เสียงคำรามดังขึ้นจากนั้นเลือด เนื้อและแกนภายในก็หายไปในเปลวไฟแล้วเปลี่ยนเป็นพลังพิเศษที่ดูคล้ายกับวิญญาณของบอสงูเหลือม !
ร่างของเป่ยเฟิงสั่นจากนั้นเขาก็ถอยหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขารู้สึกได้ว่าความแข็งแกร่งของวิญญาณบอสงูเหลือมในตอนนี้มันแข็งแกร่งไปไกลเกินกว่าระดับว่างเปล่าไปแล้ว !
“สี่ – ผลาญจิตวิญญาณ !”
วิญญาณบอสงูเหลือมสั่นไปมาพร้อมกับกรีดร้องด้วยความสยดสยอง หลังจากนั้นเป่ยเฟิงก็รีบเรียกพลังจิตกลับมาแล้วถอยห่างออกไปให้ไกล
เปลวไฟสีดำระเบิดขึ้นที่ปลายหางของบอสงูเหลือม จากนั้นตัวล็อคสีทองดำที่ล็อคอยู่ตรงปลายหางของบอสงูเหลือมก็เปล่งแสงออกมาอย่างช้า ๆ ราวกับต้องการหยุดบางอย่าง
หลังจากนั้นบอสงูเหลือมก็คำรามด้วยความบ้าคลั่ง เปลวไฟสีดำก็เริ่มเปล่งแสงออกมามากขึ้น และในไม่ช้ามันก็เริ่มหลอมละลายโซ่ที่หางของบอสงูเหลือมลึกลงไปกว่า 1 นิ้ว !
“แก๊ง !”
โซ่ที่ขังหางของบอสงูเหลือมค่อย ๆ แตกออกจากนั้นหล่นลงไปบนพื้น
หลังจากผ่านมานานหลายปี ในที่สุดบอสงูเหลือมลาวาก็หนีออกมาจากโซ่ได้ ! อย่างไรก็ตาม มันต้องสูญเสียไปจำนวนมากเพื่อที่จะหนีออกมาได้ วิธีที่ง่ายที่สุดในการเอาโซ่นี้ออกก็คือการเผาผลาญจิตวิญญาณและความปรารถนาของมันไปจนกว่าโซ่จะแตกสลาย !
“โฮก !”
เมื่อโซ่หายไป บอสงูเหลือมก็คำรามด้วยเสียงทรงพลัง แต่ทว่ามันแลกมากับจิตวิญญาณกว่า 1 ใน 3 ของมันที่ถูกผลาญไปกับเปลวไฟสีดำ !
วิญญาณของบอสงูเหลือมสั่นอย่างหนักก่อนจะระเบิดขึ้น ในไม่ช้ามันก็มีควันสีเทาระเบิดออกมาจากนั่นมันก็เริ่มเปลี่ยนร่างอีกครั้ง
“กรงเล็บมังกรวารี !”
บอสงูเหลือมลาวาในปัจจุบันมีขนาดเพียงครึ่งเมตรเท่านั้น แรงกดดันของมันลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากมันได้เผาผลาญจิตวิญญาณของตัวเองไป และมันต้องใช้พลังไปกว่าครึ่งในการทำลายโซ่ แต่พลังที่เหลือของมันในตอนนี้ก็ยังมากกว่าตอนที่มันอยู่จุดสูงสุดมากกว่า 2-3 เท่า !
พลังสีเทาจำนวนมากระเบิดขึ้นด้วยพลังวิญญาณ จากนั้นมันก็พุ่งไปข้างหน้ากลายเป็นกรงเล็บมังกรพุ่งไปหาเป่ยเฟิง !
ในเวลาเดียวกันร่างของบอสงูเหลือมก็เลือนลางมากขึ้น แต่เพื่อที่จะฆ่าเป่ยเฟิงให้ได้ มันยอมใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีเพื่อที่จะฆ่าเขาให้ได้ !
ร่างกายของเป่ยเฟิงสั่นจากนั้นพลังของเขาก็ระเบิดขึ้นเป็น 2 เท่าอีกครั้ง ตอนนี้เขาเหลือเวลาอีกเพียง 2 นาทีก่อนที่กายาผสานหยวนจะสิ้นสุดลง !
กรงเล็บมังกรมีความยาวเพียงหนึ่งเมตร แต่การโจมตีที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณมันเป็นสิ่งที่ประมาทไม่ได้ !
ความเร็วของมันเร็วมากจนแม้แต่เป่ยเฟิงที่ใช้พลังจิตมองก็ยังไม่สามารถหลบได้ทัน !
นี่คือการโจมตีด้วยพลังวิญญาณ และการป้องกันทางกายภาพก็ไร้ผลกับมัน !
ใบหน้าของเป่ยเฟิงเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็ฟาดฝ่ามือออกไปด้านหน้าด้วยทะเลจิตสำนึกเข้าไปปะทะกับกรงเล็บ !
วิชาลับอย่างกายาผสานหยวน จริงอยู่ที่เพิ่มความแข็งแกร่งของเขา แต่ที่ว่าความแข็งแกร่งนั่นคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา ! พลังจิตวิญญาณเองก็รวมอยู่ในนั้นด้วย !
พลังจิตและพลังวิญญาณนั้นต่างกัน พลังวิญญาณนั้นเป็นแหล่งพลังหลักส่วนพลังจิตเป็นแหล่งพลังรอง พูดให้ถูกก็คือพลังจิตมีไว้เพื่อสนับสนุนพลังวิญญาณเมื่อต้องการจะโจมตีออกไป ดังนั้นพลังวิญญาณจึงเป็นแหล่งที่มาของพลังจิต !
ทั้งพลังจิตและพลังวิญญาณของเป่ยเฟิงเมื่อได้รับผลจากกายาผสานหยวนแล้ว มันทำให้พลังระดับจันทราของเขาสูงมากกว่าระดับสวรรค์เสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์หลายสิบคนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา !
การโจมตีทั้ง 2 ปะทะกันจนเกิดประกายไฟกลางอากาศ แม้ว่าการปะทะกันจะดูเรียบง่ายและไร้อันตราย แต่จริง ๆ แล้วมันอันตรายมาก !
หากพลังจิตเป็นอาวุธ พลังวิญญาณก็เปรียบเสมือนการควบคุมอาวุธ ดังนั้นไม่ว่าพลังจิตหรือพลังวิญญาณหากมีฝ่ายใดได้รับความเสียหาย ผลที่เกิดขึ้นมันจะไปตกอยู่ที่พลังวิญญาณทั้งหมด !
การระเบิดดังขึ้นในจิตสำนึกของเป่ยเฟิงจนทำให้เลือดไหลออกมาจากรูทวารทั้ง 7 ของเขา จิตวิญญาณของเขาราวกับถูกทิ่มแทงด้วยเข็มจำนวนนับไม่ถ้วน !
บอสงูเหลือมที่มีชีวิตอยู่ด้วยสภาพวิญญาณในตอนนี้มันเลวร้ายกว่าเป่ยเฟิงมาก เนื่องจากไม่มีการป้องกันจากกายเนื้อทำให้พลังวิญญาณของมันเสียหายโดยตรง วิญญาณของมันสั่นอย่างรุนแรงพร้อมกับหมอกสีเทาจำนวนมากที่ลอยออกไปอย่างต่อเนื่อง
“สับ !”
เป่ยเฟิงกัดลิ้นจากนั้นตั้งสติอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็สับฝ่ามือลงไปแล้วพลังวิญญาณรูปร่างดาบก็พุ่งออกจากร่างของเขาแล้วพุ่งไปหาร่างวิญญาณของบอสงูเหลือม !
ความเร็วของความคิดคืออะไร ? มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบาย ในทันทีที่ความคิดในการสร้างดาบปรากฏขึ้น มันก็ได้ไปปรากฏตรงหน้าวิญญาณบอสงูเหลือมทันที !
“อุก !”
โล่สีเทาเล็ก ๆ ปรากฏครอบคลุมหัวของบอสงูเหลือม เมื่อฝ่ามือดาบพุ่งเข้ามามันก็ได้สะท้อนกลับไปที่ทะเลจิตสำนึกของเป่ยเฟิง
ร่างกายของเป่ยเฟิงถอยหลังไปเรื่อย ๆ แต่ดวงตาของเขายังคงเปล่งประกายที่เต็มไปด้วยการรู้แจ้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะรุนแรงและอันตราย แต่มันก็ได้เผยให้เขาเห็นโลกใหม่ !
