Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 386

ตอนที่ 386

ในภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้า มีบ้านหลังหนึ่งที่มีต้นไม้สีเขียวเติบโตอยู่รอบ ๆ แลดูมีชีวิตชีวา

ต้นไม้เหล่านี้มีขนาดใหญ่มาก พวกมันราวกับโอมอุ้มบ้านหลังนี้เอาไว้ แต่แท้จริงแล้วต้นไม้เหล่านี้ถูกปลูกเอาไว้เป็นวิวที่สวยงดงามเท่านั้น ขนาดของพวกมันไม่ได้ใหญ่ไปกว่าบ้านหลังอื่น ๆ เลย

เถาวัลสีเขียวและหนาคอยห้อยโหนอยู่ในป่า มันทำให้ภูเขาลูกนี้เต็มไปด้วยความมืด

ถนนที่ยาวและคดเคี้ยวคอยบ่งบอกว่ามีเส้นทางที่สามารถเดินทางได้ไปถึงยอดเขา มีใบไม้จำนวนมากที่ตกลงมาจากต้นไม้เรียงรายอยู่ข้างถนนพร้อมกับหญ้าจำนวนมาก

กลุ่มของเป่ยเฟิงยังคงเพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารแสนอร่อย อาหารทุกจานเป็นอาหารที่มีประโยชน์อย่างมากกับผู้ฝึกตน

ไป๋เซียงกินอย่างมีความสุขพร้อมกับรอยยิ้มโง่ ๆ บนหน้าของเขา

‘อย่างที่คิด จะได้กินเนื้อถ้าติดตามเจ้านาย ไอ้แก่บัดซบนั้นมันไม่เคยคิดจะมาสนใจฉันแบบนี้มาก่อนเลย’

ไป๋เซียงพึมพำกับตัวเอง หากตาแก่นั้นมาเห็นการกินของเขา เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะถูกอีกฝ่ายอัดน่วม

เป่ยเฟิงรู้สึกมีความสุขอย่างมาก แม้ว่าไป๋เซียงจะจากไปหลายปี แต่ทุกอย่างในตอนนี้มันราวกับเป็นเพียงเมื่อวานเท่านั้น

เป่ยเฟิงมองเงียบ ๆ และถามขึ้น “ไป๋เซียง นายตั้งใจจะทำอะไรต่อจากนี้ ?”

ไป๋เซียงคิดและตอบอย่างจริงจัง “อ่า ? ผมอยากจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยกำปั้น ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็จะใช้อีกกำปั้นหนึ่งแก้ไขมันอีกทาง ! จากนั้นก็จะแต่งงานกับผู้หญิงและสร้างเด็กขึ้นมา !”

“แค่ก แค่ก !”

เป่ยเฟิงกะอักซุปและไอออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของไป๋เซียง ประโยคแรกเป็นประโยคที่เขาคิดเอาไว้ แต่ประโยคหลังมันทำให้เขาสำลัก !

“เอิ่ม … มันช่างเป็นแผนการที่เล่อค่าจริง ๆ !”

เป่ยเฟิงขดริมฝีปาก … แม้ว่าจะพบกับผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งเขาก็ไม่เคยมีท่าทีแบบนี้มาก่อนเลยซักครั้ง

มีเพียงระดับสวรรค์เท่านั้นถึงจะถูกยกย่องได้ว่าผ่านประตูของการเป็นผู้ฝึกตน ! ระดับเซียนเทียนและอื่น ๆ ถือว่าเป็นระดับพื้นฐานแรกเริ่มเท่านั้น !

มีเพียงรากฐานที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเดินทางไปในเส้นทางผู้ฝึกตนได้ !

เป่ยเฟิงไม่อยากทำลายความทะเยอทะยานของไป๋เซียง แม้ว่าเขาจะครอบครองระบบตกปลา แต่เขาก็ไม่เคยอ้างว่าตัวเองสามารถครองโลกได้ด้วยกำปั้นตัวคนเดียว !

ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะเข้าใจว่าความเข้าใจที่แล้วมาของพวกเขานั้นน้อยขนาดไหน แม้แต่ระดับสวรรค์เองก็ยังถือว่าเป็นสระน้ำตื้น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาออกจากสระน้ำตื้นนี้พวกเขาจะกลายเป็นเด็กน้อยที่อ่อนแอในสระน้ำลึกทันที

“ไป๋เซียง เส้นทางการฝึกฝนมันมีไม่สิ้นสุด แต่เพราะมนุษย์นั้นอ่อนแอ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะมีพลังระดับสวรรค์ นายคงไม่สามารถทำอะไรได้มาก”

สำหรับเป่ยเฟิง เพียงแค่เหลือบมองเขาก็รู้ได้ทันทีว่าไป๋เซียงเป็นผู้ฝึกตนสายฝึกฝนร่างกายและกลั่นฉีในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้เขายังทำมันได้ดีทั้ง 2 ด้าน !

แม้ว่าเขาจะอยู่เพียงระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุด แต่ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญระดับครึ่งก้าวสวรรค์ก็ไม่สามารถสู้เขาได้

“แต่ตาแก่นั้นบอกให้ผมเดินทางไปในเส้นทางการฝึกฝนร่างกายและกลั่นฉีพร้อมกัน ในอดีตมีคนกว่าร้อยคนได้เดินบนเส้นทางแบบเดียวกันกับผมและพวกเขาก็ประสบความสำเร็จมากมาย แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาจะไปไม่ถึงฝั่งฝันก็เถอะ”

ไป๋เซียงรู้สึกสับสน เขาไม่รู้ว่าจะฟังใครดี

“ระดับสวรรค์ถือว่าเป็นระดับพื้นฐานเท่านั้น หลังจากนั้นจะเป็นการฝึกฝนที่แท้จริง นายควรจะเลือกเดินทางด้วยเส้นทางสายเดียวเพื่อที่นายจะเดินไปได้ไกลขึ้น” เป่ยเฟิงตอบอย่างจริงจัง

ทรัพยากรที่จำเป็นในการฝึกฝนร่างกายและการกลั้นฉีนั้นไม่ได้น้อยเลย มันไม่ใช่เพียง 1+1 แต่มันมากกว่านั้น นอกจากนี้เวลาที่ต้องใช้ในการพัฒนาร่างการและกลั่นฉีมันยาวนานกว่าการฝึกฝนด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ !

นอกจากนี้หากเจอปัญหาใด ๆ ก็ตามผลกระทบที่ตามมานั้นใหญ่หลวงมาก

หากเป็นคนอื่น เป่ยเฟิงคงไม่สนใจ แต่ไป๋เซียงนั้นแตกต่างกันเพราะเขารู้จักอีกฝ่ายดี

“อืม งั้นผมจะคิดมันอย่างจริงจัง”

ไป๋เซียงพยักหน้าจริงจัง

เป่ยเฟิงคิดสักพักและพูดขึ้น “ดี แต่ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ แค่ฟังเสียงจากหัวใจและทำไปตามสัญชาตญาณของนาย”

เขาไม่ได้ต้องการบังคับไป๋เซียงโดยตรง

ไป๋เซียงพยักหน้าและเมื่อเห็นว่าเป่ยเฟิงหยุดพูดแล้ว เขาก็หันมากินอีกครั้ง

หลังจากเลือกห้องพักสำหรับไป๋เซียงได้แล้ว เป่ยเฟิงก็เดินกลับไปที่เตียงของเขา

พลังงานแสงดาวจำนวนมากไหลเข้ามาในห้องอย่างต่อเนื่อง พลังงานที่ไหลเข้ามานั้นเปล่งประกายเป็นจุด ๆ ซึ้งมันดูหนาแน่นกว่าตอนแรกมาก

เป่ยเฟิงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเคล็ดการหายใจด้วยแสงดาวมากนัก เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นคำอธิบายเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่เคล็ดที่จะทำได้ในเวลาสั้น ๆ

หากไม่มีการสนับสนุนด้านทรัพยากรเพียงพอ เคล็ดการหายใจนี้อาจจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานมาก กล่าวอีกอย่างคือตราบใดที่คนฝึกยังมีชีวิตอยู่ มันก็เพียงพอที่จะฝึกเคล็ดนี้ได้สำเร็จ

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 ต้นที่เกิดจากพลังจิตบริสุทธิ์ค่อย ๆ กระจายพลังงานออกมาหลังจากที่ได้ดูดซับพลังงานแสงดาวเพื่อนำมาใช้เติบโต

แม้ว่าเป่ยเฟิงจะสามารถใช้เคล็ดการหายใจแล้วดึงพลังงานมาเป็นของตัวเองได้ แต่พลังงานมันก็ไม่ได้มากนักนอกจากนี้เขาไม่สามารถทำมันได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้กว่าต้นไม้จะเติบโตจนสมบูรณ์มันยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน ทางที่ดีเขาเพียงแค่ตามหาจุดแสงเพื่อดูดซับแสงดาวดีกว่า

เช้าวันใหม่ เป่ยเฟิงตื่นขึ้นมา พลังจิตของเขาพุ่งออกมาจากสายตาเกิดเป็นประกายสายฟ้ารอบ ๆ รัศมี 3 ชุน !

นี่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะผู้ที่ฝึกฝนการใช้พลังจิตไปถึงระดับหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์หลายคนไม่ได้มีความแข็งแกร่งในเรื่องการควบคุมพลังจิตเหมือนเป่ยเฟิง

ตอนนี้เป่ยเฟิงถือว่าเป็นผู้ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน หากเขาอยากจะฝึกเขาก็เพียงกระตุ้นมันก่อนจะทำให้ตัวเองพัฒนาขึ้น

อย่างที่เขาเคยคาดคิดเอาไว้ การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากทำลายคอขวดไปยังระดับสวรรค์ สถานะของเขาอยู่ในระดับ 5 ดาวมาเป็นเวลานาน แม้ว่าเขาจะรู้สึกดีที่สามารถพัฒนาไปยังระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุดได้ตลอดเวลา แต่นั้นยังไม่เพียงพอที่เขาจะทำมันเนื่องจากรากฐานของเขายังไม่ดีพอ

วิธีเดียวที่จะทำให้รากฐานดีขึ้นนั้นคือใช้เคล็ดปลดปล่อยกายาเพื่อกลั่นและพัฒนามัน

แต่จำนวนทรัพยากรที่ใช้นั้นมากจนทำให้เป่ยเฟิงรู้สึกเสียใจ เคล็ดปลดปล่อยกายาและเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์นั้นพวกมันคือหลุมดำขนาดใหญ่ 2 หลุมที่คอยดูดทรัพยากรของเขา หากเขาอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของมันให้ชัด ๆ บางทีอาจจะต้องใช้ทรัพยากรของทั้งประเทศจีนที่เพียงพอจะทำให้ตระกูลขนาดใหญ่ต้องล้มละลาย !

เป่ยเฟิงเริ่มฝึก จากนั้นไป๋เซียงก็ตื่นขึ้นมาและเริ่มฝึกบ้าง อาหารที่กินไปเมื่อคืนเต็มไปด้วยพลังงานจำนวนมากและมันก็ยังไม่ได้ถูกดูดซับเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ที่ฝึกแบบ 2 เส้นทางอย่างไป๋เซียงด้วยแล้ว ทรัพยากรที่เขาใช้นั้นค่อนข้างเยอะมาก

โชคดีที่พลังงานในเนื้อสัตว์อสูรนั้นสูงมาก นอกจากนี้ความบริสุทธิ์ของพลังงานก็ไม่สามารถหาอะไรมาเทียบได้

ถึงแม้ว่าไป๋เซียงจะเป็นผู้ฝึกตนประเภทควบคู่ แต่ปริมาณทรัพยากรที่เขาใช้ยังคงห่างไกลจากเป่ยเฟิงเนื่องจากรากฐานของเป่ยเฟิงนั้นหยั้งลึกเกินไป

ไป๋เซียงรู้สึกยินดีอย่างมากที่พบว่าพลังงานจำนวนมากที่เขาต้องการสามารถหาได้ด้วยมื้ออาหารที่กินกับเป่ยเฟิง

ก่อนหน้านี้เขาต้องกินสมุนไพรจำนวนมากประทังชีวิตเพียงเพื่อให้ได้พลังงานในการฝึกแต่ละวัน

โชคดีที่ตระกูลของไป๋เซียงนั้นสะสมทรัพยากรเอาไว้มาก ต่อให้มีเขาอีกคนแต่ด้วยทรัพยากรที่สะสมมากว่าพันปีมันก็เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของเขา

ถึงอย่างนั้นทรัพยากรที่ใช้ในการพัฒนาไปยังระดับสวรรค์นั้นไม่มีเหลือแล้ว และด้วยหลิงฉีในปัจจุบันมันราวกับฝันเท่านั้นในการทำให้ผู้คนไปยังระดับสวรรค์ได้ !

“ปัง ปัง !”

พลังงานเลือดและฉีของเป่ยเฟิงอุดมสมบูรณ์และทรงพลังมาก ปกติแล้วเขาจะไม่ขยับตัวมากแต่ แต่ตอนนี้เขากลับใช้พลังเต็มที่จนหัวใจของเขาส่งเสียงดังเหมือนกลองออกมา !

หน้าอกของเขาค่อย ๆ พองขึ้นในขณะที่เขาหายใจเข้าลึก ๆ !

“ฮ๊าาาาา !”

หลังจากนั้นร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนกุ้งสุก แต่มันไม่มีความร้อนแผ่กระจายออกมาเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเขาก็อ้าปากและคำรามออกมาด้วยเสียงยาว ๆ !

นกขนาดใหญ่ไม่ทราบว่าพันธุ์อะไรบินมายังเส้นทางที่ลมหายใจพ่นออกไป และนกที่เคราะห์ร้ายก็กระพือปีกได้อยู่ชั่วครู่ก่อนจะสั่นไหวและน้อยจากนั้นมันก็ค่อย ๆ ระเบิดร่าง ! เลือดและขนของมันปลิวว่อนไปทุกที่

ในเวลาเดียวกัน เหงื่อจำนวนมากก็ไหลออกมาจากร่างกายของเป่ยเฟิง

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท