสภาวะเทพดวงดาวก่อนที่จะไปที่นั่น ไม่เช่นนั้นนายจะถูกฆ่า”
ดิแอซตกใจมาก “ความลับในการไปถึงสภาวะเทพอมตะ?”
ซูผิงถามด้วยความสงสัย “อาจารย์ของเราไม่ได้ไปที่นั่นได้หรอ? เขาจะได้รับความลับทั้งหมดหากไปถึงยอดหอคอยใช่ไหม?”
เย่หลานเหลือบมองที่เขาและกล่าวว่า “มีค่ายกลพิเศษในนั้นซึ่งปิดกั้นไม่ให้เทพอมตะเข้า”
ซูผิงเข้าใจในทันที
“สิ่งสำคัญที่สุดของนายตอนนี้คือการพักผ่อนให้เพียงพอและพยายามไปให้ถึงสิบอันดับแรกในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะทำให้นายได้รับสิทธิพิเศษในการเยี่ยมชมอาณาจักรลับทะเลเทพ นายสามารถไปถึงสภาวะเทพดวงดาวได้อย่างง่ายดายด้วยความสามารถของนาย เมื่อนายไปถึงสภาวะเทพดวงดาวแล้ว นายสามารถบ่มเพาะและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของนายจนไปถึงระดับที่สูงขึ้น”โหยวหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ดิแอซกล่าวด้วยความเคารพ “ครับ ศิษย์พี่”
ซูผิงถามด้วยความสงสัย “ศิษย์พี่ อาจารย์ของเรามีศิษย์กี่คน?”
โหยวหลงยิ้มและตอบว่า “ทั้งหมด 83 คน 85 ถ้านับนายทั้งสองคน อาจารย์ของเราจะรับนายสองคนเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง คนใหญ่คนโตจำนวนมากจะมาร่วมแสดงความยินดี รวมทั้งยอดฝีมือเทพอมตะ คนอื่นๆ พิธีถูกเลื่อนออกไปเพราะเธอยังอยู่ระหว่างการแข่งขัน”
“83?”
ทั้ง ดิแอซและซูผิงตกตะลึง ไม่คิดว่าจะมีจำนวนมากขนาดนี้
ดิแอซอดไม่ได้ที่จะถาม “ศิษย์พี่ พี่น้องของเราทั้งหมดอยู่ในสภาวะเทพดวงดาวหรือเปล่า?”
”ส่วนใหญ่ มีศิษย์ใหม่เพียงไม่กี่คนที่ยังคงเป็นเจ้าดวงดาว แต่พวกเขาจะไร้เทียมทานเมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าดวงดาวคนอื่นๆ มันเป็นแค่เรื่องของเวลาก่อนที่พวกเขาจะไปถึงสภาวะเทพดวงดาวเท่านั้น”โหยวหลงหัวเราะและกล่าว
ซูผิงเปลี่ยนการแสดงออกเล็กน้อย รู้สึกตกใจ
พูดอีกอย่างก็คือ เขามีศิษย์พี่สภาวะเทพดวงดาวมากกว่าเจ็ดสิบคน
นั่นเป็นจำนวนผู้สนับสนุนที่น่าสะพรึง
เขาไม่ได้คิดว่ายอดฝีมือสภาวะเทพอมตะจะมีศิษย์สภาวะเทพดวงดาวจำนวนมากขนาดนี้
“ศิษย์พี่คนอื่นๆ ของนายจะมาพร้อมกับของขวัญเมื่อนายได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการ” โหยวหลงหัวเราะคิกคัก “ศิษย์น้องนำเกราะเทพวิญญาณไปพักผ่อนเถอะ บอกฉันว่านายต้องการอะไร เก็บตรานักรบเทพทั้งสองนี้ไว้ด้วย”
เขาโยนเหรียญตราทองคำสองอันให้ซูผิงและดิแอซ
“ไม่ใช่แค่ในเขตดวงดาวแห่งนี้ นายจะได้รับสิทธิพิเศษที่เธอสมควรได้รับไม่ว่าในเขตใดของสหพันธ์ทันทีที่นายแสดงตราทองนี้ แม้แต่เจ้าแห่งกาแล็กซี่เดิมของนายก็จะไม่กล้าที่จะดูหมิ่นนาย”โหยวหลงกล่าว
ซูผิงรับตราและตรวจพบพลังเทพรุนแรงจากมัน
เขาไม่คิดว่าเขาจะทะยานมาถึงจุดนี้หลังจากการแข่งขัน หรือว่าเขาจะได้รับสมบัติอย่างเกราะเทพวิญญาณ
“ตรานักรบเทพนั้นคล้ายกับตราลอร์ดในหลาย ๆ ด้าน นายสามารถเข้าสู่โลกเสมือนจริงที่นายจะสามารถทำอะไรได้มากมาย ตอนนี้ฉันจะพานายไปที่ภูเขาแห่งการบ่มเพาะที่เราฝึกฝนอยู่เสมอ เป็นสถานที่ที่มีพลังดวงดาวมากมาย ใช่แล้วภูเขาวิถีสวรรค์ที่ใช้ในการแข่งขันก็อยู่ที่นั่นด้วย” โหยวหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทั้งคู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบรับ
โหยวหลงยกมือขึ้นและปกคลุมพวกเขาด้วยรัศมีของเขา และหายไปพร้อมกับเย่หลาน
เมื่อพวกเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ซูผิงพบว่าตัวเองอยู่บนยอดเขาที่สวยงามซึ่งอยู่กลางเทือกเขาที่ไร้ขอบเขต อย่างไรก็ตาม นี่ยังคงเป็นพื้นที่เล็กๆ ด้านหนึ่งของสภาเทพอมตะซึ่งยังคงส่องแสงศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระยะใกล้
“นี่ของนาย น้องซู น้องดิแอซอีกเดี๋ยวฉันจะพานายไป”โหยวหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ดิแอซตกตะลึง “พวกเราแต่ละคนจะมีภูเขาของตัวเองหรอ?”
”ใช่ ภูเขาเหล่านี้เรียกว่าภูเขาแห่งการบ่มเพาะ ภูเขาวิถีสวรรค์จะตั้งอยู่ตรงกลางเมื่อกลับมา เธอสามารถเข้าสู่สภาวะการทำสมาธิได้อย่างง่ายดายหากเธอบ่มเพาะที่นี่ และเข้าใจกฎง่ายเหมือนดื่มนม อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายที่จะเข้าใจวิถีที่ต้องใช้ปัญญา
“แน่นอนว่ามันไม่ได้ท้าทายสำหรับคนอย่างพวกเราสักเท่าไหร่
“โดยรวมแล้ว นายเพียงแค่ต้องมุ่งเน้นการบ่มเพาะเท่านั้น ไม่ว่าทรัพยากรใดที่ร่นต้องการ ไม่ว่าจะมีค่าแค่ไหน นายสามารถลงชื่อขอได้ตราบเท่าที่มันมีประโยชน์ต่อนาย”โหยวหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม ทัศนคติของเขาไม่เคยถือตัว
เย่หลานยืนอยู่ข้างๆพวกเขาเงียบ ๆ
ซูผิงมีความรู้สึกผสมปนเปกัน แม้แต่หมูที่มีภูมิหลังทรงพลังก็สามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้ เหมือนกับเด็กจากครอบครัวที่ร่ำรวยที่ได้รับเบี้ยเลี้ยงมากกว่าที่คนส่วนใหญ่จะหาได้ตลอดชีวิต
จากนั้นซูผิงและ ดิแอซก็ดูดซับเกราะเทพวิญญาณ
ตามคำแนะนำของโหยวหลง พวกเขาสัมผัสมันด้วยพลังจิตและผูกมัดมันไว้กับตัว
ซูผิงรู้สึกว่าเกราะหมอกปกคลุมจิตใจของเขาราวกับใยแมงมุม และมันจะถูกกระตุ้นโดยอัตโนมัติหากเขาต้องทนต่อการโจมตีของสภาวะเทพดวงดาว
หลังจากนั้นซูผิงก็สวมสร้อยข้อมือสีม่วง
เมื่อเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะสามารถต้านทานการโจมตีจากเจ้าดวงดาวและสภาวะเทพดวงดาวได้
สำหรับการโจมตีของระดับดวงดาว เขาสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง
นี่เป็นแนวทางของลอร์สูงสุด เขารับรองว่าเราจะไม่ตายตราบใดที่เราไม่ประมาทเกินไป ซูผิงยังคงรู้สึกขัดแย้ง นี่คือความฝันอันสูงส่งที่อัจฉริยะคนอื่นๆ มี
โหยวหลงพูดเกี่ยวกับเคล็ดลับการบ่มเพาะของสภาวะชะตากรรมอีกนิด ก่อนที่เขาจะไปกับ ดิแอซและปล่อยให้ซูผิงอยู่คนเดียว
ภูเขาเพิ่งถูกสร้างขึ้น มันไม่มีกระท่อมหรือบ้าน ซูผิงจะต้องสร้างมันขึ้นมาเองเมื่อเขามีเวลา
ฉันสงสัยว่าท่านหญิงเขียวอยู่ที่ไหน ซูผิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้า อาจารย์สภาวะเทพอมตะให้ความรู้สึกลึกล้ำเหมือนมหาสมุทรลึก ทำให้เขารู้สึกประทับใจเช่นเดียวกับอีกาทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสอีกาทองคำ
ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 912 ศิษย์พี่สภาวะเทพดวงดาว
ตอนที่ 912 ศิษย์พี่สภาวะเทพดวงดาว
Posted by ? Views, Released on ตุลาคม 10, 2022
, ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store
Status: Ongoing
AstralPetStore SliceOfLife กู่ซี ต่อสู้ ต่างโลก นิยายจีน นิยายแปล นิยายแปลต่างโลก ผจญภัย ฝึกอสูร ระบบ ร้านอสูรดวงดาว อสูร แฟนตาซี ไซไฟ
ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…