Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 460

ตอนที่ 460

“จ๋อม !”

ร่างกายของคน ๆ นั้นไม่ขยับแม้แต่น้อย หลังของเขาเต็มไปด้วยรูที่เกิดจากกระสุนเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีชีวิตอีกต่อไป

“ฉันคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะหนีไปไหนแล้วหรอกนะ ?”

เสียงแหบแห้งดังขึ้น คนเหล่านี้ก็เป็นเพียงโจรกระจอกเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องใหญ่หากจะมีตายไปบ้าง

“ฮู่จี !” จุนซีตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แต่เมื่อเขาเห็นปืนหลายกระบอกหันมาทางเขา เขาทำได้เพียงมองเงียบ ๆ เท่านั้น

“ช่างมัน จุนซี อย่าไปสนใจ”

ใบหน้าของมู่เต๋าที่เคยเต็มไปด้วยความหวาดกลัวหายไปแล้ว มันทำให้ทุกคนสงสัยมากกว่าพวกเขาแกล้งทำหรือเปล่า

กลุ่มของศาสตราจารย์มองด้วยความสับสน คน ๆ นี้ใช่คนเดียวกับคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อครู่จริงหรือเปล่า ?

“ฮึ่ม ! ไม่แสดงละครต่อแล้วหรือยังไง ?”

หลิวซีเจียเค้นเสียงเย็นชาพร้อมกับมองมู่เต๋า

“ไปกันเถอะ ถ้าเรามุ่งหน้าไปต่อฉันรู้สึกได้ว่ามีการค้นพบที่ยิ่งใหญ่กำลังรอเราอยู่ !”

ดวงตาของศาสตราจารย์เต็มไปด้วยความตื่นเต้นราวกับไม่สามารถหาโอกาสแบบนี้ได้อีกแล้ว พืชเพียงไม่กี่ชนิดที่ขึ้นตามแม่น้ำมันก็เพียงพอจะทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต้องใช้เวลาศึกษาหลายปี !

“ตาแก่ถัง อย่าตื่นเต้นมากไป ระวังความดันเลือดจะขึ้น !”

ชายชราอีกคนส่ายหัวด้วยความขุ่นเคือง

ทั้งกลุ่มเข้าไปลึกกว่าเดิม ในไม่ช้าทุกคนก็รู้สึกได้ว่าเสียงเต้นของหัวใจมันดังขึ้นอยู่ข้างหน้าพวกเขานี้เอง !

มู่เต๋ายิ้มอย่างเย็นชาบนใบหน้า ‘ไปสิ เข้าไปเลยแล้วพวกแกจะได้เสียใจทีหลัง’ จุนซีเองก็แอบอยู่ด้านหลังพร้อมกับมองคนรอบ ๆ ด้วยใบหน้าเยาะเย้ย

มู่เต๋าไม่ได้หวาดกลัวอีกต่อไป เมื่อเขาเห็นว่าคู่หูของตัวเองถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อหน้าเขาก็รู้ได้ทันทีว่าไม่มีโอกาสหนีรอดไปได้

ชายที่อยู่ข้าง ๆ หลิวซีเจียชี้และตะโกนขึ้น “เร็ว ดูนั่น !”

“นั่นคืออุโมงค์ที่มนุษย์สร้างขึ้นแน่นอน ! ไม่ผิดแน่ สุสานที่แท้จริงต้องอยู่ที่นั่น !”

ศาสตราจารย์มองไปที่ผนัง ผนังในตอนนี้ถูกแสงไฟจากเรือสาดส่องทำให้เห็นร่องรอยจำนวนมากที่ถูกทิ้งเอาไว้

ทั้งกลุ่มหันเรือและจอดที่ฝั่ง

หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้มายืนบนแผ่นดินอีกครั้ง มู่เต๋าและจุนซีถูกจัดให้อยู่ด้านหน้าสุดของกลุ่ม หลังจากที่มีข้อมูลหลายอย่างจากคนของตัวเองมันทำให้พวกเขาคิดว่ามันอาจจะมีกับดักอยู่ตรงหน้าได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหาคนคอยทดสอบมัน

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะก็คือมู่เต๋าและจุนซี พวกเขาเป็นโจรปล้นสุสานแนวหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงคุ้นเคยกับกับดักทุกชนิด หน้าที่การนำทางจึงเป็นของพวกเขา

“ที่นี่ไม่มีกับดัก มีแค่ทางตรงไปเท่านั้น”

มู่เต๋าและจุนซีเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะหยุดและตรวจสอบรอบ ๆ แม้แต่น้อย

“เดี๋ยวก่อน กลับมานี้ พวกเราจะไปด้วย !”

หลิวซีเจียไม่กล้าผ่อนคลายในสถานที่ไม่รู้จักเช่นนี้ สุสานต่าง ๆ มันเหมือนสนามเด็กเล่นของโจรปล้นสุสานทั้ง 2 ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้มากไปกว่าพวกเขาแล้ว

“เป็นอะไร ? อยู่ดี ๆ ก็อยากจะมาด้วย กลัวหรือยังไง ?”

จุนซีมองไปที่หลิวซีเจียด้วยสายตารังเกียจ

“ฮึ่ม ! ใครจะไปรู้ บางทีพวกแกอาจจะเล่นทริคบางอย่างไว้ก็ได้ ?”

หลังจากนั้นหลิวซีเจียก็ส่งสัญญาณให้ทหารติดอาวุธด้านหลัง หากทั้ง 2 คนเล่นอะไรตุกติก พวกเขาจะถูกยิงทันที !

มู่เต๋าและจุนซีหัวเราะเบา ๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็ก้าวเดินต่อไปโดยมีคนด้านหลังตามมา ซึ้งคนด้านหลังพวกเขาก็ก้าวอย่างที่มู่เต๋าและจุนซีก้าวโดยไม่ผิดเพี้ยน

มู่เต๋าเดินไปข้างหน้าบางครั้งก็ก้มตัว บางครั้งก็กระโดด แน่นอนว่ากลุ่มคนด้านหลังทำตามเขาทันที

‘โชคดีที่ฉันฉลาดพอ ไม่ใช่ว่าไอ้บัดซบมันบอกไม่มีกับดักหรือไง ? ถ้าฉันเชื่อมันป่านนี้ฉันน่าจะตายไปแล้ว !’

หลิวจีเจียรู้สึกหนาวไปทั้งหลัง หากเขาไม่ระมัดระวังตัวให้ดีและเดินไปข้างหน้าเหมือนคนโง่ ๆ เขาจะต้องตกลงไปในกับดักแน่นอน

ศาสตราจารย์ทั้ง 2 หอบด้วยความเหนื่อยล้า วัยของพวกเขาการเคลื่อนไหวขนาดนี้มันกินแรงอย่างมาก !

“เอ๊ะ ? หยุด !”

มู่เต๋าหยุดเดินและยกมือขึ้นให้ทุกคนหยุดตาม ในไม่ช้าทุกคนก็หันไปรอบ ๆ ด้วยความกังวล

“อะไร ? เกิดอะไรขึ้น ?” คนที่อยู่ด้านหลังถามด้วยความกังวล ทหารที่ส่งมาคุ้มกันศาสตราจารย์ก็ยิ่งสับสนมากขึ้น ความเก่งกาจในเรื่องการต่อสู้ของพวกเขาไร้ค่าเมื่อต้องเจอกับกับดัก แต่อย่างน้อยเคยมีคำกล่าวไว้ว่าทุกอาชีพมีความเชี่ยวชาญของตัวเองเสมอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรนอกจากเชื่อใจคนที่เชี่ยวชาญเรื่องกับดักเหล่านี้

“อ่า ไม่มีอะไร … มันมีก้อนหินหล่นเข้าไปในรองเท้าฉัน มันเลยรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย”

มู่เต๋ายิ้มบาง ๆ จากนั้นก็ก้าวเดินต่อไป

ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นสีดำทันที หากจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากพวกมัน พวกเขาคงโยนพวกมันเข้าไปในคุกและให้ใช้ชีวิตที่เหล่าในนั้นไปนานแล้ว !

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสุข แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงเดินตามไปอย่างใกล้ชิด เสียงดังกังวาลแปลก ๆ หยุดตั้งแต่พวกเขาก้าวขึ้นฝั่ง หลังจากเดินต่อไปไม่กี่นาที ทุกคนก็หยุดลงและเงยหน้ามองด้วยความตกใจ

ตรงหน้าพวกเขาเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่กว้างกว่าหมื่นจาง มีสายโซ่ห้อยอยู่ในอากาศเหนือหัวพวกเขาจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน โซ่เหล่านี้มีความกว้างเมตรกว่า ๆ

โซ่เรืองแสงออกมาจาง ๆ ในความมืด แม้ว่าจะมองไม่ค่อยชัดแต่ก็ทำให้พวกเขาเห็นโซ่ในระยะ 100 เมตรที่อยู่รอบ ๆ ได้ชัดเจน

กลุ่มนี้คือกลุ่มของคนธรรมดา และมู่เต๋าเองก็เป็นผู้ฝึกตนระดับแสง เขาไม่เหมือนเป่ยเฟิงที่สามารถมองเห็นทั้งถ้ำได้อย่างรวดเร็ว

หากพวกเขาได้เห็นกระดูกแห้งจำนวนนับไม่ถ้วนตรงหน้า บางทีพวกเขาอาจจะวิ่งหนีไปด้วยความกลัวตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ !

พวกเขาจะเอาความกล้าที่ไหนเดินเข้ามาในที่แห่งนี้หากมองเห็นทั้งหมด ? ตรงหน้าพวกเขามันมีเพียงแสงสะท้อนจากโซ่รอบ ๆ เท่านั้น

“มันทำมาจากอะไรกัน ? แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแต่มันก็ยังคงส่องแสงออกมาราวกับเพิ่งถูกสร้างมาหมาด ๆ นอกจากนี้มันยังไม่มีแม้แต่สนิม !”

กลุ่มทหารตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขาหยิบมีดออกมาและเคาะไปที่โซ่เต็มแรง แต่โซ่มันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยซักนิด !

ในฐานะที่เป็นทหาร พวกเขาเข้าใจถึงธรรมชาติของเหล็กได้ดี หากพวกเขาสามารถค้นพบสูตรการผสมเหล็กชนิดนี้ มันจะทำให้เทคนิคโลยีทั้งหมดของประเทศกระโดดไปข้างหน้ากว่า 20 เมตร !

“นั่นแกทำอะไร ? อย่าไปจับมัน นี้คือสิ่งประดิษฐ์โบราณ มันต้องถูกเก็บรักษาเอาไว้ !” ศาสตราจารย์ถังและศาสตราจารย์เยี่ยตะโกนขึ้น หลังจากเห็นว่าโซ่ไม่เป็นอะไรพวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“แก กลับไปแล้วบอกหัวหน้าว่าพวกเราเจอสิ่งที่น่าอัศจรรย์และบอกให้เขาส่งคนอื่น ๆ มาหาเรา !”

พวกทหารไม่สนใจศาสตราจารย์แม้แต่น้อย การเก็บรักษาวัตถุโบราณมันไม่ได้มีค่าเท่าคุณค่าของเหล็กที่ถูกค้นพบและกล่าวอ้างว่าเป็นการค้นพบของกองทัพ !

“ปัง ปัง !”

นายทหารคนหนึ่งหยิบปืนขึ้นมาก่อนจะยิงไปที่โซ่ !

“ดิ๊ง !”

เสียงสะท้อนดังขึ้นพร้อมกับแสงสว่างกระพริบออกมาจากนั้นลูกกระสุนก็หล่นลงบนพื้น

เมื่อมองไปยังจุดที่กระสุนยิงไป โซ่ยังคงเรียบเนียนเหมือนใหม่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น !

ในเวลาเดียวกันศาสตราจารย์ทั้ง 2 ก็เงียบสนิท พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโซ่มันแข็งแค่ไหน แม้ว่างานวิจัยของพวกเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหล็ก แต่พวกเขารู้ดีถึงความสำคัญของเหล็กที่แม้แต่กระสุนยังไม่สามารถทำอะไรได้ !

หากเหล็กชนิดนี้ถูกสร้างเป็นกระสุนปืน เกราะกันกระสุนหรือเกราะใด ๆ ก็ตามจะกลายเป็นเพียงเรื่องตลก ! กระสุนนัดเดียวก็เพียงพอที่จะเจาะเกราะที่แข็งที่สุด !

นอกจากนี้เหล็กยังส่งผลอย่างมากกับพวกเครื่องบินรบและรถหุ้มเกราะต่าง ๆ

หลังจากนั้นทหารคนนั้นก็หันหลังและรีบวิ่งไปที่เรือโดยทันที ส่วนคนอื่น ๆ ก็ไม่น้อยหน้า พวกเขาเดินสำรวจโซ่ที่อยู่รอบ ๆ ทันที !

ทุกคนเต็มไปด้วยความคาดหวัง พวกเขาเพิ่งค้นพบสมบัติชั้นยอดโดยที่ยังไปไม่ถึงใจกลางสุสาน จะเกิดอะไรขึ้นหากไปถึงใจกลางสุสาน ไม่ใช่ว่ามันจะมีสมบัติอื่น ๆ รอพวกเขาอยู่งั้นหรอ ?

มีเพียงมู่เต๋าและจุนซีที่เดินไปข้างหน้าพร้อมกับสายตากรอกไปมา กลุ่มคนเหล่านี้คิดว่าง่ายขนาดนี้ ? ในขณะที่พวกเขาเดินไปข้างหน้าจึงไม่มีใครสังเกตการแสดงออกของพวกเขา

โดยปกติมู่เต๋าจะระมัดระวังอย่างมากเมื่อเข้าไปในสุสาน แต่คราวนี้เพราะถูกบังคับ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเมินเฉยอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น

เพราะเขารู้ดีว่าตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในที่แห่งนี้ เขาสูญเสียโอกาสที่จะออกไปอีกตลอดกาล เทียนมันไม่เคยทำนายผิดเลยซักครั้ง !

มันสายไปแล้ว หากพวกเขาเลือกที่จะหนีไปตั้งแต่แรกคงทัน แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้ว

จริง ๆ แล้วตั้งแต่ที่เทียนถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว มู่เต๋าก็ไม่สามารถนึกได้ว่าอันตรายของสถานที่แห่งนี้เป็นแบบไหนกัน !

ทั้งสถานที่ไม่มีกับดักได้ ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเข้าหรือทางออก เมื่อทหารคนเมื่อครู่ก็วิ่งมาทางเดียวกันและวิ่งออกไปในทางเดียวกันโดยปราศจากกับดัก ดังนั้นสิ่งเดียวที่รออยู่คงมีแต่สิ่งนั้น !

ต้องมีบางอย่างที่น่ากลัวอยู่ในสุสาน ! ไม่สิ มันต้องมีมัมมี่หรือตัวอะไรแปลก ๆ อยู่ในโลงศพ !

ในขณะที่พวกเขาเดินต่อไป พวกเขารู้สึกได้ถึงลมที่พัดเข้ามา ทันใดนั้นกลิ่นเลือดก็รุมล้อมพวกเขาจนทำให้ทุกคนรู้สึกคลื่นไส้จนอยากอ้วก !

แม้แต่ทหารก็ไม่เว้น พวกเขาไม่คิดเลยว่าสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยกลิ่นเลือดขนาดนี้ !

ไม่ใช่ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างมาหลายพันปีงั้นหรอ ? แล้วกลิ่นเลือดมันมาจากไหนกัน ?

“ว๊ากก ! จุนซี !”

มู่เต๋าตะโกนเสียงดัง ทหารที่อยู่ด้านหลังก็กระโดดแล้ววิ่งมาด้านหน้าทันที

“นี้มันอะไรกัน ?”

ทหารเหล่านี้เคยผ่านศึกมามากมายนอกจากนี้ยังเคยโดนแม้แต่กระสุนเฉียดแก้มและขีปนาวุธทะยานผ่านหัวมาแล้ว พวกเขาเลยมีความกลัวที่น้อยมาก แต่ฉากตรงหน้ามันทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก !

“เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมทุกคนมองมาที่ฉัน ?” จุนซีพูดด้วยความรำคาญ

มู่เต๋าพูดอย่างตะกุตะกะ “จะ-จุนซี … นายไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นหรอ ?”

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะตายไปแต่ก็ไม่สงสัยแม้แต่น้อย ฉากตรงหน้ามันน่ากลัวยิ่งกว่าความตาย ! แม้กระทั่งชายหนุ่มคนหนึ่งก็ยังไม่รู้ว่าตายแล้ว !

“อ้วกก !”

ทหารไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาเริ่มอ้วกออกมา

“จุนซี ดูมือของนาย !”

มู่เต๋าหันหน้าหนีและไม่สามารถมองดูเพื่อนสนิทได้อีกต่อไป

“แกรก แกร๊ก !”

จุนซียกมือขึ้นมามอง ทันใดนั้นเขาก็เห็นฝ่ามือที่ปราศจากเนื้อหนัง กระดูกสีขาวของเขาส่ายเบา ๆ และพิสูจน์ให้เห็นว่ามันคือกระดูกของเขาเอง !

มองลงไป เนื้อทั้งหมดบนร่างกายก็หายไปด้วย นอกจากนี้เขายังเห็นอวัยวะต่าง ๆ ที่กำลังสั่นไหวไปมา จุนซีเปิดปากเหมือนจะพูดอะไรแต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ !

จากด้านข้าง ทุกคนมองเห็นร่างของจุนซีที่กลายเป็นโครงกระดูกสีขาวหลงเหลือแต่เพียงส่วนหัวและอวัยวะภายในที่ไม่เป็นอันตราย นอกนั้นมันเป็นกระดูกสีขาวทั้งหมด !

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท