ณ อีกโลกซึ้งอยู่ห่างไกลจากโลกดิน[โลกของเป่ยเฟิง] โลกใบนี้มีขนาดใหญ่กว่าโลกดินหลายร้อยหลายพันเท่า หลิงฉีของที่นี่เองก็หนาแน่นจนน่าตกใจ !
คนที่เกิดมาในที่แห่งนี้แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดก็ยังมีพลังระดับเซียนเทียน และสำหรับผู้ที่มีพลังมากที่สุดในดาวดวงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจักรพรรดิฉิน !
ณ ใจกลางของโลกมีเมืองขนาดมหึมาลอยอยู่บนพื้น ผู้คนนับไม่ถ้วนเข้าออกเมืองแห่งนี้ด้วยสัตว์ขี่ ซึ้งแรงกดดันที่แต่ละคนปลดปล่อยออกมานั้นทรงพลังมาก !
ในขณะเดียวกัน แรงกดดันที่เพียงพอจะสั่นสะเทือนสวรรค์ถึง 11 พลังได้ฉีกกระชากท้องฟ้าเหนือเมือง !
ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะมีพลังระดับไหนก็รู้สึกหวาดกลัวแรงกดดันนี้มาก !
“หุ่นทองแดงทั้ง 11 ตื่นขึ้นพร้อมกัน ? หรือว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น ?”
ชายชราคนหนึ่งมองด้วยสายตากระวนกระวาย
“ครั้งสุดท้ายที่สัตว์อสูรระดับดวงดาวปรากฏมันทำได้เพียงปลุกหุ่นทองแดงเพียงตัวเดียว แต่ทว่าครั้งนี้กลับปลุกหุ่นทองแดงถึง 11 ตัว มันเป็นไปได้ไหมว่าเรากำลังจะทำสงครามกับดาวดวงอื่น ?”
คนจำนวนมากคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ
“ฮ่าฮ่า ! เจ้าเด็กน้อยทั้ง 12 ตัวนั้นตื่นแล้ว เขามาแล้ว !”
ในวันเดียวกัน ในมิติลึกที่อยู่ในพระราชวังฉิน เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความสุขดังขึ้น !
“ประวัติความเป็นมาของจักรพรรดิองค์แรก ฉินฉื่อหฺวังตี้” ได้กล่าวไว้ว่า “กว่า 26 ปี … ที่ได้รวบรวมอาวุธทุกชนิดในโลกรวมไปถึงอาวุธประดิษต่าง ๆ จากนั้นก็นำมันมาหลอมเป็นหุ่นทองแดงทั้ง 12 ตัว ซึ้งแต่ละตัวมีน้ำหนักเท่าก้อนหินหลายพันก้อนและมันตั้งอยู่ที่พระราชวัง” เจียยี่ 1 “ความผิดสิบประการของฉิน” ได้บันทึกเรื่องราวของหุ่นทองแดงทั้ง 12 ตัวไว้ในเรื่อง “การหลอมอาวุธของประชาชน”
ทำไมถึงต้องเป็น 12 รูปปั้น ? คนสมัยโบราณได้กล่าวไว้แผ่นดินได้แบ่งโลกใบได้เป็น 12 ส่วน ซึ้งประกอบไปด้วยแผ่นดินทั้ง 4 ทิศและอีก 8 ทิศที่อยู่รอบ ๆ กลายเป็นทั้งหมด 12 แผ่นดิน หรือจะกล่าวก็คือตัวเลข 12 คือตัวแทนของโลก ! 4 ฤดูมี 12 เดือนต่อปี ความสงบสุขอันเป็นหนึ่งเดียวของโลกที่แท้จริงคือการที่โลกมีอายุยืนยาวไปหลายหมื่นชั่วอายุคน “นี้คือสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้ในเรื่องราวกับจักรพรรดิองค์แรก และบันทึกนี้จะถูกส่งต่อให้กับคนรุ่น 2 และ 3 ก่อนจะสืบทอดต่อไปจนกลายเป็นนิรันดร์ !”
และมีคำกล่าวอีกอย่างไว้ก็คือหลังจากจักรพรรดิฉินฉื่อหฺวังตี้ได้รวม 6 รัฐสำเร็จแล้ว เขากังวลอย่างมากหากมีการกบฏ ดังนั้นเขาจึงรวบรวมอาวุธทั้งหมดบนโลกและโยนพวกมันลงไปในเตาหลอมขนาดใหญ่
หุ่นทองแดงแต่ละตัวมีน้ำหนักเท่าหินหลายพันก้อน ! จากบันทึกมีคนกล่าวไว้ว่าหุ่นทองแดงหนัก 30 ตัน !
และ 1 ใน 12 หุ่นทองแดงในตำนานได้มายืนอยู่ตรงหน้าทุกคน มันลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา !
ทุกคนรู้สึกราวกับท้องฟ้าได้หล่นลงใส่หลังพวกเขาจนพวกเขาไม่สามารถเงยหน้ามองหุ่นทองแดงได้ !
“อ๊ากก !”
คนที่กล้าเงยหน้ามองหุ่นทองแดง ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวจากนั้นร่างกายก็ระเบิด !
หุ่นทองแดงมันแข็งแกร่งเกินไป มันแข็งแกร่งจนทุกคนราวกับเป็นฝุ่นผงเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน แม้ว่ามันจะตัวไม่ใหญ่แต่ทุกตัวก็รู้สึกราวกับมันตัวใหญ่เหมือนกำลังเหยียบโลกใบนี้เอาไว้ !
“อุก !”
พระสันตะปาปากระอักเลือดออกมาพร้อมกับถอยหลังหลายก้าว ปีกด้านหลังของเขาก็เริ่มแตกสลาย
หุ่นทองแดงไม่ได้พูดอะไร เขาหันไปมองผู้ฝึกตนของวาติกันก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ !
“แกร๊ก แกร๊ก !”
ลมหายใจมันมีสีแดงและจากนั้นเงาของอาวุธที่ทรงพลังจำนวนมากก็ปรากฏออกมาในลมหายใจนั้น !
ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ได้ราวกับมีบางอย่างอุดปากพวกเขาเอาไว้ !
“บูม !”
หลังจากนั้นผู้ฝึกตนและสัตว์อสูรจำนวนมากก็มองตรงเสียงระเบิดด้วยความตกใจ พื้นที่กว่า 10,000 จางรอบ ๆ พวกวาติกันถูกทำลายป่นปี้พร้อมกับสายลมที่บ้าคลั่งกำลังทำลายพื้นที่ตรงนั้น !
รอยแตกนับไม่ถ้วนปรากฏลุกลามออกไปรอบ ๆ !
“ฮู่ !”
หุ่นทองแดงก้าวออกไป จากนั้นก็ปรากฏรอยแยกมิติขึ้น !
ทันทีที่เขาก้าวเข้าไป สายลมที่รุนแรงก็หยุดลง พร้อมกับทุกสรรพสิ่งรอบตัวที่หยุดค้างเอาไว้ !
หุ่นทองแดงยกแขนขึ้นอย่างช้า ๆ จากนั้นดวงดาวขนาดใหญ่ก็ปรากฏด้านหลังของเขา หลังจากนั้นเขาก็ดึงดวงดาวนั้นออกมา !
ราวกับไม่สามารถต้านทานแรงดึงของสวรรค์ได้ ดวงดาวถูกดึงออกมาด้วยแรงมหาศาล !
ฝูงชนไม่กล้าเงยหน้ามองขึ้น เพราะกลัวว่าจะตัวระเบิดเมื่อคนที่กล้าเงยมอง !
“แกร๊ก !”
ทันใดนั้นบาเรียก็ปรากฏในห้วงมิติและป้องกันไม่ให้หุ่นทองแดงดึงดวงดาวออกไป แต่ทว่าทันใดนั้นหุ่นทองแดงก็โจมตีออกไปกลายเป็นลำแสงยาวกว่าล้านลี้ !
พลังโจมตีครั้งเดียวแต่เมื่อมันไปโดนดวงดาวที่มีขนาดเท่าดวงจันทร์ มันกลับตัดผ่านดวงดาวจนขาดครึ่งได้ !
ไม่มีใครกล้าเงยหน้ามองเหตุการณ์ ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากสบถสาปแช่งความโชคร้ายของตัวเอง หุ่นทองแดงนี้มาจากไหนกัน ? มันจะน่ากลัวไปแล้ว !
ความรู้สึกของพวกเขามันราวกับนูบที่เล่นเกมเคอมพิวเตอร์และเพิ่งออกจากหมู่บ้านเริ่มต้นพร้อมกับอาวุธที่เป็นเพียงดาบเล็ก ๆ และกำลังไล่ล่าหอยทากอยู่ แต่ทันใดนั้นก็มีสุดยอดบอสที่แข็งแกร่งมากกระโดดออกมาจากแผนที่เริ่มต้นและปรากฏตรงหน้าเขา !
จะทำยังไง สู้รึ ? จะสู้ยังไงเล่าบัดซบเอ้ย แกคิดว่ากำลังสู้กับอะไรอยู่ ? อีกฝ่ายแข็งแกร่งถึงขนาดเพียงแค่พ่นลมหายใจก็ฆ่าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดได้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาทำได้เพียงรอคอยอารมณ์ของหุ่นทองแดงตัวนี้เท่านั้น !
ในอวกาศ มีนิกายขนาดใหญ่ 2 นิกายกำลังต่อสู้กันอยู่ !
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนนับไม่ถ้วนคำรามและจากนั้นก็เริ่มปะทะกันอย่างดุเดือด ในหมู่คนที่อ่อนแอที่สุดของนิกายเขามีพลังที่สามารถกวาดล้างทุกสรรพสิ่งที่อยู่บนโลกดินได้สบาย ๆ !
แต่เมื่อลำแสงที่ผ่าดวงดาวพุ่งออกไป มันได้ตัดผ่านตรงกลางสนามรบของพวกเขา !
ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนไม่มีโอกาสตั้งตัว พวกเขาถูกสังหารด้วยลำแสงนั้นทันที บรรดาผู้ที่ตอบสนองได้ทันก็พยายามป้องกันมันราวกับตั๊กแตนที่พยายามหยุดรถม้า
หุ่นทองแดงเดินเข้าไปในรอยแยกมิติที่เขาสร้างเอาไว้ก่อนจะหายตัวไป !
ผ่านไป 10 นาที ในไม่ช้าทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็รู้สึกโชคดีมาก หลังจากนั้นพวกเขาก็มองไปยังพื้นดินที่เกิดจากพลังเศษเสี้ยวของหุ่นทองแดงพร้อมกับเหงื่อที่ไหลเต็มหลัง มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว !
หวังวูหยู ลิงน้ำและปีศาจแห่งภัยพิบัติเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขาคิดว่าตัวเองมีพลังที่แข็งแกร่งมากแล้ว แต่ในตอนนี้ก้เข้าใจได้แล้วว่ามันมีคนที่แข็งแกร่งกว่า ดูอย่างหุ่นทองแดงนั้น มันน่ากลัวกว่าพวกเขามาก !
ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อสูร ไม่มีฝ่ายใดเลยที่มีความคิดที่จะสู้กันหลงเหลืออยู่ แม้แต่วาติกันที่ชื่อว่ามีพลังสูงสุดบนโลกก็ไม่สามารถทำอะไรได้ พวกเขาทำได้พวกโชคร้ายในชะตาของตัวเองที่ต้องมาเจอกับหุ่นทองแดงตัวนี้
ในขณะที่หลายคนกำลังรู้สึกเสียใจกับพวกวาติกันและชาวต่างชาติที่ได้ตายไป แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกโชคดีที่พวกเขาเกิดได้ถูกที่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงมีสภาพไม่ต่างกับทางนั้น
คนที่ยังมีชีวิตอยู่เดินมารวมตัวกัน ก่อนจะบินไปยังอีกฝั่งของแผ่นดิน
วันต่อมาเป่ยเฟิงก็ตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นเขาก็สำรวจร่างกายของตัวเองด้วยพลังจิตก่อนจะส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลจำนวนมาก นอกจากนี้รากฐานของเขาเองก็เสียหายอย่างหนัก !
มันบอกไม่ได้ว่าหลอดเส้นของเขาฉีกขาดไปมากแค่ไหน แต่ที่เขายังมีชีวิตอยู่ได้ในตอนนี้ก็เพราะพลังฝึกฝนของเขา !
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มตรวจสอบพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตันเถียน
‘ดูเหมือนมันจะเหลือน้อยมาก’
พลังแห่งความชั่วร้ายมันเหมือนกับระเบิดเวลาที่พร้อมระเบิดทุกเมื่อ ตอนแรกเขารู้สึกกังวลมันมากแต่ทว่าในตอนนี้มันกลับมีขนาดเท่าฟันเท่านั้น !
‘เป็นไปได้ยังไงกัน พลังชั่วร้ายที่ว่าจัดการได้ยากแต่ตอนนี้มันกลับเหลือเพียงแค่นี้ ?’
เป่ยเฟิงไม่รู้จะทำยังไงนอกจากเกาหัวด้วยความสับสน
แต่เพราะเขาบาดเจ็บมากเกินไปทำให้เขาสลบหลังจากใช้พลังไปจนหมด เมื่อพลังชั่วร้ายหมดไปแล้วไป๋เซียงก็ได้อุ้มเขาขึ้นมาและเดินทางไปพร้อมกับคนอื่น ๆ
หลังจากนั้นเป่ยเฟิงก็มองไปรอบ ๆ และเขาก็ไม่เห็นลึกลับที่ 1 ฉินวูฟ่าและคนอื่น ๆ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่นี้แหละคือชีวิต !
หลังจากนั้นไป๋เซียงก็เล่าเหตุการณ์หลังจากที่เขาหมดสติไปให้ฟัง สุดท้ายหลังจากเขาสลบไปลึกลับที่ 1 และคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา ดูเหมือนพวกเขาจะตายไปแล้วตั้งแต่เข้ามาในประตู
หากพวกเขาสามารถรวมกลุ่มกันได้ตั้งแต่แรกเป่ยเฟิงอาจช่วยให้ทุกคนออกไปพร้อมกับเขาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บได้ แต่เมื่อเข้าไปในเมืองทุกคนกลับถูกแยกย้ายกันด้วยค่ายกลที่แข็งแกร่ง
แม้ว่าเขาจะเดินผ่านความตายมามากมาย แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกเศร้าใจกัน เป็นไปได้ไหมว่าจะมีซักวันที่เขาจะย้อนกลับไปได้ ?
10 วันต่อมา ฉากตรงหน้าของทุกคนก็ยังเป็นเพียงความมืด บาดแผลของเป่ยเฟิงฟื้นฟูไปได้ 30 % แล้ว ตอนนี้เขาบินได้ด้วยตัวเองแล้ว
“ดูนั่น !”
“นั่นมันแท่นบูชายัญ !”
“นั่นมันแท่นบูชา 5 สี ? ไม่คิดเลยว่ามันจะไม่ใช่แค่เรื่องเล่า !”
ทุกคนพูดด้วยความตกใจและยินดี แท่นบูชา 5 สีมีความกว้างกว่า 10,000 จางและเปล่งแสง 5 สีออกมาในอากาศ มันดูสวยงามอย่างมาก
ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก พวกเขาเร่งความเร็วเพื่อที่จะขึ้นไปบนยอดแท่นบูชา 5 สี
‘พลังชีวิตแข็งแกร่งมาก’
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตมหาศาลที่กำลังซึมเข้ามาในร่างของเขาเมื่อเขาขึ้นมายังแท่นบูชา !
“แต่มันเป็นแค่แท่นบูชา มันดูเหมือนไม่มีพลังที่จะวาปพวกเราออกไปได้ !”
มีไม่กี่คนที่เข้าใจค่ายกล ในไม่ช้าพวกเขาก็กล่าวขึ้นราวกับน้ำเย็นที่ราดบนหัวทุกคน
“ดูเหมือนว่าต้องทำอะไรซักอย่าง แต่ทว่าค่ายกลนี้มันน่ากลัวเกินไป !”
“ใช่ ค่ายกลนี้มันดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่จะแตะต้องได้ส่งเดช ไม่งั้นคน ๆ นั้นจะตายแน่นอน !”
ที่กลางแท่นบูชา มันมีของที่ใช้นำมาบูชาจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็นต้นไม้สีม่วงที่ปลดปล่อยพลังฉีแห่งความวุ่นวายแรกเริ่มออกมา !
นอกจากนี้ยังมีคากคกทองคำที่คาบเหรียญฉีโบราณไว้ในปาก
“สวรรค์ นั่นมันมังกรจริง ๆ ใช่ไหม ?”
“และนั่นคือผลไม้มังกร ?”
ทุกคนหรี่ตามองพร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมาจากปาก
ในขณะเดียวกันสัตว์อสูรประเภทงูก็พุ่งออกไปพร้อมกับความปรารถนาที่จะเป็นมังกรที่แท้จริงให้ได้ !
ไม่มีใครหยุดมัน เนื่องจากมีคนเสนอตัวแล้วดังนั้นพวกเขาจึงรอดูผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
ตุ้บ ! ตุ้บ ! ดวงตาของสัตว์อสูรเต็มไปด้วยความโลภและความปรารถนา หากมันสามารถกลืนกินมังกรที่แท้จริงได้ ไม่ ไม่ใช่การกลืนกิน ! เพียงแค่กินเนื้อบางส่วนมันก็จะทำลายขีดจำกัดสายเลือดของมันได้ !
“บูม !”
บนแท่นบูชาที่เต็มไปด้วยความสงบ ทันใดนั้นกระแสไฟฟ้าก็ปรากฏออกมาก่อนจะเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นพระเต๋าที่สวมมงกุฏสายฟ้าไว้บนหัว !
หลังจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วสายฟ้าออกไปที่งู จากนั้นสายฟ้าจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากท้องฟ้า !
“ซี๊ดดด !’
ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สัตว์อสูรระดับว่างเปล่ากลับตายได้ง่าย ๆ โดยที่ยังไม่ทันได้ทำอะไร !
“แย่จริง ๆ”
ทุกคนส่ายหัวพร้อมกับหัวใจที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
มันเป็นเรื่องดีที่พวกเขายังมีชีวิต แต่ทว่าสมบัติตรงหน้ามันอยู่ไกลเกินไป มันไกลจนพวกเขาไม่สามารถเอื้อมไปถึงและทำได้แค่มองมันด้วยความทรมาน
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจยังไง พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่มองและถอนหายใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับค่ายกลที่ทรงพลังนี้
เป่ยเฟิงเองก็ไม่เต็มใจเช่นกัน เมื่อเทียบกับค่ายกลตรงหน้า แม้แต่เบ็ดตกปลาระดับ 4 ของเขาเองก็ไร้ประโยชน์ ดูเหมือนเมื่อนานมาแล้วสถานที่แห่งนี้จะมีไว้เพื่อบูชาบางอย่างของราชวงศ์ฉิน !