ในเวลาเดียวกันโล่พลังจิตที่อยู่เหนือหัวบอสงูเหลือมก็เริ่มปรากฏรอยร้าวก่อนจะแตกสลายหายไป เส้นจาง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏบนร่างวิญญาณบอสงูเหลือม จิตวิญญาณของมันเริ่มหดตัวลงและสั่นมากขึ้น แม้ว่ามันจะพยายามควบคุมแล้วแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
“ทำไมพลังวิญญาณของแกถึงแข็งแกร่งขนาดนี้กัน ?”
บอสงูเหลือมคำรามด้วยความไม่พอใจ มันต้องเสียพลังไปมากกว่าจะหนีออกไปจากโซ่ได้ แต่สุดท้ายมันก็ยังพลาดในตอนจบ
หลังจากได้พูดคำสุดท้ายจบลง วิญญาณของบอสงูเหลือมก็ค่อย ๆ ดับลง
เป่ยเฟิงถอยลงไปยืนบนพื้น ในเวลาเดียวกันวิชาลับกายาผสานหยวนก็หมดลงพอดี พลังจำนวนมากในร่างของเขาค่อย ๆ หายไปทั้งหมด จากนั้นหัวและตัวเขาก็ค่อย ๆ ทรุดลงกับพื้น
“อาการบาดเจ็บภายในของฉันดูเหมือนจะแย่แหะ ไหนจะโดนผลกระทบข้างเคียงของวิชาลับกายาผสานหยวนอีก”
เป่ยเฟิงอ่อนแอมากในตอนนี้ การสูญเสีบพลังงานจำนวนมากเป็นเวลาสั้น ๆ มันทำให้เขารู้สึดอีดอัดมาก โชคดีที่ความอดทนของพลังจิตของเขาแข็งแกร่งพอ หลังจากนั้นวินาทีต่อมาหินวิญญาณระดับสูง 2 ก้อนก็ปรากฏในมือเขา
เขาหมุนเวียนเลือดและฉีจากนั้นหลิงฉีที่บริสุทธิ์ก็ไหลออกมาจากหินวิญญาณเข้าไปในร่างเพื่อเยี่ยวยาแผลในร่างของเขา
“ซู่ ซู่ !”
เสียงคลานบางอย่างดังขึ้น เป่ยเฟิงรีบระวังตัวทันที เขาอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอที่สุดต่อให้เป็นคนที่มีพลังระดับเซียนเทียนก็ฆ่าเขาได้ในตอนนี้
เมื่อเขาหันไปมองรอบ ๆ เขาก็เห็นว่ามีรากจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากทะเลสาบลาวาก่อนจะแทงเข้าไปในหมอกวิญญาณสีเทาที่เป็นของหลงเหลือจากบอสงูเหลือม ใช้เวลาไม่นานหมอกก็หายไปจนหมด
เป่ยเฟิงยืนห่าง ๆ และมองมันด้วยความกังวล จากที่เขาเห็นมันสามารถดูดกลืนลาวาและยังดูดกลืนวิญญาณของบอสงูเหลือมไปได้ ดูเหมือนมันจะไม่ใช่พืชที่ดี
ช่วยไม่ได้ที่เป่ยเฟิงจะระมัดระวังเกินไป เพราะหากตอนจบเถาวัลโผล่ออกมาตอนที่เขากับบอสงูเหลือมกำลังสู้กันอยู่ในช่วงสุดท้าย นั่นจะเป็นจุดจบที่น่าเศร้าที่สุด
โชคดีที่รากเถาวัลมันไม่ทำแบบนั้น ด้านล่างของบ่อลาวามีลาวาสีน้ำนมที่หนากว่า 10 เมตรอยู่ ความร้อนจากลาวามันสูงหลายพันองศาได้ !
แต่จากการมองด้านบน เป่ยเฟิงมองเห็นรากจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังทอดยาวคลานเข้าไปในลาวาสีขาว มันดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนใด ๆ และมันดูเหมือนกำลังสบายราวกับอาบน้ำพุร้อนอยู่ เถาวัลดูเหมือนกำลังดูดกลืนลาวาอย่างมีความสุข
รอบ ๆ บ่อลาวาเต็มไปด้วยเหล็กสีดำ เหล็กเหล่านี้ดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยเมื่อถูกล้อมรอบไปด้วยลาวาร้อนหลายพันองศา ดูเหมือนจุดหลอมเหลวของมันจะสูงมาก !
เป่ยเฟิงส่งพลังจิตออกไปรอบ ๆ เพื่อระวังตัว จากนั้นเขาก็นั่งลงเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขา
หินวิญญาณระดับสูงแต่ละก้อนถูกดูดซึมไปในไม่กี่นาทีก่อนจะแตกสลายกลายเป็นฝุ่นผง หลิงฉีจำนวนมหาศาลค่อย ๆ ไหลเข้ามาในร่างของเขาเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
เวลาไหลไปอย่างช้า ๆ และอาการบาดเจ็บกว่า 90 % ของเขาก็ถูกฟื้นฟูเรียบร้อย ส่วนที่เหลือ 10 % มันขึ้นอยู่กับเวลา
“ดูเหมือนพลังของฉันจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ผลข้างเคียงของวิชาลับกายาผสานหยวนนี้มันยังไม่ได้หมดไป มันเลยทำให้พลังของฉันในตอนนี้มีครึ่งเดียวเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นต่อให้มีผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้นกลางมาปรากฏตรงหน้า ก็ยังไม่มีอะไรที่ฉันต้องกลัว !”
เป่ยเฟิงลุกขึ้นยืนและคายหมอกสีดำ-เลือดออกมา ผิวของเขาเองก็ซีดไปมาก
ถึงแม้ว่าอาการบาดเจ็บของร่างกายจะฟื้นฟูได้ง่าย แต่มันต่างกันกับพลังจิตของเขา
พลังจิตของเขาในหัวมันราวกับเม็ดทราย มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดราวกับมีใครเอาเข็มมาทิ่มเพื่อกระตุ้นสมองของเขา
“ดูเหมือนฉันจะต้องพักฟื้นอย่างน้อยครึ่งเดือน พลังจิตของฉันถึงจะฟื้นตัวกลับมาได้สมบูรณ์”
เป่ยเฟิงพึมพำ นี้ยังถือว่าเป็นโชคดีท่ามกลางความโชคร้าย การฟื้นฟูพลังจิตมันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา ตราบใดที่เขามีเวลาเขาก็สามารถฟื้นฟูมันได้และยังไม่รวมไปถึงอาหารบำรุงและยาพิเศษของเขาที่ช่วยเร่งฟื้นฟูได้
แต่พลังวิญญาณนั้นต่างกัน มันเป็นหัวใจหลักของมนุษย์และที่สำคัญมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของแก่นแท้ของเลือดในร่าง เมื่อใดก็ตามที่จิตวิญญาณได้รับความเสียหายมันจะทำให้พลังจิตเกิดอาการสับสน แต่หากมันได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนพลังวิญญาณแตกกระจายออกไป มันจะทำให้คน ๆ นั้นกลายเป็นคนพิการที่ไม่มีทางฝึกฝนใด ๆ ได้อีกต่อไป
แม้ว่าจะมีสมบัติวิเศษที่สามารถรักษาหรือหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณขึ้นมาใหม่ได้ แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะครอบครองมัน มันเป็นเรื่องยากที่คนธรรมดาหรือแม้กระทั่งผู้ฝึกตนในโลกแห่งการต่อสู้จะได้เห็นมัน เพราะสมบัติส่วนใหญ่ที่ล้ำค่าจะถูกเก็บไว้โดยตระกูลและนิกายทรงอำนาจ
เป่ยเฟิงเงยหน้าและมองไปที่เถาวัล ตอนนี้อุณหภูมิรอบ ๆ กลับสู่สภาวะปกติแล้ว ความร้อนทั้งหมดดูเหมือนจะถูกดูดเข้าไปโดยเถาวัล
เถาวัลขยับไปมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับเส้นสายจำนวนมากที่ไหลเข้าไปบนผลไม้ สีของผลไม้เปล่งแสงสว่างออกมามากกว่าเดิม กลิ่นหอมหวาน ๆ ลอยออกไปรอบ ๆ ทำให้เซลล์ในร่างรู้สึกหิวกระหายอย่างมาก
ด้านนอกลึกลับที่ 1 และคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ ความวุ่นวายในถ้ำได้หยุดลงมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเงียบสงบ
“ไม่ได้การ ฉันจะลงไปดูเอง”
ความห่วงใยปรากฏในดวงตาที่แสนเย็นชาของลึกลับที่ 1 หลังจากนั้นเธอก็กระโดดเข้าไปในถ้ำ
ไป๋เซียงและเคอร์เบอรอสเดินตามเธอไปโดยไม่ลังเล ในไม่ช้าก็เหลือสหายอีก 2 ตัวที่รออยู่ด้านนอก
ในไม่ช้าบ่อลาวาขนาดใหญ่สีแดงก็ปรากฏตรงหน้า ทุกอย่างมันเงียบสงบราวกับแรงสั่นสะเทือนเมื่อกี้มันเป็นเพียงภาพลวงตา
แท่นหินสีดำได้หายไปแล้ว มันหลงเหลือแต่เพียงตอเตี้ย ๆ ที่เป็นหลักฐานได้ดีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น
“นี้มันเป็นสิ่งที่ทำได้ด้วยพลังของมนุษย์จริง ๆ ใช่ไหม ?”
ลึกลับที่ 1 และที่เหลือตกใจมาก ยิ่งเดินเข้ามาพวกเขาก็ยิ่งประหลาดใจ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหลุมจำนวนมากราวกับเกิดระเบิดจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นที่นี่ ถ้ำหลายจุดทรุดตัวลงมาและมีบางจุดที่เต็มไปด้วยรอยแตกร้าวขนาดใหญ่
ในฐานะที่เป็นคนที่มีพลังแนวหน้าของโลก มันทำให้พวกเขาเข้าใจได้มากขึ้นว่าต้องมีต้องมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหนถึงจะทำได้ขนาดนี้ !
“นายท่าน ! เป็นอะไรไหม ?”
ลึกลับที่ 1 เห็นเป่ยเฟิงยืนอยู่กลางอากาศ ความสุขก็ปรากฏในดวงตาของเธอ
“ไม่มีปัญหา”
เป่ยเฟิงส่ายหัวในขณะมองเถาวัลที่อยู่ห่างออกไปไกล มีประกายพลังดวงดาวสีแดงลอยอยู่ด้านหลังเขา
ชั้นแสงปรากฏรอบ ๆ ผลไม้สีแดง มันดูราวกับมันคือภาพลวงตาและดูเหมือนมันกำลังรวบรวมพลังงานธาตุไฟจำนวนมากเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผลไม้ในตอนนี้มีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นและพลังงานที่อยู่ในนั้นก็น่ากลัวมาก !
ในขณะที่เขาเฝ้ามองมัน ในไม่ช้ารากที่ราวกับคริสตัลก็เริ่มหมองคล้ำก่อนจะแห้งเหี่ยวลง ตรงกันข้ามกับพลังงานในผลไม้ที่เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ !
ในไม่ช้าชั้นแสงสีแดงก็ปรากฏรอบ ๆ ผลไม้ราวกับมันเป็นวงแหวนดาวเคราะห์ !
วงแหวน 9 ชั้นปรากฏรอบ ๆ ผลไม้ และจากนั้นรากเถาวัลจำนวนนับไม่ถ้วนรวมไปถึงตัวเถาวัลเองก็แห้งเหี่ยวสลายลงเหลือแต่เพียงผลไม้ที่ลอยอยู่กลางอากาศ !
วงแหวนรอบ ๆ มันมีสีสันสดใสและสะดุดตามาก เมื่อเวลาผ่านไปวงแหวนก็ค่อย ๆ หายเข้าไปในผลไม้จนกลายเป็นลวดลายรูปวงแหวน
ในที่สุดวงแหวนทั้งหมดก็ค่อย ๆ หายไปอย่างสมบูรณ์หลงเหลือแต่เพียงผลไม้สีเทาที่วางอยู่บนพื้น