เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven – บทที่ 848 เผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาว

บทที่ 848 เผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาว

  หลังจากที่เทวาทมิฬเคลื่อนไหวอย่างทรงพลัง เจียงอี้ก็โล่งใจ เนื่องจากเทวาทมิฬเต็มใจลงมือเอง เขาจะเข้ามามีเอี่ยวในเรื่องนี้ในภายหลังแน่นอน

   ไปกันเถอะ! 

  เทวาทมิฬไม่รู้สึกอะไรเลยขณะที่เขาเป็นผู้นำบินเข้าไปด้านใน ขณะที่เชียนเชียนและเจียงอี้อุ้มเจียงเสี่ยวนู๋ตามมาข้างหลังอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากที่พวกเขาบินเข้าไปก็มีแสงวาบสีขาวนับไม่ถ้วนสว่างขึ้นมา มีจิ้งจอกขาวสามหางและสี่หางมากมายออกมาและพวกนี้ล้วนเป็นจิ้งจอกวิญญาณ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกดึงดูดจากการต่อสู้ที่นี่

   ไสหัวไปซะ! 

  เทวาทมิฬเปล่งเสียงตะโกนออกมาและแผ่กลิ่นอายออกมา ทำให้วิญญาณจิ้งจอกทุกตนสั่นสะท้านไปด้วยความกลัวและพากันกระจายไปทั่วทุกสารทิศ จิ้งจอกวิญญาณสามหางอยู่ที่ระดับสามเท่านั้นขณะที่จิ้งจอกสี่หางเป็นเพียงราชันสัตว์อสูร อย่าว่าแต่พวกนี้เลย แม้แต่จักรพรรดิอสูรก็ยังขาอ่อนหลังจากได้สัมผัสกลิ่นอายอันทรงพลังของเทวาทมิฬ

  ไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นใดในทวีปจิ้งจอกสวรรค์เลย ขณะที่พวกเขาบินไปตามทาง พวกเขาก็พบกับจิ้งจอกวิญญาณนับไม่ถ้วนและอย่างน้อยก็มีหางสามหาง เผ่าจิ้งจอกสวรรค์นั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าเกรงขามเนื่องจากพวกเขาทั้งหมดเกิดมาเป็นระดับขั้นสามเลย พวกเขาเพียงแค่ต้องฝึกฝนเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นไปสู่ขอบเขตราชันสัตว์อสูรและทำให้กำเนิดจักรพรรดิสัตว์อสูรได้ง่าย

  ฟรึ่บ! ฟรั่บ!

  และเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

  ในเวลาเพียงสิบห้านาที ร่างกว่าร้อยร่างก็บินมาและพวกเขาเป็นขอบเขตเทียนจุนทั้งหมด บุรุษก็รูปงามส่วนสตรีเองก็มากล้นไปด้วยเสน่ห์ พวกเขาทั้งหมดสวมชุดสีขาวซึ่งทำให้พวกเขาดูเหมือนเป็นอมตะมาก  ชายวัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งน่าจะอยู่ที่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดป้องมือมาแต่ไกลและทักทาย  แขกผู้มีเกียรติทุกท่านโปรดหยุดก่อนได้ไหม? ข้ามีนามว่าทั่วป๋าอวี้ และข้าเป็นผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาว ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าแขกของข้ามีเรื่องอันใดกัน? เหตุใดพวกท่านถึงบุกรุกทวีปจิ้งจอกสวรรค์และสังหารคนของเราด้วย? 

  การแสดงออกของเทวาทมิฬยังคงไร้ความรู้สึกอยู่ขณะที่เขาไม่ได้หยุดบินต่อไปข้างหน้าและพูดอย่างเย็นชาว่า  ไสหัวไปซะ เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะมาคุยกับข้า ให้ผู้ปกครองเผ่าของเจ้ามาเจอข้า! 

   เอ่อ… 

  เหล่าจิ้งจอกสวรรค์ขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดมีสีหน้าเปลี่ยนไป หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายที่ทรงพลังของเทวาทมิฬที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถตรวจสอบขอบเขตพลังของเขาได้ พวกเขาก็คงจะลงมือแล้ว ทั่วป๋าอวี้ขวัญผวาขณะที่เขาป้องกำปั้นอีกครั้ง  ท่านใต้เท้าได้โปรดรอสักครู่ ข้าจะไปแจ้งท่านจักรพรรดิเดี๋ยวนี้เลย! 

  บรึฟ!

  เทวามทมิฬไม่ได้พูดอะไรเลย จากนั้นห้วงมิติที่อยู่ด้านบนจิ้งจอกสวรรค์กว่าร้อยตนสั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่หางมังกรจะปรากฏขึ้นมาและตวัดไปมา พวกเขาทั้งหมดไม่สามารถเลี่ยงได้ทันและถูกหางฟาดเข้า อย่างไรก็ตามแต่ คราวนี้เทวาทมิฬมีเมตตาเพราะจิ้งจอกสวรรค์จำนวนมากพุ่งชนเข้ากับยอดเขา แต่พวกนั้นเพียงแค่กระอักเลือดออกมาแต่ไม่ได้ตกตายกันไป

  หลังจากที่เทวาทมิฬเคลื่อนไหวแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยและยังคงบินต่อไป เขาเปลี่ยนเส้นทางการบินไปเล็กน้อยขณะที่เขาบินไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านเจียงอี้ก็รู้สึกพอใจมาก เพราะมันไม่สำคัญว่าเทวาทมิฬจะบินไปทางใด เขาเพียงแค่ต้องติดตามเทวาทมิฬไปเท่านั้น

  ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!   จิ้งจอกสวรรค์ขอบเขตเทียนจุนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกเพราะพวกเขารู้ว่าถ้าเทวาทมิฬไม่ปรานี พวกเขาทั้งหมดคงตกตายไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงพากันบินออกไปแต่โดยดี

   เพิ่มความเร็วของเจ้าซะ มีเมืองใหญ่อยู่ด้านหน้า เราจะไปรอผู้ปกครองเผ่าพันธุ์พวกเขาปรากฏตัวออกมา 

  เทวาทมิฬหันกลับมาพูดอย่างเย็นชาขณะที่เจียงอี้และเชียนเชียนพยักหน้าและเพิ่มความเร็ว เชียนเชียนน่าจะอยู่ขอบเขตเทียนจุนขั้นกลางเท่านั้น แต่นางเร็วมาก ส่วนเจียงอี้ก็เปิดใช้ผ้าคลุมเงาวายุและเร่งความเร็วจนถึงขีดสุด แต่เชียนเชียนก็ยังล่องไปได้แบบสบายๆ

  ความเร็วของเจียงอี้ดูเหมือนจะช้าไปสำหรับเทวาทมิฬ ขณะที่เทวาทมิฬหยุดชั่วขณะและบินไปคว้าเจียงอี้ไว้ด้วยมือเดียว ส่วนเจียงอี้ก็อุ้มเจียงเสี่ยวนู๋ไว้ขณะที่นางจับเชียนเชียนอยู่ ร่างของเทวาทมิฬสาดแสงสีดำและกลายเป็นกระแสแสงและบินไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็วนั้นเร็วมากจนเจียงอี้และคนอื่นๆมองไม่เห็นทิวทัศน์ด้านล่าง

  หนึ่งชั่วโมงต่อมา…!

  เทวาทมิฬหยุดลงและมีเมืองใหญ่ปรากฏขึ้นด้านหน้า เมืองนี้ทำให้เจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋เบิกตากว้าง เมืองนี้ใหญ่มากๆ แต่ไม่มีหินแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะทุกสิ่งนั้นสร้างด้วยไม้ กำแพงเมืองเป็นแถวของต้นไม้ยักษ์ซึ่งสูงกว่าสามร้อยเมตร ขณะที่ภายในเมืองนั้นเต็มไปด้วยบ้านไม้ เมืองนี้เต็มไปด้วยความเขียวขจีและดอกไม้ที่สวยสดงดงามจนทำให้เจียงเสี่ยวนู๋และเชียนเชียนหลงใหล

  ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!

  ชายหญิงหน้าตาดีทั้งหลายบินออกมาจากบ้านไม้, บ้านต้นไม้และปราสาทไม้ มีคนเกือบพันคนที่บินออกมาจากปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองและพวกเขาทั้งหมดก็แต่งกายด้วยชุดสีขาว

  มีชายวัยกลางคนที่สวมชุดขาวขอบทองซึ่งดูเหมือนบุคคลสำคัญ เขานำกลุ่มคนบินมาก่อนที่จะหยุดอยู่เหนือกำแพงเมือง จากนั้นก็ป้องมือทักทาย  ข้ามีนามว่าทั่วป๋าหลิน และข้าเป็นปรมาจารย์แห่งเผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาวทั้งสามสิบหกเผ่าของทวีปจิ้งจอกสวรรค์ ข้าขอทราบชื่อเสียงเรียงนามของแขกผู้มีเกียรติได้หรือไม่? มีสิ่งใดให้ข้ารับใช้หรือไม่? 

   นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน? 

  เทวาทมิฬขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างใจร้อน  นำผู้ปกครองของเผ่าเจ้ามาพบข้า! ข้าให้เวลาพวกเจ้าสองชั่วโมงเท่านั้น หากเขาไม่ปรากฏตัวภายในสองชั่วโมง ข้าจะสังหารพวกเจ้าทั้งเมืองซะ! 

   ฮือฮา! 

  ทั่วทั้งเมืองตกอยู่ในความโกลาหล ในขณะนี้ ท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยจิ้งจอกสวรรค์ที่มีร่างมนุษย์กว่าสามพันคน เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของเทวาทมิฬ พวกเขาก็เปล่งกลิ่นอายแห่งการทำลายล้างออกมาและดวงตาพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ จากนั้นทั่วป๋าหลินจึงคำรามออกมาอย่างรวดเร็ว  ทุกคน ถอยกลับไปซะ! ผู้ใดกล้าดูหมิ่นแขกจะถูกประหารด้วยกฎของตระกูล! 

  เห็นได้ชัดว่าทั่วป๋าหลินมีอำนาจสูงสุดที่นี่ ขณะที่ขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดบินกลับลงมา ทั่วป๋าหลินป้องมือของเขาด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นและกล่าวว่า  ท่านใต้เท้า ทวีปจิ้งจอกสวรรค์ของเราไม่มีผู้ปกครองใดๆ และมีจักรพรรดิเพียงสามพระองค์เท่านั้น และจักรพรรดิของจิ้งจอกขาวกำลังเร่งรีบมา ส่วนจักรพรรดิของเผ่าจิ้งจอกทมิฬและจิ้งจอกฟ้านั้น ข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะส่งข้อความถึงพวกเขา 

   จิ้งจอกทมิฬ? จิ้งจอกฟ้า? 

  เจียงอี้ขมวดคิ้วขณะที่ราชวังจักรพรรดิปรากฏขึ้นในมือของเขาจากนั้นมันก็เปล่งแสงออกมาขณะที่จิ้งจอกตัวน้อยที่กำลังหลับใหลได้ปรากฏขึ้นที่อ้อมกอดของเขา เขามองไปยังทั่วป๋าหลินและถามว่า  หัวหน้าทั่วป๋าหลิน จิ้งจอกวิญญาณสามหางเป็นเผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาวของเจ้าใช่หรือไม่? 

  ทั่วป๋าหลินมองดูและพยักหน้า  ใช่แล้ว นี่คือจิ้งจอกสวรรค์ของเผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาวของเราเอง เผ่าพันธุ์จิ้งจอกทมิฬมีขนสีดำและจิ้งจอกฟ้ามีขนสีฟ้า หลังจากที่มองอย่างรวดเร็วก็รู้ว่าจิ้งจอกน้อยตนนี้เป็นสายเลือดของเผ่าเราเอง 

   ดีมาก เราจะรอจักรพรรดิของเจ้ามาก่อนที่เราจะพูดกัน 

  เจียงอี้พยักหน้าและเมื่อเขาเห็นว่าทั่วป๋าหลินประหม่าเล็กน้อย เขาก็อธิบายว่า  ไม่ต้องกังวลหรอก เรามาหาสหายเก่า หลังจากที่เราพบนางแล้ว เราก็จะไปทันที อืมม….สหายเก่าผู้นี้เป็นมารดาของจิ้งจอกน้อยตนนี้และเป็นสมาชิกของเผ่าจิ้งจอกขาวของเจ้าด้วย 

   โอ้ ขอรับ! 

  ทั่วป๋าหลินถอนใจด้วยความโล่งอกและเผยรอยยิ้มพร้อมกับชี้แนะว่า  แขกของเราต้องการที่นั่งไหม? จักรพรรดิน่าจะมาถึงที่นี่อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง โปรดวางใจได้เลยตราบเท่าที่ผู้ที่ท่านตามหาอยู่ที่เผ่าจิ้งจอกขาวของเรา เราจะช่วยท่านตามหาบุคคลนั้นแม้จะต้องขุดดินลงไปหาก็ตาม 

   ก็ได้! 

  เชียนเชียนพูดและมองไปยังเทวาทมิฬ  ลุงทมิฬ ไปรอข้างล่างกันเถอะ 

  เทวาทมิฬพยักหน้าอย่างเฉยเมยขณะที่เขาเห็นว่าสถานการณ์กำลังเป็นไปด้วยดี เทวาทมิฬไม่ต้องการจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ตราบใดที่เจียงอี้จัดการเรื่องของเขาได้อย่างรวดเร็วและไม่ได้ชะลอเวลาการเดินทางไปยังตำหนักซวนหวู่

  ทุกคนตามทั่วป๋าหลินบินไปยังปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุด ปราสาทไม้ทั้งหมดนั้นถูกสร้างบนต้นไม้โบราณยักษ์และมีการตกแต่งเล็กๆน้อยๆมากมายที่ทำให้ดวงตาของเชียนเชียนและเจียงเสี่ยวนู๋เบิกกว้างขึ้น ทั่วป๋าหลินให้คนใช้เทของเหลวสีเขียวอ่อน หลังจากที่เทวาทมิฬตรวจสอบมันและเห็นว่าไม่มีพิษ เจียงอี้ก็จิบมันและรู้สึกว่ามันมีรสหวานที่ซึมซาบเข้าไปในต่อมรับรสของเขา

  เจียงอี้อธิบายข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับจักรพรรดินีสัตว์อสูรให้ทั่วป๋าหลินฟัง มันไม่ใช่เพราะเขาต้องการจะพูดด้วยรายละเอียดน้อยๆ แต่เขารู้เรื่องจักรพรรดินีสัตว์อสูรน้อยเกินไป นอกจากรู้ว่านางกำลังกลับมายังทวีปจิ้งจอกสวรรค์และรู้ว่านางเป็นสมาชิกเผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาวแล้ว เขาก็ยังไม่รู้แม้กระทั่งชื่อของนางด้วยซ้ำ

   นายน้อยท่านนี้ อาจเป็นเรื่องยากที่จะตามหาคนที่ท่านกำลังหาอยู่ อย่างไรก็ตาม เผ่าพันธุ์จิ้งจอกขาวของเรามีสมาชิกอย่างน้อยพันล้านตนและข้อมูลที่ท่านให้มานั้นไม่เพียงพอนัก 

  ทั่วป๋าหลินมีสีหน้าที่ลำบากใจเมื่อเขาเห็นแสงเย็นวาบในดวงตาของเทวาทมิฬ แต่เขาก็ทุบหน้าอกอย่างรวดเร็วและพูดว่า  แต่เราจะลองหาดูแม้ว่ามันจะยากเพียงใด เรารับประกันว่าเราจะใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดเพื่อตามหานาง แต่แน่นอนว่านางต้องอยู่บนทวีปจิ้งจอกสวรรค์ก่อนและ….ยังมีชีวิตอยู่ด้วย 

  ….

 

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เจียงอี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศและการ

ถูกเหยียดหยามเนื่องจากจุดตันเทียนของเขาถูกผนึกไว้

วันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าผนึกในตันเทียนของเขาได้ถูก

ทำลายและถูกแทนที่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยการบ่มเพาะเปลวไฟ

ศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ของเขา การเดินทางอันแสนท้าทายของเจียงอี้

จึงได้อุบัติขึ้น!

หากมวลมนุษย์กล้าปฏิบัติกับข้าอย่างไม่เป็นธรรม ศพนับล้านจะต้อง

เกลื่อนปฐพี!

หากแม้แต่สวรรค์ยังไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะแผดเผาสวรรค์ทิ้งเสีย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท