“ฆ่า!”
ผู้อาวุโสตระกูลซือถูคำรามออกมาขณะที่คนทั้งสองหมื่นคนแผ่ออกไปเป็นค่ายกลรูปพัด พวกเขาชักกระบี่ออกมาอย่างเป็นระเบียบและเทแก่นแท้พลังลงไปพร้อมปล่อยรูปแบบเต๋าหรือความสามารถพิเศษต่างๆออกมา
จี๊! จี๊!
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งสองหมื่นคนโจมตีออกมาพร้อมกัน ท้องฟ้านั้น… ถูกเจาะทะลุไป!
สายพลังสองหมื่นสายส่องประกายระยิบระยับขณะที่มันถูกยิงออกมาการโจมตีปกคลุมไปทั่วฟ้าและมีกลิ่นอายที่ทำให้อากาศรอบๆปะทุขึ้น ผืนทะเลพุ่งพล่านออกมาทั่วทุกสารทิศราวกับเกิดพายุ ในขณะที่ท้องฟ้าถูกเจาะทะลุ มันก็เกิดเสียงเสียดแหลมที่ทำให้กองโจรดาราเรืองรองรู้สึกว่าพวกเขาได้ยินเสียงเรียกของความตาย ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
กองทัพดาราเรืองรองส่วนใหญ่ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงเนื่องจากวิชายอดสวรรค์สะท้านปฐพีของซือถูนู่และพวกเขาก็ล้มอยู่กลางอากาศ พวกเขาไม่มีโอกาสได้โต้กลับและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาขณะที่มองไปยังลำแสงนับสองหมื่นสายที่พาดผ่านท้องฟ้ามาด้วยความหวาดกลัว
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
ฟ้าดินระเบิดและเกิดเสียงดังก้องอยู่อย่างต่อเนื่องขณะที่ห้วงอากาศใกล้กองทัพดาราเรืองรองถูกฉีกเป็นรอยแยกที่ยาวเป็นกิโลเมตรและกว้างถึงสามร้อยเมตรราวกับว่าท้องฟ้าถูกฉีกแยกออกจากกัน และข้างๆรอยแยกใหญ่ๆนั้นก็มีรอยแยกที่เป็นเหมือนใยแมงมุมมากมายกำลังขยายออกไปอย่างน่าหวาดผวา
“อ๊ากก!”
เสียงกรีดร้องนับไม่ถ้วนดังก้องขึ้นเมื่อโล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่อ่อนแอกว่าแตกสลายไปขณะที่ร่างของพวกเขากลายเป็นเนื้อสับจากการระเบิดอันน่าสยดสยอง ภายใต้การโจมตีสองหมื่นสายและสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้จะต้องมีผู้ที่ตกตายอย่างแน่นอนเมื่อโล่ศักดิ์สิทธิ์ของคนเหล่านั้นถูกทำลาย แต่หากผู้ใดมีชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์แฝง พวกเขาก็อาจจะรอดมาได้ด้วยความบังเอิญ
แต่ปัญหาคือ….พวกเขาจะมีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงหรือ? อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่แม่ทัพธรรมดาก็ยังไม่มีมัน นอกจากรองแม่ทัพและแม่ทัพชั้นสูงบางคนเท่านั้นที่มี
การโจมตีเพียงระลอกเดียว!
ในการโจมตีเพียงระลอกเดียวนั้นได้สังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนไปอย่างน้อยห้าพันคนจากหมื่นคนแล้ว ฝนโลหิตและแขนขาที่ขาดวิ่นกระจายลงไปที่พื้นดินทุกหนแห่ง
“ยอมแล้ว เรายอมแล้ว!” “อย่าโจมตีอีกเลย เรายอมจำนนแล้วขอรับ..!”
“ไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”
เมื่อกองโจรสูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปและตระหนักได้ว่าไม่มีทางรอดและความตายกำลังคืบคลานเข้ามา ความคิดแรกของพวกเขานั้นคือการยอมจำนน ศักดิ์ศรีนั้นมีค่า แต่ชีวิตมีค่ายิ่งกว่า บางทีผู้ที่รอดชีวิตที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งอาจมีบุคลิกที่ไม่ยอมแพ้ต่อผู้ใด แต่หลังจากที่ถูกตระกูลซือถูสังหารอย่างไร้ปรานี ความกล้าหาญของพวกเขาก็พังทลายลงไปด้วย และที่สำคัญที่สุดคือมันไม่ใช่เรื่องน่าอับอายที่จะกลายเป็นทาสตระกูลซือถู หากพวกเขาสามารถจำนนต่อแม่ทัพใหญ่ของกองทัพดาราเรืองรองได้ การยอมจำนนในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“บรรดาผู้ที่ยอมจำนนจงบินไปทางซ้ายร้อยกิโลเมตร หากผู้ใดกล้าตุกติก ทุกคนจะต้องตาย!”
เสียงของซือถูนู่ดังก้องมาจากท้องฟ้าและหลายๆคนก็พากันดีใจในทันที ผู้คนกว่าสามพันคนรีบบินไปทางซ้ายขณะที่คนอื่นๆอีกสองพันคนยังคงลังเล บางคนก็ยังหลบหนีต่อไปด้วยเช่นกัน
“ฮึ่ม!”
ฝ่ามือยักษ์กระแทกลงมาจากฟ้าด้านบนขณะที่คนอีกสองพันคนที่เหลือตะโกนออกมาว่ายอมจำนนแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไปแล้วเพราะคนสองหมื่นคนได้ชักกระบี่ออกมา ยกมันขึ้นและฟาดมันลงมาอย่างเป็นระเบียบในทันที
จี๊! จี๊! Aileen-novel
สายพลังสองหมื่นสายพุ่งออกมาพร้อมกับเสียงแหลมที่ดังก้องขึ้นอีกครั้ง…ขณะที่ท้องฟ้าแตกสลายอีกครั้ง มันไม่จำเป็นต้องเห็นจุดจบของคนสองพันคนเหล่านั้นเลยเพราะมีคนสองหมื่นคนกำลังสังหารคนสองพันคนอยู่ และความแข็งแกร่งโดยรวมของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนของตระกูลซือถูนั้นเหนือกว่ากองโจรมาก “เสวี่ยสง ยังคิดจะหนีอีกรึ?”
ห้วงอากาศด้านหน้ารองแม่ทัพผู้ที่ตัวใหญ่ราวกับยักษ์ถูกฉีกออกมาทันทีขณะที่ชายวัยกลางคนปรากฏขึ้นมา ชายผู้นั้นสวมผ้าปักลายสีดำ ดวงตาที่เย็นเยียบคู่นั้นจ้องไปยังรองแม่ทัพที่กำลังหนีด้วยความกลัวขณะที่มุมปากของเขาเผยการยิ้มเยาะ
“ซือถูนู่ ข้าจะลากเจ้าลงนรกไปกับข้าซะ!”
รองแม่ทัพเสวี่ยสงคำรามออกมาด้วยความเดือดดาลขณะที่เขาทุบหน้าอกด้วยหมัดของตัวเอง จากนั้นร่างของเขาก็สว่างไสวด้วยแสงสีแดงโลหิตและเสื้อผ้าของเขาก็ฉีกขาดออกจากกัน กล้ามเนื้อของเขาปูดขึ้นมาและกลายเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่น่าสยองขวัญและผิวของเขาก็มีเกล็ดเล็กๆราวกับว่าเขากลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์
“ฮึ่ม ทักษะเปลือกโลหิต? เด็กๆ!”
ดาบอ่อนปรากฏขึ้นในมือซือถูนู่ เขาขยับแขนเล็กน้อยขณะที่ดาบอ่อนนั้นงอเหมือนอสรพิษที่เปล่งประกายแสงสีดำ นอกจากนี้มันยังมีอักขระที่ส่องประกายไม่หยุดหย่อน เขาจับดาบยาวนั้นด้วยมือทั้งสองข้างขณะที่ร่างของเขาหมุนไปทั้งร่าง เมื่อมนุษย์ประสานเข้ากับดาบเป็นหนึ่งเดียว เขาก็กลายเป็นแสงสีดำและแทงทะลวงไปที่หน้าอกของเสวี่ยสง
“สมบัติเชื่อมดวงจิต? ซือถูนู่ มาตายด้วยกันเถอะ!”
เสวี่ยสงเปล่งเสียงคำรามออกมาขณะที่ร่างยักษ์ของเขาสว่างวาบด้วยแสงสีโลหิตอีกครั้ง ค้อนเหล็กขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นในมือของเขาซึ่งมันก็เปล่งแสงสีแดงออกมาด้วย เขาไม่ได้พยายามหลบเลี่ยงเลยและเพียงแค่ทุบค้อนไปที่ร่างซือถูนู่ที่กำลังเข้าใกล้ตัวเขาอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ซือถูนู่หัวเราะออกมาและทันทีที่ค้อนทุบลงมา เกราะต่อสู้สีดำก็ปรากฏขึ้นบนร่างของซือถูนู่ อักขระโบราณกระจายไปทั่วชุดเกราะและแท้จริงแล้วมันคือสมบัติเชื่อมดวงจิตอีกชิ้นหนึ่ง
ตูมม!
ค้อนขนาดยักษ์กระแทกเข้ากับชุดเกราะและมันก็กระเด็นออกมา เลือดสดๆไหลออกมาจากมุมปากของ ซือถูนู่ แต่เขาไม่ได้หยุดและดาบอ่อนของเขาก็แทงเข้าไปในร่างของเสวี่ยสง และการป้องกันที่น่าภาคภูมิของเสวี่ยสงก็ได้ถูกซือถูนู่แทงทะลุผ่านเพียงดาบเดียว
จี๊! จี๊!
ดาบอ่อนของ ซือถูนู่กวาดเข้าไปที่อกของ เสวี่ยสง และฉีกมันออกเป็นชิ้นเนื้อ ดวงตาของ เสวี่ยสงจ้องไปยัง ซือถูนู่ ขณะที่เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายเพื่อถามบางสิ่ง “เราไม่ได้มีความบาดหมางกับตระกูลซือถู….ทำไมกัน….?”
ซือถูนู่ดึงดาบอ่อนกลับมาและปาดเลือดที่มุมปากของเขาแล้วตอบอย่างเย็นชาว่า “เจ้าได้ยั่วยุผู้ที่เจ้าไม่ควรจะยั่วยุ สถานะของเจียงอี้ในใจของท่านประมุขตอนนี้สูงกว่านายน้อยอีเสี้ยวเสียอีก อย่าว่าแต่เจ้าเลย หากสิบสามตระกูลกล้าแตะต้องเขา ตระกูลซือถูของเราก็จะเสี่ยงทุกอย่างเช่นกัน!”
ปึง!
ซือถูนู่แผ่ฝ่ามือออกไปด้วยความเร็วสูงและเก็บค้อนยักษ์กับแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของ เสวี่ยสงเอาไว้ในแหวนของตัวเอง จากนั้นเขาก็ให้แก่นแท้พลังโจมตีออกไปและระเบิดร่างของ เสวี่ยสงจนกลายเป็นหมอกโลหิตและจากนั้นซือถูนู่ก็หายวับเข้าไปในห้วงอากาศ ในวินาทีถัดมา เขาก็ปรากฏขึ้นใกล้ๆกับขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดที่กำลังหลบหนีอยู่
วิชาย้ายห้วงมิติ!
นี่เป็นทักษะวิชาสูงสุดของตระกูลซือถูซึ่งทำให้เดินทางผ่านความว่างเปล่าได้ในระยะนับล้านกิโลเมตร มันเป็นความสามารถที่น่ากลัวที่สุดของตระกูลซือถูและนั่นก็เป็นสาเหตุที่ซือถูอ้าวกล้าพอที่จะปล่อยให้ซือถูอีเสี้ยวควบคุมกองทัพ
ขณะที่ ซือถูนู่คอยกำจัดขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดที่หลบหนีออกไปทั้งหมด การต่อสู้อีกด้านหนึ่งก็จบลงแล้วเช่นกัน โจรทั้งสามพันคนได้มอบผนึกแห่งดวงจิตของพวกเขามาและพวกเขาก็จะกลายเป็นทาสของตระกูลซือถูในอนาคต พวกเขาอาจเป็นทาสในเวลาสิบปี…หรืออาจจะเป็นทาสทั้งชีวิตเลยก็ได้
แหวนและสมบัติทั้งหมดถูกส่งมอบมาเรียบร้อย หลังจากที่ ซือถูนู่กลับไปที่สนามรบเพื่อทำความสะอาด เขาก็กวาดสายตามองทุกคนอย่างเย็นชาและโบกมือ “ส่งข้อความถึงนายน้อยอีเสี้ยว ว่าขอให้นายน้อยเจียงจับตำแหน่งเป้าหมายต่อไปและเตรียมสำหรับการสังหารหมู่ครั้งต่อไป!”
ผู้อาวุโสตระกูลซือถูคำรามออกมาขณะที่คนทั้งสองหมื่นคนแผ่ออกไปเป็นค่ายกลรูปพัด พวกเขาชักกระบี่ออกมาอย่างเป็นระเบียบและเทแก่นแท้พลังลงไปพร้อมปล่อยรูปแบบเต๋าหรือความสามารถพิเศษต่างๆออกมา
จี๊! จี๊!
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งสองหมื่นคนโจมตีออกมาพร้อมกัน ท้องฟ้านั้น… ถูกเจาะทะลุไป!
สายพลังสองหมื่นสายส่องประกายระยิบระยับขณะที่มันถูกยิงออกมาการโจมตีปกคลุมไปทั่วฟ้าและมีกลิ่นอายที่ทำให้อากาศรอบๆปะทุขึ้น ผืนทะเลพุ่งพล่านออกมาทั่วทุกสารทิศราวกับเกิดพายุ ในขณะที่ท้องฟ้าถูกเจาะทะลุ มันก็เกิดเสียงเสียดแหลมที่ทำให้กองโจรดาราเรืองรองรู้สึกว่าพวกเขาได้ยินเสียงเรียกของความตาย ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
กองทัพดาราเรืองรองส่วนใหญ่ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงเนื่องจากวิชายอดสวรรค์สะท้านปฐพีของซือถูนู่และพวกเขาก็ล้มอยู่กลางอากาศ พวกเขาไม่มีโอกาสได้โต้กลับและไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปล่อยโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาขณะที่มองไปยังลำแสงนับสองหมื่นสายที่พาดผ่านท้องฟ้ามาด้วยความหวาดกลัว
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
ฟ้าดินระเบิดและเกิดเสียงดังก้องอยู่อย่างต่อเนื่องขณะที่ห้วงอากาศใกล้กองทัพดาราเรืองรองถูกฉีกเป็นรอยแยกที่ยาวเป็นกิโลเมตรและกว้างถึงสามร้อยเมตรราวกับว่าท้องฟ้าถูกฉีกแยกออกจากกัน และข้างๆรอยแยกใหญ่ๆนั้นก็มีรอยแยกที่เป็นเหมือนใยแมงมุมมากมายกำลังขยายออกไปอย่างน่าหวาดผวา
“อ๊ากก!”
เสียงกรีดร้องนับไม่ถ้วนดังก้องขึ้นเมื่อโล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่อ่อนแอกว่าแตกสลายไปขณะที่ร่างของพวกเขากลายเป็นเนื้อสับจากการระเบิดอันน่าสยดสยอง ภายใต้การโจมตีสองหมื่นสายและสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้จะต้องมีผู้ที่ตกตายอย่างแน่นอนเมื่อโล่ศักดิ์สิทธิ์ของคนเหล่านั้นถูกทำลาย แต่หากผู้ใดมีชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์แฝง พวกเขาก็อาจจะรอดมาได้ด้วยความบังเอิญ
แต่ปัญหาคือ….พวกเขาจะมีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงหรือ? อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่แม่ทัพธรรมดาก็ยังไม่มีมัน นอกจากรองแม่ทัพและแม่ทัพชั้นสูงบางคนเท่านั้นที่มี
การโจมตีเพียงระลอกเดียว!
ในการโจมตีเพียงระลอกเดียวนั้นได้สังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนไปอย่างน้อยห้าพันคนจากหมื่นคนแล้ว ฝนโลหิตและแขนขาที่ขาดวิ่นกระจายลงไปที่พื้นดินทุกหนแห่ง
“ยอมแล้ว เรายอมแล้ว!” “อย่าโจมตีอีกเลย เรายอมจำนนแล้วขอรับ..!”
“ไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”
เมื่อกองโจรสูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปและตระหนักได้ว่าไม่มีทางรอดและความตายกำลังคืบคลานเข้ามา ความคิดแรกของพวกเขานั้นคือการยอมจำนน ศักดิ์ศรีนั้นมีค่า แต่ชีวิตมีค่ายิ่งกว่า บางทีผู้ที่รอดชีวิตที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งอาจมีบุคลิกที่ไม่ยอมแพ้ต่อผู้ใด แต่หลังจากที่ถูกตระกูลซือถูสังหารอย่างไร้ปรานี ความกล้าหาญของพวกเขาก็พังทลายลงไปด้วย และที่สำคัญที่สุดคือมันไม่ใช่เรื่องน่าอับอายที่จะกลายเป็นทาสตระกูลซือถู หากพวกเขาสามารถจำนนต่อแม่ทัพใหญ่ของกองทัพดาราเรืองรองได้ การยอมจำนนในวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“บรรดาผู้ที่ยอมจำนนจงบินไปทางซ้ายร้อยกิโลเมตร หากผู้ใดกล้าตุกติก ทุกคนจะต้องตาย!”
เสียงของซือถูนู่ดังก้องมาจากท้องฟ้าและหลายๆคนก็พากันดีใจในทันที ผู้คนกว่าสามพันคนรีบบินไปทางซ้ายขณะที่คนอื่นๆอีกสองพันคนยังคงลังเล บางคนก็ยังหลบหนีต่อไปด้วยเช่นกัน
“ฮึ่ม!”
ฝ่ามือยักษ์กระแทกลงมาจากฟ้าด้านบนขณะที่คนอีกสองพันคนที่เหลือตะโกนออกมาว่ายอมจำนนแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไปแล้วเพราะคนสองหมื่นคนได้ชักกระบี่ออกมา ยกมันขึ้นและฟาดมันลงมาอย่างเป็นระเบียบในทันที
จี๊! จี๊! Aileen-novel
สายพลังสองหมื่นสายพุ่งออกมาพร้อมกับเสียงแหลมที่ดังก้องขึ้นอีกครั้ง…ขณะที่ท้องฟ้าแตกสลายอีกครั้ง มันไม่จำเป็นต้องเห็นจุดจบของคนสองพันคนเหล่านั้นเลยเพราะมีคนสองหมื่นคนกำลังสังหารคนสองพันคนอยู่ และความแข็งแกร่งโดยรวมของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนของตระกูลซือถูนั้นเหนือกว่ากองโจรมาก “เสวี่ยสง ยังคิดจะหนีอีกรึ?”
ห้วงอากาศด้านหน้ารองแม่ทัพผู้ที่ตัวใหญ่ราวกับยักษ์ถูกฉีกออกมาทันทีขณะที่ชายวัยกลางคนปรากฏขึ้นมา ชายผู้นั้นสวมผ้าปักลายสีดำ ดวงตาที่เย็นเยียบคู่นั้นจ้องไปยังรองแม่ทัพที่กำลังหนีด้วยความกลัวขณะที่มุมปากของเขาเผยการยิ้มเยาะ
“ซือถูนู่ ข้าจะลากเจ้าลงนรกไปกับข้าซะ!”
รองแม่ทัพเสวี่ยสงคำรามออกมาด้วยความเดือดดาลขณะที่เขาทุบหน้าอกด้วยหมัดของตัวเอง จากนั้นร่างของเขาก็สว่างไสวด้วยแสงสีแดงโลหิตและเสื้อผ้าของเขาก็ฉีกขาดออกจากกัน กล้ามเนื้อของเขาปูดขึ้นมาและกลายเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่น่าสยองขวัญและผิวของเขาก็มีเกล็ดเล็กๆราวกับว่าเขากลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์
“ฮึ่ม ทักษะเปลือกโลหิต? เด็กๆ!”
ดาบอ่อนปรากฏขึ้นในมือซือถูนู่ เขาขยับแขนเล็กน้อยขณะที่ดาบอ่อนนั้นงอเหมือนอสรพิษที่เปล่งประกายแสงสีดำ นอกจากนี้มันยังมีอักขระที่ส่องประกายไม่หยุดหย่อน เขาจับดาบยาวนั้นด้วยมือทั้งสองข้างขณะที่ร่างของเขาหมุนไปทั้งร่าง เมื่อมนุษย์ประสานเข้ากับดาบเป็นหนึ่งเดียว เขาก็กลายเป็นแสงสีดำและแทงทะลวงไปที่หน้าอกของเสวี่ยสง
“สมบัติเชื่อมดวงจิต? ซือถูนู่ มาตายด้วยกันเถอะ!”
เสวี่ยสงเปล่งเสียงคำรามออกมาขณะที่ร่างยักษ์ของเขาสว่างวาบด้วยแสงสีโลหิตอีกครั้ง ค้อนเหล็กขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นในมือของเขาซึ่งมันก็เปล่งแสงสีแดงออกมาด้วย เขาไม่ได้พยายามหลบเลี่ยงเลยและเพียงแค่ทุบค้อนไปที่ร่างซือถูนู่ที่กำลังเข้าใกล้ตัวเขาอย่างรวดเร็ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ซือถูนู่หัวเราะออกมาและทันทีที่ค้อนทุบลงมา เกราะต่อสู้สีดำก็ปรากฏขึ้นบนร่างของซือถูนู่ อักขระโบราณกระจายไปทั่วชุดเกราะและแท้จริงแล้วมันคือสมบัติเชื่อมดวงจิตอีกชิ้นหนึ่ง
ตูมม!
ค้อนขนาดยักษ์กระแทกเข้ากับชุดเกราะและมันก็กระเด็นออกมา เลือดสดๆไหลออกมาจากมุมปากของ ซือถูนู่ แต่เขาไม่ได้หยุดและดาบอ่อนของเขาก็แทงเข้าไปในร่างของเสวี่ยสง และการป้องกันที่น่าภาคภูมิของเสวี่ยสงก็ได้ถูกซือถูนู่แทงทะลุผ่านเพียงดาบเดียว
จี๊! จี๊!
ดาบอ่อนของ ซือถูนู่กวาดเข้าไปที่อกของ เสวี่ยสง และฉีกมันออกเป็นชิ้นเนื้อ ดวงตาของ เสวี่ยสงจ้องไปยัง ซือถูนู่ ขณะที่เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายเพื่อถามบางสิ่ง “เราไม่ได้มีความบาดหมางกับตระกูลซือถู….ทำไมกัน….?”
ซือถูนู่ดึงดาบอ่อนกลับมาและปาดเลือดที่มุมปากของเขาแล้วตอบอย่างเย็นชาว่า “เจ้าได้ยั่วยุผู้ที่เจ้าไม่ควรจะยั่วยุ สถานะของเจียงอี้ในใจของท่านประมุขตอนนี้สูงกว่านายน้อยอีเสี้ยวเสียอีก อย่าว่าแต่เจ้าเลย หากสิบสามตระกูลกล้าแตะต้องเขา ตระกูลซือถูของเราก็จะเสี่ยงทุกอย่างเช่นกัน!”
ปึง!
ซือถูนู่แผ่ฝ่ามือออกไปด้วยความเร็วสูงและเก็บค้อนยักษ์กับแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของ เสวี่ยสงเอาไว้ในแหวนของตัวเอง จากนั้นเขาก็ให้แก่นแท้พลังโจมตีออกไปและระเบิดร่างของ เสวี่ยสงจนกลายเป็นหมอกโลหิตและจากนั้นซือถูนู่ก็หายวับเข้าไปในห้วงอากาศ ในวินาทีถัดมา เขาก็ปรากฏขึ้นใกล้ๆกับขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดที่กำลังหลบหนีอยู่
วิชาย้ายห้วงมิติ!
นี่เป็นทักษะวิชาสูงสุดของตระกูลซือถูซึ่งทำให้เดินทางผ่านความว่างเปล่าได้ในระยะนับล้านกิโลเมตร มันเป็นความสามารถที่น่ากลัวที่สุดของตระกูลซือถูและนั่นก็เป็นสาเหตุที่ซือถูอ้าวกล้าพอที่จะปล่อยให้ซือถูอีเสี้ยวควบคุมกองทัพ
ขณะที่ ซือถูนู่คอยกำจัดขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดที่หลบหนีออกไปทั้งหมด การต่อสู้อีกด้านหนึ่งก็จบลงแล้วเช่นกัน โจรทั้งสามพันคนได้มอบผนึกแห่งดวงจิตของพวกเขามาและพวกเขาก็จะกลายเป็นทาสของตระกูลซือถูในอนาคต พวกเขาอาจเป็นทาสในเวลาสิบปี…หรืออาจจะเป็นทาสทั้งชีวิตเลยก็ได้
แหวนและสมบัติทั้งหมดถูกส่งมอบมาเรียบร้อย หลังจากที่ ซือถูนู่กลับไปที่สนามรบเพื่อทำความสะอาด เขาก็กวาดสายตามองทุกคนอย่างเย็นชาและโบกมือ “ส่งข้อความถึงนายน้อยอีเสี้ยว ว่าขอให้นายน้อยเจียงจับตำแหน่งเป้าหมายต่อไปและเตรียมสำหรับการสังหารหมู่ครั้งต่อไป!”