เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven – บทที่ 925 เสียเฟย ตายซะเถอะ

บทที่ 925 เสียเฟย ตายซะเถอะ

   ปล่อยลมดารา? 

  เจียงอี้กระพริบตาอย่างสับสนขณะที่ความคิดของเขาผุดบางอย่างขึ้นได้ทันที คำพูดของอีฉานทำให้เขาได้สติ

  อันที่จริงเจียงอี้ก็ไม่ได้โง่ แต่เขาเพียงแค่ไม่มีเวลาศึกษามัน เหตุใดศาสตร์นิรนามถึงดูดซับลมดาราได้? แล้วเหตุใดลมดาราถึงกลายเป็นพลังงานแล้วเข้าตำหนักดาวดวงที่เก้าของเขา เขาไม่มีเวลาคิดมันเลย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดจะใช้ลมดาราในทางนั้น

  คำพูดของอีฉานสมเหตุสมผลมาก เนื่องจากเขาดูดซับลมดาราได้ แล้วทำไมเขาจึงไม่ปล่อยมันออกมาเพื่อเป็นการโจมตีล่ะ?

  แล้วเขาจะปล่อยลมดาราเช่นไร?

  เจียงอี้คิดอย่างรวดเร็วและเขาก็เข้าไปหมกมุ่นอยู่กับตำหนักดาวดวงที่เก้าขณะที่หมุนเวียนพลังงานที่มองไม่เห็นออกไปและจู่ๆก็ปล่อยมันออกมาทางฝ่ามือ

  ฮู ฮู!

  พลังงานที่มองไม่เป็นนั้นเปลี่ยนเป็นลมดาราในทันที ตาของเจียงอี้เบิกกว้างขึ้น เนื่องจากลมดาราเหล่านี้ต่างจากลมดาราภายนอก หลังจากที่ถูกดูดซับเข้าไปในตันเทียนของเขาแล้ว พวกมันก็กลายเป็นพลังงานของเขาและสามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายเหมือนดั่งดาบวิญญาณของเขา เพียงแค่คิด เจียงอี้ก็สามารถควบคุมให้ลมดาราร่ายรำอยู่บนฟ้าได้

  ลมดาราเป็นพลังงานชนิดใดกัน? นี่ไม่ใช่พลังฟ้าดินแน่ๆ ไม่อย่างนั้นมันจะถูกควบคุมได้อย่างไร? แล้ว…อีฉานรู้ได้อย่างไรว่าสามารถปล่อยลมดาราออกมาได้?

  ในใจของเจียงอี้มีคำถามมากมาย แต่เขารู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาจะมานึกถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเขาเย็นชาขณะที่มือของเขาปลดปล่อยลมดาราออกมาอย่างต่อเนื่อง เขาควบคุมลมดาราเหล่านั้นและทำให้พวกมันบินไปยังไข่มุกสีเขียวเข้มสี่เม็ดที่ลอยอยู่ข้างเสาหิน!

  บึฟ!

  ลมดารานับร้อยสายพัดผ่านมาและไข่มุกสีเขียวเข้มก็เปล่งแสงแวววับในทันที จากนั้นมันก็หรี่ลงทันที ในอีกฟากหนึ่ง ร่างของหวู่นี่ก็สั่นสะท้านเมื่อเขารู้สึกว่าไข่มุกทั้งสี่เม็ดกำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรงและอาจถูกทำลายลงได้ทุกเมื่อ

   การโจมตีอะไรกัน? 

  สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ใช้ในอารามศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่ได้และเนื่องจากมันอยู่ไกลมาก เขาจึงมองไม่เห็นหรือสัมผัสอะไรได้เช่นกัน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเก็บไข่มุกทั้งสี่กลับมาทันที

  แต่ทว่า!

  มันสายเกินไปแล้วและเมื่อเจียงอี้โจมตีออกไป เขาจะปล่อยให้เป้าหมายหลุดรอดไปได้อย่างไร? เจียงอี้ใช้มือปล่อยลมดาราออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่พวกมันเข้าจู่โจมไข่มุกทั้งสี่ด้วยความเร็วอันน่าสยดสยอง จากนั้นลวดลายอักขระบนไข่มุกเหล่านั้นเริ่มหรี่ลงและจู่ๆพวกมันก็ระเบิดไปกลางอากาศ

   ไม่นะ! 

  หวู่นี่คำรามออกมา ไข่มุกทั้งเจ็ดนั้นรวมเป็นหนึ่งเดียวและหลังจากที่ไข่มุกทั้งสี่นี้ถูกทำลาย พลังของมันจะด้อยกว่าเดิมมาก เขาพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้เชื่อมดวงจิตกับสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงได้ แต่มันกลับถูกทำลายไปแล้ว มันจะทำให้การโจมตีและการป้องกันของเขาลดลงไปอย่างมาก แล้วจะไม่ให้เขาตกใจและโกรธแค้นได้อย่างไร?

  ฟรึ่บ!

  เจียงอี้อ้าปากและกินยาฟื้นฟูเข้าไปขณะที่เขารีบวิ่งออกไปและโบกสะบัดมืออย่างไม่หยุดหย่อน คราวนี้เขาไม่ได้ปล่อยลมดาราออกมาและดูดซับมันแทน ความเร็วของเขานั้นถึงขีดสุดแล้วและกำลังวิ่งตรงไปยังบัลลังก์น้ำแข็ง   หืม? 

  เสียเฟยหยุดไปชั่วครู่และดวงตาที่เย็นเยียบของเขาก็สอดส่องมา เสียเฟยเย้ยหยันเมื่อเขาเห็นเจียงอี้วิ่งมา เขาเมินเจียงอี้และพุ่งตรงไปยังบัลลังก์น้ำแข็งทันที

  เสียเฟยอยู่ห่างจากบัลลังก์เพียงสามร้อยเมตร เจียงอี้นั้นอาจจะรวดเร็ว แต่เขาก็ยังอยู่ห่างออกไปถึงสามพันเมตร และก่อนที่เจียงอี้จะมาถึงบัลลังก์น้ำแข็ง เขาก็จะได้สิ่งประดิษฐ์โบราณไปแล้ว

  นอกจากนี้ ในความคิดของเสียเฟย เจียงอี้ไม่ใช่คนพิเศษอะไรและสามารถถูกสังหารไปได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ถึงมันจะเป็นเช่นนั้น….เมื่อเขาพุ่งหน้าต่อไป เขาก็คำรามออกมาว่า  หวู่นี่ ฆ่ามันซะ! 

  หวู่นี่ยังคงคิดอยู่ว่าไข่มุกของเขาถูกทำลายลงได้อย่างไร? และเมื่อเขาได้ยินคำขอของเสียเฟย เขาก็รีบมองไปยังเจียงอี้และโกรธแค้นทันที หากไม่ใช่เจียงอี้ แล้วไข่มุกของเขาจะถูกทำลายลงได้อย่างไร?    ไป! 

  หวู่นี่ควบคุมไข่มุกที่เหลืออีกสามเม็ดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไข่มุกทั้งสี่ของเขาถูกทำลายลงแล้วและพลังการต่อสู้ของมันก็ลดลงไปมาก แต่เขาก็ยังคงมั่นใจที่จะจัดการเจียงอี้และเตรียมบันดาลโทสะไปยังเจียงอี้ด้วย

   ฮึฮึ! 

  เมื่อมองไปยังไข่มุกทั้งสามที่กำลังพุ่งผ่านอากาศมา เจียงอี้ก็เย้ยหยันและหยุดนิ่งไป เขาปล่อยฝ่ามือออกมาไม่กี่ครั้งซึ่งมันทำให้ลมดารานับไม่ถ้วนว่ายเวียนออกมาทันที

  ไข่มุกทั้งสามสั่นไหวและส่องประกายก่อนที่แสงจะหรี่ลงทันที ดวงตาของหวู่นี่หดลงและสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปพร้อมกับอุทานว่า  เจ้าคือคนที่ทำลายไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ของข้าเองรึ? นายน้อยเฟย เด็กนี่มันไม่ธรรมดา! ร่วมมือกันโจมตีมัน! 

  หวู่นี่ตะโกนออกมาอย่างดังและดึงดูดความสนใจของทุกคน เจี้ยนอู๋อิง, ถูหลงและทั้งหลิงชีเจี้ยน, เยี่ยอิงและคนอื่นๆที่เพิ่งจะเข้ามาในโถงด้านในต่างก็จับจ้องไปยังเจียงอี้ ดวงตาของอีฉานสว่างไสวขึ้นขณะที่นางพึมพำเบาๆ  อย่างที่คาดไว้จริงๆ เขาดูดซับลมดาราและปล่อยมันออกมาได้ เป็นเวลากว่าเจ็ดแสนปีแล้ว นอกจากจักรพรรดิลี้ลับ ในที่สุดแดนเทียนชิงก็มีผู้มีพรสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกคน เขาจะเป็นจักรพรรดิลี้ลับคนต่อไปหรือไม่? ข้าจะต้องบันทึกบุคคลนี้ไว้และเมื่อข้าออกไป ข้าจะให้ตระกูลรับเขาเข้ามา…. 

  แหวนในมือของอีฉานส่องสว่างขึ้นขณะที่นางหยิบกระดาษออกมาและเขียนคำใหญ่ๆไว้…ไป๋อี!

   เจ้าคงเบื่อจะมีชีวิตแล้วสินะ! 

  เสียเฟยตะโกนออมาซึ่งมันดึงดูดความสนใจของอีฉาน เสียเฟยหยุดฝีเท้าของเขาและกะโหลกยักษ์ก็พุ่งไปทางเจียงอี้อย่างรวดเร็วด้วยกลิ่นอายที่หนักอึ้งราวกับภูเขา คราวนี้เขาใช้กำลังทั้งหมดโจมตีไปที่เจียงอี้ขณะที่เจียงอี้ไม่ได้อยู่ใกล้เสาหินใดๆ เขากำลังจะบดขยี้เจียงอี้เป็นชิ้นๆ!

   ฮึ่ม! 

  ดวงตาของเจียงอี้แหลมคมราวกับใบมีดขณะที่เขาฟาดฝ่ามือไปอย่างต่อเนื่อง ด้านเจี้ยนอู๋อิงและคนอื่นๆต่างสับสนเพราะมือของเจียงอี้ไม่มีแก่นแท้พลังใดๆ และหากไม่มีแก่นแท้พลังแล้ว รูปแบบเต๋าก็ย่อมไม่ก่อตัวขึ้น พวกเขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังใดๆจากการโจมตีนั้นด้วยและเหมือนกับว่าเจียงอี้จะแกล้งทำให้มันเป็นเรื่องน่าขัน

  แต่พวกเขาช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย…

  การฟาดฝ่ามืออย่างน่าขันของเจียงอี้นั้นทำให้เสียเฟยตกตะลึงเพราะกะโหลกศีรษะของเขาเปล่งแสงกะทันหันและรู้สึกได้ถึงการโจมตีที่ทรงพลัง ลวดลายอักขระกระจัดกระจายอย่างรวดเร็วและแสงก็หรี่ลงราวกับถูกการโจมตีที่น่าเกรงขามและกำลังถูกกัดกร่อนก่อนที่จะทำลายกะโหลกศีรษะ!

   ความสามารถประหลาดนั่นคืออะไรกัน?    ดวงตาของเสียเฟยหดลงกะทันหัน หากปราศจากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรกำลังโจมตีกะโหลกศีรษะอยู่ เสียเฟยจึงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องเก็บกะโหลกกลับมาและเติมแก่นแท้พลังลงไปก่อนที่จะฟาดมันออกไปอีกครั้ง

  บึฟ!

  มันเหมือนครั้งก่อน กะโหลกศีรษะเปล่งแสงออกมาก่อนที่มันจะพุ่งไปได้เพียงแค่สามร้อยเมตรเท่านั้น ลวดลายอักขระไหลเวียนอย่างรวดเร็วและแสงค่อยๆหรี่ลง และเมื่อเขาเก็บกะโหลกกลับมา เขาก็รู้สึกว่าโล่ศักดิ์สิทธิ์สั่นเทาเล็กน้อยและมันเปล่งแสงออกมา ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่มันกำลังโจมตีเขาอยู่คือลมดารา!

   เป็นไปได้อย่างไรกัน? มันควบคุมลมดาราได้ยังไง? 

  เสียเฟยตกตะลึงเป็นอย่างมากและเขาไม่กล้าหยุดฝีเท้า เสียเฟยเทแก่นแท้พลังลงในกะโหลกศีรษะอย่างต่อเนื่องและทำให้มันหมุนเวียนรอบตัวเขาเพื่อป้องกันลมดารานับไม่ถ้วน หากเขาไม่ทำเช่นนี้ โล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะแตกออกและเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!

   เสียเฟย ตายซะเถอะ! 

  เจียงอี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารขณะที่เขาตะโกนออกมาและยังคงส่งลมดาราออกไป หากมีโอกาสสังหารเสียเฟย เจียงอี้ก็จะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ และเขาไม่เพียงแค่ต้องการจะสังหารเสียเฟยแต่เขายังต้องการจับหวู่นี่ด้วย!

   ไป๋อี อย่าสังหารเสียเฟย! รีบไปหยิบสิ่งประดิษฐ์โบราณมา เวลาใกล้หมดลงแล้วและเรากำลังจะถูกย้ายร่างออกไป!  เสียงที่ดังก้องในหูของเจียงอี้ทำให้เขาหยุดการโจมตี

  เขาสนใจเพียงการโจมตีเท่านั้นและลืมเรื่องเวลาไปสิ้น เจียงอี้คำนวณอย่างเงียบๆและมันไม่มีทางอื่นนอกจากเลิกการโจมตีเสียเฟยไป เขาจะไม่สามารถสังหารเสียเฟยและจับหวู่นี่ได้ในเวลาสั้นๆขณะที่เขามีสิ่งประดิษฐ์เชื่อมดวงจิตอยู่ เจียงอี้จึงโบกมือเพื่อดูดซับลมดาราขณะที่รีบพุ่งไปยังบัลลังก์น้ำแข็ง!

 

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven

Status: Ongoing

เรื่องย่อ

ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เจียงอี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากความอัปยศและการ

ถูกเหยียดหยามเนื่องจากจุดตันเทียนของเขาถูกผนึกไว้

วันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับพบว่าผนึกในตันเทียนของเขาได้ถูก

ทำลายและถูกแทนที่ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยการบ่มเพาะเปลวไฟ

ศักดิ์สิทธิ์เก้าสวรรค์ของเขา การเดินทางอันแสนท้าทายของเจียงอี้

จึงได้อุบัติขึ้น!

หากมวลมนุษย์กล้าปฏิบัติกับข้าอย่างไม่เป็นธรรม ศพนับล้านจะต้อง

เกลื่อนปฐพี!

หากแม้แต่สวรรค์ยังไม่ยุติธรรมกับข้า ข้าก็จะแผดเผาสวรรค์ทิ้งเสีย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท