เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และล่วงเลยมาห้าเดือนแล้ว
เกาะเทพประทานมีชีวิตชีวามากขึ้นขณะที่ตระกูลซือถูได้กำไรมากมายและยังดึงดูดยอดฝีมือมากมายด้วย ชื่อเสียงของพวกเขาสูงขึ้นจนถึงขั้นที่จอมยุทธธรรมดาในเผ่าเทพประทานได้กล่าวถึงเกาะเทพประทานและพูดถึงแต่ตระกูลซือถูจนไม่ได้สนใจตระกูลเหลยเลย
สมาคมการค้ามังกรโผบินเองก็เริ่มปฏิบัติการอย่างลับๆและทำให้แปดตระกูลใหญ่ได้ผลกำไรมหาศาลจากการทำการค้าที่ไร้ที่ติ เฉียนว่านก้วนก็ยังมีชื่อเสียงมากขึ้นส่วนซือถูอ้าวก็เปลี่ยนสมาชิกหัวหน้าในกลุ่มเป็นซือถูอีเนี่ยน สิ่งที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้นั้นชัดเจนมากนัก คือเขายอมรับการแต่งงานครั้งนี้แล้ว และมันขึ้นอยู่กับเฉียนว่านก้วนแล้วว่าเขาจะเอาชนะใจซือถูอีเนี่ยนได้หรือไม่ ด้านภายในปราสาทเจียงก็สงบสุขมาก
หวงฝูเทาเทียน, เจียงเสี่ยวนู๋และจ้านอู๋ซวงเข้าสู่สันโดษ ส่วนหยุนเฟยก็ศึกษาอาคมยับยั้ง นางศึกษาและเข้าใจอาคมของจอมเวทย์ไปครึ่งหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ นางกำลังจะสร้างอาคมยับยั้งของนางเอง ตามที่ซือถูอีเสี้ยวกล่าวมา มาตรฐานอาคมของหยุนเฟยได้มาถึงระดับอาจารย์แล้ว และอีกเพียงระดับเดียว นางก็จะอยู่ในจุดสูงสุดนั่นคือปรมาจารย์มือฉมัง
ส่วนจิ้งจอกน้อยก็ยังไม่ตื่นและสัตว์อสูรหยาจื้อเองก็หลับสนิททั้งวัน นอกจากฝึกฝนแล้วเจียงอี้ก็จะใช้เวลากับการวาดภาพ เขาเป็นคนเข้าใจเร็วจึงทำให้ฝีมือการวาดภาพของเขาเทียบเท่ากับเฟิ่งหลวนแล้ว สิ่งนี้ทำให้เฟิ่งหลวนอับอายนักขณะที่นางก็รักเจียงอี้มากขึ้น เพราะนางนั้นฝึกฝนฝีมือของนางมากว่าสิบปี
เจียงอี้บ่มเพาะแก่นแท้พลังของเขาอย่างรวดเร็วและตำหนักดาวดวงที่ห้าของเขากำลังจะเปลี่ยนรูป สิ่งที่ทำให้เขามืดบอดคือรูปแบบเต๋าของเขาที่ยังไม่คืบหน้า ในอีกทาง ศาสตร์เวทย์สวรรค์สยบเพลิงอเวจีของเขานั้นก็ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และตอนนี้เขาสามารถกลั่นเปลวเพลิงมังกรเก้าสวรรค์ได้แล้วและขั้นต่อไปคือการกลั่นเปลวเพลิงนทีเก้าสวรรค์ เจียงอี้ไม่รู้ว่าเปลวเพลิงนทีเก้าสวรรค์นั้นเทียบได้เท่าเปลวเพลิงอัสนีหรือไม่ แต่เขามั่นใจว่ามันยังห่างไกลจากเปลวเพลิงอัสนีนัก เพราะเขาเข้าถึงรูปแบบเต๋าอัคคีอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นคือเปลวเพลิงปะทุด้วยเปลวเพลิงนทีเก้าสวรรค์นี้ แต่แน่นอนว่ามันเป็นเพียงรูปแบบเต๋าระดับต่ำเท่านั้น
ส่วนเกราะเมฆาอัคคีก็ยังไม่สามารถเชื่อมดวงจิตได้ และเจียงอี้ก็ไม่สามารถเชื่อมดวงจิตกับเกราะพระแม่ธรณีและดาบเหล็กปฐมกาลได้ ไม่รู้ว่านี่เป็นแผนจากเหลยฉีเหยียนหรือเปล่า เมื่อเจียงอี้ไม่สามารถเชื่อมดวงจิตได้ ของพวกนี้ก็เป็นเพียงสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงธรรมดาและมันคงจะดีกว่าถ้าเจียงอี้ใช้แค่ดาบมังกรเพลิงของเขา
เมื่อพูดถึงดาบมังกรเพลิง เจียงอี้ก็ดึงไข่มุกวิญญาณเพลิงออกมาเพื่อให้ซือถูอีเสี้ยวประเมินและซ่อมแซมมัน เพราะข้อจำกัดอาคมภายในดาบมังกรเพลิงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แต่หากเขาซ่อมแซมมันได้ มันจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าทันที
แต่ก็น่าเสียดาย
เครื่องมือปรับแต่งของตระกูลซือถูไม่สามารถประเมินระดับของไข่มุกวิญญาณเพลิงได้ เขาระบุได้เพียงว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์เป็นอย่างต่ำ เขาไม่สามารถซ่อมแซมค่ายกลภายในได้เนื่องจากไม่มียอดฝีมือผู้ปรับแต่งคนใดเคยเห็นมันมาก่อนเลย
มีผู้ที่เป็นปรมาจารย์อยู่ในตระกูลหวงฝู แต่ก็น่าเสียดายที่หวงฝูเทาเทียนกับตระกูลหวงฝูนั้นเป็นดั่งน้ำกับไฟ ดังนั้นเขาจึงลืมเรื่องนี้ไปได้เลย พลังโจมตีของดาบมังกรเพลิงอาจลดลงเล็กน้อย แต่ไข่มุกวิญญาณเพลิงสามารถหลอมรวมเข้ากับดาบมังกรเพลิงได้ หินวิญญาณเพลิงที่แต่เดิมมันเคยอยู่ในไข่มุกวิญญาณเพลิงและความสามารถอันน่าเกรงขามของไข่มุกที่กันไฟได้ทำให้เจียงอี้ระบุได้ว่าดาบมังกรเพลิงนั้นพิเศษเพียงใด มันไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์ทั่วไปอย่างแน่นอน
ผ่านไปกว่าครึ่งปีแล้ว ข้ายังหลอมรวมรูปแบบเต๋าไม่ได้เลย ข้าควรออกไปเดินเล่นสักหน่อยไหม? หากข้ายังคงเข้าสู่สันโดษอยู่เช่นนี้ แล้วในชีวิตนี้ ข้าจะหลอมรวมมันได้ไหม?
เจียงอี้เปล่งประกายและปรากฏตัวขึ้นด้านนอกราชวังจักรพรรดิ เขามองดอกไม้บานด้วยคิ้วที่เต็มไปด้วยความกังวล ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้นเนื่องจากเขารู้สึกว่าเขาอยู่ที่นี่นานมาก
ตึก ตึก ตึก!
ในขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังมาจากด้านนอก เขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นเฉียนว่านก้วนที่เดินมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล หัวใจของเขาจมดิ่งนัก ก่อนหน้านี้เฉียนว่านก้วนมีจิตใจที่มั่นคงมากและเขาจะไม่แสดงท่าทางเช่นนี้แม้ว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น หรือมีบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้น?
ลูกพี่!
เฉียนว่านก้วนผอมลงได้ แม้ว่าเขาจะยังค่อนข้างอวบอยู่ แต่ก็ถือว่ายังพอรับได้ เฉียนว่านก้วนเดินมาอย่างเร่งรีบและรีบส่งข้อความเสียงหาเจียงอี้ว่า เราเพิ่งได้รับข่าวนี้มา เหลยฉีเหยียนไปยังตระกูลหนานกงเพื่อขอเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเป็นภรรยาของเขา และมีรายงานว่าหนานกงหยุนยี่ตอบตกลงไปแล้ว!
อะไรนะ?
สีหน้าของเจียงอี้เปลี่ยนไปในทันใด เขามองไปรอบๆก่อนที่จะตอบอย่างเย็นชาว่า ไม่ใช่ว่านางเป็นม่ายหรือ? นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าเหลยฉีเหยียนอภิเษกกับหญิงสาวตระกูลชวีไปแล้วรึ? หนานกงหยุนยี่เห็นด้วยได้ยังไงกัน? เฉียนว่านก้วนเดินไปด้านหน้าเจียงอี้และตอบอย่างเคร่งขรึมว่า นางเป็นม่ายแน่นอน ดังนั้นเหลยฉีเหยียนจึงขอแต่งเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเป็นนางสนมของเขา เห็นได้ชัดว่าทั้งสองตระกูลนี้กำลังสร้างพันธมิตรผ่านการสมรส
ไม่นานมานี้ อิทธิพลของตระกูลซือถูเติบโตขึ้นและรวมตัวกับแปดตระกูลใหญ่เพื่อปราบตระกูลเหลย ตระกูลหวงฝูเองก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน ดังนั้นตระกูลเหลยจึงพึ่งพาได้เพียงตระกูลหนานกงเท่านั้น หนานกงหยุนยี่อาจหัวโบราณแต่เขาเต็มใจที่จะเสียสละทุกอย่างเมื่อมันเป็นการดีต่อตระกูล เหมือนกับการหมั้นของหวงฝูเทาเทียนและเหลยจื่อหาน หวงฝูฉีนั้นเกลียดเหลยถิงเวยไปจนถึงกระดูกของเขา แต่เหลยจื่อหานชอบพอหวงฝูเทาเทียน เขาจึงทำข้อตกลงที่จะเป็นพันธมิตรด้วยการอภิเษกสมรส เพราะท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลเหลยก็ยังเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง
พันธมิตรการสมรสบ้าบออะไรกันล่ะ! ดวงตาของเจียงอี้เป็นประกายเย็นชาและกลิ่นอายสังหารบนร่างของเขาแผ่ออกมา เขายิ้มเย้ยออกมาว่า เหลยฉีเหยียนพยายามแก้แค้นข้า เขาต้องการจะเล่นกับเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเพื่อล้างแค้นข้า เขาคงต้องไปตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมาแล้วแน่ๆ
เฉียนว่านก้วนนวดขมับและถอนหายใจ ลูกพี่ไม่ต้องห่วง ตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะหมั้นกันและยังไม่ได้แต่งงานกัน มันมีทางแก้ไขเรื่องนี้ได้ ก่อนหน้านี้ เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานแต่งกับนายน้อยตระกูลลู่ แต่นายน้อยตระกูลลู่ตกตายไปขณะที่พยายามท้าทายผู้ลึกลับ ดังนั้นนางจึงต้องเป็นม่ายเป็นเวลาเจ็ดปีตามประเพณีตระกูล และยังเหลือเวลาอีกหนึ่งปี
หนึ่งปี?
เจียงอี้พยักหน้า แต่เขาก็พูดด้วยท่าทีลำบากใจ มันมีวิธีอื่นอะไรอีก? นี่คือเรื่องของตระกูลหนานกงและเราเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ อย่าบอกนะว่าเราต้องชิงนาง? ตระกูลหนานกงมีแต่ยอดฝีมือ และถึงแม้ว่าเราจะชิงตัวนางมาได้ แต่จากนั้นเราก็ทำได้เพียงแค่ออกจากเกาะแห่งบาปเท่านั้น ข้าน่ะได้ แต่อนาคตของเจ้าจะพังลงสิ
ฮู่วว ฮู่ววว…
เฉียนว่านก้วนถอนหายใจยาวๆ อันที่จริงเขาได้เดาปฏิกิริยาของเจียงอี้แล้วว่ามันจะเป็นเช่นไรเมื่อเขาได้รับข่าวนี้ เจียงอี้ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์เป็นอย่างมากและเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเป็นดั่งพี่สาวเขา ยิ่งกว่านั้นนางยังช่วยเหลือพวกเขามากมาย มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมองดูนางเดินลงไปในปล่องไฟ
ในช่วงเวลานี้ เหลยฉีเหยียนเก็บตัวและปิดประตูอยู่แต่ภายในตระกูลเหลย เขาไม่เคยมาหาเรื่องเจียงอี้และเฉียนว่านก้วนเลย แต่ขนาดคนใช้เท้าคิด พวกเขายังรู้ว่าเขาพยายามจะล้างแค้นเจียงอี้ ไม่อย่างนั้น ทำไมเขาถึงเลือกที่จะรับเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเป็นภรรยาของเขาในเมื่อยังมีหญิงสาวอีกมากมายในตระกูลหนานกง? เพราะท้ายที่สุดแล้ว ชื่อเสียงของหญิงม่ายนั้นก็ไม่ดีมากนัก
มันเป็นการตบหน้าเจียงอี้หลังจากที่เขาแต่งงานกับเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน เมื่อนางกลายเป็นนางสนมของเขาแล้ว เหลยฉีเหยียนก็จะทำให้นางเป็นของเล่นได้ตามที่ต้องการ และเขาจะระบายความโกรธทั้งหมดที่ได้รับจากเจียงอี้มาลงกับเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน
ความโกรธของเจียงอี้เพิ่มขึ้นเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ขณะที่เขาเดินไปมาในลานบ้านของเขา ครึ่งวันต่อมา เขาก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเฉียนว่านก้วนทันที ว่านก้วน หาทางให้ข้าได้พบเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานที
นี่….
เฉียนว่านก้วนเริ่มลังเล แต่ครู่ต่อมาเขาก็พยักหน้า ตกลง พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของอีเสี้ยว ข้าจะส่งคนไปเชิญหนานกงมู่หยีและเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานโดยใช้ชื่อข้า, อีเสี้ยว, อีเนี่ยนและเจ้า ตระกูลหนานกงน่าจะเข้าใจถึงเจตนาของเรา หากพวกเขาไม่ไว้หน้าเรา เช่นนั้น ข้าก็จะไม่ไว้หน้าหนานกงมู่หยีในอนาคตเช่นกัน
อืม
เจียงอี้พยักหน้า แต่เขาไม่ได้หวังมากนัก อย่างไรก็ตามหนานกงมู่หยีก็ไม่ได้ไว้หน้าเขาเมื่อเขาไปยังตระกูลหนานกงเพื่อขอพบเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานในคราวนั้น
ลูกพี่อย่าใจร้อนไป!
เฉียนว่านก้วนพูดอย่างหนักแน่น เรามาดูกันว่าข้าจะทำข้อตกลงการค้ากับตระกูลหนานกงได้หรือไม่ หากเราทำไม่ได้จริงๆ ข้าจะให้เจ้าชิงเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานไป อย่างแย่ๆ เราก็แค่เพียงต้องท่องโลกต่อไปเท่านั้น
ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?
เจียงอี้ตกใจ หากเฉียนว่านก้วนเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วย มันก็ไม่ต่างจากการทำสงครามกับตระกูลเหลยและตระกูลซือถู และความพยายามทั้งหมดของเขาในช่วงเวลานี้ก็จะสูญเปล่าและการแต่งงานระหว่างซือถูอีเนี่ยนก็จะทลายลง เฉียนว่านก้วนตบบ่าเจียงอี้อย่างไม่กังวล ลูกพี่ไม่ต้องห่วง หากอีเนี่ยนชอบข้าจริง นางคงหนีไปกับข้าแน่นอน แต่หากนางไม่เต็มใจตามข้าไป แล้วการมีหญิงเช่นนี้จะมีประโยชน์อะไร? ผู้ชายจะห่วงเรื่องการหาภรรยาไม่ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเล่า?