“ถึงเจ้าจะตายไปแต่อย่างน้อยก็หลงเหลือร่างกายเอาไว้ มันก็ถือว่าได้สืบทอดบ่วงกรรมมาไว้กับข้าด้วย ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลลูกหลานของเจ้าเอง” เป่ยเฟิงพึมพำกับตัวเอง ไม่ว่าใครก็ตามที่เขาเอาร่างไป เขายินดีที่จะสืบทอดบ่วงกรรมของคน ๆ นั้นแทน
หลังจากนั้นพลังจิตของเขาก็กระจายออกไปรอบ ๆ และตรวจสอบร่างกายอีกครั้ง
“ร่างนี้มันแข็งแกร่งใช้ได้ หากไม่ใช่เพราะระบบใช้หลิงฉีที่อยู่รอบ ๆ สร้างมันขึ้นมาใหม่ ข้าคงต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะได้ร่างแบบนี้”
อายุของร่างนี้รวมไปถึงเลือดและฉีในตอนแรกมันเป็นการยากมากที่จะตัดระดับไปยังระดับเซียนเทียน มันเปรียบเสมือนการปีนขึ้นสวรรค์ด้วยมือเปล่า แต่โชคดีหลังจากที่เขาย้ายร่างมา ระบบมันได้สร้างร่างใหม่ให้กับเขา
เลือดที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่มันเต็มไปด้วยพลัง ส่วนเลือดเก่า ๆ นั้นได้ไหลออกไปหมดแล้ว
ดวงวิญญาณในตอนนี้ก็เปลี่ยนไปมีชีวิตชีวาไม่เหมือนกับดวงวิญญาณของหลี่ฉินเทียนที่หม่นหมอง
เมื่อเป่ยเฟิงมาอยู่ในร่างของหลี่ฉินเทียน ต้องบอกเลยว่ามันเปลี่ยนทุกส่วนในร่างกายใหม่ทั้งหมดจนไม่เหมือนเดิม
แม้ว่าเขาจะเข้ามาสิงร่างนี้ แต่เขาไม่ได้รู้สึกไม่สบายเลย ร่างใหม่ของเขาเคลื่อนไหวตามความคิดได้ดีมาก สิ่งเดียวที่เขารู้สึกแย่ก็คือเขาสูญเสียพลังและความแข็งแกร่งของร่างเดิมไป
เป่ยเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นขาออกมาจากเตียงข้างหนึ่ง จากนั้นก็ทำตราประทับบนมือ จากนั้นหลิงฉีที่กระจายออกไปเกือบหมดแล้วก็ไหลมาที่เขาอีกครั้งและรุนแรงยิ่งกว่าเดิม !
“เป็นไปได้ไหมว่าท่านพ่อตัดผ่านระดับไม่สำเร็จเลยใช้เวลานานขนาดนี้ ? มันเกิดอะไรขึ้นข้างในกันแน่ ?”
หลี่ฮวงรู้สึกกังวลมาก ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าพ่อของเขาใกล้ตายแล้วดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรที่เขาทำได้นอกจากคิดถึงมรดกที่เขาหลงเหลือเอาไว้ แต่เมื่อรู้ว่ามีความหวังและพ่อของเขากำลังจะตัดผ่านระดับได้ มันจะเป็นการโกหกหากจะบอกว่าเขาไม่ได้เป็นห่วง เนื่องจากเขาเป็นลูกชายคนสุดท้องดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะได้รับความรักจากพ่อของเขามากที่สุดตั้งแต่ยังเด็ก
ก๋งฉุนรู้สึกมุมปากกระตุกเบา ๆ ‘เจ้าคงหวังที่จะไม่ให้เกิดอะไรขึ้น ?’ หึ มีโอกาส 99.99 % ที่มันจะล้มเหลว ! ในความเป็นจริงคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตที่กำลังตัดผ่านระดับนั้นล้วนแต่พบกับ ‘ความผิดพลาด’ ! ตลอดอาชีพของเขา เขายังไม่เคยได้ยินคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูยมโลกตัดผ่านระดับสำเร็จเลยซักครั้งต่อให้พึ่งพายาระดับสูงก็ตาม !
หลี่เหลียงและหลี่ไป๋หยู่เต็มไปด้วยความกังวล 3 พี่น้องรูปร่างเหมือนหนุ่มอายุ 30-40 ปี เนื่องจากพวกเขามีพรสวรรค์และมีทรัพยากรจำนวนมาก ดังนั้นพวกเขาจึงตัดผ่านระดับไปยังขั้นสามของร้อยปีแล้ว มันทำให้อายุของพวกเขายืนยาวถึง 400 ปี ! ดังนั้นพวกเขาจึงยังดูหนุ่มแน่นมาก แม้แต่น้องคนสุดท้องหลี่ฮวงก็ยังมีอายุถึง 50 ปี
ภายในห้อง ร่างกายของเป่ยเฟิงดูดซับหลิงฉีจำนวนมาก จนเคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์จากขั้นที่ 2 เริ่มเข้าใกล้ขั้นที่ 3 แล้ว
“เคล็ดบัญญัติกฏสวรรค์ แตกสลาย !”
เสียงของเป่ยเฟิงดังขึ้น จากนั้นล็อคบางอย่างก็ราวกับถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ จากนั้นเลือดและฉีมหาศาลก็ปะทุออกมา !
ผู้ฝึกตนในโลกใบนี้พวกเขาฝึก 2 เส้นทาง นั่นก็คือเลือดและฉี เพื่อที่พวกเขาจะสามารถปลดล็อคความลับบางอย่างในร่างกายของมนุษย์ได้ !
พูดถึงเส้นทางการฝึกฝนของพวกเขามันช่างคล้ายกับโลกเก่าของเป่ยเฟิงมาก แต่สุดท้ายเป่ยเฟิงก็เลือกที่จะใช้เส้นทางของผู้คนบนดาวเทียนหมู่
ความลับของร่างกายจุดแรกนั้นอยู่ที่หัวใจ หากสามารถปลดล็อคมันได้จะทำให้หัวใจเต้นเร็วกว่าเดิม 10 เท่า นอกจากนี้มันยังช่วยทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อย ๆ !
หัวใจมันทำให้ฉีและเลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกาย เลือดที่ถูกสร้างขึ้นมาก็ทำหน้าที่ล้างทำความสะอาดร่างกายของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แม้ว่าจะทำสำเร็จแล้ว แต่เป่ยเฟิงไม่หยุดแค่นั้น เขายังคงหมุนเวียนการฝึกฝนของเขาเพื่อทำให้รากฐานของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“โอ้พระเจ้า ! เขาสามารถทำมันได้จริง ๆ !”
ปากของก๋งฉุนเกือบจะหล่นลงไปบนพื้นเพราะความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงที่สดใสของเป่ยเฟิงดังขึ้น แม้แต่เขาที่เป็นหมอที่มีชื่อเสียงเล็กน้อยก็สามารถบอกได้เลยว่าคนที่มีน้ำเสียงแบบนี้คือคนที่สุขภาพแข็งแรงดี !
“ใช่ ! ท่านพ่อทำได้ เขาทำได้ !”
หลี่เหลียงเริ่มร้องไห้ด้วยความสุข
‘ไอ้แก่นี้มันดวงแข็งจริง ๆ !’
ซูเหม่ยสบถ ธุรกิจของตระกูลทั้งหมดที่ชายชราสร้างขึ้นมาจากน้ำมือของเขาใกล้จะล้มลงแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับไม่มีอีกต่อไป
“ท่านปู่สุดยอด ! สวรรค์ต้องเป็นใจมอบโอกาสให้ท่านปู่แน่ ๆ !”
หลี่ฉิหลินกระโดดไปมาอย่างอารมณ์ดี ท่านปู่ชอบเขามากที่สุด ทุกครั้งที่เขาทำอะไรผิดท่านพ่อมักจะตำหนิเขา แต่เมื่อสุดท้ายเมื่อเขาวิ่งไปหาท่านปู่ ท่านพ่อก็ทำอะไรไม่ได้ ท่านปู่คือผู้หนุนหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา !
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ จากนั้นก็ผ่านไป 1 ชั่วโมง แต่มันกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ภายในห้อง ทุกคนอยู่ในความกังวลอย่างมาก ความคิดของพวกเขาในตอนนี้คือในเมื่อหลี่ฉินเทียนทำได้แล้ว ทำไมเขาถึงยังอยู่ข้างในไม่ยอมออกมาซักที ?
“เอี๊ยดด !”
ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าไปดู ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกพร้อมกับชายวัยกลางคนอายุ 40 ปีเดินออกมา
“ท่านพ่อ !”
“ท่านปู่ !”
กลุ่มคนจำนวนมากพุ่งมาห้อมล้อมเป่ยเฟิง ดวงตาของหลี่ฉิหลินมองปู่ที่หล่อเหลาด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็อุทานด้วยความตกใจ “อุบ ไม่คิดเลยว่าท่านปู่ที่รักของข้าจะหล่อขนาดนี้ในตอนยังหนุ่ม !”
“ปัง !”
“เจ้าเด็กบัดซบ แกพูดกับปู่ของแกยังงี้ได้ยังไง ?”
เส้นสีดำปรากฏบนหน้าผากหลี่ไป๋หยู่ จากนั้นเขาก็ตบหัวหลี่ฉิหลิน
“อืม ไปเตรียมเนื้อสัตว์อสูรมาหน่อย ข้าจะไปอาบน้ำ” เป่ยเฟิงพึมพำด้วยน้ำเสียงเบา ๆ แต่หัวใจของเขากลับเต็มไปด้วยความอึดอัด การที่เขาได้ชีวิตใหม่แต่กลับถูกต้อนรับด้วยลูกและหลาน มันจะไม่ทำให้เขาตกใจได้อย่างไร ?
คนที่อยู่รอบ ๆ เองก็ไม่ได้มีความสงสัยใด ๆ จากนั้นพวกเขาก็มองหลี่ฉินเทียนดี ๆ และเห็นว่ามันมีกลิ่นเหม็น ๆ บนเสื้อผ้าของเขา ดังนั้นทุกคนจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง
ในคฤหาสน์สมัยใหม่ที่มีขนาดใหญ่ กลุ่มคนรับใช้จำนวนมากกำลังวิ่งไปทั่ว
ส่วนเป่ยเฟิง เขากำลังแช่ตัวอยู่ในสระว่ายน้ำเพื่อให้น้ำอุ่นล้างสิ่งสกปรกบนร่างของเขาออกไป
“ดูเหมือนจะต้องใช้เวลานานพอตัวกว่าจะปรับตัวให้เข้ากับร่างนี้ได้”
เป่ยเฟิงไม่รีบร้อน เนื่องจากเขาในตอนนี้ถือว่ากำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ แม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดแต่อย่างน้อยเขาก็เข้าใจถึงความสำคัญในการเริ่มต้นได้ดี
นอกจากนี้ร่างกายนี้ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่ามันจะฟื้นตัวไปยังตอนที่มีสภาพแข็งแรงที่สุด สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเอาเลือดและฉีบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ในร่างออกมา
เป่ยเฟิงนอนหลับสนิทด้วยความผ่อนคลายราวกับกำลังนอนอหลับอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ดวงจันทร์ค่อย ๆ ลอยขึ้นท้องฟ้าพร้อมกับเป่ยเฟิงที่ค่อย ๆ ลืมตา เขาเหยียดตัวด้วยท่าทางเฉื่อยชาตามมาด้วยเสียงเหมือนดอกไม้ไฟปะทุขึ้นตามกระดูกของเขา
“นายท่าน นายหนุ่มและคนอื่น ๆ กำลังรอท่านอยู่ที่ห้องอาหาร”
มีคนยืนเฝ้าอยู่นอกประตู เมื่อพวกเขาเห็นว่าเป่ยเฟิงหลับไปก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวนเขา และเมื่อเห็นว่าเป่ยเฟิงตื่นขึ้นมาแล้วพ่อบ้านก็เดินเข้าไปพร้อมกับส่งผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าให้เขา
“อืม”
เป่ยเฟิงพยักหน้าและยืนขึ้น จากนั้นก็ใส่เสื้อผ้าที่ถูกเตรียมไว้สำหรับเขา เสื้อผ้านี้เหมาะกับเขาจริง ๆ เสื้อคลุมสีเขียวถูกตัดเย็บด้วยวิธีคล้ายกับชุดฮั่นบนโลก แม้ว่าเสื้อคลุมจะดูธรรมดา ๆ แต่ความจริงแล้วมันทำมาจากหนังสัตว์อสูรขั้นที่สองของร้อยปี
เป่ยเฟิงมีความทรงจำของหลี่ฉินเทียน ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับคฤหาสน์หลังนี้ดี เขาจึงเดินนำหน้าไปโดยไม่มีความลังเลใด ๆ
ค่ำคืนนี้ช่างเป็นคืนที่สวยงามจริง ๆ มันมีดวงจันทร์สีม่วงถึง 3 ดวงลอยอยู่บนฟ้า และแต่ละดวงก็มีขนาดเท่ารถม้าได้