Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 413

ตอนที่ 413

เป่ยเฟิงต้มข้าวต้มให้เดือด ในไม่ช้าหม้อข้าวต้มก็ส่งกลิ่นหอมออกมา

อาการบาดเจ็บของลึกลับที่ 1 ฟื้นตัวเกือบหมดแล้ว หากไม่ใช่เพราะเธอใช้ทักษะที่ดีที่สุดในการใช้แส้ทำเป็นลูกบอลป้องกันตัวเอาไว้ บางทีเธออาจจะตายไปแล้วก็ได้

สำหรับไป๋เซียง เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก ผิวและกล้ามเนื้อของเขาแข็งมากเนื่องจากเขาฝึกฝนเส้นทางทั้งกลั่นร่างกายและกลั่นฉี ทำให้แรงระเบิดไม่สามารถทำอะไรเขาได้มากนัก

“มิ้ว มิ้ว !”

จิ้งจอกน้อยเดินตามกลิ่นหอมก่อนจะใช้ปากงับชามเอาไว้ จากนั้นก็กระโดดไปบนโต๊ะและนั่งรอเป่ยเฟิง

เคอร์เบอรอสพยายามที่จะเข้ามาในบ้าน แต่เมื่อเห็นเป่ยเฟิงจ้องเขม็ง มันจึงยอมนอนอยู่ด้านนอกเงียบ ๆ

เป่ยเฟิงยิ้มจาง ๆ ในขณะที่มองหมาตัวใหญ่ด้านนอก รอยยิ้มของเขาไม่เข้ากับลวดลายบนระหว่างคิ้วแม้แต่น้อย

จากนั้นในพริบตาเวลาก็ผ่านไปถึง 8 ปี !

8 ปีที่ผ่านมาเป่ยเฟิงได้ออกไปทำภารกิจของกรมผู้ฝึกตนของทหารหลายครั้ง และทุกภารกิจนั้นคือการสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ !

เมื่อ 7 ปีก่อนเขาถูกส่งไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์

เมื่อ 6 ปีก่อนเขาฆ่าสัตว์อสูรระดับสวรรค์ในแถบไซบีเรีย สัตว์ตัวนั้นถูกตั้งฉายาเอาไว้ว่าพระเจ้าของเหล่าหมาป่า !

เมื่อปีก่อนหมู่เกาะในเขตมหาสมุทรแปซิฟิค เขาได้ปะทะกับกลุ่มทหารหลายพันคน และเขาได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ไปถึง 2 คน !

ผลงานของเป่ยเฟิงเป็นที่เลื่องลือในวงกว้าง เขาราวกับดวงอาทิตย์ที่สว่างไสวอยู่บนท้องฟ้า !

มันไม่เกินจริงแม้แต่น้อยหากจะบอกว่าเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่เคยมีใครในกรมผู้ฝึกตนของทหารที่ไม่รู้จักเป่ยเฟิงแม้แต่คนเดียว

โดยเฉพาะวิธีทำภารกิจของเป่ยเฟิง เพราะแต่ละครั้งนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงและไร้ปราณีจนทำให้ผู้อื่นหวาดกลัวมาก

มีบางคนที่ว่างมากได้จัดทำคะแนนสำหรับเป่ยเฟิงในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เขาได้นับจำนวนคนที่ตายภายใต้เงื่อมมือของเป่ยเฟิงและดูเหมือนว่ามันจะไม่น้อยไปกว่า 3,000 คน !

นี่เป็นจำนวนที่น่ากลัวมากโดยเฉพาะสังคมยุคใหม่ที่การฆ่าคนมีความผิดหนักมาก และด้วยคนเพียงคนเดียวกลับฆ่าคนไปมากกว่า 3,000 คน มันสามารถจินตนาการได้เลยว่าโทษของเขาน่ากลัวแค่ไหนหากเขาเป็นคนธรรมดา

ภายในภูเขาจิตวิญญาณสีฟ้า เป่ยเฟิงกำลังนั่งอ่านฮั๋งติงเจียงอย่างเงียบ ๆ ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ [1]

หากนับตามปฏิทิน ตอนนี้เป่ยเฟิงอายุได้ 36 ปี โดยนับรวม 3 ปีที่เขาถูกดึงตัวไปอยู่ในอีกโลกด้วย

แม้ว่าเขาจะเริ่มมีอายุ แต่รูปลักษณ์ภายนอกของเขาราวกับเด็กหนุ่มอายุ 20 ต้น ๆ สายลมอ่อน ๆ พัดผ่านผมยาวสีขาวของเป่ยเฟิงเบา ๆ ผมของเขายังคงเป็นสีขาวหิมะเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

แรงกดดันของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความสงบราวกับปุยเมฆบนท้องฟ้า ความโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนยามเมื่อเขาต่อสู้ไม่สามารถมองเห็นได้เลยในตอนนี้

‘8 ปีที่ผ่านมา พลังชั่วร้ายทำให้ฉันแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ’

เป่ยเฟิงสะบัดมือจากนั้นตำราก็หายไป

พลังงานแห่งความชั่วร้ายไม่เคยหลุดพ้นการควบคุมของเขาแม้แต่น้อย มีเพียงบางครั้งที่เขายอมมันและทำให้ตัวเองกลายเป็นปีศาจ

โดยเฉพาะเมื่อตอนเขาเห็นเลือด จิตสังหารของเขาได้ปะทุขึ้นทุกครั้ง

อย่างภารกิจเมื่อปีที่แล้วในหมู่เกาะเขตมหาสมุทรแปซิฟิค ทหารหลายพันคนถูกเขาสังหารโดยที่เขาอยู่ในความบ้าคลั่ง

“เฮ้อ โชคดีที่ฉันมีแก ไม่อย่างนั้นฉันคงเสียตัวตนไปนานแล้ว” เป่ยเฟิงพึมพำในขณะที่มองไปยังต้นส่องประกายแห่งพระเจ้าในสวนยาสมุนไพรของเขา

มันถูกปลูกไว้ตรงกลางโดยรูปร่างของมันเหมือนรูปปั้นที่มีความสูงกว่า 1 เมตร เปลือกของมันเต็มไปด้วยรอยแตกและลำต้นก็บิดไปมาเหมือนมังกรขนาดเล็ก อุณหภูมิรอบ ๆ ต้นไม้สูงมากเนื่องจากแสงที่อยู่รอบ ๆ ถูกมันดูดกลืนจนหมด

ผลท้อขนาดเล็กเกือบเท่าไข่ไก่ห้อยอยู่บนก้าน เป่ยเฟิงคิดว่าอีก 1 ปีผลลูกนี้น่าจะสุกพอดี

สภาพของมันในตอนนี้ยังไม่สุกทำให้สรรพคุณของมันไม่ได้เป็นอย่างที่เป่ยเฟิงหวังเอาไว้ เพราะมันไม่ได้ถูกจัดให้ติดอันดับสมุนไพรของโลกแห่งสวรร์ลึกลับ

เห็นดังนั้นเป่ยเฟิงจึงตระหนักได้ทันทีว่าผลท้อที่ไม่สุกไม่ควรหยิบออกมา เขาควรปล่อยให้มันดูดซับพลังแสงต่อไปเรื่อย ๆ !

นอกจากนี้ พลังแสงที่ได้จากผลท้อเพียงลูกเดียวมันสามารถยับยั้งพลังงานชั่วร้ายของเขาได้นานถึงครึ่งปี !

และที่สำคัญที่สุดคือผลท้อสามารถปรับเปลี่ยนร่างกายของคน ๆ หนึ่งได้ หลังจากที่กินมันไปแล้วสิ่งสกปรกจำนวนมากจะถูกเผาในร่างกายให้สะอาดก่อนจะถูกขับออกมา

ไป๋เซียงเดินไปหาเป่ยเฟิงและกล่าวขึ้น “เจ้านาย คนของกรมผู้ฝึกตนของทหารส่งข่าวมาว่าให้ท่านไปที่เหมือนหลวง และไมใช่แค่เราแต่ผู้ที่มีพลังระดับสวรรค์ทุกคนต้องไปด้วยเช่นกัน”

ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ไป๋เซียงกินอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์อสูรระดับสูงเป็นประจำทุกวัน ทำให้ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่ระดับครึ่งก้าวสวรรค์ !

แม้ว่าจะมีพลังระดับครึ่งก้าวสวรรค์ แต่เพราะเขาฝึกฝนเส้นทางกลั่นร่างและกลั่นฉี ทำให้เขาสามารถทำลายคอขวดไปยังระดับสวรรค์ได้ตลอดเวลา

ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา แม้แต่ระดับสวรรค์ขั้นต้นก็ไม่ใช่คู่มือของไป๋เซียง

“อืม ฉันเข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ”

เป่ยเฟิงพยักหน้าพร้อมกับหรี่ดวงตาลง

“ครับ”

ไป๋เซียงเดินจากไป

‘ระดับพลังปัจจุบันของเจ้านายแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าฉันจะเอาชนะผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้นต้นได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้านายไม่รู้ทำไมถึงสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวจากเขาได้ตลอดเวลา’

ไป๋เซียงส่ายหน้าด้วยความตกใจ

“เธออยู่ที่นี่ด้วย ?” เป่ยเฟิงถามเบา ๆ โดยไม่แม้แต่จะหันไปมองรอบ ๆ

ลึกลับที่ 1 ปรากฏขึ้นในสวนและตอบกลับเบา ๆ “อืม ตอนนี้ฉันทำลายคอขวดไปยังระดับสวรรค์ได้แล้ว”

ลึกลับที่ 1 เต็มไปด้วยความงดงาม ความงามของเธอสามารถทำให้ประเทศล่มจมได้ง่าย ๆ เธอยังคงแต่งตัวด้วยชุดเดสสีแดงแม้ว่าจะผ่านมา 8 ปีแล้วก็ตาม

“ตั้งแต่ที่เธอมีพลังระดับสวรรค์ การควบคุมของหนังสือจิตวิญญาณก็ไร้ผลแล้ว ตอนนี้เธอเป็นอิสระแล้ว” เป่ยเฟิงกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ สำหรับลึกลับที่ 1 เขาไม่แน่ใจเหมือนกันเขารู้สึกอะไรกับเธอ สำหรับเขา เธอยังคงเป็นเด็กหญิงตัวน้อยในวัย 11-12 ขวบอยู่เลย

“มันผ่านมา 10 ปีแล้วสินะที่ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ตอนนี้ฉันไม่มีที่ไป ดังนั้นตราบใดที่คุณไปไหนฉันก็จะไปด้วย” ลึกลับที่ 1 กล่าวข้าง ๆ เป่ยเฟิงเงียบ ๆ โดยปล่อยให้สายลมพัดผ่านผมของเธอไป

หากผู้คนในโลกการต่อสู้เห็นการกระทำของลึกลับที่ 1 พวกเขาคงจะตกใจอ้าปากค้างจนขากรรไกรของพวกเขาล่วงลงกับพื้น !

ชื่อเสียงของลึกลับที่ 1 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้นโด่งดังมาก การทำภารกิจของเธอแต่ละครั้งนั้นโหดเหี้ยมกว่าเป่ยเฟิงมาก

ลึกลับที่ 1 เป็นที่รู้จักในฉายาภูติสีเลือด และบางคนก็ตั้งฉายาให้เธออีกฉายานั่นก็คือแม่มดสีเลือด

“แล้วแต่เธอ”

เป่ยเฟิงเข้าใจคำพูดของเธอได้ดี เขาเงียบไปชั่วขณะก่อนจะพยักหน้าแล้วไม่ได้พูดเรื่องนี้อีกต่อไป

ตั้งแต่เริ่ม เขาได้ช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ทำให้เขาสามารถเห็นพัฒนาการของเธอมาตลอด แต่ใครจะไปคิดกันว่าเด็กน้อยในวันนั้นจะกล้าหาญเหมือนวันนี้

“โฮ่ง เจ้านาย ผมหิวแล้ว !”

หมา 3 หัวขนาดเท่าหมาธรรมดาวิ่งเข้ามาในสวน หัวซ้ายสุดเปิดปากและจากนั้นเสียงภาษามนุษย์ก็ดังออกมา

หากใครได้มาเห็นพวกเขาคงกรีดร้องด้วยความตกใจจากนั้นก็วิ่งหนีและตะโกนขึ้นว่า “สวรรค์ หมาพูดได้ ! มันเป็นปีศาจ !”

เคอร์เบอรอสเดินเข้ามาพร้อมกับส่ายก้นไปมา หัวด้านซ้ายและขวามองเป่ยเฟิงด้วยความคาดหวัง

“เด็กน้อย ไปเล่นข้างนอกก่อนไป”

ลึกลับที่ 1 เคาะหัวไม่รู้จักพอด้วยความรำคาญ

พลังของเคอร์เบอรอสในตอนนี้มาถึงระดับครึ่งก้าวสวรรค์ มันได้เรียนรู้วิธีหดกระดูกและปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกาย และนอกจากนี้มันยังสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ด้วย

เมื่อไม่รู้จักพอและหลุมดำได้เรียนรู้ภาษามนุษย์ พวกมันก็จะคอยร้องเพลงออกมาด้วยเสียงน่ารักของพวกมันไม่หยุดหย่อน

ทุกครั้งที่มันได้ยินคำพูดของใคร มันก็จะตั้งใจฟังและพูดตามพวกเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันเบื่อมันก็จะแอบไปฟังคนอื่นพูด

[1] ตำราเกี่ยวกับทางเต๋า

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท