สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว
เคร้ง แคร๊ง!
ลู่หลินและลู่หยี่นำองครักษ์มาสองคนซึ่งทั้งสองเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งหมด ผู้อาวุโสหรงเองก็อยู่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด ใบหน้าของพวกเขามืดมนทันที และอาวุธก็ปรากฏขึ้นในมือของพวกเขาและพวกเขาต่างก็จับจ้องไปยังเจียงอี้และกำลังจะโจมตี
ฟรึ่บ!
อย่างไรก็ตามแต่ มีคนผู้หนึ่งที่เร็วกว่าพวกเขา เมื่อร่างของเจียงอี้แข็งทื่อ หวงฝูเทาเทียนก็พุ่งลงไปและยืนอยู่ข้างหน้าเจียงอี้ เสียงเย้ยหยันของเขาดังก้องไปทั่ว อยากจะสังหารน้องเจียงของข้ารึ? เช่นนั้นพวกเจ้าก็ต้องมาคุยกับดาบในมือของข้าก่อน เอ่อ…
พวกเขาระงับการโจมตีที่เกือบจะปลดปล่อยออกมาทันที ไม่เพียงแค่เพราะหวงฝูเทาเทียนที่ไปยืนอยู่หน้าเจียงอี้แต่มันยังเป็นเพราะกลิ่นอายอันเย็นเยียบรอบๆตัวทุกคนที่อยู่ที่นั่น ผู้อาวุโสหรงเชื่อว่าหากหวงฝูเทาเทียนกล้าปลดปล่อยการโจมตีใดๆ พวกเขาทั้งหมดจะต้องตายอย่างแน่นอน
เงา?
ชื่อนั้นปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา เขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเผ่าเทพประทาน อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีผู้ใดเคยเห็นหน้าของเขามาก่อน ผู้คนรู้เพียงว่าเขาถูกเรียกว่า เงา ซึ่งมีความสามารถในการลอบสังหารเป็นมือหนึ่งในเผ่าเทพประทานและเขาก็เป็นนายพลอันดับหนึ่งที่ทำงานให้แก่หวงฝูฉี
มันก็จริงที่ผู้อาวุโสหรงเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด แต่เขาก็แข็งแกร่งกว่าชิงหลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากรูปแบบเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาอยู่เพียงระดับสามดาวอย่างไรก็ตาม รูปแบบเต๋าที่ทรงพลังที่สุดของเงานั้นสูงถึงหกดาว!
หากเงาลงมือ พวกเขาก็จะตกตายในทันที เห็นได้ชัดว่าเงานั้นไม่ได้แสดงความเมตตาต่อผู้ที่เขาต้องการจะสังหารและจะปฏิบัติตามคำสั่งของหวงฝูฉีเท่านั้น และตอนนี้เงาก็ปรากฏตัวอยู่ที่นี่ในตอนนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขามาที่นี่เพื่อปกป้องหวงฝูเทาเทียน
ผู้อาวุโสหรงสูดลมหายใจและมองหวงฝูเทาเทียนอย่างดุร้ายก่อนจะพูดว่า นายน้อยหวงฝู คนนอกนั้นไม่ได้คุ้มค่าเลย สิบสามตระกูลของเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ท่านจะสร้างศัตรูกับสิบสามตระกูลเพื่อคนนอกนั่นจริงๆหรือ?
ฮึ่ม!
กระบี่ปรากฏขึ้นในมือของหวงฝูเทาเทียนแล้วและโล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เรืองรองอยู่รอบตัวเขาเช่นกัน เขามองไปยังผู้อาวุโสหรงด้วยความดูถูกและพูดว่า เจ้าคู่ควรแก่การเป็นสมาชิกของสิบสามตระกูลอย่างนั้นหรือ?เจ้านำความอับอายมาสู่ตระกูลลู่ ในการประลอง ชีวิตและความตายนั้นไม่สำคัญและไม่มีผู้ใดจะต้องรับผิดชอบ เจ้าลืมกฎข้อนี้หรือ? หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ทั้งสิบสามตระกูลจะต้องอับอายเพราะเจ้า!
จักรพรรดิหนานกงเคยกล่าวไว้เช่นไร? มันเป็นเรื่องปกติที่ทายาทสิบสามตระกูลจะแพ้หรือตาย แต่มันจะไม่ดีหากจะเสียมารยาทและความภาคภูมิไป! นอกจากนี้…ข้า หวงฝูเทาเทียน ถูกขับไล่ออกจากตระกูลหวงฝูแล้ว ข้าไม่ได้เหมือนเจ้า หยุดพูดจาไร้สาระเถอะ หากเจ้าต้องการจะจู่โจมเข้ามา เช่นนั้นข้าก็ยินดีจะเป็นคู่มือให้
เจ้า…
ผู้อาวุโสหรงตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ หลักการในเรื่องที่จะไม่มีผู้ใดรับผิดชอบต่อการตายของผู้อื่นในการประลองนั้นเป็นกฎของสิบสามตระกูล แต่มันจำกัดเฉพาะกับการประลองระหว่างสิบสามตระกูล แต่เจียงอี้เป็นหนึ่งในตระกูลพวกเขาหรือ? ลู่หลีอยู่ในตำแหน่งอะไร? กฎของสิบสามตระกูลเอื้อกับคนของพวกเขามาตลอด พวกเขาไม่เคยปฏิบัติตามกฎของตระกูลเลยเมื่อต้องรับมือกับคนนอกและสังหารพวกเขาตามที่ต้องการ
แต่เมื่อหวงฝูเทาเทียนได้พูดออกมาเช่นนั้น ผู้อาวุโสหรงก็มีสติปัญญา เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันไปหาเหลยฉีเหยียนโดยหวังว่าเขาจะพูดอะไรเพื่อช่วยผู้อาวุโสหรงบ้าง เพราะอย่างไรเสีย มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ให้เลือกการประลอง
ดวงตาของเหลยฉีเหยียนเป็นประกาย เขาเมินผู้อาวุโสหรงและมองไปที่เจียงอี้พร้อมกับพูดว่า เจียงอี้ คืนร่างของลู่หลินมาให้เราก่อน
อันที่จริงแล้ว เขาไม่ได้ต้องการนำร่างของลู่หลินคืนมา แต่เรื่องสำคัญคือ เขาให้ลู่หลินยืมสมบัติที่เชื่อมดวงจิตไปถึงสองชิ้น พวกนั้นนับค่าไม่ได้ และการที่เจียงอี้เก็บร่างของลู่หลินเอาไว้มันก็หมายความว่าสมบัติสำคัญที่เชื่อมดวงจิตของเขาอยู่ที่เจียงอี้เหมือนกัน
เจียงอี้?
เจียงอี้ขมวดคิ้ว เหลยฉีเหยียนรู้จักชื่อของเขาด้วย?! ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเห็นเบาะแสนั้นจากเกราะเมฆาอัคคีแล้ว
เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณก็ส่องสว่างขึ้นและปรากฏร่างของลู่หลิน เขาผลักฝ่ามือของตัวเองและจากนั้นร่างของลู่หลินก็ถูกยิงไปทางผู้อาวุโสหรงและกลุ่มของเขา
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเหลยฉีเหยียนกวาดไปรอบๆทันที และทันใดนั้นเขาก็เดือดดาลและตะโกนออกมาว่า ดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีอยู่ที่ไหน? แหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของลู่หลินอยู่ที่ไหน?
ลู่หลินตายไปแล้ว ดังนั้นรอยประทับดวงจิตภายในเกราะพระแม่ธรณีและแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณก็หายไป เจียงอี้ได้เก็บเกราะพระแม่ธรณีและแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ไว้แล้ว ส่วนดาบเหล็กปฐมกาลนั้นก็อยู่ในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของลู่หลิน
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนจากเหลยฉีเหยียน เจียงอี้ก็เยาะเย้ยและพูดว่า ข้าเสี่ยงชีวิตด้วยการประลองกับคนอื่นและเกือบตายอยู่หลายครั้ง แล้วจะให้ข้าส่งของพวกนั้นไปด้วยหลังจากที่ข้าใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อชนะน่ะหรือ? ข้าใจดีมากพอแล้วที่คืนร่างให้ หากข้าถูกสังหาร สมบัติทั้งหมดของข้าเองก็คงถูกลู่หลินยึดไปด้วย ใช่ไหมล่ะ?
เหลยฉีเหยียนโกรธและเห่าออกมาว่า ดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีนั้น….เป็นของข้า!
สวะสิ้นดี! ไอรีนโนเวล
หวงฝูเทาเทียนหัวเราะเยาะ เหลยฉีเหยียน เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเจ้าขายพวกนั้นให้ลู่หลินไปแล้ว? ทุกคนที่นี่เองก็เป็นพยานได้ หรือเจ้าต้องการจะขโมยดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีไปเมื่อลู่หลินตายแล้ว? ข้าเคยเห็นคนไร้ยางอายมาบ้าง แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นคนเช่นเจ้าเลย! นอกจากนี้….มันยังเป็นกฎของการสู้กันตัวต่อตัวอยู่แล้วว่าผู้ชนะมีสิทธิ์ได้สมบัติของฝ่ายตรงข้ามเพื่อเป็นรางวัล หรือสมาชิกตระกูลเหลย ในฐานะเจ้าของสนามประลองจะจงใจฝ่าฝืนกฎ? เราจำเป็นต้องไปยังตำหนักผู้อาวุโสเพื่อโต้แย้งเรื่องนี้กันหรือไม่?
อั๊ก….
เหลยฉีเหยียนกระอักเลือดออกมา ขาของเขารู้สึกอ่อนแรงลงและเกือบล้มลงไปกับพื้น ริมฝีปากของเขายังคงสั่นอยู่ แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรโต้เถียงหวงฝูเทาเทียนได้เลย
ฝั่งซือถูอีเสี้ยว, หวงฝูหยุนและกลุ่มของพวกเขาต่างก็หน้าแดงและพยายามหันหน้าหนีเพื่อที่จะกลั้นเสียงหัวเราะของพวกเขาเอาไว้ สิ่งเหล่านี้เรียกว่าการขว้างงูไม่พ้นคอและเหลยฉีเหยียนก็ทำมันถึงสองครั้งในวันนี้
ลู่หลิน!
ลู่หยี่คว้าร่างของลู่หลินเอาไว้ในอ้อมแขนของนาง น้ำตาที่หลั่งไหลออกมาจากดวงตาของนางเต็มไปด้วยความชั่วร้าย และนางก็จ้องไปยังเจียงอี้และพูดว่า เจียงอี้ เจ้ากล้าดียังไงมาสังหารลูกพี่ลูกน้องข้า ตระกูลลู่ของเราจะไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ไปจนกว่าเจ้าจะตาย! กลับกันเถอะ!
ลู่หยี่รู้ดีว่านางไม่สามารถสังหารเจียงอี้ได้ในวันนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าหวงฝูเทาเทียน ผู้อาวุโสหรงย่อมไม่เสี่ยงที่จะลงมือทำอะไร และแทนที่นางจะหมดหนทางอยู่ที่นี่ นางควรจะกลับไปบอกพ่อของนาง ลู่หลี โดยเร็วที่สุดจะดีกว่า
ผู้อาวุโสหรงอุ้มร่างของลู่หลินเอาไว้และจ้องมองเจียงอี้ด้วยความโกรธและจากไปพร้อมกับลู่หยี่ หวงฝูเทาเทียนยิ้มออกมาและพูดว่า น้องเจียง ไปกันเถอะ ใครกล้ามาหยุดพวกเรา?
เจียงอี้พยักหน้าและเดินตามหวงฝูเทาเทียนไปยังที่นั่งผู้ชมและออกไปพร้อมกับเฉียนว่านก้วน แม้ว่าเหลยฉีเหยียนอยากจะขอให้คนหยุดพวกเขา แต่เมื่อเขาคิดถึงเงาที่คอยปกป้องหวงฝูเทาเทียนและเหล่านายน้อยและคุณหนูทั้งหมดอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันมองเจียงอี้และกลุ่มของเขาจากไป
อีเนี่ยน นี่ก็ค่ำแล้ว เรากลับกันดีไหม?
ซือถูอีเสี้ยวบอกซือถูอีเนี่ยนโดยไม่แสดงท่าทีอะไรและพวกเขาก็ออกไปพร้อมกลุ่มของพวกเขา หลังจากออกจากประตูไปแล้ว ทั้งคู่ก็มองหน้ากันและอดหัวเราะไม่ได้
ซือถูอีเสี้ยวหัวเราะอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะจริงจังและส่งข้อความเสียงว่า รีบกลับไปรายงานท่านพ่อกันเถอะ เราไม่สามารถพลาดผู้มีพรสวรรค์อย่างเจียงอี้ได้
ซือถูอีเนี่ยนพยักหน้าและส่งข้อความเสียงกลับมาด้วย อันที่จริงแล้ว….ข้าสงสัยว่าอีเพียวเพียวตัวจริงจะเป็นเจียงอี้ พี่ใหญ่ ท่านคิดเช่นไร?
ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เราก็ค่อยกลับไปคุยกันเถอะ! หลังจากที่ซือถูอีเสี้ยวส่งข้อความเสียงกลับมาอีกครั้ง พวกเขาก็กลายเป็นสายรุ้งและบินกลับไปยังที่พักตระกูลซือถู ส่วนนายน้อยและคุณหนูคนอื่นๆเองก็กำลังพากันกลับที่พักตัวเองโดยเร็วเช่นกัน มีเรื่องใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้น พวกเขาจะต้องนำข่าวกลับไปให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะ….เจียงอี้อาจจะมีหญ้ามังกรยาจกและวิชาหลีกสวรรค์อยู่กับตัว!
พี่หวงฝู ข้าขอบคุณเจ้ามาก!
หลังจากกลับไปถึงตำหนักอี เจียงอี้ก็คำนับและยิ้มให้เฟิ่งหลวนและคนอื่นอย่างขมขื่นที่กำลังเดินตามเขามา ตัวตนของข้าถูกเปิดเผยแล้ว พวกเจ้าเข้าไปในราชวังจักรพรรดิเถอะ พวกเราอาจจะหนีไปเมื่อไหร่ก็ได้
หนี?
หวงฝูเทาเทียนเลิกคิ้วแล้วถามว่า ทำไมเจ้าต้องหนีด้วย? โอ…น้องเจียง เจ้ากลัวใช่ไหมว่าเหล่าตระกูลผู้มีชื่อเสียงจะตามล่าเจ้าเพราะวิชาหลีกสวรรค์, หญ้ามังกรยาจกและ หลังจากที่ซือถูอีเสี้ยวส่งข้อความเสียงกลับมาอีกครั้ง พวกเขาก็กลายเป็นสายรุ้งและบินกลับไปยังที่พักตระกูลซือถู ส่วนนายน้อยและคุณหนูคนอื่นๆเองก็กำลังพากันกลับที่พักตัวเองโดยเร็วเช่นกัน มีเรื่องใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้น พวกเขาจะต้องนำข่าวกลับไปให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะ….เจียงอี้อาจจะมีหญ้ามังกรยาจกและวิชาหลีกสวรรค์อยู่กับตัว!
พี่หวงฝู ข้าขอบคุณเจ้ามาก!
หลังจากกลับไปถึงตำหนักอี เจียงอี้ก็คำนับและยิ้มให้เฟิ่งหลวนและคนอื่นอย่างขมขื่นที่กำลังเดินตามเขามา ตัวตนของข้าถูกเปิดเผยแล้ว พวกเจ้าเข้าไปในราชวังจักรพรรดิเถอะ พวกเราอาจจะหนีไปเมื่อไหร่ก็ได้
หนี?
หวงฝูเทาเทียนเลิกคิ้วแล้วถามว่า ทำไมเจ้าต้องหนีด้วย? โอ…น้องเจียง เจ้ากลัวใช่ไหมว่าเหล่าตระกูลผู้มีชื่อเสียงจะตามล่าเจ้าเพราะวิชาหลีกสวรรค์, หญ้ามังกรยาจกและ หลังจากที่ซือถูอีเสี้ยวส่งข้อความเสียงกลับมาอีกครั้ง พวกเขาก็กลายเป็นสายรุ้งและบินกลับไปยังที่พักตระกูลซือถู ส่วนนายน้อยและคุณหนูคนอื่นๆเองก็กำลังพากันกลับที่พักตัวเองโดยเร็วเช่นกัน มีเรื่องใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้น พวกเขาจะต้องนำข่าวกลับไปให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะ….เจียงอี้อาจจะมีหญ้ามังกรยาจกและวิชาหลีกสวรรค์อยู่กับตัว!
พี่หวงฝู ข้าขอบคุณเจ้ามาก!
หลังจากกลับไปถึงตำหนักอี เจียงอี้ก็คำนับและยิ้มให้เฟิ่งหลวนและคนอื่นอย่างขมขื่นที่กำลังเดินตามเขามา ตัวตนของข้าถูกเปิดเผยแล้ว พวกเจ้าเข้าไปในราชวังจักรพรรดิเถอะ พวกเราอาจจะหนีไปเมื่อไหร่ก็ได้
หนี?
หวงฝูเทาเทียนเลิกคิ้วแล้วถามว่า ทำไมเจ้าต้องหนีด้วย? โอ…น้องเจียง เจ้ากลัวใช่ไหมว่าเหล่าตระกูลผู้มีชื่อเสียงจะตามล่าเจ้าเพราะวิชาหลีกสวรรค์, หญ้ามังกรยาจกและเกราะเมฆาอัคคีเหล่านั้น?
เจียงอี้พยักหน้าและกล่าวว่า ข้าได้ขัดเกลาหญ้ามังกรยาจกไปแล้ว แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องนั้น ส่วนวิชาหลีกสวรรค์….ข้าเกรงว่าตระกูลใหญ่ๆพวกนั้นจะมาชิงมันไปอย่างไม่คิดชีวิต
ฮ่าฮ่า
หวงฝูเทาเทียนโบกมือและกล่าวว่า เจ้ามั่นใจไว้และอยู่ที่นี่เถอะ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าในที่สาธารณะ ในกรณีที่แย่ที่สุด เจ้าสามารถหันไปหาตระกูลซือถู, ตระกูลหนานกงหรือจะเป็นตระกูลหวงฝูและทำข้อตกลงกับพวกเขาก็ได้ ด้วยการคุ้มกันจากตระกูลใดตระกูลหนึ่งแล้ว ตาเฒ่าเหลยและลู่หลีจะไม่กล้ามาสร้างปัญหาแน่!
…