Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 477

ตอนที่ 477

ไป๋เซียงและคนอื่น ๆ เมื่อประเมินพลังเสร็จก็รีบเดินตามเป่ยเฟิงเข้าไปในเมือง

เมื่อได้มายืนใกล้ประตูเมือง จากตอนแรกที่เห็นพวกหุ่นจากระยะไกลมันดูไม่อันตรายแม้แต่น้อย แต่เมื่อได้มายืนใกล้ ๆ ทุกคนกลับรู้สึกได้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวพวกมัน !

หุ่นทุกตัวสวมชุดเกราะสีดำ และพวกมันส่วนใหญ่มีพลังระดับสวรรค์ขั้นสูงสุด นอกจากนี้ยังมีระดับว่างเปล่าและหัวหน้าของพวกมันมีพลังระดับหลุดพ้น !

หากใครอยากจะบุกเข้าไปในเมืองพวกเขาคงทำได้เพียงรวมพลังทั้งผู้ฝึกตนทั้งหมดและสัตว์อสูรเข้าด้วยกันแล้วรวมพลังบุกไปในประตูทิศเดียวกัน นอกจากนี้พวกเขายังเสียหายอย่างหนักอีกด้วย !

ในขณะเดียวกันใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกหุ่นเชิดทั้งหลายถูกทำลายไปจนหมด ?

เป่ยเฟิงขมวดคิ้วในขณะมองพวกหุ่นเชิดที่จำนวนน้อยลง !

“ตอนแรกพวกมันมีจำนวน 101 ตัว แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียง 78 ตัว และตัวหัวหน้าของมันก็หายไป ดูเหมือนจำนวนที่หายไปจะเท่ากับคนที่เข้าไปในเมืองนั่นคือ 23 ตัว !”

เป่ยเฟิงบอกสิ่งที่เขาค้นพบกับไป๋เซียงและคนอื่น ๆ จากนั้นก็เพิ่มความระวังตัวสูงสุดเมื่อเดินมาถึงประตู

“ป๋อม !”

เสียงดังเบา ๆ เมื่อเป่ยเฟิงเดินผ่านม่านบาง ๆ ของประตูเมือง เมื่อเขาหันไปมองรอบ ๆ ก็เห็นว่าไป๋เซียงและคนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว

เป่ยเฟิงขมวดคิ้วแน่นและรู้สึกราวกับว่าร่างกายหนักขึ้น ในขณะเดียวกันพลังที่ใช้ป้องกันจิ้งจอกน้อยนอกจากจะไม่ได้ลดลงแล้ว มันกลับเพิ่มมากขึ้น !

“แตะ แตะ !”

เป่ยเฟิงก้าวเท้าลงกับพื้นพร้อมกับมองไปรอบ ๆ ตอนนี้เขาอยู่ในห้องเหล็กที่มีแท่นหินอยู่ตรงกลาง 2 แท่น มีบาเรียสีทอง ๆ ครอบคลุมและข้างในก็มีขวดหยกอยู่ ในขวดหยกเหมือนจะมีของเหลวสีเขียวอยู่ข้างใน

“อย่างที่คิด นี้คือค่ายกลเคลื่อนย้ายแบบมิติสินะ ?”

เป่ยเฟิงสำรวจรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวัง เขาไม่คิดที่จะทดสอบความหนาของกำแพง เนื่องจากถูกส่งตัวมาในห้องนี้แปลว่าต้องมีบางอย่างแน่ ๆ หากเขาประมาทนั้นจะไม่เป็นการนำพาไปสู่ความตายงั้นรึ ?

ห้องนี้ดูเหมือนจะมีการระบายอากาศอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปีแต่มันกลับไม่มีฝุ่นละอองเลย นอกจากนี้มันยังมีไข่มุกสีขาวที่ส่องประกายระยิบระยับอยู่บนเพดาน

“ชั้วะ !”

เสียงฟันเบา ๆ ดังขึ้น จากนั้นเป่ยเฟิงก็หันไปมองด้านหลังและเขาก็เห็นลำแสงสีเงินก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น จากนั้นหุ่นที่สวมเกราะสีดำก็ค่อย ๆ ก้าวออกมาพร้อมกับถือดาบทองแดงไว้ในมือ

“แกร๊ก แกร๊ก !”

“ฟิ้ว !”

พลังของหุ่นเชิดระเบิดขึ้น มันมีพลังอยู่ที่ระดับว่างเปล่าและในพริบตาดวงตาของมันก็เปล่งประกายสีเขียว จากนั้นแรงกดดันของมันก็ค่อย ๆ ลดลงมาถึงระดับสวรรค์ขั้นกลางระดับสูงสุด !

จากนั้นแรงกดดันที่อยู่บนเกราะและดาบก็ค่อย ๆ ลดลงอย่างช้า ๆ ตอนนี้มันไม่ได้คมและทนทานเหมือนเมื่อครู่แล้ว

เกราะหนักส่งเสียงดังขึ้นทุกครั้งที่หุ่นเชิดขยับ

“นี่คือการทดสอบสินะ ? สหายตรงหน้าดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าฉันอยู่ระดับหนึ่ง”

เป่ยเฟิงมองด้วยความสนใจ

“ชิ้ง !”

ทันใดนั้นหุ่นเชิดก็โจมตีเข้ามา มันเหวี่ยงดาบพุ่งไปหาเป่ยเฟิง !

“แก๊ง !”

เป่ยเฟิงสะบัดนิ้วออกไปจากนั้นดาบที่ดูแข็งแรงทนทานก็ถูกหักล้างสลายพลัง

หุ่นเชิดไม่ได้แสดงท่าทางใด ๆ มันใช้ความแข็งแกร่งของร่างมันโก่งตัวหมุนร่างจากนั้นก็ใช้ดาบเฉือนไปที่คอของเป่ยเฟิง !

การเคลื่อนไหวของมันเร็วมาก ต่อให้ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ขั้นกลางระดับสูงสุดมายืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่สามารถหลบมันได้ !

แต่น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิงมันใช้มาตรฐานของผู้เชี่ยวชาญทั่วไปไม่ได้ !

ดาบเล่มนี้มันช้าเกินไป มันช้าจนเป่ยเฟิงมองเห็นขอบดาบที่พุ่งทะลุผ่านอากาศและมีอนุภาครอบ ๆ ไหลไปตามใบดาบ !

เป่ยเฟิงถอยหลัง 1 ก้าว แม้ว่ามันจะไม่เท่าระยะห่างของสวรรค์และโลก แต่มันก็ทำให้ใบมีดเฉือนผ่านคอของเขาไปไม่กี่มิลลิเมตร

ตัวดาบไม่มีฉีใด ๆ เล็ดลอดออกมา มันราวกับพลังทั้งหมดได้รวมอยู่ภายในดาบ !

แม้ว่ามันจะดูเหมือนดาบธรรมดา แต่แรงระเบิดของดาบเล่มนี้น่ากลัวมาก ! มันคือวิชาดาบสังหาร ! ไม่มีเทคนิคซับซ้อนหรือสง่างามใด ๆ ทุกจังหวะมุ่งเน้นเพียงสังหาร ใช้การเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดเพื่อสร้างความเสียหายที่สูงทีสุดกับฝ่ายตรงข้าม !

เป่ยเฟิงวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของหุ่นเชิด หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กังวลกับมันอีกต่อไป ถึงแม้ว่าทักษะที่มันใช้จะแตกต่างจากที่เขาเคยเห็น แต่ความแตกต่างเรื่องพลังของมันกับเป่ยเฟิงมากเกินไป ความแตกต่างนี้มันไม่ใช่สิ่งที่อาศัยเพียงวิชาหรือทักษะใด ๆ จะเอาชนะได้

‘หรือว่าระดับความยากแบบนี้ก็เพื่อทดสอบหาคนที่จะผ่านไปได้ ?’ เป่ยเฟิงคิดเงียบ ๆ หุ่นเชิดดูเหมือนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดสอบผู้ท้าชิง และหากมันสามารถสังหารใครได้ก็ตามนั้นเท่ากับผู้ฝึกตนคนนั้นไม่สมควรผ่านไป !

‘เอ๊ะ ? ไม่สิ มันไม่น่าจะใช่ … หรือว่าจะเป็น !’

เป่ยเฟิงคิดไปพร้อมกับหลบไปด้วย ถึงแม้ว่าการกระทำของเขาจะดูเชื่องช้าและสบาย ๆ แต่เขากลับสามารถหลบการโจมตีของหุ่นเชิดโดยการขยับเพียงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันหลังไปมองแท่นหินทั้ง 2 แท่น

เขาคำนวณเวลาตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง จากนั้นก็หันไปมองแสงสีเขียวที่ปรากฏบนร่างของหุ่น จากนั้นเป่ยเฟิงก็เข้าใจทันที

‘ดูเหมือนว่าแสงนั่นหมายถึง 1 นาที ? แต่ทำไมมันถึงส่องแสงถึง 2 จุด ?’

เป่ยเฟิงหันหลังและพุ่งไปหาหุ่นพร้อมรอยยิ้ม แสงสีขาวบนร่างของหุ่นสว่างขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบจะครอบคลุมร่างของมันทั้งหมด ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่ได้จับหรือยกมัน แต่เขาแยกมันเป็น 2 ส่วนด้วยขวานมังกร !

“แกร๊ก !”

ชิ้นส่วนของหุ่นค่อย ๆ หลุดออกมาจากร่าง จากนั้นก็มีไข่มุกหลุดออกมาจากหน้าอกของมัน

เหตุผลที่เขาสามารถแยกส่วนหุ่นเป็น 2 ส่วนได้ก็เพราะความแข็งแกร่งของวัสดุมันถูกปรับให้อ่อนแอลงเพื่อให้ตรงกับระดับพลัง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีทางเอาชนะหุ่นเชิดที่ใช้พลังเต็มที่ได้ง่าย ๆ

“อาวุธนี้ไม่เลว ดูเหมือนหุ่นเชิดนี้น่าจะถูกสร้างขึ้นจากตระกูลกงชุนสินะ ?” เป่ยเฟิงพึมพำ ในสมัยก่อนมันมีความคิดที่แปลกใหม่ของพวกนักคิดและเหล่านักปราชที่ต่อสู้กันด้วยความรู้ มันถือได้ว่ายุคนั้นคือยุคที่เต็มไปด้วยความรุ่งเรืองของประวัติศาสตร์ !

เป่ยเฟิงหยิบไข่มุกและดาบทองแดงขึ้นมา จากนั้นก็วางไว้ตรงจุดที่เว้าโค้งตรงแท่นหิน

ไม่มีเสียงใด ๆ จากนั้นบาเรียสีทองก็หายไป

ทันทีที่เขาสัมผัสขวดหยก ข้อความก็ดังขึ้นในหัวของเขา

“ดิ๊ง ! สมบัติระดับ 9 ! ยาอายุยืน ! (เพื่อที่จะแสวงหาความอมตะ จักรพรรดิฉินฉื่อหฺวังตี้ได้ใช้อำนาจทั้งหมดของเขาเพื่อรวบรวมวัตถุดิบล้ำค่าจากทุกมุมโลก จากนั้นก็ให้นักปรุงยากลั่นยาขึ้นมา ยาอายุยืนขวดนี้คือของล้มเหลวที่เกิดจากการทดลอง มันสามารถยืดอายุได้ 3 ปี !) ประสบการณ์ที่ได้รับ : 0 แต้ม !”

เป่ยเฟิงมองขวดหยกเล็ก ๆ ด้วยความตกใจ เขาไม่คิดเลยว่ามันจะมีของแบบนี้จริง ๆ ในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้มันยังยืดอายุไปได้อีก 3 ปี !

หากจะบอกว่ายาใดที่มีค่ามากที่สุด นั่นก็คือยาที่ช่วยทำให้อายุยืนยาวขึ้น ! ในบรรดายาระดับเดียวกัน ยาที่ช่วยทำให้อายุยืนยาวขึ้นมันจะมีมูลค่ามากกว่ายาที่ระดับเดียวกันอย่างน้อย 10 เท่า !

เป่ยเฟิงหัวเราะดัง ๆ ในขณะมองขวดยาในมือ เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลยซักครั้งตั้งแต่มีพลังระดับสวรรค์

“ดูสิ จิ้งจอกน้อย ฉันบอกแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้เธอตาย เห็นไหม ?”

เป่ยเฟิงเปิดขวดหยก จากนั้นก็ใช้พลังเลือดและฉีห่อหุ้มของเหลวข้างในแล้วส่งเข้าไปในปากของจิ้งจอกน้อย

หลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังเลือดและฉีของตัวเองซึมเข้าไปในร่างของจิ้งจอกน้อยเพื่อทำให้มันดูดซับยาอายุยืนได้ง่ายขึ้น

หลังจากผ่านไปไม่นาน เปลวไฟชีวิตที่อ่อนแอของจิ้งจอกน้อยก็เริ่มเสถียรอีกครั้ง เป่ยเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แท่นหินทั้ง 2 มันดูเหมือนมีไว้เพื่อใส่ไข่มุกและดาบทองแดงโดยอาศัยจากการเอาชนะหุ่นเชิด

ดูเหมือนนี่จะเป็นการทดสอบผู้ที่ต้องการเข้าไป และการที่จะผ่านไปได้คือคน ๆ นั้นต้องใช้เวลา 1 นาทีในการจัดการกับหุ่นเชิดตรงหน้าที่มีพลังเหนือกว่าตัวเองให้ได้ !

หากผ่านไปแล้ว 1 นาทีแต่ยังไม่สามารถฆ่าหุ่นเชิดได้ เขาจะถูกหุ่นเชิดฆ่าแทน

แต่หากฆ่าหุ่นเชิดได้ภายใน 1 นาที นอกจากจะผ่านการทดสอบแล้วยังได้รับไข่มุกและอาวุธของมันเพื่อนำไปเปิดกลไกการทำของบาเรีย ตัวอย่างก็ที่เป่ยเฟิงได้รับยาอายุยืน !

ทันใดนั้นผนังด้านข้างก็มีประตูปรากฏขึ้นเงียบ ๆ ด้านหลังของมันคือทางเดินยาวที่นำพาไปที่ใดก็ไม่มีใครรู้

เป่ยเฟิงยักไหล่จากนั้นก็ดึงดาบทองแดงออกมา แต่ทันทีที่เขาดึงดาบประตูหินก็ปิดลง

“ชิ ขึ้เหนียวจริง ๆ”

เป่ยเฟิงเดาะลิ้นและดันดาบกลับไปที่เดิม จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปโดยไม่ลังเล

ประตูด้านหลังเขาค่อย ๆ ปิดลงและตรงหน้าเป่ยเฟิงในตอนนี้ก็คือทางเข้าเขาวงกตขนาดใหญ่

เขาวงกตมันใหญ่มาก นอกจากนี้มันยังมีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังออกมาเป็นระยะ

‘มันจะอลังการเกินไปแล้ว ! ดูเหมือนมิตินี้จะผนึกทุกอย่างรวมไปถึงพลังจิตด้วย !’

เป่ยเฟิงส่งพลังจิตออกไปสำรวจรอบ ๆ แต่มันก็หดกลับมาเหลือเพียง 10 เมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับระยะทางร้อยกว่าเมตรก่อนหน้านี้มันถือว่าลดลงมาเยอะมาก

ในเมื่อไม่มีทางเลือก เป่ยเฟิงทำได้เพียงเดินไปข้างหน้าเท่านั้น

ทันทีที่เขาก้าวออกไป กำแพงเหล็กก็ปรากฏขึ้นด้านหลังปิดทางเข้าทันที

เป่ยเฟิงวางมือไว้บนกำแพงเหล็กจากนั้นเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น กำแพงเหล็กมันถูกสร้างมาจากเหล็กระดับ 3 ดาว !

แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับหลุดพ้นก็ไม่สามารถทำลายมันได้ มันแข็งจนน่าตกใจ !

เป่ยเฟิงพยายามจะกระโดดขึ้น แต่แรงกดดันมหาศาลก็ผลักเขาลงมา เขากระโดดได้สูงสุดเพียง 15 เมตรก่อนจะถูกผลักกลับลงมา !

เขาทำได้เพียงเดินไปบนพื้นเท่านั้น

หลังจากพยายามมาเป็นเวลานาน เป่ยเฟิงก็พบว่าตัวเองไม่สามารถออกไปจากเขาวงกตได้ นอกจากนี้ดูเหมือนเขาวงกตแห่งนี้จะมีเขาคนเดียว

“โฮก !”

ทันใดนั้นสัตว์อสูรสูง 3 จางก็ปรากฏตัวขึ้น มันเป็นสัตว์ข้ามสายพันธุ์ระหว่างเสือและเสือดาว มันกระโดดพุ่งไปหาเป่ยเฟิงพร้อมกับกรงเล็บที่แหลมคม ความเร็วของมันไม่ได้น้อยไปกว่าเป่ยเฟิงเลย !

ในไม่ช้าร่างของเป่ยเฟิงก็เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน เลือดสีดำค่อย ๆ หยุดลงมาจากตัวเขา ดูเหมือนเขาจะติดพิษ !

“บัดซบ ! อสูรบัดซบนี้มันเร็วเกินไป !” เป่ยเฟิงสบถเนื่องจากเขาหลบการโจมตีของมันไม่พ้น !

สัตว์อสูรตัวนี้มีพลังระดับว่างเปล่า มันล่าเหยื่ออย่างช้า ๆ ราวกับกำลังเล่นกับเหยื่อ

เป่ยเฟิงไม่ได้ใช้วิชาลับกายาผสานหยวนเนื่องจากสัตว์อสูรตรงหน้ามันอาจจะวิ่งหนีไปในทันทีที่เขาใช้วิชาลับ และมันอาจจะหันกลับมาเมื่อเขาอ่อนแอลง นั่นจะเป็นความลำบากที่สุดของเขาในทันที

สัตว์อสูรยืนห่างจากเป่ยเฟิง 100 เมตร มันมองเป่ยเฟิงด้วยสายตาเย็นชาพร้อมกับเลีบกรงเล็บของมัน

เป่ยเฟิงยิ้มจาง ๆ และกอดจิ้งจอกน้อยไว้ เพื่อนตัวน้อยยังคงนอนนิ่ง ๆ หลับสนิทอยู่บนหน้าอกของเขา ในขณะเดียวกันสัตว์อสูรตัวนั่นก็ค่อย ๆ หายตัวเข้าไปในความมืด

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท