ในอีกมิติที่เป็นที่อยู่ของอีกพื้นที่ มันเป็นสถานที่ที่คนภายนอกไม่รู้จัก
ตามตำนาน บรรพบุรุษของตระกูลหลินได้ใช้ทรัพยากรรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญที่มีพลังลึกลับจำนวนมากสร้างพื้นที่ลึกลับแห่งนี้ขึ้นมา !
พื้นที่ลึกลับแห่งนี้มีขนาดใหญ่เพียง 20 ลี้เท่านั้น ภายในพื้นที่แห่งนี้มีต้นท้อขนาดใหญ่สูงหลายเมตรยืนตระหง่าอยู่ ที่น่าแปลกประหลาดคือไม่มีใบเลยซักใบเดียวบ้นต้นไม้ มีลูกท้อขนาดเท่ากำปั้นอยู่ไม่กี่ลูกบนกิ่งก้าน หากมองดี ๆ จะเห็นใบหน้าที่แตกต่างกันจำนวนมากในแต่ละลูก และนั่นก็ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก !
ฮัวหยุนมองไปคนข้าง ๆ และกรีดร้องออกมาดัง ๆ
“นั่นผู้อาวุโสตระกูลตู่ !”
“ส่วนนั่นนายน้อยตระกูลถัง !”
ทุกใบหน้าฮัวหยุนจำได้ เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ แม้ว่าเมืองจะไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก ทุกตำแหน่งในตระกูลต่าง ๆ แน่นอนว่าต้องมีใครจดจำได้อยู่แล้ว
โดยเฉพาะกลุ่มตระกูลที่แข็งแกร่ง หากพวกเขาจำใบหน้าคนสำคัญไม่ได้มันจะกลายเป็นเรื่องร้ายแรงทันที กว่าจะรู้สึกตัวพวกเขาคงรู้สึกผิดจนยากจะกลับไปแก้ไขแล้ว !
และนี่เองก็เป็นเหตุให้ฮัวหยุนรู้สึกตกใจมาก ผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจและเป็นสมาชิกคนสำคัญของตระกูลอย่างพวกเขาเป็นตัวตนที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก และเมื่อเห็นพวกเขาอยู่ข้าง ๆ ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ถูกต้อง
ฮัวหยุนมองไปที่กรงขังที่ขังเขาเอาไว้เหมือนอยู่ในคุกและพึมพำกับตัวเอง “ที่นี่มันคือที่ไหนกัน ?”
“เอี๊ยด !”
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับชายหัวล้านเดินเข้ามา
ฮัวหยุนนั่งอยู่และไม่ได้แกล้งทำเป็นสลบเหมือนในละคร หากไม่มีเทคนิคพิเศษมันยากที่จะปกปิดตัวตนจากผู้ที่มีพลังฝึกฝน
“เพ้ย ? ทำไมไอ้ลูกเจี๊ยบนี้ตื่นมาไวจริง ? น่าแปลกจริง ๆ !”
มีเสียงคนเดินมาไม่กี่คนเท่านั้น เมื่อพวกเขาเห็นว่าฮัวหยุนตื่นแล้วมันก็ทำให้พวกเขาหันมามองด้วยความสนใจ
หนึ่งจะต้องรู้ว่าฮัวหยุนไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว มีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำอยู่อีก 3 คน และทุกคนก็ตกอยู่ภายใต้ผลกระทบจากผงสลบ แต่คนแรกที่ฟื้นกลับเป็นฮัวหยุน
“ท่านเจ้าเมือง !” ฮัวหยุนตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ ไม่ว่าจะคิดยังไงเขาก็ไม่คิดเลยว่าคนที่เดินเข้ามาจะเป็นท่านเจ้าเมือง
ในตอนนี้เองที่ความคิดหลายอย่างได้ไหลเข้ามาในหัวของฮัวหยุน ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมฆาตกรถึงไม่เคยถูกจับได้ซักทีแม้ว่าจะถูกตามหาทั่วเมือง !
“เป็นไปได้ยังไงกัน …”
ฮัวหยุนหัวเราะอย่างขมขื่นกับตัวเอง นี่มันโจรที่ทำตัวเป็นตำรวจชัด ๆ ในฐานะเจ้าเมืองเขาจะมาจับตัวเขาเองได้ยังไงกัน ?
“หึหึ แกฉลาดมาก”
หลินฉิงหยุนยิ้มเบา ๆ ไม่มีแรงกดดันใด ๆ ลอยออกมาจากร่างของเขาแม้แต่น้อย มันราวกับเขาเป็นเพียงคนธรรมดา
“ให้ข้าดูหน่อยสิว่าเจ้ามีอะไรพิเศษ”
“ชั้วะ !”
หลินฉิงหยุนเดินไปข้างหน้าและสั่งให้คนเปิดประตูเหล็ก จากนั้นฮัวหยุนก็ถูกผลักออกไปโดยหลินฉิงหยุน
“อ๊ากก !”
แสงแปลก ๆ ลอยออกมาจากดวงตาหลินฉิงหยุน พื้นที่รอบ ๆ 10 เมตรกลายเป็นมิติแยก ใบหน้าของฮัวหยุนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขากรีดร้องออกมาพร้อมกับท่าทางอึดอัด !
“หืม ? น่าสนใจ ฮ่าฮ่า ! สวรรค์เข้าข้างข้า ใครจะไปคิดกันว่านี้คือกายาสมบัติแห่งพฤกษาขจี !”
ใบหน้าหลินฉิงหยุนสว่างไสวด้วยความยินดีพร้อมกับรอยยิ้มแปลก ๆ บนหน้าในขณะที่มองฮัวหยุน เขามองฮัวหยุนไม่เหมือนมองคนที่มีชีวิต แต่เป็นกำลังมองสมบัติหายาก !
ฮัวหยุนนั่งลงกับพื้นพร้อมกับหายใจเข้าด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ
“ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไป เอาทรัพยากรที่ดีที่สุดให้มัน ให้มันรีบก้าวข้ามระดับสวรรค์ทองคำให้เร็วที่สุด !” หลินฉิงยุนสั่งชายชราที่อยู่ข้างหลังเขา
ยูเยี่ยฟังเสร็จก็ถามกลับ “นายท่าน มันไม่ใช่การเสียทรัพยากรที่ล้ำค่าไปหรอกหรือ ?”
“ฮ่าฮ่า แกเข้าใจผิดแล้ว ! คน ๆ นี้แหละคือทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ! เมื่อมันก้าวข้ามระดับสวรรค์ทองคำไปแล้วข้าจะกลั่นมันให้กลายเป็นปุ๋ยของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์จากนั้นผลไม้สวรรค์ก็จะปรากฏตัวออกมา ! เมื่อถึงตอนนั้น ข้าอาจจะบรรลุครึ่งก้าวหยินหยางภายในครั้งเดียว !”
“ตาแก่ผู้นี้เข้าใจแล้วนายท่าน”
ยูเยี่ยพยักหน้า เหตุผลที่เขาถามว่าทำไมต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการทำให้คนอ่อนแอที่ไม่เป็นแม้แต่ระดับก่อเกิดรีบบรรลุระดับสวรรค์ทองคำนั้นก็เพราะมันใช้ทรัพยากรมากเกินไป ต่อให้เป็นคฤหาสน์เจ้าเมืองเองก็ไม่ได้ถือว่าเล็กน้อย
แต่ในเมืองท่านเจ้าเมืองตัดสินใจไปแล้วเขาก็ได้แต่ทำตาม และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้รับความไว้วางใจจากหลินฉิงหยุน
“หืม ? ที่นี่ที่ไหนกัน ? ใครกล้าขังข้านายน้อยเอาไว้ที่นี่ !”
เด็กหนุ่มอีกคนตื่นขึ้นมาและส่ายหัว ทันทีที่เขารู้สึกตัวเขาก็รีบตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
หยิงเจียกัดฟันและตะโกน “เอ๊ะ ? ท่านลุง ข้าหยิงเจีย ! รีบปล่อยข้าเร็ว ! ไอ้แมลงสาบบัดซบมันลักพาตัวข้ามา !”
“หึหึ หลานชายที่รัก ไม่ใช่เจ้าหรอกที่เป็นผู้ชนะ แต่ข้านี้แหละคือผู้ชนะ ! ” [1]
หลินฉิงหยุนเหลือบมองและหัวเราะออกมา
ชื่อนี้ค่อนข้างดี แต่น่าเสียดายที่คนที่ได้รับชื่อกลับเป็นอีกฝ่าย แม้ว่าตระกูลหยิงจะไม่ได้ถูกประเมินแต่ก็ถือได้ว่าติด 1 ใน 5 อันดับแรกของเมือง แต่ตำแหน่งของนายน้อยผู้ไร้ประโยชน์คนนี้ไม่สูงมากนัก มีหลายคนในตระกูลหยิงที่ไม่ชอบเขา !
หลินฉิงหยุนเตรียมที่จะจัดการตระกูลหยิงในไม่ช้า เขาจึงสร้างความวุ่นวายให้กับตระกูลหยิงจากนั้นก็ส่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำไปจับตัวหยิงเจีย
ชายชราที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน เขามองไปที่หยิงเจียด้วยความรังเกียจจากนั้นด่าเขา “ไอ้โง่ แกไม่เห็นอีกงั้นหรอ ? ไอ้เจ้าเมืองบัดซบตรงหน้าเรานี้แหละคือผู้บงการที่แท้จริง !”
“ภายลม ! แกมีเป็นใครถึงกล้าพูดกับข้า ? แกเชื่อไหมว่านายน้อยผู้นี้สามารถพาคนมากำจัดตระกูลแกได้สบาย ๆ ?”
หยิงเจียเหมือนไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน เขายังคงทำตัวเย่อหยิ่งเหมือนปกติ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดเขียวอ่อนเดินเข้ามาและพูดขึ้น “ท่านพ่อ ผลไม้เกือบจะสุกแล้ว”
“เจียนเจียน เกิดอะไรขึ้น ? รีบบอกให้ท่านลุงปล่อยข้าเร็ว !” หยิงเจียรีบตะโกนออกไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฉลาดมากนักแต่เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
“เจ้ารักข้าหรือไม่ ? เจ้าไม่อยากอยู่กับข้าตลอดไปงั้นหรอ แบบที่ไม่ต้องพรากจากกัน ?”
หลินเจียนยิ้มอย่างไร้เดียงสา น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ราวกับเด็กสาวที่กำลังสารภาพรักแฟนของเธอ
“ข้ายินดี ! แน่นอน ข้าต้องการ !”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยไขมันของหยิงเจียสั่นกระเพื่อม เขาพยักหน้าราวกับแม่ไก่ที่กำลังจิกหาข้าวโพดบนพื้น
“หึหึ ท่านพ่อ ปล่อยเขาไว้กับข้าได้หรือไม่ ?”
หลินเจียนยิ้มอย่างน่ารักและมองหลินฉิงหยุน
“ได้สิ”
หลินฉิงหยุนยิ้มกลับ เขาคาดเดาได้แล้วว่าลูกสาวของเขาต้องการทำอะไร
“พี่ใหญ่ ไปกันเถอะ”
หลินเจียนเดินไปจูงมือหยิงเจียอย่างไร้เดียงสา เสียงของเธอราวกับนางฟ้าที่อ่อนหวานและไพเราะ
คำว่า “พี่ใหญ่” นั้นทำให้เจ้าหน้าหมูหยิงเจียเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หลินฉิงหยุนไม่กังวลแม้แต่น้อยในขณะที่มองทั้ง 2 คนเดินออกไป ความแข็งแกร่งของหยิงเจียถูกผนึกเอาไว้ นอกจากนี้ลูกสาวของเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อเกิดแรกเริ่ม ต่อให้พลังของหยิงเจียไม่ได้ถูกผนึก มันก็ไม่มีทางที่เขาจะสู้กับหลินเจียนได้เพราะเขาอ่อนแอกว่ามาก
หยิงเจียเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผ้าไหม เขามีพลังอยู่ระดับ 6 ขั้นกลั่นฉีเท่านั้น แต่เขาชอบเล่นสนุกกับผู้หญิง ทำให้แม้แต่หลินฉิงหยุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ทองคำยังรังเกียจเขา
“เจียนเจียน เจ้าจะพาข้าไปไหน ?”
หยิงเจียถามคำถามนี้มาหลายครั้ง แต่หลินเจียนก็หลีกเลี่ยงที่จะตอบเสมอ ในไม่ช้าหยิงเจียก็มาถึงใจกลางพื้นที่ลึกลับ มีต้นไม้ที่สูงหลายสิบเมตรยืนเด่นตระหง่า ลำต้นมีความหนาพอที่คน 5-6 คนจะโอบล้อมได้
หยิงเจียเดินวนรอบต้นไม้หลายรอบและพึมพำกับตัวเอง “ไอ้ต้นไม้นี้คืออะไร ? ทำไมมันน่าเกลียดจัง ?” หยิงเจียหยุดเดินและถามขึ้น “เจียนเจียน เจ้าพาข้ามาดูต้นไม้นี้ ?”
“ฮี่ฮี่ ต้นไม้นี้คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มันใช้มนุษย์เป็นปุ๋ยเพื่อสร้างผลไม้จิตวิญญาณที่สามารถเพิ่มพลังฝึกฝนได้ ! พี่ใหญ่ ในเมื่อพี่ชอบข้ามากและอยากอยู่กับข้าตลอดไป ทำไมพี่ไม่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นผลไม้จิตวิญญาณและให้ข้ากินท่านละ ?”
เสียงของหลินเจียนดังออกมาข้างหูหยิงเจีย มันราวกับเสียงผู้หญิงที่กำลังกระซิบความลับ
[1] หยิงเจีย = การเล่นคำในภาษาพินอินที่แปลว่าผู้ชนะ