“นายน้อย ดิฉันปวดท้องมากเมื่อครู่ ดิฉันจึงไปทำธุระส่วนตัวครู่เดียว … แต่ก่อนไปดิฉันแน่ใจว่าปลายังอยู่ตรงนี้อยู่เลย” ผู้หญิงคนนั้นพูดตะกุกตะกักอย่างกระวนกระวายใจ เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเซียงซิ่ง
“เด็ก ๆ !”
ใบหน้าที่มืดครึมของเขาหายไปแล้ว ในไม่ช้าใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นอีกอารมณ์
ผู้เชี่ยวชาญระดับความมืด 2 คนรีบวิ่งเข้ามาหาเขาทันที “นายน้อย”
เซียงซิ่งพูดด้วยเสียงเย็นชา “คงไม่ต้องให้ฉันสอนพวกแกหรอกนะว่าต้องทำอะไร เข้าใจใช่ไหม ?”
“ครับนายน้อย !”
ผู้เชี่ยวชาญระดับความมืดพยักหน้าตอบรับ เขารู้ได้ทันทีว่าเซียงซิ่งหมายถึงอะไร จากนั้นหนึ่งในนั้นก็ใช้สันมือสับลงที่ด้านหลังคอผู้หญิงก่อนจะลากเธอออกไป
“บรู้ว !”
เคอร์เบอรอสเดินออกมาจากอีกด้านของโต๊ะพร้อมกับหอนอย่างเบื่อหน่าย
‘บัดซบ ! อย่าบอกนะว่าปลาของฉันโดนไอ้หมาบัดซบนี้กินไป ไม่จริงใช่ไหม ?’
เมื่อเห็นเคอร์เบอรอสเดินออกมา ความคิดบางอย่างก็เข้ามาในหัวเซียงซิ่งทันที
“ไปลงนรกซะ !”
ยิ่งคิดเขายิ่งโกรธ ปลาราคาแพงกลับถูกหมาตัวนี้กินงั้นรึ ? เขารีบพุ่งไปข้างหน้าก่อนจะไปปรากฏตรงหน้าเคอร์เบอรอส จากนั้นเขาก็ต่อยออกไปที่หัวของไม่รู้จักพอ !
“ปัก !”
เสียงกระแทกดังขึ้นโดยเคอร์เบอรอสยังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย ดวงตากึ่งปิดกึ่งเปิดของมันเปิดขึ้นพร้อมกับมองเซียงซิ่งด้วยสายตาดุร้าย
“ปัง !”
“แกร๊ก !”
เคอร์เบอรอสยกขาขึ้นและถีบที่หน้าอกของเซียงซิ่งส่งเขาบินไปไกลก่อนจะกระแทกเข้ากับโต๊ะ โต๊ะตัวนี้ทำมาจากไม้กุหลาบสีเหลืองและมีความทนทานสูงมาก แต่สุดท้ายมันก็ถูกทำลายลงไป
เซียงซิ่งนอนอยู่ในเศษไม้พร้อมดวงตาที่สับสน เขารู้สึกเหมือนเวลาได้หยุดลง เขาทำได้เพียงมองไปรอบ ๆ ด้วยความสับสน เขาลืมแม้แต่ที่จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด !
“อ๊าก !”
เคอร์เบอรอสไม่ได้พูดอะไร มันเดินไปยังเศษซากก่อนจะเหยียบเซียงซิ่งด้วยอุ้งเท้าของมัน
รอยลึกรูปอุ้งเท้าหมาปรากฏตรงกลางหน้าอกเซียงซิ่ง รอยลึกมันดูราวกับลึกลงไปจนทำให้เขาบาดเจ็บภายในไม่น้อย !
เคอร์เบอรอสยังคงไม่หยุด มันใช้อุ้งเท้าของมันตบหน้าเขาจนเกิดเสียงดัง
หลังจากตบไม่ครั้งจนใบหน้าเซียงซิ่งบวมจนน่าหัวเราะ เคอร์เบอรอสก็มองด้วยความพอใจก่อนจะเดินจากไป
“เป็นเพียงระดับวิวัฒนาการตัวจ้อยแต่กลับกล้าทุบหัวนายท่านหมาผู้นี้ ? ความคิดที่จะกินแกยังไม่อยู่ในหัวฉันด้วยซ้ำ”
แน่นหัวเค้นเสียงเย็นชาก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ จากไป
ส่วนเซียงซิ่งตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บหนักจนสงสัยมากว่าจะมีชีวิตรอดต่อไปได้หรือไม่ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิวัฒนาการแต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกทุบตีได้ขนาดนี้ !
“นายน้อย ! นายน้อย ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ?”
ผู้เชี่ยวชาญระดับความมืดที่เพิ่งเดินกลับมาถึงมองเซียงซิ่งด้วยความมึนงง สภาพของเขาในตอนนี้มันดูราวกับไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
“แกกล้าถามได้ยังไงว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ? พวกแกตาเปล่าหรือยังไง !”
ใบหน้าของเซียงซิ่งในตอนนี้ปูดบวมราวกับหัวหมู
‘บัดซบ ! ฉันจะสับมันเป็นชิ้น ๆ แล้วกินมันซะ !’
เซียงซิ่งสาปแช่งด้วยความเกลียดชัง การถูกทุบตีครั้งนี้มันคือความอัปยศที่สุดในชีวิตของเขา
ทันทีที่ระดับเซียนเทียนในคฤหาสน์รู้ข่าวเขาก็รีบมาทันที ใบหน้าของเขาที่เห็นเซียงซิ่งเต็มไปด้วยความน่าเกลียด สมาชิกของตระกูลกลับถูกทำร้ายในดินแดนของตัวเอง นี่มันถือว่าเป็นการท้าทายกันชัด ๆ !
เซียงฉีระเบิดพลังแล้วจัดกระดูกเซียงซิ่งใหม่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยสีแดงของเขาตะโกนขึ้น “ใครเป็นคนทำ !”
“ผู้อาวุโส รีบเรียกผู้คุมกฏของตระกูลมาเร็ว วันนี้ผมจะทำให้มันได้รู้ว่าอย่ามาหยามกับตระกูลเรา !”
เซียงซิ่งเช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขา สำหรับผู้ที่ทุบตีเขา เขาเลือกที่จะหลีกเลี่ยงที่จะตอบ เขาจะบอกได้อย่างไรว่าผู้ที่ทุบตีเขาเป็นหมาตัวหนึ่ง ? แม้แต่เขาเองก็ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองพูด !
แต่ความจริงก็คือเขาถูกหมาทุบตีจริง ๆ หลังจากที่เขาตั้งสติได้ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่ามันต้องเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมาก ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ตัวเขาที่มีพลังระดับวิวัฒนาการกลับไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย !
กลุ่มคนจำนวนมากเดินเป็นขบวนไปที่สวนพร้อมกับแผ่จิตสังหารออกมาจำนวนมาก
เคอร์เบอรอสในตอนนี้กำลังนอนข้างลึกลับที่ 1 มันใช้อุ้งเท้าของมันตบมดที่เดินไปมาอย่างเฉื่อยชา
ไป๋เซียงนั่งข้าง ๆ ลึกลับที่ 1 ไป๋เซียงไม่ได้มีส่วนร่วมกับงานปาร์ตี้ครั้งนี้ เขาหลับตาพักผ่อนสบาย ๆ ส่วนลึกลับที่ 1 เธอไม่สนใจใครแม้แต่น้อย เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทางเบื่อหน่ายโดยใช้มือยันแก้มนุ่ม ๆ ของเธอเอาไว้และคิดบางอย่างอยู่
“ล้อมที่นี่เอาไว้ !”
กลุ่มคนจำนวนมากเดินมาตรงหน้ากลุ่มลึกลับที่ 1 โดยมีเซียงซิ่งเดินนำพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญระดับเจียนเทียน 5 คน !
ระดับเจียนเทียนของตระกูลเซียงก้าวออกมาและพูด “ซิ่ง เป็นพวกมันใช่หรือไม่ที่ทำร้ายเจ้า ? ถึงพวกแกจะเป็นแขกแต่พวกแกต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ตระกูลเซียง !”
เขาไม่รอคอยคำตอบของลึกลับที่ 1 เขาตัดสินใจที่จะให้พวกเธอเป็นฝ่ายทำผิดทันที
เซียงซิ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เงียบ ๆ เขาไม่อยากจะบอกว่าเขาถูกทุบตีโดยหมาตัวนั้น ตั้งแต่หมาตัวนั้นอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ นั้นหมายความว่าคนเหล่านี้เป็นเจ้าของมัน !
ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่ลึกลับที่ 1 พร้อมกับหัวใจที่เต้นอย่างแรง
ลึกลับที่ 1 ยังคงไม่สนใจคนเหล่านี้ เธอลูบหัวไม่รู้จักพอพร้อมกับประเมินสถานการณ์แปลก ๆ ตรงหน้า
โดยปกติแล้วไม่รู้จักพอและหลุมดำจะไม่ให้ใครแตะต้องหัวมันนอกเหนือจากเป่ยเฟิง แต่มันในตอนนี้กลับยอมให้เธอลูบหัวพวกมันได้ พวกมันทำเพียงเงยหน้าขึ้นไปมองเธอก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
ระดับเซียนเทียนหรี่ตามองและพูดด้วยน้ำเสียงอดทน “พวกแกคิดว่าพวกแกจะทำอะไรก็ได้ถ้าพวกแกไม่พูดงั้นรึ ? บอกข้ามาว่าตระกูลไหนส่งพวกแกมา !”
มีตระกูลจำนวนมากมางานนี้ มันมีทั้งตระกูลระดับสุดยอดและนิกายระดับแนวหน้าที่เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร ดังนั้นการที่จะทำอะไรต้องคิดให้ดี ๆ ซะก่อน
กลุ่มคนจำนวนมากเดินมาดูความวุ่นวาย แต่เดิมพวกเขาอยากจะเห็นว่าใครกันที่กล้าหาเรื่องตระกูลเซียง แต่ทันใดนั้นก็มีคนโวยวายขึ้นและชี้ไปยังลึกลับที่ 1 “เอ๊ะ ? นั่นมันแม่มดสีเลือด !”
“เพ้ย เป็นเธอจริง ๆ ! ฉันเคยเห็นเธอมาก่อน เธอสามารถฆ่าตระกูลระดับกลางที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนกว่า 10 คนได้ด้วยตัวคนเดียว นอกจากนี้ไม่มีใครซักคนในตระกูลมีชีวิตรอดซักราย !”
ความวุ่นวายปะทุขึ้นพร้อมกับทุกคนที่รีบมุงดูด้วยความตื่นเต้น
“เธอคือแม่มดสีเลือดจริง ๆ งั้นรึ ? เธอสวยมาก ข้าว่ามองยังไงเธอก็ไม่เห็นดูเหมือนคนที่โหดร้ายขนาดนั้นเลย”
“ฮี่ฮี่ ที่แกกล้าพูดแบบนี้เพราะแกยังไม่เคยเห็นตอนเธอฆ่าคนนะสิ”
“ต้องเป็นโชว์ที่ดีแน่ ๆ ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูเหมือนตระกูลเซียงกำลังหาเรื่องแม่มดสีเลือด”
ทุกคนเริ่มคุยกันด้วยความตื่นเต้น พวกเขาอยากรู้มากว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “เป็นแม่มดสีเลือดแล้วไง ที่นี่คือบ้านตระกูลเซียง และตระกูลเซียงคือตระกูลชั้นยอดที่มีตัวตนระดับสวรรค์ปกป้องอยู่”
“หึหึ แกผิดแล้ว แกคิดว่าตระกูลเซียงเป็นผู้เดียวที่มีตัวตนระดับสวรรค์งั้นรึ ? แกรู้หรือเปล่าว่าใครหนุนหลังแม่มดสีเลือด ?”
คนที่อยู่ข้าง ๆ หัวเราะเยาะและมองเขาด้วยความรังเกียจ
“ใคร ? อย่าบอกนะว่าเขาแข็งแกร่งกว่าตระกูลเซียง ?” ชายวัยกลางคนถามด้วยความสนใจ
“แม่มดสีเลือดเป็นคนที่โหดร้ายและไร้ความปราณี เธอเป็นพวกฆ่าล้างทั้งตระกูล หากไม่มีใครหนุนหลังเธอ คงไม่มีใครปล่อยเธอเอาไว้หรอก ! แต่เพราะเธอมีตัวตนระดับสวรรค์หนุนหลัง ยิ่งกว่านั้นเขาคือคนที่สามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ด้วยมือเดียวมาแล้ว ! เขาคือ เส้นผม 3,000 เส้น สีขาวเหมือนเลือด [1] ท่านเป่ยเฟิง !” ชายชรากล่าวด้วยความหวาดกลัว [1]
เส้นผม 3000 เส้น สีขาวเหมือนเลือด คือฉายาที่ถูกตั้งขึ้นโดยนับจำนวนที่เขาฆ่าไป เส้นผมทุกเส้นที่ถูกพูดถึงนั่นหมายถึงจำนวนคนที่ตายด้วยน้ำมือของเขา !
“แม่มดสีเลือด ถึงแกจะมีท่านเป่ยเฟิงหนุนหลังแต่แกอย่าคิดว่าสามารถสร้างปัญหาให้กับตระกูลเซียงได้ !”
ใบหน้าของชายชราทั้ง 5 จากตระกูลเซียงเต็มไปด้วยความน่าเกลียดเมื่อได้ยินคำพูดของคนรอบ ๆ ดูเหมือนตอนนี้พวกเขาจะขึ้นขี่หลังเสือและยากที่จะลงมา ในเมื่อพวกเขาสร้างปัญหาให้กับตัวเองแล้วดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่เดินหน้าต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนเหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเก็บตัว สิ่งแรกที่พวกเขารู้ข่าวหลังจากออกมาจากการเก็บตัวนั้นคือการเตรียมตัวเดินทางไปยังบ่อน้ำขังมังกร ส่วนเรื่องข่าวอื่น ๆ พวกเขาไม่ค่อยรู้มากนัก
และนี่คือเหตุผลที่พวกเขาไม่รู้จักลึกลับที่ 1 แต่ในเมื่อพวกเขามีตัวตนระดับสวรรค์หนุนหลังอยู่ มันยังทำให้พวกเขาสามารถยืนพูดอยู่ตรงนี้ได้
[1] เป็นการเล่นคำของจีน เวลาอ่านออกเสียงนอกจากสีขาวเหมือนเลือดแล้วสามารถอ่านเป็นสีขาวเหมือนหิมะได้