ลำแสงสีเทาส่องประกายในความมืดมิดพร้อมกับความเร็วที่พุ่งไปด้วยความเร็วที่มองไม่ทัน
วิญญาณของเป่ยเฟิงหลับไหลพร้อมกับพลังจิตที่ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ
หลังจากล่อยลอยในรอยแยกมิติเป็นเวลานาน ในไม่ช้าหมอกที่คลุมร่างของเป่ยเฟิงก็สั่นราวกับชนเข้ากับบางอย่าง
***
บนดาวเคราะห์ที่มีความใหญ่กว่าโลกดิน 500 เท่า ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนและเทคโนโลยีต่าง ๆ
อาคารขนาดมหึมาสูงทะลุเมฆตั้งอยู่ใจกลางเมืองในจังหวัดหมิน อาคารแห่งนี้ชื่อว่าหอคอยเชื่อมสวรรค์ และทุกเมืองบนดาวดวงนี้จะมีหอคอยเชื่อมสวรรค์ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
ในยุคปัจจุบันตอนนี้เป็นยุคที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่สามารถเรียนรู้เคล็ดการฝึกตนได้ หลังจากเกิดมาเด็กทุกคนจะเข้าอบรมโปรแกรมพัฒนาการต่อสู้เป็นเวลา 108 วันเพื่อสร้างรากฐานในการฝึกตนในอนาคต
เทคโนโลยีในดาวเทียนมู่ถือว่าสูงมาก พวกเขาผลิตสารอาหารเหลวที่เต็มไปด้วยพลังของสมุนไพรจิตวิญญาณระดับต่ำได้ นอกจากนี้การผลิตพวกมันได้ยังเป็นการเปลี่ยนโฉมทำให้ยาระดับต่ำสามารถผลิตได้จำนวนมาก !
หลิงฉีของสวรรค์และโลกบนดวงดาวเทียนมู่มีความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ ดังนั้นสมุนไพรระดับต่ำรวมไปถึงระดับสูงส่วนมากจึงสามารถปลูกได้ และสมุนไพรทั้งหมดก็เติบโตอยู่บนหอคอยเชื่อมสวรรค์ !
ต้นกำเนิดความเป็นมาของหอคอยเชื่อมสวรรค์ไม่มีใครรู้ เพราะหากต้องการจะรู้ต้องย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยล้านปีที่ผ่านมา !
หอคอยสวรรค์ที่สูงและใหญ่ที่สุดมีความสูงกว่า 1 ล้านจาง มันตั้งอยู่ใจกลางของดาวดวงนี้หรือใจกลางของดวงดาวเทียนมู่ !
นอกจากนี้ยังมี หอคอยสวรรค์ย่อยอีก 36 แห่งที่มีความสูงกว่า 100,000 จาง พวกมันมีทั้งหมด 36 ต้นซึ้งตรงกับจำนวนเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่บนดวงดาวเทียนมู่ !
และยังมีหอคอยสวรรค์ขนาดใหญ่รองลงมาตามจำนวนเมืองขนาดกลางนั่นคือ 72 เมือง
ลำดับสุดท้ายหอคอยสวรรค์ขนาดปกติที่มีความสูง 1,000 จาง ซึ้งมีทั้งหมด 365 แห่งตามจำนวนเมืองขนาดเล็ก
นอกจากนี้ยังมีหอคอยสวรรค์อื่น ๆ ที่มีขนาดไม่ถึง 1,000 จางอยู่ตามเมืองและจังหวัดต่าง ๆ หอคอยสวรรค์เหล่านี้ดูแตกต่างกันแต่ละต้น เนื่องจากแต่ละหอคอยมันมีมิติแยกออกไปอีกทีเพราะมันมีไว้สำหรับสัตว์อสูร สมุนไพรและแร่ต่าง ๆ
ผู้ควบคุมโลกใบนี้คือกองกำลังพันธมิตรนักสู้และรัฐบาล กองกำลังพันธมิตรนักสู้คือองค์กรที่ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้มารวมตัวกัน พวกเขามีไว้เพื่อต่อสู้ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ส่วนรัฐบาลนั้นจะเน้นไปที่การวิจัยวิทยาศาสตร์
ในที่แห่งหนึ่งในเมืองหลี่จังหวัดมิน เมืองแห่งนี้มันมีขนาดใหญ่พอตัว เมืองแห่งนี้มีประชากรหลายสิบล้านคนอาศัยอยู่ และหากมันอยู่บนโลกดินมันก็จะกลายเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่มาก
แต่ทว่ามันกลับเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีจำนวนมากในดาวดวงแห่งนี้ ! ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามหานครหรือเมืองหลวงจะยิ่งใหญ่แค่ไหน !
เมืองหลี่แบ่งออกเป็น 11 ส่วน ส่วนที่ 1 คือหอคอยเชื่อมสวรรค์ที่อยู่ใจกลางเมือง ส่วนที่ 2 ถึง 12 นั้นกระจายออกไปรอบ ๆ
ในส่วนที่ 6 บนตึกที่สูงกว่า 10 กิโลเมตร นี้คือบ้านของตระกูลหลี่
ตระกูลหลี่คือเจ้าของบริษัทธุรกิจที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เชื่อมต่อ (HCD) บริษัทนั้นมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจอาหารเป็นหลัก
ในเวลานี้ภายในบ้านตระกูลหลี่ ได้มีการรวบตัวกันของตระกูลหลี่เนื่องจากหัวหน้าตระกูลหลี่ใกล้ถึงแก่ความตายแล้ว
“ข้าขอโทษจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าอาการป่วยนี้จะส่งผลกระทบกับท่านเจ้าบ้านขนาดนี้ ข้าขอแนะนำให้หาโสมเพื่อนำมายืดอายุของท่านเจ้าบ้าน 3 วัน”
ด้วยบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลล่าร์ เป็นธรรมดาที่ตระกูลหลี่จะจ้างหมอจากเอกชนมาได้ และตอนนี้ก๋งฉุนก็ส่ายหัวและบอกคำวินิจฉัยกับคนตรงหน้า
“ไม่มีวิธีแล้วงั้นรึ ?” ชายวัยกลางคนที่มีพลังครอบคลุมร่างกล่าวขึ้น เขาคือหลี่เหลียง ลูกชายคนโตของหลี่ฉินเทียน ใบหน้าของหลี่เหลียงตอนนี้เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
“พรสวรรค์ในด้านการฝึกตนของท่านเจ้าบ้านย่ำแย่มาก ต่อให้กินสมุนไพรหรือยาไปหลายชนิดมันก็ยังทำให้เขาติดอยู่ในขั้นแรกของร้อยปี มันไร้ประโยชน์ยกเว้นเสียแต่ท่านจะหาผลธรรมชาติมาได้ …”
ก๋งฉุนส่ายหัวและไม่พูดต่อ ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ เองก็เงียบลงเช่นกัน ผลธรรมชาติ ? นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะมีเงินมากแค่ไหนก็ซื้อไม่ได้ ผลไม้เพียงลูกเดียวก็สามารถทำให้ผู้ฝึกตนพ่านพ้นขั้นแรกของร้อยปีไปได้ นอกจากนี้มันยังช่วยทำให้พวกเขามีอายุยืนยาวไปอีก 100 ปี !
ตระกูลหลี่ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะหาผลไม้มหัศจรรย์แบบนั้นมาได้ ในตอนที่ผลไม้นั่นปรากฏตัว มันจะเกิดความวุ่นวายจากนั้นก็ถูกตระกูลใหญ่ครอบครองไปทั้งหมด
แม้ว่าตระกูลหลี่จะมีบริษัทมูลค่าหลายพันล้าน แต่ธุรกิจของพวกเขายังถือว่าติดดิน มันยังอ่อนแอเกินไปที่จะไปยืนอยู่ระดับเดียวกันกับพวกตระกูลใหญ่ได้
‘ดูเหมือนหัวหน้าตระกูลจะยื้อชีวิตต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่ายังไงข้าจะต้องเอามรดกตระกูลมาให้ได้อย่างน้อย 1 ใน 3 !’
จากคนทั้งหมด 10 กว่าคน ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกเศร้า อย่างน้อยลูกชายคนที่ 3 หลี่ฮวงกลับเต็มไปด้วยความยินดี
หากอยู่ในสถานการณ์ปกติเขาไม่มีทางที่จะได้รับส่วนแบ่งใด ๆ จากตระกูลได้ หากเขาได้ส่วนแบ่งหรือเงินปันผลแต่ละปีเขาก็สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด แต่ตอนนี้พ่อที่เคยสุขภาพดีของเขากำลังใกล้ตายแล้ว มันถือว่าเป็นโอกาสดีของเขา
ในขณะเดียวกัน ภรรยาของหลี่ฮวงก็เดินออกมาและกล่าวขึ้น “ท่านพี่ ในเมื่อท่านพ่อใกล้จากไปแล้ว งั้นเราจะทำยังไงกับมรดกที่เขาทิ้งเอาไว้ ?”
“บัดซบเอ้ย ! ท่านพ่อได้ทำพินัยกรรมไว้แล้ว และมันได้บอกไว้ว่าพวกแกจะไม่มีวันได้เงินไปซักเหรียญเดียว !”
ลูกชายคนที่ 2 หลี่ไป๋หยู่ระเบิดความโกรธออกมา
“อะไร ? เป็นไปไม่ได้ ! ท่านพ่อไปทำพินัยกรรมไว้ตอนไหนกัน ? แล้วทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่อง ?”
ดวงตาของหลี่ฮวงเบิกกว้างด้วยความตกใจ ความคิดแรกของเขาคือมันเป็นเรื่องโกหก มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน
ผู้หญิงวัย 20 ปีเดินออกมาและหัวเราะ “ลุงสาม มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะไม่รู้เพราะคุณแค่ถือหุ้นธรรมดาบางส่วนเท่านั้น มันทำได้แค่ปันผลบางส่วนให้คุณ แต่สำหรับการออกสิทธิ์เสียงใด ๆ ที่เกี่ยวกับบริษัท คุณไม่มีสิทธิ์ คุณคิดว่าท่านปู่ไม่รู้หรือยังไว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณทำอะไรไว้ ? เขาเคยบอกเอาไว้ว่าหากคุณได้บริษัทนี้ไปก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบริษัทจะยังเป็นของคนตระกูลหลี่หรือกลายเป็นของตระกูลซู !”
“นังเด็กบ้า แกกล้าพูดยังงี้กับป้าแกงั้นหรอ !” ซูเหม่ยกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ
ในขณะที่ทุกคนกำลังเริ่มทะเลาะกัน ชั้นหมอกสีเทา ๆ ก็ปรากฏขึ้นในห้อง อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะมองเห็นได้ต่อให้หมอกสีเทามาอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีใครเห็นมัน
หมอกสีเทาลอยไปห่อหุ้มร่างของหลี่ฉินเทียนที่ไม่ได้สติ หลังจากนั้นมันก็เริ่มซึมเข้าไปในร่างของหลี่ฉินเทียน
หลังจากนั้นวิญญาณของเป่ยเฟิงที่อยู่ในหมอกสีเทาก็เริ่มสั่นก่อนจะเริ่มจมลงไปในทะเลจิตสำนึกของหลี่ฉินเทียน !
วิญญาณของเป่ยเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าคนปกติมากหลายเท่า หลี่ฉินเทียนเองก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนที่อ่อนแอในขั้นแรกของร้อยปีเท่านั้น แม้ว่าพลังจิตของเขาจะแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา แต่เมื่อเทียบกับเป่ยเฟิงแล้วเขาก็เหมือนหิ่งห้อยตัวเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าดวงจันทร์ !
วิญญาณของหลี่ฉินเทียนตอนนี้ถึงขีดจำกัดแล้ว อายุขัยของร่างกายนี้เองก็ถึงขีดจำกัดเช่นกัน แต่เมื่อวิญญาณที่ทรงพลังของเป่ยเฟิงปรากฏในทะเลจิตสำนึกของเขา จากวิญญาณที่อยู่ได้นานอีกหลายวันก็ได้แตกสลายหายไปทันที !
ทันทีที่วิญญาณได้ซึมเข้าไปอย่างสมบูรณ์ ภาพชีวิตจำนวนมากก็ปรากฏในหัวของเป่ยเฟิง จากนั้นแรงกดดันสีเทาจำนวนมากก็ปะทุออกมาจากร่างของเขา !
หมอกสีเทาที่หนาแน่นเปลี่ยนเป็นเส้นบาง ๆ ลุกลามเข้าไปในร่างกายและเซลล์ทุกอย่างในตัวของหลี่ฉินเทียน !
เช่นเดียวกับสมองของเขา หมอกสีเทาได้แทรกไปทุกมุมของสมองและเริ่มเปลี่ยนแปลงมัน กระบวนการนี้มันเกิดขึ้นก็เพื่อที่ร่างกายนี้จะปรับเข้ากันได้กับวิญญาณของเป่ยเฟิงโดยสมบูรณ์ !
หากร่างกายและจิตวิญญาณไม่สามารถทำงานรวมกันได้ มันจะทำให้การควบคุมทั้งร่างกายและวิญญาณติดขัดและทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ในขณะเดียวกันมันก็จะทำให้พลังทั้งหมดที่ฝึกมาหายไปตลอดกาล หน่ำซ้ำมันยังทำให้ไม่สามารถฝึกฝนได้อีกด้วย !