Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 463

ตอนที่ 463

มังกรลอยอยู่กลางอากาศโดยมีกระแสเลือดจำนวนมากลอยเข้ามาในร่างของมันจากทะเลสาบเลือดด้านล่าง แม้ว่าร่างกายของมันจะไม่ได้ดูใหญ่โต แต่มันก็ยังแผ่แรงกดดันที่สามารถสยบได้ทุกสิ่ง

มันไม่ใช่แค่เลือดเท่านั้น มันยังมีแก่นแท้ที่ตกตะกอนจำนวนมากที่อยู่ในทะเลสาบนอกจากนี้ยังมีอารมณ์ด้านลบของคนที่ตายไปแล้วที่เป็นพลังงานด้านลบอีกด้วย

“กร๊าซ !”

มังกรคำรามในขณะดูดซับพลังงานจากดวงดาว ในเวลาเดียวกันมันก็ดูดกลืนเลือดจากทะเลสาบไปด้วย !

“อย่าบอกนะว่ามันเป็นมังกรสวรรค์จริง ๆ ?” มู่เต๋าพึมพำกับตัวเอง มังกรตรงหน้ามันดูน่าเกลียดและอันตรายมาก มันควรจะเรียกว่ามังกรปีศาจถึงจะถูก

ถึงแม้บ่อเลือดจะดูเล็ก แต่มันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานชั้นยอดที่สามารถทำให้มังกรที่น่าเกลียดตัวนี้วิวัฒนาการได้ เลือดจำนวนมากไหลเข้าไปผ่านผิวหนังของมันจากนั้นมันก็ค่อย ๆ กลายเป็นมนุษย์ ตามมาด้วยชุดคลุมสีดำที่ค่อย ๆ ปรากฏออกมาจากด้านหลัง จากนั้นผมยาวสีแดงเข้มก็กระพือไปตามแรงลมด้านหลังของมันหลงเหลือแต่เพียงหัวของมันที่ยังเป็นมังกร

“โฮก !”

มังกรยกหัวและคำรามอีกครั้ง คลื่นเสียงระเบิดไปทุกทิศทาง !

“แค๊ง แค๊ง !”

โซ่จำนวนนับไม่ถ้วนสั่นไปมาจนเกิดเสียงดัง

“ฟู่ว !”

เทพเจ้าแห่งดวงดาวทันใดนั้นก็หายตัวไปก่อนจะไปปรากฏบนท้องฟ้าสูงหลายสิบกิโลเมตร จากนั้นมันก็ขยายร่างอีกครั้งและคราวนี้ก็ตัวใหญ่กว่าพันจาง

“ซู้มมม !”

เทพเจ้าแห่งดวงดาวหันหน้าไปทางดาวใต้ จากนั้นก็อ้าปากและดูดพลังเข้ามาทั้งหมด

หลังจากนั้นไม่นานดาวใต้ก็ใกล้เข้ามายังโลกเรื่อย ๆ หากมองมันดี ๆ จะเห็นได้ว่ามันใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ จนมันดูเหมือนดวงดาวที่กำลังตกลงมายังโลกใบนี้ !

“นั่นมันตัวอะไรกัน ?”

“เพ้ย มันใหญ่มาก มันเป็นครึ่งปีศาจหรือเปล่า ? หรือมันเป็นสุดยอดสัตว์อสูรที่กำลังวิวัฒนาการ ?”

คนจำนวนนับไม่ถ้วนมองไปบนท้องฟ้าและเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานสีม่วงและสีแดงจนมันดูคล้ายสัตว์สวรรค์ที่ลอยอยู่บนอากาศ !

“ไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไร มันต้องตาย !”

“ส่งเครื่องบินรบออกไป ! ไม่ว่ายังไงพวกมันไม่สมควรมีตัวตนอยู่จริง !”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงเริ่มตื่นตระหนัก เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชีวิตตัวนั้นมันไม่เหมือนที่มนุษย์เคยเห็นมาก่อน เคยมีคนจีนโบราณบอกเอาไว้ว่า หากมันไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกับเรา มันจะต้องมีเจตนาชั่วร้ายแน่นอน !

แน่นอนว่าคำพูดดังกล่าวมันอาจจะล้าสมัยและไร้สาระ แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักตัวนี้ มันจะดีกว่าหากป้องกันไว้ดีกว่าสายเกินไป ดังนั้นมันจะต้องตาย !

ชายชราอีกคนนั่งอยู่หัวโต๊ะเปิดปากและพูดขึ้น “ไม่ รอเดี๋ยวก่อน”

ทันใดนั้นทุกคนก็สงบลงและหันไปมองเขาด้วยความเคารพ

“เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของเรา ส่งคนไปบอกภูเขาคุนหลุนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะว่ายังไงซะทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่ใช่คนที่พวกเราจะไว้ใจได้ ปล่อยให้พวกมันสู้กันไปจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายไป !” ชายชราที่เงียบเมื่อครู่กล่าวขึ้น

ทุกคนมองเขาและรู้ได้ถึงความหมายของเขาทันที การโจมตีสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักอาจทำให้เกิดภัยพิบัติตามหลังมาทำให้ตัวเองสูญเสียอย่างหนัก งั้นทำไมพวกเขาไม่ปล่อยให้ภูเขาคุนหลุนส่งคนของตัวเองไปสู้กับมันแทนล่ะ !

ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ให้ทหารคอยป้องกันพื้นที่รอบ ๆ เพื่อป้องกันสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้ หากแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญของคุนหลุนยังเอาชนะไม่ได้ อย่างน้อยพวกเขาก็ล่อให้มันไปที่ห่างไกลจากนั้นก็ยิงระเบิดนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้

ทุกคนอนุมัติแผนการนี้ทันที จากนั้นก็นั่งมองสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ด้วยความหงุดหงิด

ดาวใต้เองก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มันราวกับมันกำลังร่วงลงมาด้วยความเร็วที่มากขึ้น ในไม่ช้าขนาดของมันก็เริ่มใหญ่ขึ้น จาก 1,000 จางตอนก็ใหญ่กว่า 10,000 จาง !

เมื่อเห็นดาวขนาดใหญ่กำลังร่วงลงมา ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตา แต่มันก็ยังทำให้พวกเขาหวาดกลัวอยู่ดี มันเป็นตัวอะไรกันทำไมมันถึงสั่งให้เกิดภาพลวงตาที่เป็นดวงดาวขนาดใหญ่กำลังพุ่งลงมาได้ !

เมื่อภาพลวงตามาถึงตรงหน้าสิ่งมีชีวิตตัวนั้น ขนาดของมันในตอนนี้ก็ใหญ่กว่า 100,000 จาง !

แสงสีม่วงปกคลุมไปทั่วพื้นดิน เนื่องจากภาพลวงตานี้มันปรากฏบนท้องฟ้าที่สูงมากทำให้มีไม่กี่เมืองที่มองเห็นดวงดาวสีม่วงที่สว่างไสวเหนือหัวพวกเขา

“กร๊าซ !”

สิ่งมีชีวิตดังกล่าวคำรามขึ้นก่อนจะเริ่มดูดซับพลังงานดวงดาวที่เข้มข้นเหมือนปลาวาฬกำลังดูดกลืนพลังมหาศาลเข้าไปในร่าง

ในเวลาไม่นานภาพลวงตาของดวงดาวก็หายไป หลงเหลือแต่เพียงเทพเจ้าแห่งดวงดาวที่เป็นมังกรที่อยู่บนท้องฟ้า นอกจากนี้มันยังปลดปล่อยแรงกดดันที่แข็งแกร่งออกมาจนแม้แต่สวรรค์ยังไม่สามารถต้านทานได้

จากนั้นหัวของมันก็เริ่มวิวัฒนาการจนดูเหมือนมนุษย์และเผยให้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคมที่คมคายและดุร้าย มันให้ความรู้สึกราวกับไม่มีใครกล้าท้าทายเขา

นี่คือขั้นที่ 3 ของการเปลี่ยนร่างของเทพเจ้าแห่งดวงดาว มันคือขั้นสมบูรณ์แบบ ! ยิ่งกว่านั้นเหตุการณ์แปลก ๆ นี้มันยังไม่จบ เทพเจ้าแห่งดวงดาวตนอื่น ๆ เองก็เริ่มปรากฏอย่างต่อเนื่อง !

ในไม่ช้าเทพเจ้าแห่งดวงดาวถึง 28 ตนก็ปรากฏตัว และจากนั้นพวกมันก็ยืนล้อมเทพเจ้าแห่งดวงดาวดาวใต้ไว้ตรงกลาง และจากนั้นก็เริ่มสร้างค่ายกลลึกลับขึ้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มองดูอยู่รู้สึกหงุดหงิดมาก สิ่งมีชีวิตแค่ตัวเดียวก็ทำให้เขาปวดหัวแล้ว แต่นี้มันโผล่ออกมาอีกมากกว่า 20 ตัว นี้มันจะมากไปแล้ว !

หลังจากนั้นแสงสว่างก็ค่อย ๆ เปล่งแสงออกมาจากทั้ง 28 ตัว ตามมาด้วยชั้นวงแหวนเรืองแสงที่ค่อย ๆ กระจายออกมารอบ ๆ จนกลายเป็นคลื่น !

คลื่นแสงมันดูสวยงามมาก แต่ทุกอย่างที่ถูกสัมผัสมันจะถูกทำลายลงทันที พลังทำลายของมันน่ากลัวมาก !

พืชและสัตว์ขนาดใหญ่ตายในทันทีจนเหลือแต่เพียงกระดูกสีเทาที่แห้งกรังเท่านั้น และจากนั้นเมื่อลมพัดผ่านมันก็หลงเหลือแต่เพียงเศษฝุ่นผง

ในเวลาเดียวกันที่ภูเขาใกล้ ๆ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้ตายลงไปพร้อมกับตัวภูเขาเองที่ค่อย ๆ ทรุดตัวลง นอกจากนี้หินที่อยู่บนภูเขาเองก็ค่อย ๆ สลายกลายเป็นฝุ่นผง !

“แกร๊ก !”

“โครม !”

รอยแยกที่น่ากลัวปรากฏบนพื้น มันยาวกว่า 50 กิโลเมตรและจากนั้นก็ทำให้ภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วนทรุดตัวลงมากลายเป็นกองฝุ่นลอยไปในอากาศ !

แม้ว่าจะมองจากระยะไกลแต่ก็สามารถมองเห็นฝุ่นจำนวนมากที่ลอยอยู่ในอากาศราวกับเห็ดขนาดใหญ่ที่ไม่มีอะไรเทียบได้ !

“บัดซบ ! เรารอต่อไปไม่ได้แล้ว ! ไอ้พวกสิ่งมีชีวิตบัดซบพวกนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องฆ่ามันให้ได้ !”

“พื้นที่ที่มันทำลายลงไปมันกินไปกว่า 50 กิโลเมตร ไม่รู้ว่ามีกี่ชีวิตที่อยู่แถวนั้น !”

เจ้าหน้าที่ระเบิดความโกรธออกมา และอีกครั้งที่พวกเขาเสนอให้ใช้อาวุธขนาดใหญ่ !

พื้นที่กว่า 50 กิโลเมตรถูกทำลายลงไป มันถือได้ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมควรถูกทำลายลงไป !

“เราทำไม่ได้ ! ไม่รู้หรือยังไงว่าผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์มันร้ายแรงแค่ไหน สงบสติแล้วปล่อยให้พวกผู้ฝึกตนงี่เง่าเหล่านั้นไปสู้กับพวกปีศาจแทน !”

หลายคนเถียงกันไปมา ใช้เวลาไม่นานห้องประชุมขนาดใหญ่ก็กลายเป็นตลาดสดที่ด่ากันวุ่นวาย

หากเป็นแค่ซากศพปีศาจหยิน มันไม่มีทางสร้างความเสียหายที่กินพื้นที่กว่า 50 กิโลเมตรได้ … ไม่สิ ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับหลุดพ้นก็ไม่น่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ !

หากสิ่งมีชีวิตตัวนี้ไม่ได้เกิดบนภูเขาแต่เป็นในเมือง อันตรายอาจจะเป็นยิ่งกว่านี้ !

คลื่นกระแทกเมื่อครู่แท้จริงแล้วมันคือการสะสมพลังงานมาหลายหมื่นปี พลังทำลายของมันจึงน่ากลัวมาก !

แม้ว่าเทพเจ้าแห่งดวงดาวจะมี 28 ตนและมีร่างของเทพเจ้าแห่งดวงดาวดาวใต้ที่เป็นร่างขั้นที่ 3 แต่เทพเจ้าตนอื่น ๆ มีพลังระดับสูงสุดเพียงขั้นที่ 1 ตัวตนเหล่านี้ยังไม่มีแม้แต่ร่างที่เป็นหัว และนี้จึงเป็นเหตุผลที่หัวของพวกเขาเบลอและเห็นเป็นหมอก

มันต้องใช้เวลาหลายพันปีกว่าเทพเจ้าแห่งดวงดาวจะพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดของขั้นที่ 1 ได้ อย่าลืมว่าการฝึกเคล็ดการหายใจด้วยแสงดาวไม่ใช่เรื่องง่าย ! หากไม่ใช่เพราะร่างที่ฝึกคือซากศพปีศาจหยิน มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เทพเจ้าดวงดาวตนอื่น ๆ จะยินยอมสละพลังที่รวบรวมมาหลายพันปีให้เทพเจ้าแห่งดาวใต้พัฒนาไปยังขั้นที่ 3 ได้ !

ถึงแม้ 27 ใน 28 ตนจะเป็นเทพเจ้าแห่งดวงดาวระดับที่ 1 ขั้นสูงสุด แต่พวกเขาก็ไม่ใช่เทพเจ้าแห่งดวงดาวขั้นที่ 1 ระดับสูงสุดธรรมดา ๆ !

นอกจากนี้ นี้ยังเป็นเพียงการเปิดตัวของเทพเจ้าแห่งดวงดาวทั้ง 28 ตน และการเปิดตัวของเทพเจ้าแห่งดวงดาวเหล่านี้ก็คือการปลุกศพในโลงศพขึ้นมา !

เมฆฝุ่นค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ จากนั้นเทพเจ้าแห่งดวงดาวก็ค่อย ๆ หายตัวไปพร้อมกับวินาทีต่อมาปรากฏตรงหน้าโลงศพทองแดง จากนั้นก็จมลงหายเข้าไปในนั้น

ภายในโลงศพทองแดงมีชายหน้าตาหล่อเหลานอนอยู่ เขาสูงกว่าคนปกติเล็กน้อย นัยน์ตาของเขาหลับสนิทและร่างของเขาเป็นชุดมังกรดำที่สง่างาม รอบข้างของเขาเป็นสมบัติที่หายากยิ่ง ข้าง ๆ เขาคือดาบสีแดงเลือดที่ยาวกว่า 5 ฉื่อ สีของมันราวกับเพิ่งอาบเลือดมาเมื่อไม่นานมานี้

จุดรูรับแสงบนร่างของเขาค่อย ๆ เปล่งแสงออกมา และเมื่อเทพเจ้าแห่งดวงดาวได้กลับเข้ามาในร่างของเขา จากร่างที่มีสีขาวซีดก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพู

ตลอดหลายร้อยและหลายพันปี ชายคนนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

เทพเจ้าแห่งดวงดาวขั้นที่ 3 ปรากฏในมิติสีดำที่ว่างเปล่า จากนั้น 2 ตาของมันก็สำรวจรอบ ๆ

“กร๊าซ !”

เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นไปทั่วถ้ำ เสียงมันเพียงพอที่จะทำให้สวรรค์สั่นสะเทือน !

“แกร๊ก !’

พื้นที่รอบ ๆ เริ่มปรากฏรอยร้าวสีดำและสีขาว

จากนั้นก็มีร่างมนุษย์ที่เหมือนชายในโลงศพก้าวออกมาจากรอยร้าว !

ร่างสูงกว่า 9 ชุน เทพเจ้าแห่งดวงดาวมองเขาก่อนจะหายตัวไปกลายเป็นจุดแสงเล็ก ๆ แล้วพุ่งออกมาด้านนอกแล้วพุ่งกลับไปที่ระหว่างคิ้วของศพที่อยู่ในโลง !

แสงสีม่วงค่อย ๆ ปรากฏที่ระหว่างคิ้วของศพ แสงสีม่วงค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นหลายหมื่นเท่า จากนั้นก็ระเบิดแสงดวงดาวออกมา !

มุมปากของชายหนุ่มค่อย ๆ โค้งขึ้นราวกับรอยยิ้ม !

เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ เมฆฝุ่นในอากาศค่อย ๆ หายไปตามสายลม

แสงแดดขนาดใหญ่พุ่งลงมายังโลงศพและเผยให้เห็นร่างของคนที่อยู่ในโลงศพค่อย ๆ ขยับอย่างช้า ๆ

“แกร๊ก แกร๊ก !”

ฟันของมู่เต๋ากระทบกันไปมาพร้อมกับความหวาดกลัว หลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ

ตลอดอาชีพของเขาที่เป็นโจรปล้นสุสาน เขาเห็นสิ่งที่คนทั่วไม่มีทางเห็นมามากมาย แต่นี้เป็นฉากที่เขากลัวที่สุด !

ร่างกายของเขาสั่นเหมือนใบไม้ที่พร้อมจะร่วงลงมาจากต้น ดวงตาของเขาว่างเปล่าราวกับโดนความหวาดกลัวครอบงำ ในโลงศพ ชายร่างสูงที่อายุ 25-26 ปีค่อย ๆ ลุกขึ้นมาก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ

แสงสว่างที่อยู่รอบ ๆ ร่างของมู่เต๋าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับเขายืนอยู่ตรงหน้าไทเรนนอโซรัส เร๊ก แม้ว่ามดจะมีความสามารถในการยกของหนักกว่าตัวเองหลายเท่า แต่มันไม่มีความหมายหากเป้าหมายที่มันต้องการเป็นสิ่งที่เหนือกว่ามัน !

[1] TL/N : 28 ที่พักแห่งสรวงสวรรค์ ! มันคือระบบดวงดาวของชาวจีน มันคล้ายคลึงกับดาราศาสตร์ของชาวตะวันตกโดย 28 ที่พักแห่งสรวงสวรรค์คือการสะท้อนการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์เดือนต่อเดือนและจากนั้นก็เป็นการนับของดวงอาทิตย์

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท