Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 380

ตอนที่ 380

ภายในห้อง กลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนกำลังทำความเคารพอย่างสุภาพ เมื่อเห็นเป่ยเฟิงจากไปแล้ว พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะเงยหน้าขึ้น

นั่นคือผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ที่พวกเขาได้บอกลา ! แม้แต่ในมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยผู้คนในประเทศใหญ่ ๆ ก็มีผู้เชี่ยวชาญแบบนี้เพียง 10-20 คน เมื่อเทียบกับคนจำนวนกว่าพันล้านคนแล้ว สามารถบอกได้เลยว่าหาโอกาศในการเจอเขายากแค่ไหน !

แม้ว่าระดับสวรรค์อาจจะดูเหมือนห่างกับระดับเซียนเทียนเพียงระดับเดียว แต่ความแตกต่างมันราวกับสวรรค์และโลก !

ช่องว่างที่ยิ่งใหญ่แม้แต่ช่องว่างระหว่างวิวัฒนาการกับเซียนเทียนก็เทียบไม่ได้ หากต้องสู้กันจริง ๆ ต่อให้ระดับเซียนเทียนกว่า 100 คนก็ยังไม่สามารถต่อสู้กับระดับสวรรค์เพียงคนเดียวได้ !

“ขอแสดงความยินดีกับผู้นำตระกูลหวัง !”

“ใช่ ๆ เม็ดยามังกรเสือ 50 เม็ดเลย ขอแสดงความยินดีด้วย !”

เมื่อเป่ยเฟิงจากไป พวกเขาก็หันไปแสดงความยินดีกับหวังฮง เสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม

เฮลันฉินจุนเดินไปหาหวังหยุยและคุยไม่กี่คำกับเธอ จากนั้นพวกเขาก็จากไปพร้อมกับคนของพวกเขา

ในเวลาเดียวกัน หวังหยุยรู้สึกผิดหวังอย่างมากในใจ เรื่องที่ทำให้เธอสิ้นหวังกลับถูกแก้ไขได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำของเป่ยเฟิง

ประกายไฟโชติช่วงลุกในดวงตาของเธอ เธอมีความปรารถนาบางอย่างแล้วในตอนนี้ !

มีคำกล่าวบางอย่างเอาไว้ว่า “การฝึกฝนเรื่องที่คนโง่คุยกัน แต่เมื่อคุณแข็งแกร่งกว่าคนโง่เหล่านั้นจะพูดดีกับคุณแทน !”

เมล็ดปรารถนาได้ฝังไว้ในหัวใจของหวังหยุย ด้วยสถานะของลูกสาวหัวหน้าตระกูลและความแข็งแกร่งของเธอ ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เธอต้องกลัวอีกต่อไป

เป่ยเฟิงมุ่งหน้าไปยังภูเขามังกรเสือ เป่ยเฟิงมีแผนการที่จะไปภูเขามังกรเสือแต่แรก เขามีเหตุผล 2 ข้อ ข้อแรกคือการไปเอายามังกรเสือและอีกข้อคือการได้สัมผัสกับสัตว์อสูรที่ถูกปิดผนึกด้วยตัวเอง !

วันต่อมา พวกเขาก็มาถึงภูเขามังกรเสือ

เส้นทางเต็มไปด้วยทิวทัศน์งดงาม สถานที่แห่งนี้ราวกับภาพวาด ดอกไม้นานาชนิดเติบโตอยู่รอบ ๆ เวลาลมพัดผ่านมามันจะนำพากลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยไปตามสายลม

ฤดูในตอนนี้เป็นฤดูท่องเที่ยวของภูเขามังกรเสือ สามารถมองเห็นผู้คนจำนวนมากที่มาที่นี่ นอกจากจะมาถ่ายรูปแล้วส่วนใหญ่พวกเขาจะตระเวนไปรอบ ๆ เพื่อท่องเที่ยว

หลายคนมองเป่ยเฟิงและเห็นการแต่งตัวของเขา พวกเขารู้สึกตลกอย่างมาก

“ใช่พนักงานของที่นี่หรือเปล่า ? พูดก็พูดเถอะ พวกเขาแต่งตัวด้วยชุดโบราณแบบนี้แล้วเหมาะจริง ๆ”

“หืม ถึงหน้าตาผู้ชายคนนั้นจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ด้วยควบคู่ไปกับเสื้อผ้าของเขาแล้วมันทำให้เขาดูดีจริง ๆ”

“เท่มาก ! ด้วยการแต่งตัวและบุคลิกของเขา มันทำให้เขาดูเหมือนมาจากสมัยโบราณเลย”

มีเด็กหนุ่มสาวหลายคนยืนและชี้ไปที่พวกเขาด้วยความตื่นเต้น

เป่ยเฟิงสวมชุดคลุมสีขาวพร้อมกับผูกผมยาวไว้ด้านหลัง ลึกลับที่ 1 สวมชุดเดสสีแดง พวกเขาดูคล้ายกับตัวละครที่เดินออกมาจากอนิเมะ

คนที่ตลกที่สุดคือลึกลับที่ 3 เขาเดินไปพร้อมกับใบหน้าสงบนิ่งราวกับหุ่นยนย์ การแสดงออกบนใบหน้าของเขามันเย็นชาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

เป่ยเฟิงไม่ได้มีความต้องการที่จะเป็นลิงในสวนสัตว์ เขาก้าวออกไปเบา ๆ จากนั้นก็หายตัวไป ลึกลับที่ 1 และ 3 เองก็รีบตามเขาไปด้วย

“เอ๊ะ พวกเขาไปไหนแล้ว ?”

“อ่า อย่าบอกนะว่า ผี !”

เมื่อกี้มีคนแปลก ๆ อยู่ 3 คนชัด ๆ แต่ในพริบตาพวกเขาก็หายไปแล้ว !

เมื่อมองจากระยะไกล เป่ยเฟิงก็ไปโผล่ตรงนู้นแล้ว จากนั้นเขาก็หายไปอีกครั้ง !

หลายคนมองหน้ากันพร้อมกับใบหน้าที่ขาวซีด พวกเขาไม่สนใจข้าวของบนพื้นอีกต่อไป พวกเขารีบลุกขึ้นและวิ่งหนีทันที !

ด้วยความเร็วของกลุ่มเป่ยเฟิง ในไม่ช้าพวกเขาก็เห็นวัดเต๋าจากระยะไกล

เดินไปอีกไม่กี่ก้าว ก็มาถึงหน้าทางเข้าเรียบร้อย

ในขณะเดียวกันมีพระเต๋าหลายคนกำลังกวาดบรรไดวัดอยู่

กลุ่มนักท่องเที่ยวหลายสิบคนยืนอยู่นอกวัด พวกเขาถูกบังโดยพระเพราะพระเหล่านั้นไม่ให้พวกเขาเข้าไป

วัดไม่ใช่สิ่งที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปตามต้องการได้ ส่วนใหญ่พวกเขาจะเข้าไปได้แค่จุดธูปในบางโอกาสเท่านั้น

“ท่าน วัดไม่อนุญาตให้เข้าชม”

กลุ่มของเป่ยเฟิงถูกหยุดโดยพระที่ยังหนุ่ม

เป่ยเฟิงยิ้มจาง ๆ และกล่าวขึ้น “ฉันมาหาตานเจียซี ไม่ทราบว่าพระหนุ่มจะไปแจ้งให้เขาทราบได้หรือไม่ว่าเพื่อนเก่ามาหา ?”

สำหรับตานเจียซี เป่ยเฟิงรู้สึกดีกับเขา เขาเป็นคนที่หนักแน่นมั่นคง การวางตัวของเขาก็ยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้ผ่านมา 3 ปี ไม่รู้ว่าการฝึกฝนของเขาจะไปถึงไหนแล้ว

“ท่าน เชิญทางนี้”

พระหนุ่มคำนับเบา ๆ และเชิญเป่ยเฟิงเข้าไปข้างใน

แม้ว่าเป่ยเฟิงจะฆ่าระดับเซียนเทียนไปถึง 2 คนในวัดแห่งนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้เขาดูแตกต่างจากเมื่อ 3 ปีก่อนทำให้ไม่มีใครจำเขาได้

เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในวัดอย่างง่ายดาย คนที่อยู่ด้านนอกก็มองด้วยความสับสน

“เอ๊ะ เอ๋ ? เกิดอะไรขึ้น ? ไหนท่านบอกคนนอกห้ามเข้า ? แล้วพวกเขา 3 คนเข้าไปได้ยังไง ? แล้วดูพวกเราสิ มันหมายความว่ายังไง ?”

ชายวัยกลางคนที่มีเอวหน้าพูดด้วยความไม่พอใจ เขาได้พูดกับพระเหล่านี้อย่างสุภาพแม้กระทั่งเสนอจะให้เงิน 100,000 หยวนเพื่อเข้าไปในวัด แต่พวกเขาก็ยังปฏิเสธกลับมา แต่ตอนนี้กลับมีคนถึง 3 คนได้คุยบางอย่างกับพระแล้วก็ได้เดินเข้าไปอย่างง่ายดาย

นอกจากเขาแล้วยังมีผู้ชาย 2 คนที่ดูอายุ 20 ปีใส่ชุดสีดำอยู่ข้างหลังกำลังมองกลุ่มของเป่ยเฟิงจากไปด้วยความสับสนเช่นกัน

สามารถมองเห็นรัศมีความรวยของชายวัยกลางคนจากระยะไกลได้ เห็นได้ชัดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ก็เป็นหัวหน้าเหมืองถ่านหิน

“ใช่แล้ว คนนอกไม่ได้รับอนุญาต แต่ว่านายท่านผู้นั้นไม่ใช่คนนอก” พระหนุ่มที่อยู่ตรงประตูตอบกลับด้วยน้ำเสียงธรรมดา

“พวกแกเลือกปฏิบัติงั้นสินะ ! มาดูกัน ฉันฟ้องร้องแก !”

ชายสวมแว่นตาและใส่สูทเก๋พร้อมกับรองเท้าส่องประกายเดินออกมา ภาพลักษณ์ของเขาบอกได้คำเดียวว่า ‘ชั้นสูง’ เขาพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับพูดเกี่ยวกับกฏหมายกับพระหนุ่มที่โง่เขลา

กลุ่มพระหนุ่มตรงประตูใบหน้าเต็มไปด้วยความน่าเกลียด ริมฝีปากของเขาขดแน่น ในความคิดของพวกเขาคือไอ้คนตรงหน้ามันเป็นบ้าอะไร ?

นรกเลือด ใส่สูททั้งที่วันนี้อากาศโคตรร้อน ? และรองเท้าที่ยังสะท้อนแสงได้นั่นอีก มันคิดจะใส่ชุดแบบนั้นมาท่องเที่ยวบนภูเขา ? เห็นได้ชัดว่าก็แค่ไอ้งี่เง่าคนหนึ่งเท่านั้น

พระเหล่านั้นเค้นเสียงเย็นชาออกมาก่อนจะกลับไปทำงานของพวกเขา มันไม่สำคัญว่าไอ้พวกตลกงี่เง่าจะทำอะไร สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือห้ามให้คนนอกเข้ามา ฟ้องร้องพวกเขา ? ตลกแล้ว ต่อให้หัวหน้าพวกแกมาที่นี่เขาจะกล้าฟ้องเราหรือเปล่า ?

เป่ยเฟิงถูกนำพาเข้าไปในห้องโถงข้าง ๆ จากนั้นก็มีพระมาเสิร์ฟชาและอาหารว่างให้เขา

หลังจากถามชื่อของเป่ยเฟิงเสร็จ พระหนุ่มก็รีบจากไป

“นี่คือค่ายกลธรรมชาติของภูเขามังกรเสือหรือว่ามันเป็นผลงานของเจ้าอาวาสสวรรค์คนก่อนกัน ? อย่างที่คิด นี้ถึงจะสมกับเป็นบ้านของเหล่าเต๋า” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง ช่วงเวลาที่เท้าของเขาได้เดินลงมาที่ภูเขามังกรเสือ เขารู้สึกได้ว่าพลังแห่งความชั่วร้ายในร่างมันสงบลงอย่างมาก มันไม่ปะทุจนยากที่จะควบคุมอีกต่อไป ในเวลาเดียวกันเขารู้สึกได้ถึงความบริสุทธิ์ที่ซึมเข้ามาในจิตใจทำให้เขารู้สึกสงบอย่างมาก

พลังจิตของเขาตอนนี้สงบนิ่ง เขารู้สึกได้ว่าเขาสามารถเข้าสู่สภาวะสงบนิ่งได้อย่างง่ายดายเมื่อต้องมานั่งสมาธิบนภูเขามังกรเสือแห่งนี้ !

ในเวลาเดียวกันเขาก็ค้นพบค่ายกลขนาดใหญ่ มันมีหลิงฉีจำนวนมหาศาลถูกดูดเข้าไปในนั้น หลิงฉีจำนวนมหาศาลได้ถูกดูดเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ ตรงจุดศูนย์กลางของวัด

แม้ว่าเป่ยเฟิงจะเป็นผู้ฝึกตนเกี่ยวกับร่างกาย แต่เขารู้สึกได้ถึงหลิงฉีที่อยู่รอบ ๆ

ครั้งแรกที่เขามาภูเขามังกรเสือ เขาไม่ได้ค้นพบสิ่งนี้เพราะการฝึกฝนของเขาต่ำเกินไป แต่คราวนี้เขารู้สึกได้ว่าภูเขามังกรเสือแห่งนี้ราวกับน้ำวนขนาดใหญ่ที่กำลังดูดหลิงฉีจากสภาพแวดล้อมเข้ามาอยู่ตลอดเวลา

นี่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เป่ยเฟิงพบ เขารู้สึกได้ว่าค่ายกลนั้นไม่ใช่แค่รวบรวมหลิงฉีเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นคือมันใช้โจมตีได้ด้วยเช่นกัน ! แม้แต่ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเป่ยเฟิงก็ยังต้องตายหากตกอยู่ในค่ายกลที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น !

เป่ยเฟิงไม่เชื่อว่าภูเขามังกรเสือจะมีความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้ เขาจำได้ว่ามันยังมีหม้อกลั่นยาขนาดใหญ่ที่เมื่อเปิดมามันจะมีเม็ดยามังกรเสือออกมาตลอดทุกปีอยู่ด้วย !

นอกจากนี้ ภูเขามังกรเสือแห่งนี้ยังถูกเรียกว่าดินแดนบรรพบุรุษของเหล่าเต๋า รากฐานของพวกลึกแค่ไหนกัน ? หากรากฐานไม่แข็งแกร่งพอพวกเขาคงถูกทำลายไปนานแล้ว !

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท