Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 377

ตอนที่ 377

มีเพียงไม่กี่สิบคนที่อยู่ในห้องโถงด้านใน แต่ละคนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอิทธิพลอย่างมากในแต่ละภูมิภาค หลังจากนั้นไม่นานอาหารจำนวนมากก็ค่อย ๆ ถูกนำมาเสิร์ฟ

ในเวลาเดียวกันเป่ยเฟิงราวกับปีศาจจากขุมนรกที่กำลังพยายามล่อลวงหวังหยุนให้ทำข้อตกลงกับตัวเอง

หวังหยุนยังคงเงียบเป็นเวลานาน

เป่ยเฟิงยิ้มก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้ ปลาได้กินเบ็ดแล้ว ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือรอ

บรรดาผู้เชี่ยวชาญรวมกลุ่มนั่งด้วยกัน กลุ่มของเป่ยเฟิงยังคงมีอยู่ 3 คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ

อาหารหายากและแสนอร่อยจำนวนมากถูกยกมาที่โต๊ะ อย่างไรก็ตาม วัตถุดิบที่ถูกนำมาทำไม่ได้มีเศษเสี้ยวพลังงานจิตวิญญาณเลยแม้แต่น้อย พวกมันเป็นเพียงยาบำรุงเท่านั้น

หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน เมนูที่เป็นอาหารจานเล็กก็ถูกนำมาเสิร์ฟให้แขกทุกคน

เมื่อเปิดฝาออกมากลิ่นหอม ๆ ก็ลอยเข้าไปในจมูกทุกคน

“นี้คือไข่สัตว์อสูร ? น่าสนใจ”

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนหน้าเป่ยเฟิงในขณะที่มองไข่ขนาดเท่าไข่ไก่และข้าง ๆ มันก็มีนกพิราบทั้งตัวอยู่ด้วย

อาหารจานหลักมันไม่ใช่นกพิราบแต่มันคือไข่ มันดูเหมือนไข่ธรรมดา ๆ ที่หาได้ตามรังนก เป็นไปได้ว่ามันอาจจะเป็นวัตถุดิบระดับ 1

โสมพันปีเป็นวัตถุดิบระดับ 1 เช่นกัน ส่วนโสมกลายพันธุ์พันปีนั้นถือว่าเป็นวัตถุดิบระดับ 2 แต่หากพวกมันอายุน้อยกว่าพันปีถือว่าเป็นวัตถุดิบธรรมดา ๆ

นกพิราบนี้น่าจะถูกเลี้ยงมาโดยตระกูลหวัง มันน่าจะเป็นนิพิราบสีเลือด !

คุณค่าทางอาหารของมันสูงกว่านกพิราบทั่วไป 8-10 เท่า เห็นได้ชัดว่านกพิราบถูกเลี้ยงมาด้วยสมุนไพรราคาแพงอย่างโสมและสมุนไพรอื่น ๆ

อาจกล่าวได้ว่านกพิราบทุกตัวได้กินสมุนไพรที่มีค่าไม่อาจประเมินได้ นกพิราบทุกตัวอย่างน้อยมีมูลค่า 1 ล้านหยวน !

มีนกพิราบหลายหมื่นตัวถูกนำมาเสิร์ฟที่แห่งนี้ นั้นถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาล !

แต่อาหารที่มีค่าที่สุดของที่นี่ก็ยังคงเป็นไข่ เป่ยเฟิงไม่สามารถบอกได้ว่ามันมาจากสัตว์อะไร แต่พลังงานที่อยู่ในไข่มันไม่ต่ำกว่าพลังงานระดับ 1

แน่นอนหากเทียบระหว่างไข่และนกพิราบกับของขวัญที่ตระกูลหวังได้ในวันนี้ มันมีมูลค่าพอ ๆ กัน มันถือได้ว่าไม่มีการสูญเสียใด ๆ

อาหารจานนี้ถือว่าเป็นอาหารพิเศษของภูมิภาคแห่งนี้ มันมีชื่อว่า จี่มู่ฮุ่ย !

เดิมทีอาหารจานนี้จะทำจากแม่นกพิราบและไข่ของมัน มันจึงได้ชื่อแบบนี้

แต่ตอนนี้ลักษณะอาหารเปล่ยนไปมาก อาหารดั้งเดิมมันมีคุณค่าอย่างมากสำหรับมนุษย์ แต่อาหารจานนี้หากถูกคนทั่วไปกินเข้าไปพวกเขาอาจจะตายได้ มันไม่เหมือนยาชูกำลังเพราะคุณค่าอาหารของพวกมันมากเกินไป พวกเขาอาจจะกระอักเลือดตายออกมาได้เพราะพลังงานมหาศาล !

เป่ยเฟิงฉีกเนื้อนกพิราบด้วยตะเกียบจากนั้นนำมันเข้าปาก เนื้อไม่เหมือนนกพิราบปกติ มันอ่อนนุ่มและเคี้ยวเพลินมาก

ผิวของมันมีสีน้ำตาลและเนื้อภายในก็สีชมพู

เป่ยเฟิงค่อย ๆ เคี้ยวช้า ๆ เพื่อซึมซับรสชาติให้กับลิ้น แม้ว่าคุณภาพของเนื้อจะต่ำกว่าที่เขาเคยกินแต่กลิ่นของมันหอมมาก

อาจเป็นเพราะว่านกพิราบถูกเลี้ยงโดยสมุนไพรมีค่าจำนวนมากทำให้มันมีรสชาติสมุนไพรผสมเข้าไปทุกส่วนของนกพิราบ รสชาติของมันสดและอ่อนโยน มีรสขมเล็กน้อยเหมือนรสสมุนไพร สำหรับเป่ยเฟิงถึงว่าไม่เลว

หลังจากนั้นเขาก็หันมาสนใจไข่ที่เขาไม่รู้จัก ไข่มีสีขาวสีชมพูและมีลวดลายแปลก ๆ อยู่บนผิวราวกับมันเป็นภาพวาดของภูเขาและแม่น้ำ

เปลือกไข่ค่อย ๆ ถูกแกะออก เป่ยเฟิงหยิบไข่ขึ้นมาด้วยตะเกียบ เขารู้สึกได้ถึงความยืดหยุ่นที่น่าตกใจของไข่

เมื่อมองดี ๆ สามารถมองเห็นรูขุมขนเล็ก ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้

เขากัดลงไปคำเล็ก ๆ เนื้อไข่ขาวและไข่แดงรวมกันกลายเป็นรสชาติแปลก ๆ ในปากของเขา

มันไม่ได้มีรสชาติแย่ แต่มันมีรสชาติที่ไม่สามารถอธิบายได้เพราะมันแปลก ๆ แต่มันก็ทำให้คนหลงไหลได้

ไข่แดงไม่ได้มีรสหยาบเหมือนไข่อื่น ๆ มันเป็นรสเหมือนน้ำผลไม้ เห็นได้ชัดว่ารูขุมขนที่มีอยู่ก็เพื่อให้น้ำซุปและซอสได้ซึมลงไปในไข่โดยตรงผ่านการปรุง

เป่ยเฟิงพยักหน้าชื่นชม วัตถุดิบเหล่านี้ถือว่าเป็นชั้นยอดในโลก ทักษะของพ่อครัวก็ชั้นเยี่ยม การทำอาหารจานนี้บอกได้คำเดียวเลยว่าชั้นเลิศ

ส่วนอาหารจานอื่น ๆ เป่ยเฟิงไม่แตะมันแม้แต่น้อย

เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ ในเมื่อคนที่เคยกินอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกทุกวันต้องมากินอาหารธรรมดามันคงเป็นไแไม่ได้ แต่หากทำเพียงกินอาหารพื้นเมืองจานเล็ก ๆ ยังคงพอรับได้

เป่ยเฟิงเองก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน หลังจากที่ได้กินอาหารที่ทำจากสัตว์อสูรระดับสูงทุกวันทำให้ความสนใจในอาหารธรรมดาของเขาน้อยลงมาก

นอกจากนี้ความกระหายในปัจจุบันของเป่ยเฟิงโหดร้ายมาก หากเขาต้องกินอาหารธรรมดาเพื่อทำให้อิ่มเขาต้องกินทั้งวันโดยไม่ต้องทำอะไรเลยยกเว้นแต่การกิน !

อาหารธรรมดาไม่ได้ให้พลังงานที่ร่างกายของเขาต้องการ ร่างกายที่แข็งแกร่งมีเพียงสารอาหารชั้นยอดเท่านั้นที่มันต้องการ !

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและอาหารก็หมดลง ในขณะเดียวกันลึกลับที่ 1 และ 3 ไม่ได้แตะอาหารธรรมดาบนโต๊ะแม้แต่น้อย

เป่ยเฟิงเอนตัวลงกับเก้าอี้และยิ้มจาง ๆ ในขณะรอ ในขณะเดียวกันโชดี ๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว !

เฮลันฉินจุนกำลังเตรียมตัวเดินทางพร้อมกับหวังหยุน ในขณะเดียวกันเขากำลังพูดคุยบางอย่างกับหวังฮง

หวังหยุนมองไปที่เป่ยเฟิงด้วยความกังวลราวกับเธอตัดสินใจบางอย่างอยู่ หลังจากนั้นเธอก็เดินไปหาหวังหยุยและกระซิบ “พี่ พี่อยากแต่งงานกับชนเผ่าเฮลันจริง ๆ หรอ ?”

“ฉันจะไปทำอะไรได้ ? ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจตระกูลหวังของพวกเราก็รับของขวัญมาจากตระกูลเฮลันแล้ว เฮ้อ … น้องเล็ก เธอต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ ต่อจากนี้ไปพี่ใหญ่จะไม่ได้อยู่เคียงข้างเธออีกแล้ว”

หวังหยุยดูเศร้ามากในขณะที่เธอยิ้มและลูบหัวน้องสาวของเธอ

“พี่ไม่เต็มใจใช่ไหม ? งั้นก็ไม่ต้องแต่งสิ”

หวังหยุนยิ้มกลับ

หวังหยุยส่ายหัวและกล่าวขึ้น “น้องโง่ เรื่องนี้เป็นข้อตกลงที่จบไปแล้ว มันไม่มีทางเปลี่ยนตอนจบได้หรอก”

น้องสาวตัวน้อยของเธอช่างดูไร้เดียงสาจริง ๆ

“เธอคิดอะไรอยู่ ? พี่ใหญ่ของเธอจะจากไปแล้วนะ !”

เป่ยเฟิงเลือกช่วงเวลานี้เพื่อจุดประกายมากขึ้น บทสนทนาระหว่างพี่น้องแน่นอนว่าเขาได้ยินชัดเจน

“อ๊าาา ! ก็ได้ ! พี่ใหญ่เป่ยเฟิง พี่ต้องช่วยฉัน !”

“พ่อ ! พี่ใหญ่ไม่สามารถแต่งงานกับชนเผ่าเฮลันได้ !”

หลังจากถูกเป่ยเฟิงเป่าหูซ้ำแล้วซ้ำเล่า หวังหยุนก็พูดพึมพำก่อนจะมองไปที่เป่ยเฟิง จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจลึก ๆ และพูดด้วยเสียงดังสนั่นไปทั่วห้องโถง !

หวังฮงยังคงคุยกับเฮลันฉินจุนด้วยรอยยิ้มที่ถูกบังคับบนหน้าเขา ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยพอใจที่ต้องรับเฮลันฉินจุนมาเป็นลูกเขย แต่เพราะตระกูลหวังได้ตกลงกันแล้วและเขาไม่มีทางเลือกอื่นเช่นกัน เมื่อมาถึงจุดนี้เขาได้แต่หวังว่าเฮลันฉินจุนจะดูแลลูกสาวเขาได้ดี

“อย่ามาไร้สาระ ! อย่าก่อเรื่อง !”

ใบหน้าของหวังฮงเปลี่ยนเป็นสีดำทันที ลูกสาวตัวน้อยที่แสนเชื่อฟังของเขาทำไมถึงเลือกที่จะกบฏในช่วงเวลาที่คาดไม่ถึงกัน !

“พี่ใหญ่ไม่ใช่สิ่งของที่พ่อจะเอาไว้แลกเปลี่ยน ได้โปรด ! เธออยากจะมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตัวเอง !”

หวังหยุนไม่สนใจใบหน้าที่ดำมืดของหวังฮง มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของพี่สาวเธอ

“มันไม่ใช่เรื่องที่จะพูดที่นี่ ! เด็ก ๆ พาคุณหนูกลับห้อง !”

หวังฮงตะโกนเรียกยามด้านหลังเขา

“หยุดก่อน”

เฮลันฉินจุนยกมือขึ้นขวางยามก่อนจะเดินไปหาหวังหยุน

“ข้ารักพี่สาวของเจ้าจริง ๆ และข้ายินดีที่จะใช้ชีวิตเพื่อปกป้องเธอ ข้ารู้ว่าเจ้าอารมณ์เสียเพราะถูกแยกออกจากพี่สาวของเจ้า แต่เจ้าสามารถมาที่ชนเผ่าเฮลันเพื่อเยี่ยมพี่สาวของเจ้าได้ตลอดเวลา ! หรือถ้าเธอต้องการ เธอก็สามารถมากลับมาเยี่ยมตระกูลได้ตลอดเวลาเช่นกัน !” เฮลันฉินจุนกล่าวด้วยความจริงใจ

“หยุนเอ๋อ หยุดสร้างเรื่องวุ่นวายได้แล้ว ไม่ใช่ว่าพี่ใหญ่จะไม่กลับมาซักหน่อย”

หวังหยุยไม่สามารถควบคุมน้ำตาได้อีกต่อไป น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของเธอ

หวังหยุนไม่สนใจ เธอชี้หน้าเฮลันฉินจุน และถามขึ้น “คุณบอกว่ารักพี่สาว แต่คุณถามหรือยังว่าพี่รักคุณหรือเปล่า เธอชอบคุณหรือเปล่า ? คุณบอกว่ารักเธอแต่คุณรู้หรือเปล่าอะไรคือความรัก ?”

“ข้า ….”

เฮลันฉินจุนทำได้แค่เงียบและเปิดปากก่อนจะปิดปากซ้ำ ๆ สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

“ฟิ้ว !’

หวังฮงโกรธจนตัวสั่น เขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวที่เชื่อฟังและฉลาดของเขาจะดื้อขนาดนี้ เขายกมือขึ้นและตบไปที่หน้าหวังหยุน

“มันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะตบคนอื่นต่อหน้าฉัน”

แต่ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว ทันใดนั้นก็มีบุคคลพิเศษปรากฏตรงหน้าขวางเขากับหวังหยุน จากนั้นแขนของเขาก็ถูกจับโดยคน ๆ นั้น

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท