ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 1035 มันเป็นประโยชน์มากถ้าเธอมองพวกมันเป็นคู่หู

ตอนที่ 1035 มันเป็นประโยชน์มากถ้าเธอมองพวกมันเป็นคู่หู

  โหลวหลานไฮ่เซินมองไปที่ซูผิงด้วยความตกใจและสงสัย นักฆ่าหกคนที่ก่อเหตุฆาตกรรมซึ่งทำให้ทั้งจักรวาลตกใจซ่อนตัวอยู่ในบ้านแห่งการทำลายล้างมาเป็นเวลาสองพันปี จนกระทั่งพวกเขาออกมาและพยายามลอบฆ่าซูผิง!

  ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือการลอบฆ่าของพวกเขาล้มเหลว!

  ทั้งหกคนล้วนเป็นนักฆ่าสิบอันดับแรกในหอคอยทมิฬ แม้แต่เจ้าแห่งระบบดาวเคราะห์ก็ยังกลัวพวกเขา… โหลวหลานเฟิงมีท่าทางที่ซับซ้อน เนื่องจากซูผิงทำให้เขาตกใจได้ทุกครั้ง นักฆ่าเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในอันดับราชาเทพแต่พวกเขามีความสามารถไม่น้อยไปกว่าอัจฉริยะเหล่านั้น!

   คุณคิดออกไหมว่าใครจ้างหอคอยทมิฬมาเพื่อฆ่าผม?  ซูผิงถาม

  โหลวหลานเฟิงและโหลวหลานไฮ่เซินมองหน้ากันและลังเล ไฮ่เซินกล่าวว่า  แม้ว่าเราจะมีสายในหอคอยทมิฬ แต่การลอบสังหารครั้งนี้จะต้องเป็นความลับอย่างสูง เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อตรวจสอบและแจ้งให้คุณทราบหากเราได้ข้อมูลมา 

  ซูผิงพยักหน้าและปล่อยเรื่องนั้นไป

  ขณะที่ซูผิงและโหลวหลานหลินหนีจากอันตราย—ในอีกส่วนหนึ่งของจักรวาล

  การต่อสู้ที่ดุเดือดได้สิ้นสุดลงแล้ว ชายคนหนึ่งบินผ่านมิติลึกไปอย่างรวดเร็ว และอสูรร้ายที่น่ากลัวก็มาจากอีกทิศทางหนึ่งเพื่อรายงานสถานการณ์

   พวกเขาล้มเหลวอย่างที่ฉันคิดไว้ ช่างเป็นพวกขี้แพ้เสียจริงๆ! 

  หยินซิงดูเย็นชาและบูดบึ้ง แม้ว่าจะไม่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ แต่เขาก็ปูทางการฆ่าที่ดีที่สุดไว้สำหรับทั้งหกคน แต่พวกเขาก็ยังล้มเหลว

  ข้อมูลที่ว่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์นั้นแข็งแกร่งเกินจินตนาการเป็นเรื่องจริง และสามารถเติบโตจนกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ภายใต้สภาวะเทพดวงดาวถ้ามีเวลาเพียงพอ!

  หวืด!

  เขาหายตัวไปที่อื่นพร้อมกับอสูรตัวใหญ่

  จากนั้นเขาก็โบกมือเพื่อเปิดใช้งานเทคนิคลับและเอื้อมมือไปในแม่น้ำแห่งเวลา ในไม่ช้าก็เรียกสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ออกมาจากภายใน

  มันเป็นอสูรตัวเล็กที่สามารถอาศัยในเวลาได้ มันดูเหมือนนกอ้วน มีปีกสั้นและขนเป็นประกาย มันร้องจิ๊บ ๆ เมื่อเห็นหยินซิง

  หยินซิงเอาหน้าผากของเขาสัมผัสกับหัวของอสูรร้ายตัวเล็ก และในไม่ช้าก็เห็นฉากมากมาย

  ฆ่าทันที?

  โลกใบเล็กของเด็กเหลือขอนั้นมีกฎสูงสุดสี่ข้อ และทั้งหมดล้วนสมบูรณ์…

  เขาอยู่ในระดับดวงดาวจริงหรอ?

  เมื่อเขาเห็นทั้งหมดแล้ว หยินซิงก็ตกใจมากจนไม่สามารถพูดอะไรได้เป็นเวลานาน

  ใบหน้าของเขามืดมน หากเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เขาคงไม่เชื่อว่าการลอบฆ่าจะล้มเหลวเละเทะแบบนี้!

  เขายังสามารถอ่านริมฝีปากของซูผิงได้ในขณะที่เขาต่อสู้กับนักฆ่า มันค่อนข้างไม่น่าเชื่อ

  ใช่ ไม่น่าเชื่อ

  ไม่น่าเชื่อว่าคนโง่ทั้งหกถูกส่งมาเพื่อลอบฆ่าเด็กคนนั้น!

  เขาเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัว!

  เขาเข้าใจกฎสูงสุดทั้งสี่อย่างสมบูรณ์แล้ว! หยินซิงไม่เคยรู้สึกกดดันแบบนี้ แม้แต่จากอันดับหนึ่งของอันดับราชาเทพ เขารู้ทันทีว่าทำไมเขาถึงได้รับภารกิจนี้

  คนที่จ้างเขาคงรู้อะไรบางอย่าง และต้องการกำจัดสัตว์ประหลาดตัวนั้นออกไปตั้งแต่เนินๆ!

  ไม่ยากเลยที่จะจินตนาการว่าเด็กนี่จะน่ากลัวขนาดไหนเมื่อเขาไปถึงสภาวะเทพดวงดาว สักวันหนึ่งเขาอาจจะไปถึงเทพอมตะ!

  ยิ่งหยินซิงคิดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเท่านั้น เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิด มันจะเป็นหายนะสำหรับเขาถ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นเติบโตและสืบหาต้นตอของการลอบฆ่าที่ล้มเหลวนี้!

   บัดซบ! 

  หยินซิงโกรธ หากเขารู้ล่วงหน้า เขาคงจะลอบฆ่าด้วยตัวเขาเอง แม้ว่าในภายหลังเขาจะต้องซ่อนตัวอยู่ในบ้านแห่งการทำลายล้างไปตลอดก็ตาม เด็กนั่นเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่เกินไป!

  ฉันควรจะคิดให้ดีก่อนยอมรับภารกิจนี้ นี่มีแต่คำว่าขาดทุน!

  หยินซิงสิ้นหวัง เขาแค่หวังว่าคนที่จ้างเขาจะยื่นภารกิจให้คนอื่น

  ถ้าฉันแบ่งปันข้อมูลกับองค์กรของฉัน คนๆ นั้นจะซื้อมันอย่างแน่นอน เขาเป็นคนที่ควรกังวลและจะทำบางอย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเขาโดยไม่จ้างสภาวะเทพดวงดาว! หยินซิงคิด

  เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น เขาก็รู้สึกว่าผู้แพ้ทั้งหกคนไม่ได้ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง อย่างน้อยพวกเขาก็ช่วยให้เขาได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนั่น

  …

  ซูผิงกลับมายังรีอาโดยได้รับการคุ้มครองจากยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวทั้งสองคน

   นายอยู่ที่นี่หรอ? โหลวหลานหลินตรวจสอบระบบดาวเคราะห์นี้ทางออนไลน์หลังจากที่เธอมาถึง เธอรู้สึกทึ่งและอยากรู้เกี่ยวกับอดีตของซูผิง

   แค่ตอนนี้  ซูผิงตอบ

  ในทางหนึ่ง ดาวเคราะห์ดูเหมือนเป็นเหมือนยานอวกาศของเขา แม้ว่า…

  โหลวหลานไฮ่เซินและโหลวหลานเฟิงซ่อนกลิ่นอายของพวกเขาไว้เมื่อพวกเขามาถึงท้องฟ้าเหนือเมืองวอฟเฟ็ต จากนั้นก็บินลงมาพร้อมซูผิง โดยที่ยังคงรักษาตัวตนธรรมดาไว้ ไม่นานพวกเขาก็มาถึงร้าน

   นายเปิดร้านขายอสูรจริงๆหรอเนี่ย?  ซูผิงพูดถึงเรื่องนี้ระหว่างทาง แต่โหลวหลานหลินก็ยังตกใจเมื่อมาถึง

  ศิษย์ของยอดฝีมือเทพอมตะ อัจฉริยะที่ปราบปรามคนระดับเดียวกันได้ แท้จริงแล้วคือเจ้าของร้านขายอสูร?

  เขาไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ให้ทำแล้วหรอ?

   ใช่แล้ว  ซูผิงตอบอย่างภูมิใจ  นี่คือร้านของฉัน 

  โหลวหลานหลินพูดไม่ออก

  ลูกค้าที่รอต่อแถวร้องอุทานด้วยความดีใจเมื่อเห็นซูผิง

   นั่นเจ้าของร้านซู! 

   คุณซูกลับมาแล้ว! 

  ซูผิงเป็นคนดัง เป็นแชมป์ระดับจักรวาล แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปีนับตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันครั้งล่าสุดและดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ก็ลืมมันไปแล้ว แต่มันยังสดใหม่เหมือนเมื่อวานสำหรับชาวพื้นเมืองของรีอา ทุกคนต่างภาคภูมิใจในตัวเขา!

  ซูผิงทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เชิญโหลวหลานเฟิงและคนอื่นๆ เข้าไปข้างในร้าน ท้ายที่สุดพวกเขาได้ช่วยคุ้มกันเขาตลอดทาง มันคงไม่สุภาพที่ถ้าไม่ชวนพวกเขาเข้ามา

  ยอดฝีมือทั้งสองไม่ปฏิเสธคำเชิญของเขา พวกเขาอยากรู้เกี่ยวกับร้านของซูผิงมากซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดา สัมผัสของพวกเขาไม่สามารถเจาะเข้าไปในร้านได้

   ในที่สุดนายก็กลับมา ถังยู่หรานได้ยินเสียงดังและกำลังพูดต่อ แต่เมื่อเธอเห็นโหลวหลานหลินข้างหลังซูผิง รอยยิ้มของเธอก็ค้างและหายไป เธอถามว่า  พวกเขาเป็นลูกค้าหรอ? 

   เพื่อน  ซูผิงตอบอย่างสบายๆ เขาไม่พบสิ่งผิดปกติในน้ำเสียงของถังยู่หราน

  โหลวหลานหลินสังเกตถังยู่หราน และพบว่าเธอยังไม่ถึงระดับดวงดาวด้วยซ้ำ จากนั้นเธอก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา

  เธออ่อนแอและสวยน้อยกว่าฉัน เธอไม่ใช่ภัยคุกคาม โหลวหลานหลินคิดในใจ

  ถังยู่หรานดูเหมือนจะไม่สนใจที่จะคุยกับผู้มาเยี่ยม เธอหันหลังและเข้าไปในร้าน

  ภายในร้าน—ท่านหญิงเขียวเห็นซูผิงและทักทายเขาด้วยรอยยิ้มว่า  นายกลับมาแล้ว  จากนั้นเธอก็มองไปที่สภาวะเทพดวงดาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเขา(ท่านหญิงเขียวอยู่มานานแล้ว น่าจะเปลี่ยนกลับมาเรียกพระเอกแบบคนสมัยใหม่ได้แล้ว)

   นายกลับมาแล้ว  โจแอนนาเหลือบมองเขาและทักทาย เธอยังคงนิ่งเงียบ ไม่เสียเวลากับการพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ อย่างไรก็ตาม เธอเริ่มมองว่าเขาเป็นมากกว่าคนนำทางในแดนเทพอาเคี่ยนหลังจากที่เขาพาเธอไปที่นั่นซะที

   ใช่แล้ว  ซูผิงพยักหน้า

  โหลวหลานหลินค่อยๆ หุบยิ้ม ไม่มีอะไรจะพูด

  ถังยู่หรานเหลือบมองโหลวหลานหลินด้วยริมฝีปากที่โค้งงอ

   สภาวะเทพดวงดาว… โหลวหลานไฮ่เซินเห็นท่านหญิงเขียวและหรี่ตาลง เขารีบพยักหน้าหน้าทักทายเธอทันที

  เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้สนับสนุนของซูผิง ไม่จำเป็นต้องหยิ่งเกินไปต่อหน้าเธอ เนื่องจากตระกูลโหลวหลานพยายามจะสร้างความประทับใจให้กับซูผิงอยู่แล้ว

   ทำตัวตามสบายเลยครับ ผมมีธุระต้องไปทำ ทำงานของเธอต่อไป  ซูผิงกล่าวแก่ผู้มาเยี่ยมและหญิงสาวที่ดูแลร้าน

  ท่านหญิงเขียวนิ่งเงียบ เธอไม่ได้รับรู้ถึงเจตนาร้ายจากสภาวะเทพดวงดาวทั้งสอง ดังนั้นเธอจึงตั้งใจกับงานของตัวเอง

   พวกเธอคือ…  โหลวหลานหลินกัดริมฝีปากราวกับอยากจะถามอะไรบางอย่าง

   พวกเธอเป็นเพื่อนและพนักงานของฉัน  ซูผิงกล่าว

   พนักงาน? โหลวหลานหลินตกตะลึง เธอกระซิบเบา ๆ อย่างโล่งใจ  รวมถึงยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวนั้นด้วยหรอ? 

   ใช่ 

  ซูผิงตอบเสียงเบา  เธอได้ยิน ไม่ว่าเสียงของเธอจะเบาแค่ไหน 

  โหลวหลานหลินจ้องมองเขา เธอเพียงแต่ลดเสียงลงเพื่อให้มีมารยาท เธอรู้ดีว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องได้ยินเธออย่างแน่นอน

   อาจารย์ของนายส่งพวกเธอมาช่วยนายหรอ?  โหลวหลานหลินถามด้วยความสงสัย ดูเหมือนเป็นไปได้ที่อาจารย์ของเขาจะส่งสภาวะเทพดวงดาวมาปกป้องเขา แต่ทำไมผู้คุ้มกันไม่ตามไปที่ตระกูลโหลวหลาน? การเดินทางครั้งนี้ไม่อันตรายหรอ?

   อย่าเพิ่งสอดรู้  ซูผิงพูดดุๆ

  ท่านหญิงเขียวเหลือบมองโหลวหลานหลินเงียบ ๆ

  โหลวหลานหลินหยุดถามเมื่อเห็นว่าซูผิงไม่เต็มใจที่จะบอก เธอไม่ได้ใส่ใจ จากนั้นเธอก็มองไปรอบๆ ร้านแล้วถามว่า  นายเปิดร้านขายอสูรทำไม? จากสถานะของนายตอนนี้นายสามารถทำอะไรก็ได้ 

   เพราะฉันอยากทำ  ซูผิงพูดอย่างเป็นกันเอง  อีกอย่างมันเป็นงานของฉัน 

   งานของนาย? โหลวหลานหลินรู้สึกตลก  ใครหมอบหมายงานให้นาย? แม้แต่ลอร์ดสูงสุดก็คงไม่ขอให้นายทำเรื่องน่าเบื่อแบบนี้หรอกใช่ไหม? 

  ซูผิงถามอย่างเคร่งขรึม  เธอคิดว่าการเปิดร้านขายอสูรน่าเบื่อหรอ? 

  โหลวหลานหลินตกตะลึงเล็กน้อย เธอสามารถบอกได้จากการแสดงออกของเขาว่าเขาไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องตลก เธอขมวดคิ้วและพูดว่า  ฉันหมายความว่าถ้านายทำงานนี้เป็นหลัก มันจะมีประโยชน์กับนายตรงไหน? การเปิดร้านขายอสูรมีประโยชน์กับนายด้วยหรอ? 

   แน่นอน  ซูผิงสงบลงและตอบอย่างเป็นกันเอง  นักรบอสูรต้องเชื่อมโยงกับอสูรให้ได้มากที่สุด มิฉะนั้นเธอจะรู้ได้ยังไงว่าอสูรของเธอคิดอะไร ชอบกินอะไร และชอบเล่นอะไร 

  โหลวหลานหลินตกตะลึง  ความรู้พวกนั้นมีประโยชน์? 

  ซูผิงเลิกคิ้วและพูดต่ออย่างสบายๆ  มันไม่สามารถพัฒนาพลังต่อสู้ของเธอได้ อย่างไรก็ตามมันมีประโยชน์มากหากเธอคิดว่าอสูรเป็นคู่หูของเธอ เธอก็จะอยากรู้ว่าคู่หูของเธอชอบกินอะไร ชอบทำอะไร 

  มีประโยชน์มากถ้าเธอคิดว่าอสูรเป็นคู่หูของเธอ …โหลวหลานหลินไตร่ตรองคำพูดของเขาและเงียบ เธอจ้องไปที่ซูผิง รู้สึกเข้าใจเขา เธอพยักหน้าเบาๆ  เข้าใจแล้ว.. 

  ��

 

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store

Status: Ongoing

ฉันถูกส่งไปยังโลกแห่งอสูร มีสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ทุกขนาด พวกมันสามารถเป็นสหายน่ากอด ผู้ช่วยในชีวิตประจำวัน หรือนักสู้ ไม่เลวเลยใช่ไหมละ? ฉันมีครอบครัว แต่ความจริงกลับถูกบดบังโดยน้องสาวฉัน เธอเกลียดฉันมาก และก็คอยรังแกฉันทุกวัน ฉันบอกหรือยังว่าเธอมีพรสวรรค์สูงมาก ส่วนฉันเป็นคนไร้พรสวรรค์?ก็แค่หล่อสุดๆ ฉันมีอิสระในการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเอง ร้านอสูรเล็กๆ มันควรจะดีหากไม่ใช่ความจริงที่เจ้าของร่างเดิมนี้เกิดมามีความสัมพันธ์เป็นศูนย์กับการควบคุมอสูรดวงดาว… คงไม่คิดว่ามันเป็นการข้ามโลกโดยไร้ระบบหรือกลไกอะไรที่จะปูถนนให้ฉันหรอกนะ?ฉันมี แต่ฉันไม่รู้ว่าไม่มีมันจะดีกว่าไหม…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท