แสงสีทองจาง ๆ กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตามันก็ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด จากนั้นก็เกิดเสียงกระหึ่มในอากาศ
เป่ยเฟิงไม่ได้ต่อต้านใด ๆ เขาปล่อยให้แสงสีทองห่อหุ้มร่างของเขา เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
เลือดสีทองเป็นหนึ่งในสมบัติที่สำคัญที่สุดของวาติกัน จากตำนานมันมาจากปีกทั้ง 10 ของเซเรฟ
เมื่อแสงสีทองพุ่งผ่านทุกคน พวกเขารู้สึกได้ว่าจิตใจและร่างกายผ่อนคลายราวกับได้กลับไปอยู่ในครรภ์มารดาของพวกเขา
หวังวูหยูขมวดคิ้วพร้อมกับความรู้สึกอึดอัดมาก แม้ว่าเขาจะได้มาเกิดใหม่ แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังหยินฉีแห่งความตาย ดังนั้นแสงสีทองที่เป็นพลังงานศักดิ์สิทธิ์มันทำให้เขาหายใจไม่ออก
หมอกสีเทาค่อย ๆ ปรากฏทั่วร่างของเขา จากนั้นก็ดันแสงสีทองให้ออกห่างจากร่างของเขา
ไม่ใช่ว่าเขากลัว แต่เพราะเขาไม่อยากแสดงตัวตนออกมา
เมื่อแสงสีทองค่อย ๆ ซึมเข้าไปในร่างของทุกคน พวกเขารู้สึกได้ว่าแรงกดดันจากเกาะได้หายไปอย่างช้า ๆ [แผ่นดิน = เกาะ]
เมื่อเกาะได้ปรากฏตัว มันได้ทำให้ระดับเซียนเทียนกว่า 1 ใน 3 ต้องตายลงและมีบางส่วนที่บาดเจ็บสาหัส
แต่หลังจากได้รับแสงสีทอง บางคนที่ยังไม่ตายนั้นค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ
“ข้าเปิดอุโมงค์ค่ายกลนี้ได้เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทุกท่านรีบเข้าไปเร็ว !” หลิงวู่ตะโกนทันที หลังจากนั้นคนที่อยู่ด้านหลังเขาก็พุ่งขึ้นไป !
ปรมาจารย์ค่ายกลได้ตายไปตั้งแต่การระเบิดพลังงานครั้งแรกแล้ว กลุ่มเซียนเทียนที่เหลือไม่มากนักค่อย ๆ ถอยหลังกลับไปที่ด่านฮันกู่ !
กลุ่มของเป่ยเฟิงให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม การแปรปรวนของมิติมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะจัดการได้ง่าย
“อ๊ากก !”
“เป็นไปไม่ได้ ! ท่านปู่จะไม่ยอมตายที่นี่เด็ดขาดด !”
ทันใดนั้นการแปรปรวนของมิติก็เกิดขึ้นและทำลายการป้องกันของระดับสวรรค์ถึง 3 คนได้อย่างง่ายดาย !
แสงสีทองสว่างไสวแต่มันก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของมิติได้ ในไม่ช้ามันก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ
ทุกคนรีบระมัดระวังตัวยิ่งกว่าเดิม ก่อนหน้านี้พวกเขาประมาทเกินไป เพราะพวกเขามัวแต่มองขึ้นไปบนฟ้าจนลืมอันตรายที่อยู่รอบตัว
ความตายของทั้ง 3 ได้เตือนให้ทุกคนรู้ตัว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีพลังจิตแข็งแกร่งที่แผ่กระจายหาอันตรายรอบตัวได้หลายร้อยเมตรเหมือนเป่ยเฟิง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะแผ่กระจายออกไปรอบตัว
แต่สถานที่ที่การแปรปรวนของมิติเกิดขึ้น มันเป็นการปรากฏตัวแบบสุ่ม ระลอกคลื่นที่โกรธเกลี้ยวทันใดนั้นก็ปรากฏตรงหน้าชายชราคนหนึ่งจากประเทศไทย
ความเร็วของทุกคนเร็วมาก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดของพวกเขา แต่พวกเขาก็พุ่งด้วยความเร็ว 80 % ของความเร็วสูงสุดของพวกเขา
การแปรปรวนของมิติมันปรากฏตัวเร็วเกินไป วิถีการฝึกฝนของนักรบชาวไทยนั้นขึ้นชื่อเรื่องไร้ความปราณีและยากกว่าผู้ฝึกตนของประเทศจีน
ตอนที่พวกเขาอายุยังน้อย พวกเขาจะต้องต่อสู้กับข้อต่อในร่างกาย แขนของพวกเขาจะแข็งแรงมากเนื่องจากถูกฝึกฝนโดยการทำลายกระดูกซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันจึงทำให้พวกเขาฟื้นตัวได้เร็วและแข็งแกร่งได้มากขึ้น
เกือบทุกส่วนของนักรบชาวไทยสามารถใช้เป็นอาวุธสังหารได้ แขนของพวกเขาเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกายและมันแข็งยิ่งกว่าเหล็ก !
นักรบชาวไทยตื่นตัวตลอดเวลา เมื่อเขาเห็นการแปรปรวนของมิติปรากฏตรงหน้ามันยังอยู่ในขั้นตอนที่เป็นคลื่นในอากาศ มันจึงบอกไม่ได้ว่ามันจะเป็นรูปแบบใดในอีกไม่กี่วินาที
มันอาจเป็นรูปแบบคดเคี้ยวหรือแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้
“อุก !”
นักรบชาวไทยยกมือขึ้นป้องกันหัวในขณะที่พุ่งไปข้างหน้า การแปรปรวนของมิติได้ปรากฏตรงหน้าเขาแต่มันกลับเป็นเส้นด้ายบาง ๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันทำอะไร แขนที่เขาภูมิใจมากก็ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ !
เป่ยเฟิงหรี่ตามองและสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ในขณะมองฉากตรงหน้า แม้ว่าจะเป็นเขาเองก็ตาม เขาก็ไม่กล้ารับประกันได้ว่าเขาจะหลบหนีการแปรปรวนของมิติที่น่ากลัวแบบนั้นได้ !
กลุ่มของเป่ยเฟิงบินตามหลังหวังวูหยูเกือบจะประชิดตัว ด้วยพลังระดับหลุดพ้นของเขามันต้องเป็นโล่กำบังที่ดีที่สุดแน่นอน !
รอยแตกของมิติแปรปรวนจำนวนมากปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัวพวกเขา แต่เพียงหวังวูหยูโบกมือเบา ๆ รอยแตกเหล่านั้นก็หายไปในทันที
ทันใดนั้นแรงกดดันก็กระจายออกมาจากหลุมมิติ จากนั้นอากาศมหาศาลก็พุ่งออกมาทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุก
“สวรรค์ ! นั่นมันอะไรกัน ?” ผู้ฝึกตนที่อยู่ด้านหน้ากล่าวด้วยความตกใจ พวกเขามองสมุนไพรจิตวิญญาณและผลไม้ที่เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าออกมาจากบนเกาะ นอกจากนี้ยังมีเสียงคำรามที่ทรงพลังดังออกมาด้วย
ทุกคนรีบพุ่งเข้าไปในหลุมมิติและจากนั้นก็ก้าวลงสู่พื้นเกาะ !
“หลิงฉีของที่นี่หนาแน่นมาก ! ข้ารู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้น !”
“โอกาส ! นี้มันโอกาสที่สวรรค์ส่งมาให้ ! นอกจากนี้สมุนไพรเหล่านี้มันน่าจะเพียงพอที่จะทำให้พวกเราทำลายคอขวดได้ !”
“ข้าไม่อยากจะคิดเลยว่าสุสานจักรพรรดิทรงพลังมากแค่ไหนกัน !”
ทุกคนอ้าปากค้างในขณะมองฉากตรงหน้า หัวใจและความคิดของพวกเขาแตกกระเจิง แม้กระทั้งกลุ่มวาติกันที่มีความลึกลับก็ถึงกับเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ
ทุกคนที่อยู่ตรงนี้มีพลังระดับสวรรค์ และปัจจุบันก็มีคนไม่ต่ำกว่า 2,000 คน นอกเหนือจาก 10 คนที่ตายไประหว่างทางแล้ว คนอื่น ๆ ยังอยู่ในสภาพที่พอจะต่อสู้ได้แม้ว่าจะมีบางคนบาดเจ็บหนักก็ตาม
“พื้นดินนี้เหมือนได้รับการอวยพรให้เหมาะกับเพิ่มพลังให้กับตาแก่ผู้นี้ ตาแก่อย่างข้าติดอยู่ที่ระดับสวรรค์ขั้นต้นมานานกว่าร้อยปี ถึงรากฐานของข้าจะมีพลังพอที่จะทะลวงระดับแต่เพราะไม่รู้ว่ามีอันตรายอะไรรออยู่มันเลยทำให้ข้าไม่กล้าผ่านมันไปได้ แต่ด้วยพื้นดินที่ได้รับการอวยพรแห่งนี้มันน่าจะช่วยทำให้ข้ามีโอกาสได้มากขึ้น” ชายชรายิ้มกว้าง ๆ หลิงฉีของที่นี่หนาแน่นมาก มันเพียงพอสำหรับทุกคน
แสงสีท่องเปล่งประกายในสายตาเป่ยเฟิง เขาไม่ได้ขยับใด ๆ แต่เขารู้สึกเย็น ๆ ไปทั่วร่าง หลังจากที่ได้มาที่นี่เขารู้สึกได้ว่าเลือดทั้งร่างของเขาราวกับถูกปลุกกระตุ้น
หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา คนอื่น ๆ สิบกว่าคนก็เดินตามเขาไปและนั่งลงเพื่อหาตำแหน่ง จากนั้นก็เริ่มทะลวงระดับ
ในเวลาเพียง 10 นาที พลังชีวิตมหาศาลก็พุ่งออกมาจากร่างของพวกเขา รากฐานของพวกเขาดีพอสมควรและหลิงฉีของที่นี่ก็หนาแน่นมาก ดังนั้นในระยะเวลาสั้น ๆ มันจึงทำให้พวกเขาทะลวงระดับไปได้
แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้เพิ่มพลังไปมากกว่านี้ ทันใดนั้นเมฆสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏเหนือหัวทุกคน แรงกดดันมหาศาลกระจายออกมาจากเมฆ !
เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ ไม่ลังเลที่จะรีบถอยหลัง ทุกคนรีบวิ่งหนีราวกับหมาที่ถูกตีก้น
สายฟ้าขนาดใหญ่หลายเส้นที่มีความหนาเท่าถังน้ำพุ่งลงมาจากท้องฟ้า หลังจากนั้นมันก็รวมตัวกันแล้วกลายเป็นมังกรสายฟ้าขนาดใหญ่แล้วพุ่งลงมาด้วยพลังมหาศาล !
5 คนที่เพิ่งทะลวงระดับหนีไม่ทัน พวกเขามองสายฟ้าด้วยความหวาดกลัว
คนอื่น ๆ ที่มัวแต่ลังเลก็หนีไม่ทัน พวกเขาถูกห้อมล้อมด้วยสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัว หลังจากนั้นพื้นที่กว้างกว่า 100 จางก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นฝุ่งผง !
พื้นดินไม่มีความเสียหายหรือมีรอยแตกใด ๆ แต่พื้นที่ทั้งหมดถูกลบหายไปโดยสมบูรณ์ ภายในโดมสายฟ้านั้นมองไม่เห็นใด ๆ และมันไม่มีแม้แต่เสียงร้องไห้ใด ๆ เลยด้วยซ้ำ
“ดูเหมือนว่าการทะลวงระดับจะทำที่นี่ไม่ได้ยกเว้นเสียแต่พวกเราจะจากโลกใบนี้ไปแล้ว ” บางคนพึมพำด้วยความตกใจ ทุกคนรู้สึกปวดใจเมื่อต้องมองหลุมสีแดงขนาดใหญ่ตรงหน้า