ไม่ไกลกันนัก บนภูเขาลูกเล็กที่ถูกทำให้หายไปในชั่วข้ามคืน มีคริสตัลจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังหลอมละลายอยู่ ด้านหนึ่งของมันเต็มไปด้วยประกายไฟที่ลุกโชนและอีกด้านเต็มไปด้วยน้ำแข็ง แม้ว่าแผ่นดินรอบ ๆ จะถูกทำลายไปแล้วแต่พวกมันก็ยังคงอยู่
กลุ่มคนจำนวนเล็ก ๆ ยืนล้อมหม้อขนาดใหญ่บนภูเขาใกล้ ๆ กัน เสียงกลืนน้ำลายดังขึ้นพร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมา ไม่มีกลิ่นหอมใด ๆ ที่ลอยออกมา แต่ทุกคนรู้สึกอยากอาหารอย่างมาก พวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
เป่ยเฟิงเพิ่มไฟจากนั้นก็เริ่มเคี่ยวซุป การเปลี่ยนแปลงของซุปในหม้อเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เขาเคี่ยวมัน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป น้ำซุปในหม้อก็เริ่มผสานรวมตัวกัน ซุปในตอนนี้มันมีสีเขียวฟ้าที่ดูเหมือนเยลลี่
เต่าปกติมีคอลลาเจนจำนวนมากอยู่ในร่าง และยิ่งไม่ต้องพูดถึงสัตว์อสูรประเภทเต่าที่มีเนื้อและเลือดจำนวนมาก วุ้นมันโยกย้ายไปมาตามการหมุนของเป่ยเฟิง
“ได้แล้ว มาเริ่มกินกันเถอะ” เป่ยเฟิงกล่าวอย่างมีความสุข
ไฟที่อยู่ด้านล่างหม้อดับลงในทันที จากนั้นเมื่อเปิดฝาออกก็เผยให้เห็นเยลลี่ด้านใน
เนื้อสัตว์ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเยลลี่สีเขียวจนมันดูราวกับอัญมณีชิ้นใหญ่
ไม่มีกลิ่นหอมใด ๆ ลอยออกมา แม้แต่หลิงฉีเองก็ไม่มีลอยเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย มันดูเหมือนเป็นอาหารปกติที่ไม่มีอะไรพิเศษ
เป่ยเฟิงยกหม้อแล้วนำไปวางไว้ในห้องอาหารในบ้าน หลังจากนั้นเขาก็ใช้มีดไม้ที่ทำจากหยกผสมไม้ตัดเยลลี่เป็นเค้กชิ้นเล็ก ๆ
ภายใต้แสงสว่าง การสะท้อนแสงของเยลลี่มันดูราวกับเป็นคริสตัลชั้นยอด แสงที่สองลงมามันทำให้เกิดการสะท้อนแสงสว่างไสวสีเขียวอมฟ้า เจลลี่สั่นเล็กน้อยในขณะที่มันถูกตัด
เป่ยเฟิงฝึกฝนการทำอาหารมาหลายปี ทักษะการทำอาหารของเขาในตอนนี้ดีขึ้นมาก แม้ว่ารสชาติที่ทำเสร็จแล้วจะไม่เทียบไม่ได้กับตอนก่อนทำก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาได้ลิ้มรสส่วนผสมชั้นเลิศหลายชนิดได้ มันถือว่ามีข้อดีเยอะกว่าข้อเสีย
อาหารจานนี้หากผู้มีพลังระดับเซียนเทียนกินเพียงคำเล็ก ๆ ร่างกายของเขาจะระเบิดเนื่องจากรับปริมาณพลังงานมหาศาลไม่ได้ !
สำหรับคนที่มารวมตัวกันในตอนนี้มี 3 คนและหนึ่งสัตว์ และทุกคนก็มีพลังระดับสวรรค์ทั้งหมด สำหรับพวกเขามันเป็นอาหารเสริมมากกว่ายาพิษ
ทุกคนยกช้อนขึ้นจากนั้นก็ค่อย ๆ ขุดวุ่นออกมา ซุปสีเขียวฟ้าห่อหุ้มเนื้อสัตว์อสูรอยู่ด้านในดูสวยงามมาก
เมื่อเอาเยลลี่เข้าปาก รสชาติที่สดชื่นก็สาดประกายไปทั่วปากทำให้ทุกคนรู้สึกได้ว่าจิตใจเย็นชา เยลลี่มีความยืดหยุ่นและนุ่มนิ่มมาก มันราวกับเยลลี่มีชีวิตเป็นของตัวเอง
หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยรสขมผสมหวานที่อยู่ในสมุนไพรที่ปะทุขึ้น มันทำให้เป่ยเฟิงหรี่ตาลงด้วยความยินดี
จากนั้นรสชาติทั้ง 2 ก็หลอมรวมกันในปากและส่งกลิ่นหอมที่กระตุ้นรสชาติออกมา
หลังจากนั้นก็เคี้ยวเพื่อดึงเอาเนื้อสัตว์อสูรออกมา เพียงการสัมผัสเบา ๆ ก็ทำให้เนื้อเกือบจะละลายไปในปากไหลลงคอ
พลังงานจำนวนมากถูกดูดซับเข้าไปในร่างของเป่ยเฟิง เมื่อเขากลืนมันลงไปจนถึงกระเพาะ ทันใดร่างของเขาก็เปล่งแสงออกมาจาง ๆ !
ตรงกันข้ามกับไป๋เซียงและคนที่เหลือที่กินราวกับผีที่หิวโหย อาหารที่เป่ยเฟิงทำในครั้งนี้มันมีพลังงานมากกว่าเดิมถึง 3 เท่าเนื่องจากมันเต็มไปด้วยเนื้อสัตว์อสูรและสมุนไพรจำนวนมากทำให้พวกเขาหิวกระหายอย่างมาก !
แม้ว่าอากาศรอบ ๆ จะเย็นมาก แต่ทั้ง 3 กลับมีทั้งเหงื่อและน้ำมูกไหลเต็มหน้า มีหยดสีเทาอ่อน ๆ ที่ไหลออกจากผิวหนังของพวกเขาจากนั้นพวกมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยหลินฉีก่อนจะทำให้สลายไป
‘เจ้าพวกนี้ …’
เป่ยเฟิงกินวุ้นไปไม่กี่ชิ้นแต่ความอยากอาหารของเขาได้หายไปแล้ว เส้นเลือดสีดำปรากฏบนหน้าผากของเขาเมื่อมองสภาพที่น่ารังเกียจของทั้ง 3 คนจนสุดท้ายเขาทำได้เพียงหันหน้าหนี ‘ดูเหมือนทั้ง 3 จะพยายามทำให้ฉันแปดเปื้อนไปด้วย …’
เขาส่ายหัวแล้วลุกขึ้นจากนั้นก็เดินไปอาบน้ำอุ่น จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดใหญ่แล้วหลับลึกลงไปในที่สุด
เช้าวันต่อมาเป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ ก็เดินทางมาถึงเมืองเฉินเนียงเจีย
เมื่อได้กลับมายืนตรงหน้าภูเขาหมีอีกครั้ง เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากครั้งก่อนเล็กน้อย เขารู้สึกได้ว่าขนบนร่างมันกำลังลุกและก็รู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
“ครั้งสุดท้ายที่ฉันมาที่นี่ตอนนั้นพลังของฉันยังแข็งแกร่งไม่พอ แต่เมื่อได้มามองดูมันอีกครั้ง ดูเหมือนภูเขาลูกนี้จะใหญ่กว่า 1,000 ลี้ได้ ภูเขาลูกเล็ก ๆ นี้มันดูเหมือนหมียักษ์ที่กำลังคำรามไปบนท้องฟ้าด้วยความไม่เต็มใจ !” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง ภูเขาเล็ก ๆ ตรงหน้ามันช่างสูงตระหง่าน พื้นที่ทั้งหมดมันดูราวกับเป็นค่ายกลธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาเอง !
กลุ่มของเป่ยเฟิงกระโดดลงไปในอุโมงค์ที่มืดมิด
ความเร็วของเป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ เร็วมาก ใช้เวลาไม่กี่นาทีพวกเขาก็ลงมาถึงพื้นได้อย่างมั่นคง
การเปลี่ยนความเร็วของพวกเขามันสมบูรณ์แบบมาก หากเป็นคนปกติพวกเขาจะต้องอ้วกเนื่องจากปรับสมดุลไม่ทัน หากโชคร้ายก็อาจจะตายได้
“สัตว์ตัวไหนกันที่ลงมาได้ถึงขนาดนี้ ? ดูเหมือนพวกมันน่าจะเป็นสัตว์อสูรที่ไม่ธรรมดา”
เป่ยเฟิงสังเกตเห็นรอยกรงเล็บจำนวนมากระหว่างทาง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ประหลาดใจนักเพราะเฉินเนียนเจียมีขนาดใหญ่มากและมันไม่มีทางที่มนุษย์ปกติจะเข้ามาได้ โลกภายในนี้มันอุดมไปด้วยหลิงฉีที่หนาแน่นกว่าที่อื่น ๆ ดังนั้นจึงมีเพียงสัตว์อสูรเท่านั้นที่จะปรากฏตัวที่นี่ได้
กลุ่มของเป่ยเฟิงโดยลึกเข้าไปในอุโมงค์ ความมืดไม่ได้ขัดขวางการเดินทางของพวกเขาแม้แต่น้อย
ข้างสระลาวา หมีดำและราชาเสือกำลังอยู่ในช่วงที่น่าตื่นเต้น พวกมันกำลังต่อสู้กับงูเหลือมลาวาอยู่
“โฮก โฮก !”
หมีดำขนาด 10 เมตรดูคล้ายกับคิงคองในหนัง ขนสีดำของมันวาวและสะท้อนแสงเล็กน้อย กล้ามเนื้อของมันหนาแน่นและแข็งแกร่งมาก ฟันคม ๆ ปรากฏออกมาจากปากทำให้มันดูโหดร้ายไม่น้อย !
หมีดำในตอนนี้กำลังสู้กับงูเหลือมลาวาระดับเซียนเทียน งูเหลือมตัวนี้กว้างกว่า 1.5 เมตรและยาวกว่า 30 เมตร ตามร่างของมันราบเรียบและไม่มีเกล็ดใด ๆ
ทั้ง 2 ต่อสู้กันดุเดือดมาก หินจำนวนมากถูกโยนไปมาเพราะการโจมตีของพวกมัน ฝุ่นละอองบินว่อนไปทุกทิศทาง งูเหลือมลาวาไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย มันดูแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นกลาง !
หมีดำเสียเปรียบหลายต่อหลายครั้งทำให้มันโกรธมาก แต่มันก็ทำอะไรกับงูเหลือมลาวามากไม่ได้ แต่อย่างน้อยมันก็สามารถสร้างรอยแผลที่ยาวหลานสิบเซนใต้ท้องของงูเหลือมลาวาได้ รอยแผลเผยให้เห็นเลือดที่คอยไหลออกมาอย่างสม่ำเสมอ
นี่เป็นแผลที่เกิดจากการที่หมีดำใช้พลังทั้งหมดถึงจะทำให้มันบาดเจ็บได้
แต่ก็แค่นั้น งูเหลือมลาวาขดรอบตัวหมีดำ จากนั้นมันก็บีบรัดหมีดำมากยิ่งขึ้น
“โฮก !”
เสียงบีบอัดดังออกมาจากร่างของหมีดำ จากนั้นมันก็คำรามด้วยความโกรธแล้วก็เงยหน้าอ้าปากงับบนร่างงูเหลือมลาวา
ฟันที่แหลมคมของมันได้เจาะลึกเข้าไปในเนื้อของงูเหลือมจนมันร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะค่อย ๆ คลายร่างของหมีดำออกมา แต่ก่อนที่หมีดำจะตอบสนองได้ทันมันก็เริ่มขดกลับมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าหมีดำกำลังจะตายเพราะการบีบรัดของงูเหลือมลาวา ราชาเสือก็หัวเราะด้วยเสียงที่ดูคล้ายมนุษย์ออกมา หลังจากนั้นมันก็กระโดดไปรอบ ๆ แล้วหายตัวไปอย่างไร้เสียงใด ๆ
หลังจากนั้นไม่นานก็มีแสงกระพริบข้าง ๆ งูเหลือมลาวาตามมาด้วยกรงเล็บที่แหลมคมจำนวนมากพุ่งแทงลงไปที่แผลขนาดใหญ่บนท้องของงูเหลือมลาวา