บทที่ 351 ความผิดพลาดใหญ่หลวง
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ: แปลได้แล้ว
“เอาล่ะ!”
นัยน์ตาของเจียงอี้เปล่งประกายเยือกเย็นขณะที่เขาตะโกนออกมา“เวรล่ะ! ผู้อาวุโสเฮ่อ ท่านรับมือไปก่อน ข้าจะไปฆ่าไอสารเลวนั่น”
“โบร๋วโบร๋ว!”
“ก๊าก๊า!”
“ดู๊ดู๊!”
สัตว์กลายพันธุ์กว่าสิบตัวแห่ออกมาขณะที่พวกมันที่เหลือต่างก็โผล่ออกมาจากที่ราบแต่ไกลสัตว์กลายพันธุ์ไม่ได้โจมตีหยุนลู่ที่อยู่บนยอดเขา นั่นเห็นได้ชัดว่าหยุนลู่ควบคุมอาคมยับยั้ง กลไกและสัตว์กลายพันธุ์เหล่านี้ได้
“ฮึ่ม!”
เจียงอี้ไม่ได้สนใจในสัตว์กลายพันธุ์ที่มาจากทั่วทุกสารทิศเหล่านี้ในความคิดเขา สัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษยกเว้นพลังป้องกันของพวกมัน หากเขาสามารถปราบสัตว์อสูรระดับสามได้เขากคงไม่มีปัญหากับสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้หรอกใช่ไหม?
ฟึ่บ!
เจียงอี้แล่นไปข้างหนาอย่างรวดเร็วเหมือนสายลมที่พัดผ่านภูเขาลูกเล็กๆเขาวิ่งตรงไปยังสัตว์กลายพันธุ์ร่างยักษ์หลยตัว มีสัตว์กลายพันธุ์สามตัวอยู่ด้านนั้น หนึ่งในนั้นคือมังกรทรราช อีกตัวเหมือนเป็นสิงโตหิมะและอีกตัวเหมือนสัตว์สายพันธุ์โบราณ ซวนหนี[1] ด้วย
การต่อสู้อย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน?
แม้ว่าเจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อจะมีแก่นแท้พลังที่พอประคองได้แต่ร่างกายและพลังงานจิตของพวกเขาคงไม่สามารถทนทานได้ ดังนั้น เจียงอี้จึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องฆ่าหยุนลู่ เมื่อสัตว์เหล่านี้ไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของหยุนลู่แล้ว พวกเขาก็จะมีโอกาสรอดมากขึ้น เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะตรงไปด้านหน้าต่อและมุ่งมั่นที่จะฆ่าหยุนลู่มากกว่าเดิม
โฮกกก!
มังกรทรราชอยู่ด้านหน้าเขาและทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหวมันจะใกล้เข้ามาสามกิโลเมตร ปากขนาดยักษ์สีแดงของมันเปิดกว้างมาแต่ไกลและพ่นลมหายที่น่ารังเกียจมายังเจียงอี้ทำให้เขารู้สึกเวียนหัว
บุฟ!
ร่างของเจียงอี้ส่องสว่างด้วยแสงสีขาวขณะที่เขาย้ายร่างออกห่างมังกรทรราชทันทีและยังคงมุ่งหน้าต่อไปเมื่อมังกรทรราชเห็นว่าเจียงอี้หายวับไป มันก็สะบัดหัวของมันและพุ่งไปยังผู้อาวุโสเฮ่อทันที
ฟุ่บฟั่บ!
ร่างของเจียงอี้เพิ่งปรากฏขึ้นอีกครั้งและเขาก็มาอยู่ตรงหน้าสิงโตหิมะซึ่งมันอ้าปากพ่นลมหายใจสีขาวออกมาทุกที่ที่ลมหายใจสีขาวถูกพ่นใส่นั้นจะแข็งไปในทันที ร่างของเขียงอี้สั่นเทาและเขาก็ไม่กล้าที่จะอยู่นานกว่านี้แม้แต่นิดเดียวและย้ายร่างในทันที
อึกอั้ก!
สัตว์กลายพันธุ์ที่ดูเหมือนซวนหนีนั้นจะมีหางยาวเป็นพิเศษก่อนที่ร่างของเจียงอี้จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง หางโลหะของมันก็ทิ้งไว้เพียงภาพติดตาไว้ในอากาศขณะที่เสียงดังได้ทำให้แก้วหูของเจียงอี้ต้องทรมาน
“เวรล่ะ!”
ครั้งนี้เจียงอี้ไม่มีเวลาพอที่จะย้ายร่างกระทันหันทางเลือกเดียวของเขาก็คือกวัดแกว่งดาบมังกรเพลิงในมือของเขาและผ่าไปที่หาง
ฟึ่บฟั่บ!
เจียงอี้ใช้พันธนาการสายลมเพื่อปล่อยมังกรวายุหลายตัวมาเพื่อยับยั้งหางนั่นและเขาก็ต้องแปลกใจที่พบว่าพันธนาการสายลมที่สามารถยับยั้งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวได้ง่ายๆกลับไม่สามารถยับยั้งหางสัตว์กลายพันธุ์นี่ได้
แต่มันก็ยังคงควบคุมความเร็วของสัตว์ตัวนี้ได้กว่าห้าส่วนมันสามารถจินตนาการได้แล้วว่าสัตว์กลายพันธุ์นี้มีความแข็งแกร่งมากเพียงใด
ปึง!ปึง!
มังกรเพลิงทั้งสองพุ่งปะทะไปที่หางทำให้เกล็ดบนหางของมันแตกกระเด็นออกขณะที่มีเลือดพุ่งออกมาในที่สุดเจียงอี้ก็ยับยั้งหางนั้นได้
ฟึ่บ!
หางนั้นหยุดอยู่กลางอากาศก่อนที่มันจะกลับไปที่เจียงอี้ทันทีอย่างไรก็ตาม มันก็มีเวลาเพียงพอที่เจียงอี้จะสามารถย้ายร่างได้แล้ว
“หยุนลู่ตายซะ!”
เมื่อเจียงอี้ย้ายร่างติดต่อกันสามครั้งทันทีเขาก็ไปไกลกว่าหนึ่งกิโลเมตรและหยุนลู่ก็อยู่ห่างออกไปอีกเพียงนิดเดียวกลิ่นอายสังหารและดวงตาสีแดงเลือดของเจียงอี้ทำให้ดวงวิญญาณของหยุนลู่สั่นสะท้านไปหมด หยุนลู่จึงไม่ลังเลอีกต่อไปก่อนที่เขาจะหนีไปและเมื่อเขาผ่านยอดเขาไป ก็มีป้ายทองคำในมือของเขาสว่างขึ้นมา
ปัง!
ยอดเขาแตกออกเป็นชิ้นๆขณะที่ดิน,หินและก้อนน้ำแข็งจะกระจัดกระจายและทำให้เกิดหิมะตกขณะที่สัตว์กลายพันธุ์มากมายโผล่ออกมา หยุนลู่ไม่ได้มีความเกรงกลัวใดๆขณะที่เขารีบตรงไปยังสัตว์กลายพันธ์แทนและกระโดดขึ้นไปที่หลังของหนึ่งในพวกมัน ป้ายทองในมือของเขาเปล่งแสงอีกครั้งขณะที่สัตว์กลายพันธุ์ต่างพากันคำรามสู่ท้องฟ้าและเหินไปไกลออกไปขณะที่มีหยุนลู่อยู่บนหลัง
“หยุนลู่มันสามารถควบคุมอาคมยับยั้งและสัตว์กลายพันธุ์ได้จริงๆสินะ!”
เจียงอี้เห็นมันได้อย่างชัดเจนจากด้านหลังและหัวใจของเขาแทบจะร่วงลงไปป้ายในมือของหยุนลู่ยังคงส่องสว่างขณะที่ยอดเขาใกล้ๆทั้งหมดแตกสลายไป สัตว์กลายพันธุ์ต่างก็ปะทุออกมาจากพื้นดินและแห่กรูกันเข้าไปหาเขา
ฟึ่บ!
เจียงอี้ย้ายร่างไปทางหยุนลู่อย่างต่อเนื่องซึ่งเขาต้องไล่ตามหยุนลู่ให้ได้ด้วยทุกสิ่งที่เขามี!
สัตว์กลายพันธุ์ที่หยุนลู่ขี่มันอยู่นั้นค่อนข้างรวดเร็วแต่มันก็ยังช้ากว่าการย้ายร่างของเจียงอี้มีสัตว์กลายพันธุ์มากมายอยู่ข้างหน้าและสัตว์เหล่านี้อาจฆ่าเจียงอี้ได้หากเขาไม่ทันระวัง หากเขาไม่คว่ำหยุนลู่เสีย เขาและผู้อาวุโสเฮ่อก็จะถูกรายล้อมไปด้วยสัตว์พวกนี้และถูกฆ่าตาย
“ไปพวกเจ้าทุกตัวจงไปฆ่าเจียงอี้ซะ! ฉีกมัน! กัดมัน!” หยุนลู่ยังคงตะโกนและควบคุมสัตว์กลายพันธุ์หนีไปขณะที่ควบคุมให้สัตว์ตัวอื่นพุ่งตรงมาที่เจียงอี้
เมื่อหยุนลู่เข้ามาที่นี่เขาก็ได้รับป้ายเพื่อสร้างพันธะ และมันจึงทำให้เขาสามารถควบคุมอาคมยับยั้งมากมาย, สัตว์อสูร,และแม้แต่สัตว์กลายพันธุ์ได้
ร่างของเขาหมุนเวียนด้วยเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลหยุนจอมเวทย์นั้นเลือดเย็นมากและไม่ให้ผู้ใดก็ตามที่ก้าวเข้ามาที่นี่แล้วสามารถหนีออกไปได้ เมื่อเขากำลังจะตาย เขาก็ไม่ได้โหดเหี้ยมมากพอที่จะฆ่าสมาชิกตระกูลหยุนต่อไป
อาคมของเขานั้นต้องการให้ผู้สืบทอดเป็นคนตระกูลหยุนเขาจึงได้ทิ้งอาคมยับยั้งไว้หากลูกหลานตระกูลหยุนคนใดที่มีความสามารถที่จะเข้ามาได้ เขาผู้นั้นกจะถูกย้ายไปยังสถานที่พิเศษและได้ป้ายนี้ไป
หยุนลู่นั้นไม่ได้มีความสามารถอะไรแต่ในฐานะองค์ชายที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลจอมเวทย์เขาได้รับศิลาชั้นสูงมา ดังนั้นเขาจึงสามารถปรับแต่งพวกมันและบรรลุขอบเขตเสินโหยวได้เมื่อไม่นานมานี้ คุณสมบัติเหล่านี้เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับจอมเวทย์ และมันเป็นโชคชะตาที่ทำให้เขาได้รับป้ายนี้มาครอง
หลังจากที่เขาขัดเกลาป้ายแล้วเขาก็ได้รับแผนที่ของพื้นที่ต้องห้ามของจอมเวทย์มาและยังมีวิธีการควบคุมอาคมยับยั้งอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีทักษะการใช้ศาสตร์เวทย์มนตร์โบราณอีกสามทักษะ แต่สัญชาตญาณของเขานั้นด้อยนักจึงไม่สามารถเข้าใจทักษะเวทย์มนตร์ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ในกรณีเหล่านี้เขามีข้อได้เปรียบมากมายซึ่งอนุญาตให้เขาผ่านชั้นสอง, ชั้นสาม และเขาวงกต แถมในตอนนี้ยังสามารถควบคุมสัตว์กลายพันธุ์พวกนี้ได้อีก
ในความเป็นจริงแล้ว….เขาสามารถไปยังชั้นห้าได้เลยและมีโอกาสที่จะได้รับมรดกที่แท้จริงของจอมเวทย์ซึ่งเขาจะสามารถเดินออกจากที่แห่งนี้ได้ แต่ความปรารถนาในการฆ่าเจียงอี้นั้นท่วมท้นเกินไป เขารออยู่ที่ชั้นล่างเพื่อรอให้เจียงอี้ตามมา เขาใช้ประโยชน์จากอาคมยับยั้ง, ควบคุมสิ่งมีชีวิตตาแดงและควบคุมสัตว์กลายพันธุ์ที่นี่เพื่อฆ่าเจียงอี้
ใจของเขาจะไม่สงบหากเขายังไม่เห็นเจียงอี้ตายไปเพราะความคิดที่ไม่สมเหตุสมผลของเขา เขาจึงไม่ต้องการที่จะข้ามไปยังชั้นห้าเช่นนี้
ตอนนี้เขาเห็นว่าเจียงอี้ย้ายร่างมาอยู่ด้านหลังเขาพร้อมหลีกเลี่ยงสัตว์กลายพันธุ์แต่ละตัวด้วยการหลบหลีกที่คล่องแคล่วและลดช่องว่างระยะห่างของพวกเขาลงเรื่อยๆหยุนลู่จึงตระหนักได้ว่าเขานั้นทำพลาดไป และมันเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เขาไม่ควรอยู่ที่นี่ เขาควรที่จะออกไปยังชั้นห้าเพื่อรับมรดกจากจอมเวทย์และหลังจากนั้นก็หาทางฆ่าเจียงอี้
“เช่นนั้นก็มาเลย!เจียงอี้ หากเจ้าต้องงการฆ่าข้า งั้นเราก็มาตายด้วยกันเถอะ!”
มันยังคงค่อนข้างไกลอยู่ก่อนที่จะถึงทางออกชั้นห้าซึ่งหยุนลู่รู้อย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่มีทางทำได้ก่อนที่เจียงอี้จะมาถึงตัวเขา ดังนั้น ดวงตาของเขาได้ส่อแววชั่วร้ายพร้อมป้ายที่กำลังส่องสว่าง และก็มีแผนที่ปรากฏขึ้นในมือของเขา เขามองแวบหนึ่งและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างร้ายกาจ เขาทำให้สัตว์กลายพันธุ์หันไปทางซ้ายอย่างไม่ลังเล
ทางด้านซ้ายไม่ปรากฏธารน้ำแข็งอยู่เลยในระยะไม่กี่กิโลเมตรแต่มันมีทะเลน้ำแข็งแทน ทะเลน้ำแข็งนั้นปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งหนาและมันก็ดูสงบมาก มีเพียงหยุนลู่เท่านั้นที่รู้ว่ามีสิ่งสยองขวัญอะไรที่ซ่อนอยู่ใต้ทะเลน้ำแข็งนั้น…
[1]ซวนหนี คือ หนึ่งในเก้าของลูกมังกรในตำนานศักดิ์สิทธิ์ของจีน
เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven – บทที่ 351 ความผิดพลาดใหญ่หลวง
บทที่ 351 ความผิดพลาดใหญ่หลวง
Posted by ? Views, Released on พฤศจิกายน 10, 2021
, เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
Status: Ongoing
นิยายกำลังภายใน นิยายจีน นิยายจีนย้อนยุค นิยายจีนแปลไทย นิยายดราม่าเข้มข้น นิยายบู๊ล้างผลาญ นิยายผจญภัยมันๆ นิยายแฟนตาซี นิยายแฟนตาซีสนุกๆ แก้นแค้น
เรื่องย่อ
ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เจียงอี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศและการ
ถูกเหยียดหยามเนื่องจากจุดตันเทียนของเขาถูกผนึกไว้
วันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าผนึกในตันเทียนของเขาได้ถูก
ทำลายและถูกแทนที่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยการบ่มเพาะเปลวไฟ
ศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ของเขา การเดินทางอันแสนท้าทายของเจียงอี้
จึงได้อุบัติขึ้น!
หากมวลมนุษย์กล้าปฏิบัติกับข้าอย่างไม่เป็นธรรม ศพนับล้านจะต้อง
เกลื่อนปฐพี!
หากแม้แต่สวรรค์ยังไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะแผดเผาสวรรค์ทิ้งเสีย!