เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven – บทที่ 674 หนทางสู่สวรรค์

บทที่ 674 หนทางสู่สวรรค์

“สัมผัสของข้ามีอะไรผิดไปหรือเปล่านะ? หรือว่าร่างกายข้ามันชินชาหลังจากที่ถูกไฟดูดมาตลอดทั้งคืนกัน?”
เจียงอี้กระพริบตาด้วยความสับสนและเห็นว่าเปลวเพลิงอัสนีเริ่มเข้าไปในสันเขาอัสนีแล้ว เขาไม่มีเวลาที่จะมาทดสอบอีกต่อไปและเริ่มไปเก็บหินอัสนี
เมื่อเขารวบรวมหินอัสนีได้ราวๆแปดร้อยกว่าก้อน เขาก็ได้ยินเสียงจากทางทิศตะวันตก เหล่าผู้ใต้บัญชาของหัวหน้าทั้งสิบกำลังบินมา เจียงอี้จึงถอยกลับเข้าไปในสันเขาอัสนีทันที
หลังจากใช้เวลาราวๆสองชั่วโมง เจียงอี้ก็เข้าไปถึงส่วนลึกที่สุดของสันเขาอัสนี เขาเข้าไปที่จุดประจำของเขาและบินเข้าไปในถ้ำที่ผาแถวๆยอดเขาซึ่งมันถูกล้อมรอบไว้ด้วยเปลวเพลิงอัสนี
“ไหนข้าลองดูหน่อยซิ!”
ก่อนหน้านี้เขาไม่มีเวลาทดลองมัน แต่ตอนนี้ถือว่าปลอดภัยแล้ว เจียงอี้เตรียมที่จะทดสอบทันทีว่าดวงตาเขาพร่าเลือนหรือร่างกายของเขาชาไปแล้ว
เขาหยิบหินอัสนีออกมาและขัดเกลามันอย่างระมัดระวังขณะที่มีเสียงจี๊จี๊ออกมาในเวลาเดียวกันและเข้าสู่ร่างกายของเขา
“นี่มัน…”
ดวงตาของเจียงอี้เบิกกว้าง ร่างกายของเขาไม่สั่นสะท้านและไม่ค่อยเจ็บปวดเท่าไหร่นัก เมื่อคืนนี้เขาเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ เขาจึงไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดในร่างกายตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องนี้
“นี่ร่างกายข้าต้านพลังสายฟ้าได้จริงๆหรือนี่? มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ยิ่งไปกว่านั้นมันยังผ่านไปเพียงแค่คืนเดียวเอง….”
ใจของเจียงอี้เต้นรัว เขาใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบร่างกายของเขาอยู่หลายครั้ง และหลังจากที่ตรวจดูภายในร่างกายได้หนึ่งชั่วโมง เขาก็พบว่าร่างกายของเขายังเหมือนเดิมทุกประการ
เจียงอี้ขัดเกลาหินอัสนีอีกครั้งและได้ข้อสรุปว่าร่างกายของเขาเจ็บปวดน้อยลงไปอย่างแน่นอน พลังไฟฟ้ายังคงกระจายอยู่ทั้วร่างกายของเขาเหมือนเมื่อคืน แต่นอกเหนือจากการต้านทานความเจ็บปวดได้แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปเลย
“ไหนข้าลองเพิ่มแก่นแท้พลังลงไปอีกนิดแล้วกัน…”
เจียงอี้เพิ่มแก่นแท้พลังเข้าไปสองเท่าและจากนั้นกระแสไฟฟ้าก็พุ่งพล่านเข้าสู่ร่างกายของเขาซึ่งมันทำให้ร่างของเขาเจ็บปวดและชักกระตุกอีกครั้ง
เมื่อความเจ็บปวดเริ่มบรรเทาลงไป เจียงอี้ก็ลองทดสอบอีกไม่กี่ครั้งก่อนที่จะได้ข้อสรุป!
หลังจากที่ถูกไฟฟ้าดูดมาตลอดทั้งคืน ร่างกายของเขาก็ต้านทานสายฟ้าได้แล้ว ถึงแม้การต้านทานยังคงน้อยนิดอยู่ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็กำลังเพิ่มขึ้น
มันยังมีข้อสงสัยอีกอย่าง!
เมื่อร่างกายของมนุษย์ถูกทรมานและเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา การต้านทานความเจ็บปวดนั้นก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม มันก็น่าจะให้ผลลัพธ์ดังกล่าวหลังจากที่ถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องและฝึกฝนเช่นนี้นานหลายปีซึ่งจะทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เหตุใดเจียงอี้จึงต้านทานกระแสไฟฟ้าได้ภายในคืนเดียวกันนะ?
“หญ้ามังกรยาจก มันจะต้องเป็นเพราะหญ้ามังกรยาจกแน่ๆ!”
หลังจากที่เจียงอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พบว่านอกเหนือจากหญ้ามังกรยาจกแล้ว มันไม่มีคำอธิบายอื่นที่สมเหตุสมผลเลย เขาจำได้ว่าหญ้ามังกรยาจกปฏิรูปร่างกาย, เส้นลมปราณและกระดูกของเขาและวิธีที่มันแก้ไขร่างที่พิการของเขานั้นทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะพลังเพิ่มขึ้นสิบเท่า
“การเพิ่มการต้านทานกระแสไฟฟ้านั้นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ฮ่าฮ่า…..มันคงไม่น่าอนาถมากนักเมื่อครั้งหน้าข้าถูกฟ้าผ่าลงมา ช่างมันเถอะ ถึงเวลาบ่มเพาะแก่นแท้พลังแล้ว!”.Aileen-novel.
เจียงอี้พึมพำและไม่ได้สนใจอีกต่อไปหลังจากที่พบว่าร่างกายของเขาไม่เป็นอะไร จากนั้นเขาก็เตรียมตัวที่จะฝึกฝนแก่นแท้พลังตามกิจวัตรประจำวันของเขา
อย่างไรก็ตาม
ในขณะที่เจียงอี้หลับตา ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาขณะที่ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย เขาตบไปที่ต้นขาของเขาทันทีและพูดว่า “ข้านี่โง่เง่าเสียจริง! หากข้าสามารถเพิ่มการต้านทานกระแสไฟฟ้าได้ ข้าก็จะไม่กลัวสายฟ้าอีกต่อไป แล้วจากนั้นข้าก็จะสามารถดูดซับเปลวเพลิงอัสนีได้!”
เปลวเพลิงอัสนี!
มันเป็นไฟที่ลึกลับซึ่งร้อนแรงยิ่งกว่าเปลวเพลิงอเวจีมาก แม้แต่หัวหน้าทั้งสิบเองก็ยังไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้พวกมันเลย เขาเองก็เคยมีความคิดที่จะดูดซับเปลวเพลิงอัสนี แต่มันมีกระแสไฟฟ้าอยู่ในนั้น อย่าว่าแต่จะดูดซับเลย แม้แต่เข้าไปใกล้ๆเขายังไม่กล้าและอยู่ห่างจากพวกมันในระยะห่างสามร้อยเมตรด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันต่างไปจากเดิมแล้ว!
เขาสามารถขัดเกลาหินอัสนีและค่อยๆเพิ่มการต้านทานกระแสไฟฟ้าได้ เมื่อร่างกายของเขาไม่กลัวกระแสไฟฟ้าธรรมดาๆอีกต่อไป เขาก็จะดูดซับเปลวเพลิงอัสนีได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็จะสามารถใช้พลังของดาราสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเพื่อปรับแต่งเปลวเพลิงอัสนีได้
เปลวเพลิงอัสนีน่ากลัวมากอยู่แล้ว แต่มันจะน่ากลัวเพียงใดหลังจากที่เจียงอี้ปรับแต่งมัน? เจียงอี้ไม่กล้าจินตนาการถึงมันเลย แต่เขาคิดว่ามันคงง่ายมากๆที่จะกำจัดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุน
“ฮ่ะฮ่ะฮ่าฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้แหงนขึ้นไปยังท้องฟ้าและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเนื่องจากเขารู้สึกหดหู่ใจมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ตราบใดที่เขาสามารถรวบรวมเปลวเพลิงอัสนีได้ เขาก็จะไม่ต้องกลัวหัวหน้าทั้งสิบคนนั้นอีกต่อไป อย่างน้อยๆที่สุดเขาก็จะเพิกเฉยต่อพวกป้าเตาและคนอื่นๆได้
หากเขาสามารถปกคลุมร่างกายของเขาด้วยเปลวเพลิงอัสนีได้ ใครมันยังจะกล้าเข้ามาใกล้เขาในระยะสิบกิโลเมตรอีก? ใครจะสามารถทนความร้อนที่สูงเช่นนั้นได้กัน? หรือบางที…เขาอาจจะหาโอกาสลอบโจมตีเพื่อสังหารป้าเตาหรือหัวหน้าหลงได้และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้อื่นด้วย!
ยิ่งเจียงอี้นึกถึงเรื่องนี้ ร่างของเขาก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว ตราบใดที่เขายังอยู่ในเกาะอัสนีฟ้ากระจ่างแห่งนี้ต่อได้ เขาก็จะหาหินอัสนีได้เรื่อยๆและแลกแต้มความดีความชอบได้มากมาย ถึงตอนนั้นมันคงไม่ใช่ปัญหาที่จะอยู่ในเกาะเทพประทานแล้ว!
เกาะเทพประทานมีความเข้มข้นของพลังฟ้าดินถึงสิบเท่าซึ่งเมื่อมันรวมเข้ากับราชวังจักรพรรดิและร่างไร้ที่ติของเขาแล้ว มันจะทำให้เขามีความเร็วในการบ่มเพาะพลังเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า และเมื่อเขาไปถึงขอบเขตจินกังขั้นสูงสุดแล้ว เขาก็จะรวบรวมรูปแบบเต๋าเพื่อทะลวงไปยังขอบเขตเทียนจุนได้ และเมื่อเขามีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว เขาจะกลับไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพาเพื่อช่วยซูรั่วเสวี่ยและตามหาอีเพียวเพียวให้เจอ
ทุกอย่างนั้นสมบูรณ์แบบ และเมื่ออาการชักกระตุกของเจียงอี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เขาก็รู้สึกเหมือนเห็นเส้นทางสีทองอร่าม, หนทางสู่การล้างแค้น…หนทางสู่สวรรค์
“ขัดเกลา ขัดเกลา!”
เจียงอี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสำราญใจ เขาจะรอจนกว่าร่างกายของเขาจะต้านทานกระแสไฟฟ้าและสายฟ้าได้อย่างแท้จริงก่อนที่จะพูดอะไรออกมา ไม่เช่นนั้นมันอาจเป็นเพียงจันทราในน้ำหรือเป็นดอกไม้ในกระจกเท่านั้น
เขามุ่งขัดเกลาหินอัสนีอย่างเต็มที่และค่อยๆเพิ่มแก่นแท้พลังขึ้นทีละน้อยและปล่อยให้ร่างกายปรับตัว เขาเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในร่างกายและหากร่างกายของเขาเริ่มมีผลข้างเคียงใดๆ เขาจะหยุดขัดเกลาทันที
หลังจากที่ขัดเกลาหินอัสนีทั้งวัน เขาไม่ได้ไปยังภูเขาอัสนีเมื่อยามราตรีมาถึงและยังคงขัดเกลาอยู่ในถ้ำขณะที่คอยหลบเลี่ยงเปลวเพลิงอัสนีอยู่เรื่อยๆ เมื่อเปลวเพลิงอัสนีเวียนผ่านไป เขาก็จะกลับมาขัดเกลาหินอัสนีต่อ
และเมื่ออยู่ในยามเช้ามืด เขาก็หยุดมันและตรวจสอบร่างกายเพื่อดูให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีก่อนที่จะออกจากสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ เจียงอี้หยิบหินอัสนีก้อนใหม่ออกมาขณะที่มีของเขากำลังสั่นเทา
อย่างที่คาดเอาไว้…
เขาใช้ปริมาณของแก่นแท้พลังหมุนเวียนไปยังหินอัสนีเท่ากับครั้งล่าสุดและเมื่อกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายของเขา เจียงอี้ก็ไม่สั่นเลยแม้แต่น้อยขณะที่มันแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย การต้านทานต่อกระแสไฟฟ้าและสายฟ้าของเจียงอี้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เขาลุกขึ้นยืนและหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า เสียงของเขาทะลุผ่านสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและดังก้องไปในรัศมีหลายสิบกิโลเมตร มันทำให้สันเขาอัสนีที่ดูน่าขนลุกอยู่แล้วกลับยิ่งชวนขนลุกมากกว่าเดิม
“ครึ่งเดือน ข้าขอแค่ครึ่งเดือนเพื่อเพิ่มระดับการต้านทานกระแสไฟฟ้าได้ เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะสามารถรวบรวมเปลวเพลิงอัสนีได้”
ดวงตาของเจียงอี้มองผ่านท้องฟ้าที่ยังมืดมิดและเปลวเพลิงอัสนีที่วนเวียนไปมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นขณะที่มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา เขาหันไปทางเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างขณะที่พูดว่า “ป้าเตา, หัวหน้าหลง พวกเจ้ารอก่อนเถอะ เราจะได้พบกันในอีกไม่ช้า”

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เจียงอี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศและการ

ถูกเหยียดหยามเนื่องจากจุดตันเทียนของเขาถูกผนึกไว้

วันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าผนึกในตันเทียนของเขาได้ถูก

ทำลายและถูกแทนที่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยการบ่มเพาะเปลวไฟ

ศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ของเขา การเดินทางอันแสนท้าทายของเจียงอี้

จึงได้อุบัติขึ้น!

หากมวลมนุษย์กล้าปฏิบัติกับข้าอย่างไม่เป็นธรรม ศพนับล้านจะต้อง

เกลื่อนปฐพี!

หากแม้แต่สวรรค์ยังไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะแผดเผาสวรรค์ทิ้งเสีย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท