เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven – บทที่ 382 ราชันปีศาจทะเล

บทที่ 382 ราชันปีศาจทะเล

บทที่ 382 ราชันปีศาจทะเล
“หืม?”
ผู้อาวุโสเฮ่อลืมตาขึ้นและกวาดมองไปรอบๆด้วยความตื่นตัว จากนั้นเขาก็พุ่งออกจากกระโจนอย่างรวดเร็ว
สัตว์อสูรหยาจื้อที่อยู่ไกลออกไปก็ถูกกระตุ้นเตือนเช่นกัน แต่มันทำเพียงแค่ลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะหมดความสนใจและหลับต่อ
“นี่…”
เจียงอี้ตกตะลึง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆความสามารถในการมองเห็นถึงได้ยกระดับขึ้น กระทั่งเจียงเสี่ยวนู๋ก็ยังไม่กล้ามองเข้าไปในตาของเขาอีกต่อไป ดวงตาของเขาในตอนนี้ดูคล้ายกับว่ามีดาบอันงดงามถูกผนึกไว้อยู่
“นายน้อยอี้? นี่ท่านใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วหรือ?”
ผู้อาวุโสเฮ่อโพล่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก เจียงอี้ลุกขึ้นและกวาดมองไปรอบๆด้วยความรู้สึกอันแปลกใหม่
“สิ่งนี้คือสัมผัสศักดิ์สิทธิ์หรือ? มันเป็นไปได้ยังไง?”
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์!
ต้องทราบก่อนว่าความสามารถนี้มีเพียงตัวตนระดับนักสู้ขอบเขตจินกังขึ้นไปเท่านั้นถึงจะครอบครองได้ มันคือพลังพิเศษที่ช่วยให้นักสู้สามารถตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบนฟ้าหรือใต้พื้นพิภพในรัศมีสามสิบกิโลเมตร
แต่ที่แปลกก็คือขั้นพลังของเจียงอี้ยังไม่แตะชายขอบของระดับจินกังด้วยซ้ำ แต่ทำไมเขาถึงใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว?
“สัตว์อสูรหยาจื้อ!”
เมื่อนึกขึ้นได้ เจียงอี้ก็รีบวิ่งออกไปและมุ่งหน้าไปหาสัตว์อสูรหยาจื้อทันที
“ราชันสัตว์อสูร ทำไมดวงจิตของข้าถึงเปลี่ยนแปลงไป? แล้วไหนจะสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นี่อีก?”
“เหอะ!”
ราชันสัตว์อสูรเค้นเสียงด้วยความเย็นชาและเอ่ย
“ใบว่านน้ำที่เจ้าสกัดกลั่นไปนั้นคือหนึ่งในสมบัติที่ช่วยยกระดับจิตวิญญาณของเจ้า มันไม่ใช่สมบัติภายในทวีปเทียนชิงและไม่ใช่สิ่งที่สมบัติในประเภทเดียวกันจะเทียบได้ เจ้าไม่สงสัยรึว่าทำไมเจ้าถึงต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะดูดซับมันได้สำเร็จ?”
“อ่า?”
เจียงอี้คิดไว้แล้วว่าใบว่านน้ำที่จอมเวทย์มอบให้ต้องไม่ธรรมดา แต่เขาไม่นึกว่ามันจะช่วยยกระดับจิตวิญญาณของเขาให้เทียบเท่ากับยอดฝีมือขอบเขตจินกังในก้าวเดียว
มันไม่ได้มีต้นกำเนิดจากทวีปเทียนชิง?
ดวงตาของเจียงอี้ส่องประกาย หลังจากที่คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ราชันสัตว์อสูร เจ้ากับท่านจอมเวทย์เคยออกไปท่องเที่ยวนอกทวีปเทียนชิงหรือไม่? โลกภายนอกเป็นเช่นไร? มันมีหลากหลายทวีปหรือไม่?”
“ไม่เคย!”
สัตว์อสูรหยาจื้อกลอกตาไปมาและเอ่ยตอบด้วยความรำคาญ
“นายท่านกับข้าใช้เวลาส่วนใหญ่เดินทางไปรอบๆทวีปนี้เท่านั้น ที่ทะเลด้านนอกเต็มไปด้วยปีศาจทะเลที่ทรงพลัง แม้ว่าพวกเราจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปในเวลานั้นแต่พื้นที่ที่พวกเราออกสำรวจได้ก็ยังมีจำกัด โชคดีที่พวกเราค้นพบโบราณสถานหลายแห่งจึงทำให้ได้รับสมบัติมาบ้าง…”
บ้าหน่า!
เจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก จอมเวทย์แห่งตระกูลหยุนสามารถทะลวงสู่ขอบเขตเทียนจุนได้ในปีนั้นซึ่งคนภายนอกไม่ได้รับรู้
อย่างไรก็ตาม เขาอุทิศชีวิตในการไขว่คว้าพลังและไม่คิดที่จะรวบรวมทวีปเป็นหนึ่งเดียว มิฉะนั้นด้วยพลังของเขา ใครกันที่จะกล้าต่อต้าน?
ชนชั้นราชันสวรรค์ที่ผนึกกำลังกับราชันสัตว์อสูรระดับสูงสุดยังไม่กล้าที่จะออกสำรวจในบริเวณทะเลน้ำลึก เพียงแค่เรื่องนี้ก็ทำให้เจียงอี้ต้องลบความคิดเดิมเกี่ยวกับปีศาจทะเลออกไปทั้งหมด
“มีราชันสัตว์อสูรมากน้อยเพียงใดในทะเลน้ำลึก?”
ในขณะที่เจียงอี้เตรียมจะสอบถามเกี่ยวกับทะเลน้ำลึก จู่ๆราชันสัตว์อสูรหยาจื้อก็ลุกพรวดขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดพร้อมทั้งระเบิดกลิ่นอายอันทรงพลังและจ้องมองไปยังทะเลด้านตะวันออกด้วยแววตาอันเคร่งขรึม
“เอ่อ?”
เจียงอี้และผู้อาวุโสเฮ่อกลายเป็นโง่งม พวกเขาไม่เข้าใจการกระทำของราชันสัตว์อสูร แต่ก่อนที่จะทันได้ถามอะไร อีกฝ่ายก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน
“หนีเร็ว! ปีศาจทะเลจำนวนมากกำลังมาที่นี่! ภายในนั้นยังมีชนชั้นราชันปะปนอยู่ด้วย ข้าจะถ่วงเวลาไว้ พวกเจ้ารีบวิ่งไปทางเกาะดาวตกให้เร็วที่สุด รีบไป!”
“ปีศาจทะเล? ชนชั้นราชัน?”
คนทั้งสองต่างพากันตกใจ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงส่วนไหนของทะเลกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือมันไม่ใช่บริเวณ ‘น้ำลึก’ แน่นอน ถึงจะมีปีศาจทะเลโผล่ออกมาให้เห็นอยู่บ้าง แต่อย่างมากก็เป็นเพียงปีศาจทะเลระดับสามเท่านั้น มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ราชันสัตว์อสูรจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่?
นอกเสียจากว่า… มันจะถูกล่อมาโดยใครบางคน!
ประกายแสงอันเย็นชาแววผ่านม่านตาของเจียงอี้ เหมือนกับที่จักรพรรดินีสัตว์อสูรกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ กลุ่มคนที่อยู่ภายในเงามืดกำลังเคลื่อนไหว แม้ว่าจะไม่กล้าลงมืออย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะดึงดูดปีศาจทะเลจำนวนมากเพื่อมาสังหารกลุ่มของเจียงอี้
ด้วยวิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ ต่อให้เจียงอี้ตายไป จักรพรรดินีสัตว์อสูรและสุ่ยโย่วหลานก็ไม่อาจที่จะกล่าวหาผู้ใดได้!
ฟึ่บ!
ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ตอนนี้เจียงอี้ไม่กล้าอยู่เฉยอีกต่อไป เขาวิ่งไปคว้าร่างของเจียงเสี่ยวนู๋ไว้และนำแจกันเขียวพิสุทธิ์ขึ้นมา พร้อมทั้งนำร่างของนางและผู้อาวุโสเฮ่อใส่ลงไป จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังเกาะดาวตกด้วยความเร็วสูงสุด
โฮกกกกกก!
สัตว์อสูรหยาจื้อระเบิดกลิ่นอายทั้งหมดออกมาโดยไม่ปิดปัง มันทะยานร่างขึ้นเหนือท้องฟ้าและกู่คำรามเสมือนว่าต้องการที่จะเตือนกลุ่มศัตรู
ฟึ่บ!
ร่างของเจียงอี้กลายเป็นแสงสีขาวก่อนที่จะหายไปจากตำแหน่งเดิมและไปปรากฏตัวอยู่ไกลออกไปนับสิบกิโลเมตร
ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่นึกเลยว่าการยกระดับจิตวิญญาณจะทำให้ความสามารถของศาสตร์แปรผันดวงจิตพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้
เจียงหยุนไฮ่เคยบอกกับเขาในอดีตว่า อีเพียวเพียวเองก็เคยเคลื่อนย้ายในพริบตาได้ไกลหลายสิบกิโลเมตรเช่นเดียวกัน
“กู้กู้!”
“โฮกก!”
“กรัช! กรัช!”
เสียงกู่คำรามของเหล่าปีศาจทะเลดังขึ้นมาจากทางทิศตะวันออกอย่างไม่ขาดสาย
ไม่นานนัก พื้นผิวทะเลก็เกิดการสั่นสะเทือนพร้อมกับคลื่นสูงที่พัดเข้ามานับพันลูก ไม่กี่ลมหายใจต่อมา ฝูงสัตว์ประหลาดก็เผยออกมาให้เห็นและเข้าปกคลุมพื้นที่กว่าห้าสิบกิโลเมตรเลยทีเดียว
”วิ่ง—!”
เมื่อเจียงอี้เห็นร่างของสัตว์อสูรหยาจื้อที่พุ่งเข้าหาฝูงปีศาจทะเล หัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้นและตัดสินใจหลบหนีด้วยทุกสิ่งที่มี
ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดผวาเมื่อสัมผัสได้ถึงกลุ่มก้อนพลังสองแห่งที่ปลดปล่อยแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวออกมา กลิ่นอายของพวกมันสามารถเทียบได้กับชนชั้นราชันสัตว์อสูรเลยทีเดียว เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาก็รีบหนีโดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับมามองอีก
“โฮกกก!”
“วู้ วู้!”
สงครามระหว่างสัตว์อสูรหยาจื้อและฝูงปีศาจทะเลปะทุขึ้นในไม่ช้า ถึงเจียงอี้จะไม่ใช้ตามอง แต่หูของเขาก็ได้ยินเสียงคำรามของเหล่าสัตว์ประหลาดได้อย่างชัดเจน แรงกดดันที่พวกมันร่วมกันปล่อยออกมาทำให้สีหน้าของเขาซีดเผือกและไม่กล้าที่จะลดความเร็วลง
“ฮู้ว-ฮู้ว!”
เจียงอี้หลบหนีมาได้หลายร้อยกิโลเมตร เมื่อสัมผัสได้ว่าไม่มีปีศาจทะเลตนใดตามมา เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและหยุดพักบนเกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง
ขณะเดียวกันเขาก็มองกลับไปและรู้สึกเป็นห่วงสัตว์อสูรหยาจื้อ แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่ามันจะสามารถรับมือกับราชันสัตว์อสูรสองตัวในเวลาเดียวกันได้หรือไม่?
ความแข็งแกร่งของเจียงอี้ในตอนนี้ยังไม่อาจเทียบกับพวกมันได้ เขาไม่โง่พอที่จะรั้งอยู่ที่นั่นด้วยความดื้อรั้น ตอนนี้เขากำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะมุ่งหน้าไปทางเกาะดาวตกต่อดีหรือจะหยุดรอสัตว์อสูรหยาจื้ออยู่ที่นี่
แต่ทันใดนั้นเอง—!
เหตุการณ์ถัดมาก็ช่วยให้เจียงอี้ตัดสินใจได้ทันที
ทางทิศตะวันออกของทะเล จู่ๆปีศาจทะเลจำนวนหนึ่งที่มาจากไหนก็ไม่รู้ได้ทะยานเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง
หนึ่งในนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำและมีรูปร่างคล้ายกับสิงโตทะเล แต่ด้วยกลิ่นอายที่มันปลดปล่อยออกมา เห็นได้ชัดเลยว่ามันคือชนชั้นราชันสัตว์อสูร!
หนี!
โดยไม่รอช้า ร่างของเขาแวบหายไปจากตำแหน่งเดิมทันที หากเขาไม่รีบหนีตอนนี้ เขาจะต้องถูกราชันปีศาจทะเลตัวนั้นสังหารเป็นแน่!
“โฮกกก!”
ราชันปีศาจทะเลตัวนั้นจับจ้องเจียงอี้ด้วยสายตาอันเย็นชา ทันทีที่เขาขยับหนี มันก็ไล่ตามไปอย่างดุเดือด ปีกสีดำของมันปรากฏออกมาและพุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
แม้ว่าความสามารถในการย้ายร่างของเจียงอี้จะเพิ่มขึ้นนับสิบเท่าซึ่งเทียบได้กับความเร็วของยอดฝีมือขอบเขตจินกัง แต่เห็นได้ชัดว่าราชันปีศาจทะเลตัวนี้รวดเร็วกว่าเขาเล็กน้อย
หากว่าสัตว์อสูรหยาจื้อไม่สามารถตามมาได้ทันภายในห้านาที… เกรงว่ามันคงต้องเตรียมตัวหาเจ้านายคนใหม่ได้เลย!

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เจียงอี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศและการ

ถูกเหยียดหยามเนื่องจากจุดตันเทียนของเขาถูกผนึกไว้

วันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าผนึกในตันเทียนของเขาได้ถูก

ทำลายและถูกแทนที่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยการบ่มเพาะเปลวไฟ

ศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ของเขา การเดินทางอันแสนท้าทายของเจียงอี้

จึงได้อุบัติขึ้น!

หากมวลมนุษย์กล้าปฏิบัติกับข้าอย่างไม่เป็นธรรม ศพนับล้านจะต้อง

เกลื่อนปฐพี!

หากแม้แต่สวรรค์ยังไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะแผดเผาสวรรค์ทิ้งเสีย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท