เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven – บทที่ 793 ลู่หลิน, ตายซะ!

บทที่ 793 ลู่หลิน, ตายซะ!

  สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว

  จี๊! จี๊!

  แสงดาบสีทองนับหมื่นสายบินมาราวกับใบมีดแห่งความตายซึ่งมันจะฉีกเจียงอี้ออกเป็นชิ้นๆ พลังของแสงดาบนี้ไม่ถือว่าทรงพลังเกินไป แต่หากเจียงอี้ยังไม่ตื่นขึ้นมา เขาจะถูกสังหารจากการปะทะกับแสงดาบนี้แม้ว่าเขาจะมีเกราะเมฆาอัคคีก็ตาม

   ลูกพี่! 

  เฉียนว่านก้วนอุทานขึ้นมาอีกครั้ง และดวงตาของหวงฝูเทาเทียนก็เย็นชาลงในทันทีขณะที่เขาตะโกนออกมา  เอาล่ะ! ครั้งนี้เรายอมรับความพ่ายแพ้ เหลยฉีเหยียน หยุดการต่อสู้ซะ! 

   ยอมรับความพ่ายแพ้? 

  เหลยฉีเหยียนเย้ยหยันและกล่าวว่า หวงฝูเทาเทียน ตามกฎของสนามประลองแล้ว หากนักสู้ไม่ได้ยอมรับความพ่ายแพ้โดยสมัครใจ จะไม่มีผู้ใดสามารถย้ายเขาออกมาได้ และเจียงอี้ก็ไม่ได้ยอมรับความพ่ายแพ้ ดังนั้นข้าจึงไม่มีอำนาจที่จะหยุดการประลอง 

   เจ้า… 

  หวงฝูเทาเทียนจ้องเขาด้วยความโกรธ ภายนอกนั้นไม่ได้ยินเสียงทุกสิ่งและแม้ว่าเจียงอี้จะยอมรับความพ่ายแพ้ เสียงของเขาจะถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าเหลยฉีเหยียนวางแผนดักเจียงอี้เอาไว้

  หากเหลยฉีเหยียนไม่ออกคำสั่ง เขาก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน เขาคงไม่สามารถฟาดฟันเหลยฉีเหยียนได้ใช่ไหม? หากไม่พูดถึงองครักษ์ที่ทรงพลังที่อยู่ข้างๆเหลยฉีเหยียน แต่แม้ว่าเขาจะสังหารเหลยฉีเหยียนไป เขาก็ยังไม่สามารถช่วยเจียงอี้ได้

  ในภาพนั้น แสงของใบมีดนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่เจียงอี้ แต่เขาก็ยังเหมือนคนโง่เขลาและไม่หลบแสงดาบเลยและยังคงกวัดแกว่งดาบมังกรเพลิงและควบคุมลมรอบๆไปเรื่อยๆ

   อั๊ก..! 

  ข้างนอกนั้นไม่ได้ยินเสียงใดๆจากข้างใน แต่ในตอนนี้ พวกเขาทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้ยินเจียงอี้กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนประหลาดใจที่เจียงอี้กระอักเลือดออกมาอย่างไม่รู้จบแต่เขากลับยังไม่ตื่นราวกับว่าเขาสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว

   ลูกพี่ รีบตื่นเร็วเข้า…. 

  เสียงตะโกนของเฉียนว่านก้วนเต็มไปด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น เมื่อมองไปยังเจียงอี้ที่มีหน้าซีดราวกับหิมะและเลือดก็พุ่งออกมาจากปากเขา เฉียนว่านก้วนก็ปวดใจอย่างมาก เขาไม่สามารถรักษาท่าทีได้อีกต่อไปและเขาก็ดูเหมือนมนุษย์ที่น่าสมเพช

  ทันใดนั้นเอง!

  หลังจากที่เจียงอี้ถูกโจมตีไปหลายสิบครั้งและกระอักเลือดออกมาหลายสิบคำ ในที่สุดดวงตาของเขาก็กลับมาชัดเจนอีกครั้งใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดีและดวงตาของเขาสุกสกาวราวกับดวงดาวทำให้ร่างของหวงฝูเทาเทียนและเฉียนว่านก้วนสั่นเทาไปพร้อมๆกัน

  หลังจากที่เจียงอี้ตื่นขึ้นมา ผ้าคลุมเงาวายุของเขาก็สะบัดอยู่ท่ามกลางสายลมขณะที่เขาหลับตาและเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ ร่างของเจียงอี้โลดแล่นราวกับมังกรและหลบการโจมตี เขาอาจจะบาดเจ็บสาหัสแต่เมื่ออยู่ในสภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์แล้ว เขาก็สามารถเห็นวิถีการโจมตีของใบมีดสีทองเหล่านั้นได้ล่วงหน้า ดังนั้นมันจึงง่ายมากที่เขาจะหลบการโจมตี และแม้ว่าเขาจะถูกโจมตีอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่มันก็ยังไม่สามารถสังหารเขาได้

   ยังหลบได้อยู่รึ? ตาย ตายซะเถอะ! 

  เมื่อลู่หลินเห็นสิ่งนี้ เขาก็สร้างรูปแบบเต๋ามังกรวายุกลืนนภาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาใช้โอกาสนี้เนื่องจากเจียงอี้ไม่มีเวลาสร้างโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีและเตรียมสังหารเขาด้วยกระบวนท่านี้ ดาบเหล็กปฐมกาลในมือของเขาเริ่มกวัดแกว่งอย่างรุนแรงขณะที่มังกรวายุเริ่มก่อตัวกัน จากนั้นเขาก็คำรามออกมาและตวัดมันทันที และขณะที่รูปแบบเต๋ามังกรวายุกลืนนภากำลังจะก่อตัวขึ้น

   ฮึ่ม! หัวหน้าผู้นี้จะทำลายเจ้าซะ! วายุพิโรธคำราม! 

  ดวงตาของเจียงอี้เปิดขึ้นมา ดาบมังกรเพลิงของเขาผ่าดาบนับร้อยออกมาทันที ดาบทุกเล่มสามารถสร้างเสียงลมได้และเสียงลมเหล่านั้นไม่ได้บินออกมา แต่มันหมุนรอบร่างกายของเขาด้วยวิถีการหมุนเวียนที่ต่างกันไป

  ฉากที่น่าลึกลับก็ได้ก่อขึ้น

  ขณะที่ลมที่มองไม่เห็นเหล่านั้นกำลังสะพัดอยู่ เสียงแปลกๆก็เกิดขึ้น เสียงเหล่านั้นมันเหมือนเสียงวิญญาณที่คร่ำครวญและหมาป่าที่กำลังหอนซึ่งมันรู้สึกน่าอึดอัดเป็นอย่างมากและทำให้ขนลุกไปทั่วร่างกายพร้อมกับความรู้สึกสะอิดสะเอียน   ฮื้อ ฮื้อ โฮ๊ว โฮ๊ว…. 

  ขณะที่รูปแบบเต๋ามังกรวายุกลืนนภาของลู่หลินกำลังจะก่อตัวขึ้น เสียงนั้นก็ทำให้ร่างของเขาสั่นสะท้านขณะที่เขารู้สึกอึดอัดใจอย่างผิดปกติ แก่นแท้พลังของเขาแปรปรวนเล็กน้อยขณะที่มังกรวายุที่อยู่บนฟ้าสั่นไวและพังทลายลงโดยอัตโนมัติ

  รูปแบบเต๋าบางประเภทต้องใช้เวลาในการควบรวมพลัง และหากกระบวนการนั้นหยุดชะงัก รูปแบบเต๋าก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้ เช่น โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีของเจียงอี้ หากเขาควบคุมเปลวเพลิงอัสนีผิดวิถี เขาจะสามารถควบรวมเป็นโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีได้หรือ?

   นี่มันเสียงบ้าอะไรกัน? น่าสยดสยองนัก ทำไมไอ้สารเลวนี่ถึงได้สร้างเสียงสยองแบบนี้ขึ้นมาได้กัน? 

  ดวงตาของลู่หลินเกลือกกลิ้งไปมา เขาเก็บดาบเหล็กปฐมกาลไปและใช้มือทั้งสองข้างปิดหูและปิดประสาทสัมผัสทั้งหมด แต่เสียงนั้นสะท้อนอยู่ในดวงจิตวิญญาณของเขาจริงๆ และที่น่าแปลกคือ…เขากลับไม่รู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาได้รับความเสียหายใดๆ

   อ๊ากก อ๊าก อ๊ากก!  Aileen-novel

  ลู่หลินจับหัวของเขาและดิ้นไปมาอยู่กลางอากาศ เขารู้สึกราวกับว่าจะเป็นบ้าเพราะเสียงนั้นย่ำแย่มากและมันเสียดแทงหูเขามาก จิตใจทั้งหมดของเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากเสียงเหล่านี้ และตอนนี้ดวงจิตวิญญาณของเขาก็กำลังคิดว่าเสียงนี้มันเป็นเสียงวิญญาณอะไรกันและเขาได้ลืมเจียงอี้ที่อยู่ด้านนอกไปจนสิ้น

  จี๊! จี๊!

  มีเสียงกึกก้องดังมาจากข้างนอกในขณะที่ดวงจิตวิญญาณของลู่หลินสัมผัสได้ถึงอันตราย เขาฝืนเสียงที่ดังก้องอยู่ในใจและมองขึ้นไปเหนือศีรษะของเขาและเมื่อเขาเห็นหม้อเวหาสลาตันกดทับลงมา เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะที่หม้อเวหาสลาตันไม่สามารถสังหารเขาได้   ไม่ นี่มันไม่ถูกต้อง! 

  สัญชาตญาณของเขาเตือนถึงอันตรายที่ร้ายแรงอย่างหนัก จากนั้นเขาก็มองดูรอบๆพร้อมกับความตกใจ และเมื่อเขาเห็นดาบวิญญาณสีแดงหลายสิบเล่มบินผ่านมาโดยไม่มีเสียงหรือกลิ่นอายใดๆ เขาก็ผวาทันที

   ผนึกอัสนี! 

  ลู่หลินคำรามออกมาทันทีขณะที่ผนึกเล็กๆโผล่ออกมาจากหว่างคิ้วของเขาและบินไปทางดาบวิญญาณหลายสิบเล่ม และในขณะนี้ ดาบมังกรเพลิงของเจียงอี้ก็ตวัดดาบนับร้อยเล่มออกมาในพริบตาซึ่งทำให้เกิดเสียงที่น่าสยดสยองยิ่งขึ้น มันน่าอึดอัดมากและลู่หลินไม่มีทางอื่นนอกจากต้องจับหัวของเขาและเกลือกกลิ้งอยู่กลางอากาศ

  จี๊! จี๊!

  ปึง ปึง ปึง!

  เมื่อผนึกอัสนีเปล่งแสงสีฟ้า มันก็ทำลายดาบวิญญาณไปสามเล่มได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ดวงจิตของลู่หลินเกือบจะพังทลายลงเพราะเสียงวิญญาณนั้นแล้ว แล้วเขาจะสามารถควบคุมผนึกอัสนีได้อย่างไร? จากนั้นดาบวิญญาณกว่าสิบเล่มก็เคลื่อนไปรอบๆผนึกอัสนีและฝังเข้าไปในหว่างคิ้วของลู่หลินและเข้าสู่ทะเลแห่งดวงจิตของเขา

   อ๊ะ? ไม่ ไม่นะ….ข้ายอมแล้ว….ข้ายอมแพ้ พี่เหยียน ยุติการประลองเดี๋ยวนี้! 

  ลู่หลินได้กลิ่นของความตายและกรีดร้องออกมาด้วยความกลัวขณะที่ร่างกายของเขาสั่นเทาไม่หยุด ดูเหมือนว่าเขาจะลืมเสียงวิญญาณและทุกสิ่งสิ้น….และไม่มีสิ่งใดปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาเลยนอกจากความสิ้นหวังและความหวาดกลัว

   ผู้บัญชาการจิน ยุติการต่อสู้ซะ ลู่หลินยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว! 

  เหลยฉีเหยียนอาจจะไม่ได้ยินเสียงของลู่หลิน แต่เขาก็เห็นถึงความกลัวและความสิ้นหวังในดวงตาของลู่หลินและรู้ทันทีว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เขาจึงรีบตะโกนใส่ผู้บัญชาการจินที่อยู่ข้างๆทันที

   รอเดี๋ยว! 

  เสียงที่เกรี้ยวกราดดังขึ้นขณะที่กลิ่นอายสังหารของหวงฝูเทาเทียนเพ่งไปที่ผู้บัญชาการจินและพูดว่า  เหลยฉีเหยียน หูข้างไหนของเจ้าได้ยินว่าลู่หลินยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว? เราไม่ได้ยินมันเลยแม้แต่คำเดียว เจ้าไม่ได้บอกหรอกหรือว่าหากคู่ต่อสู้ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเอง การประลองนั้นจะไม่สามารถยุติได้ตามกฎ? หรือว่าทุกสิ่งที่เจ้าพูดมามันไร้สาระ? 

   เจ้า… 

  เหลยฉีเหยียนไม่ได้คิดมาก่อนว่าหวงฝูเทาเทียนจะย้อนคำพูดของเขาและเขาไม่รู้ว่าจะโต้กลับอย่างไร แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตะโกนใส่ผู้บัญชาการจินด้วยความโกรธ  เจ้าจะรออะไรล่ะ? ลู่หลินกำลังจะตายนะ! 

  เมื่อผู้บัญชาการจินตื่นขึ้นจากความตกตะลึง เขาก็ไม่ได้สนใจหวงฝูเทาเทียนและมือของเขาสว่างขึ้นด้วยแสงสีทองขณะที่เขากำลังจะโจมตีไปยังแท่นประลองสูงที่ด้านล่าง แต่น่าเสียดายที่….การตอบสนองของเขาสายเกินไปแล้ว ในภาพเหนือแท่นประลองนั้น ดวงตาของลู่หลินหดตัวลงทันที ร่างของเขาสั่นเทาและหลังจากนั้นก็ล้มลงไปอย่างไร้ชีวิต

  ฟรึ่บ!

  ร่างของเจียงอี้บินมาราวกับมังกรที่ดุร้ายและแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของเขาก็สว่างขึ้น เจียงอี้…เก็บหม้อเวหาสลาตันและศพของลู่หลินเอาไว้ในแหวน

  บรึฟ!

  เมื่แก่นแท้พลังของผู้บัญชาการจินไหลเข้าสู่แท่นประลองและเปิดข้อจำกัด ในภาพฉายนั้น เจียงอี้ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวและหายลับไปจากเขตแดนสนามประลอง จากนั้นเขาก็ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นบนแท่นประลอง

   ลูกพี่ลูกน้อง? 

   นายน้อยหลิน?    ลู่หยี่และองครักษ์ของลู่หลินต่างก็ร้องออกมาด้วยความตระหนก มีเพียงเจียงอี้เท่านั้นที่อยู่บนแท่นสูงนั้นขณะที่ลู่หลินไม่ถูกย้ายออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาถูกเก็บไว้ในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของเจียงอี้อย่างแท้จริง และผู้ที่มีชีวิตอยู่จะไม่สามารถถูกเก็บเอาไว้ในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณได้ ซึ่งมันก็หมายความว่าลู่หลินตายแล้วจริงๆ!

  ลู่หยี่นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นน้ำตาของนางก็ไหลรินลงมาราวกับสายฝนและนางก็ตะโกนใส่องครักษ์อย่างบ้าคลั่งด้วยน้ำเสียงที่ละเอียดอ่อน  สังหารไอ้สวะนั่นซะและล้างแค้นให้ลูกพี่ลูกน้องของข้า! 

 

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เจียงอี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศและการ

ถูกเหยียดหยามเนื่องจากจุดตันเทียนของเขาถูกผนึกไว้

วันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าผนึกในตันเทียนของเขาได้ถูก

ทำลายและถูกแทนที่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยการบ่มเพาะเปลวไฟ

ศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ของเขา การเดินทางอันแสนท้าทายของเจียงอี้

จึงได้อุบัติขึ้น!

หากมวลมนุษย์กล้าปฏิบัติกับข้าอย่างไม่เป็นธรรม ศพนับล้านจะต้อง

เกลื่อนปฐพี!

หากแม้แต่สวรรค์ยังไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะแผดเผาสวรรค์ทิ้งเสีย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท