Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 498

ตอนที่ 498

“นั่นใคร !”

ใบหน้าของลี่เที่ยนเปลี่ยนไปพร้อมกันหันหลังไปมอง ในมือของเขากำพลั่วไว้แน่น

“กลุ่มคนกว่า 10 คนก้าวออกมาจากเงามืดและหัวเราะขึ้น “คิคิ อย่างที่ข้าบอกเห็นไหม ลี่เที่ยนมันเป็นพวกโง่ แกคิดจริง ๆ งั้นหรอว่าแกจะปกปิดสิ่งที่แกทำในวันนี้ได้ ?”

“ฮ่าฮ่า”

หัวใจของลี่เที่ยนจมดิ่งเมื่อเห็นคนที่ก้าวออกมา พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดในเหมือง หากมีแค่ 1 หรือ 2 มันก็ไม่มีอะไรให้กลัว แต่เพราะพวกเขามาหลายคนและยังมี 2 คนที่เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ติดอันดับ 1 ใน 2,000 ของเหมือง !

“พวกแกรู้ได้ยังไงกัน ?”

ใบหน้าของลี่เที่ยนเต็มไปด้วยความโกรธ เขารู้สึกว่าเขาทำได้ดีแล้วในตอนกลางวัน มันไม่น่าจะมีความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นได้

“ลองดูเขาสิ แกรู้สึกคุ้น ๆ ไหม ?”

ซิหยุนยิ้มก่อนจะปรบมือให้คน ๆ หนึ่งเดินออกมาจากด้านหลัง

“ข้าจำได้ว่าแกอยู่ข้างข้าเมื่อตอนกลางวัน แต่ข้าก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดูแปลกไปแต่แกรู้ได้ยังไงกัน ?” ลี่เที่ยนถามด้วยความสนใจ

เขาไม่ได้รู้สึกกังวลอีกต่อไป เขาแค่อยากรู้ว่าเขาถูกจับได้อย่างไรกัน ไม่ว่ายังไงคนงานที่มาครั้งนี้ก็เพื่อเหล็กเมฆดวงดาวกับแก่นแท้เหล็ก แต่ทว่ามันกลับไม่มีแร่ทั้ง 2 ชนิดนี้ มันจึงไม่มีการต่อสู้แย่งชิงกันแน่นอน

“ในสมัยเด็ก ๆ ตั้งแต่ยังไม่ลืมตาข้าก็ได้ยินเสียงขุดดิน ข้าฟังมันมานานกว่า 5 ปี จนสุดท้ายก็มาเป็นคนขุดเหมือง ข้าแยกแยะได้ดีว่าความแตกต่างระหว่างเสียงขุดเจอบางอย่างมันเป็นยังไง และที่แกขุดก็เป็นเสียงที่ไม่เหมือนกับเจอแร่ส่องประกายดวงดาว” เว่ยซานกล่าวด้วยความภูมิใจ

ใบหน้าของลี่เที่ยนแข็งค้าง การถูกจับได้ด้วยวิธีนี้มันช่างไม่ยุติธรรมกับเขาจริง ๆ ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยความน่าเกลียด แต่ทว่าตอนนี้ความโชคร้ายมันก็ไม่ได้ตกอยู่ที่เขาคนเดียวแล้ว

ซิหยุนก้าวออกมาและพูดพร้อมรอยยิ้ม “ลี่เที่ยน ตราบใดที่แกออกไปตอนนี้ ข้าจะทำเป็นไม่เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้น”

“ฮ่าฮ่า พวกแกคิดว่าตัวเองชนะแล้ว ? แกเชื่อจริง ๆ หรอว่าข้าขุดได้แร่เหล็กเมฆดวงดาว ?”

ลี่เที่ยนหัวเราะจนน้ำตาไหลออกมาจากดวงตา ในเวลาเดียวกันเขาก็ขยับตัวเผยให้เห็นแร่ด้านหลังเขา

เมื่อเห็นลี่เที่ยนทำตัวเปลี่ยนไป ซิหยุนและคนอื่น ๆ ก็เริ่มรู้สึกไม่ดี แต่เมื่อพวกเขารีบวิ่งไปข้างหน้าและเห็นแร่สีเงินขาว ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความน่าเกลียดทันที

“ไหนแกบอกว่าถ้าไม่ใช่แร่แก่นแท้ของเหล็กก็เป็นเหล็กเมฆดวงดาวไง ?” ซิหยุนหันมามองเว่ยซานด้วยความโกรธ

“นายท่าน ข้าไม่รู้จริง ๆ … ข้ารู้แค่ว่าแร่เหล็กเมฆดวงดาวกับแร่แก่นแท้ของเหล็กมันคงทนต่อพลั่ว !” เว่ยซานพูดตะกุตะกะด้วยความตกใจ

‘หึ ทำยังกับบิดาผู้นี้ไม่มีตัวตนอยู่ !’ หากไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอกว่า คนพวกนี้จะเมินเฉยต่อลี่เที่ยนได้ยังไงกัน ?

“ขยะ !”

“ป้าป !” ซิหยุนต่อยไปที่หน้าเว่ยซานจนทำให้มีเสียงดังไปทั่วอุโมงค์

“ถึงยังงั้น แร่นี้กลับหยุดพลั่วเอาไว้ได้ มันน่าจะเป็นแร่ที่แข็งมาก บางทีมันอาจจะเป็นแร่ล้ำค่าก็ได้ถ้าเราขุดมันออกมาและเอาไปให้ผู้จัดการเหมือง”

ทุกคนคิดและพยักหน้า พวกเขามาแล้วจะให้กลับไปด้วยมือเปล่าได้ยังไง เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นแร่อะไร มันจึงไม่มีค่าหากจะต้องต่อสู้แย่งชิงกัน เพราะหากพวกเขาสู้กันจนตายไปข้างแต่ทว่าแร่นั้นกลับเป็นแร่ไร้ค่า มันจะกลายเป็นว่าพวกเขาเหมือนหมาไร้ค่าที่น่าตลกที่สุด

“ปั้ก !”

พลั่วจำนวนมากร่อนลงและแทงเข้าไปในดิน

แร่สีเงินขาวเดิมมีขนาดเพียงอ่างล้างมือ แต่เมื่อค่อย ๆ ขุดมันขึ้นมาก็ทำให้ขนาดของมันในตอนนี้เท่ากับรถยนต์แล้ว

“แร่นี้มันใหญ่ไปหรือเปล่า ?”

กลุ่มที่ขุดขึ้นมารู้สึกผิดหวังมาก นอกจากจะขุดขึ้นมายากแล้วพวกเขายังไม่รู้เลยว่ามันคือแร่อะไร

“เอ๊ะ ? นั่นอะไร ?”

ในขณะที่กำลังเอามันออกมาพร้อมกับเคลียร์ดินรอบ ๆ พวกเขาก็เห็นว่าแร่มันมีมากยิ่งขึ้น !

“แร่นี้มันแข็งมาก นอกจากนี้มันยังดูใหญ่มากด้วย ดูเหมือนพวกมันจะเชื่อมเป็นแร่ก้อนเดียวกัน พวกเราคงไม่มีทางแยกมันเป็นชิ้น ๆ ได้แน่” ซิหยุนมองพลั่วที่หักในมือด้วยความตกใจ และเมื่อเห็นไปมองแร่สีเงินขาวมันกลับไม่มีร่องรอยใด ๆ

“เราก็แค่แจ้งเรื่องนี้ให้กับผู้จัดการเหมืองก็พอ พลังของพวกเราในตอนนี้ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะขุดพวกมันออกมาได้ ถ้าเป็นผู้จัดการเขาอาจจะขุดมันขึ้นมาเองก็ได้ ถ้าแร่นี้มันเป็นสมบัติล้ำค่าจริงความพยายามของเราต้องไม่สูญเปล่าแน่นอน”

ปากของลี่เที่ยนเบิกกว้างพร้อมกับมองแร่ใหญ่ ๆ ตรงหน้า สุดท้ายเขาก็ส่ายหัวและโยนพลั่วทิ้งไป เขาไม่อยากขุดอีกแล้ว มันต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกันกว่าจะขุดเจ้าแร่โง่ ๆ นี้ขึ้นมาได้ ?

ทุกคนก็หยุดขุดและพยักหน้าเห็นด้วย แม้ว่านิกายครองสวรรค์จะเป็นนิกายที่โดดเด่น แต่เพราะพวกเขาให้ความเป็นธรรมกับเหล่าศิษย์อย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนขโมยผลงานนี้ไปเป็นของคนอื่น

ซิหยุนและลี่เที่ยนเดินออกไปจากอุโมงค์โดยมีคนอื่น ๆ เฝ้าอยู่ด้านหลัง

“ผู้จัดการ พวกเรามีเรื่องต้องรายงาน”

ภายใต้การนำของศิษย์ชั้นนอก ซิหยุนและลี่เที่ยนก็ถูกนำมาตัวมายังห้องที่หรูหรา

“โอ้ ? ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ข้าพอใจละก็ คงมีหลายคนที่อาจจะต้องขุดหินอยู่ที่นี่ไปจนตายก็ได้” เสียงของเว่ยซุยบิงช่างฟังดูหนาวเหน็บ

แม้ว่าเว่ยซุยบิงจะเป็นถึงผู้จัดการเหมือง แต่เขาเป็นเพียงศิษย์ชั้นในธรรมดา ๆ ของนิกายเท่านั้น ซึ้งผู้จัดการเหมืองจะพลัดเปลี่ยนไปทุก ๆ 10 ปี ตำแหน่งนี้สำหรับนิกายแล้วถือว่าเป็นตำแหน่งธรรมดา ๆ

โดยปกติแล้ว เว่ยซุยบิงจะไม่ออกมาจัดการเรื่องใด ๆ ที่เกินหน้าที่ของเขา เขาใช้เวลาส่วนมากในการฝึกฝน และการที่เขาถูกรบกวนในตอนที่กำลังฝึกฝนอยู่ทำให้เขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ไม่ใช่เพียงแค่ลี่เที่ยนและซิหยุนที่รู้สึกหนาวเหน็บ แม้กระทั่งศิษย์สายนอกหลายคนก็สั่นด้วยความกลัว พวกเขารู้ดีว่าคำพูดนี้ไม่ได้หมายถึงเพียงลี่เที่ยนและซิหยุน แต่หมายถึงพวกเขาด้วย

ศิษย์คนหนึ่งมองลี่เที่ยนและซิหยุนพร้อมกับความเกลียดชัง พวกเขาไม่น่าเอาตัวมาเสี่ยงเพียงเพราะเห็นผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยเลย !

ซิหยุนพูดด้วยความกระวนกระวาย “ผู้จัดการ พวกเราเจอแร่ที่ไม่รู้จัก มันแข็งมาก แม้แต่พลั่วที่ทำมาจากเหล็กกล้าของเราก็ทำรอยอะไรไม่ได้เลย”

เงียบ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเงียบ คนที่อยู่ในห้องตอนนี้รู้สึกได้ถึงเหงื่อขนาดเท่าลูกปัดที่ปรากฏบนหน้าผากของพวกเขา

“เอี๊ยดด !”

ภายใต้การจ้องมองของหลายคน เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น จากนั้นเด็กหนุ่มที่อายุประมาณ 18 ปีก็เดินออกมาและมองรอบ ๆ ด้วยความเย็นชา

เด็กหนุ่มคนนี้ใส่ชุดคลุมที่ทำมาจากตัวไหมคริสตัลน้ำแข็ง ซึ้งมันสามารถทนต่อความร้อนและความหนาวเย็นได้ เขาม้วนผมคล้ายทรงโบราณ กระบี่ห้อยอยู่ที่เอวของเขานิ่ง ๆ ลักษณะของเขาดูเย็นชาอย่างมาก

“นำทาง !” เด็กหนุ่มผู้เบา ๆ

“ครับท่าน !”

หัวใจของซิหยุนและลี่เที่ยนเต็มไปด้วยความกังวลในขณะนำทาง พวกเขาอธิษฐานให้แร่นี้เป็นสมบัติล้ำค่า ไม่อย่างนั้นจะเป็นความโชคร้ายที่รอคอยเขาอยู่

พวกเขาเดินทางผ่านทางเดินที่ซับซ้อนและกลับมายังที่เดิมที่เจอแร่ ตอนนี้พื้นผิวของแร่สีเงินขาวถูกทำความสะอาดแล้ว ลวดลายจำนวนมากสามารถมองเห็นได้บนผิวของมันราวกับมันคือรูนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

“นี่คือแร่ที่พวกเจ้าบอก ? น่าสนใจจริง ๆ !”

เว่ยซุยบิงเผยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นจนทำให้ซิหยุนและคนที่เหลือถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ผู้จัดการ แร่นี้มันคืออะไร ทำไมแร่นี้มันแข็งมาก ๆ !” ลี่เที่ยนถามด้วยความสงสัย

“นั่นก็เพราะความรู้ของพวกเจ้ายังน้อยเกินไป !”

เว่ยซุยบิงยิ้มจาง ๆ จากนั้นหลินฉีของเขาก็ผุดออกมาจากฝ่ามือ

“ไม่ว่ามันจะแข็งแค่ไหน ตามใดที่ความแข็งแกร่งของใครบางคนแข็งแกร่งพอ เขาก็สามารถตัดได้ทุกอย่างแม้ว่ามันจะเป็นของที่แข็งที่สุดในโลกก็ตาม !” เว่ยซุยบิงกล่าวจบ คนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความสับสน มันหมายความว่าไงกัน ? แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นว่าเว่ยซุยบิงเปลี่ยนหลินฉีให้กลายเหมือนพลั่ว !

พลั่วมันมีรูปร่างคล้ายกับค้อน ปลายด้านหนึ่งแหลมคมและอีกด้านราวกับค้อนหนัก ๆ

คนรอบ ๆ มองพลั่วที่ดูเหมือนหนักเพียง 10 จิน แต่เมื่อมันอยู่ในมือของเว่ยซุยบิงมันราวกับหนักเท่าภูเขา !

“เปลี่ยนเบาให้เป็นหนัก ! นี้คือสิ่งที่สอนศิษย์ทุกคนในนิกายครองสวรรค์ !”

“ทรงพลังมาก ! การโจมตีของเขาแม้แต่ข้าเองก็หลบไม่ได้แน่ ๆ ไม่ว่ายังไงข้าจะต้องเป็นศิษย์ของนิกายครองสวรรค์ให้ได้ !”

ทุกคนตะโกนด้วยความตกใจ ความแข็งแกร่งของเว่ยซุยบิงมันน่ากลัวเกินไป !

“แก๊ง !”

เสียงกระทบบางอย่างดังขึ้นทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความมึนงง

เสียงมันราวกับฟ้าร้องจนแสบแก้วหู ผู้ที่มีพลังอ่อนแอรู้สึกราวกับเยื่อในหูกำลังฉีกขาดทำให้กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว !

“โอ้ ท่านผู้จัดการช่างแข็งแกร่งจริง ๆ ! สุดท้ายหินแร่ก้อนนี้มันก็แคหินธรรมดา ๆ สำหรับผู้จัดก…”

หนึ่งในคนที่ตั้งสติได้รีบพูดขึ้นและเตรียมจะพูดเลียขา แต่ทันใดนั้นก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค คำพูดบางคำก็ติดอยู่ในปากของเขา

“ตาย !”

ใบหน้าของเว่ยซุยบิงเปลี่ยนเป็นสีแดง แกไม่เห็นหรือแกกำลังพยายามจะบอกว่า ‘แกตาบอด ?’ แกไม่เห็นหรือไงว่าแร่นี้มันยังอยู่ดี ? เว่ยซุยบิงเค้นเสียงอย่างเย็นชาก่อนจะตบออกไปราวกับตบแมลงวัน

คลื่นพลังงานพุ่งไปหาคนที่พูดเมื่อครู่ทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความกลัว จากนั้นร่างของเขาก็ระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด

“บูม !”

รอยฝ่ามือเล็ก ๆ ปรากฏด้านหลังของชายที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้ ฝ่ามือมันลึกเข้าไปหลายเมตร แม้แต่ลายนิ้วมือก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

“อึก !”

คนที่อยู่รอบ ๆ แข็งค้างพร้อมกับกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ไม่มีใครกล้าเงยหน้ามองเว่ยซุยบิงเลยซักคน

“น่าสนใจจริง ๆ ! ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะแข็งซักแค่ไหน !”

“แก๊ง !”

เว่ยซุยบิงคว้ากระบี่ขึ้นมาและจากนั้นพลังงานที่น่าตกใจก็ระเบิดออกมาจากตัวเขา !

คนที่อยู่รอบ ๆ ได้ยินเพียงเสียงกระบี่ถูกปลดออกมาจากฝัก จากนั้นแสงสีขาวก็กระพริบไปมาตรงหน้าพวกเขา

หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น

“ดิ๊ง ดิ๊ง !”

เสียงของเหลงกระทบกับหินดังขึ้นในอุโมงค์ที่เงียบสงบ กระบี่ในมือของเว่ยซุยบิงหักไปแล้วแต่เขาก็ถือไว้เพียงด้ามของมันเท่านั้น เศษชิ้นส่วนของกระบี่บินกระจายไปทุกทิศทางและมีหนึ่งในนั้นเฉือนผิวของเขาทำให้เกิดเลือดไหลออกมาจากแผลของเขาอย่างต่อเนื่อง

“ฮ่าฮ่า ไปเรียกคนมารวมตัวกันที่นี่ 10,000 คน แล้วขุดมันขึ้นมาซะ !”

แทนที่จะโกรธ เว่ยซุยบิงกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับมองกระบี่หักในมือของเขาด้วยความตื่นเต้น

กระบี่ในมือเขาไม่ใช่ส่งที่จะเอาไปเทียบกับเหล็กธรรมดา ๆ ได้ มันถูกสร้างออกมาจากเหล็กผสมที่แม้กระทั่งคนธรรมดาก็ยกขึ้นมาได้ยากลำบาก มันสามารถตัดเหล็กหนา ๆ 1 เมตรได้อย่างง่ายดาย นี้เป็นสิ่งที่เขาใช้คะแนนนิกายจำนวนมากถึงจะได้มันมา

แต่เมื่อมันกระทบเข้ากับแร่ตรงหน้า มันกลับแตกเป็นชิ้น ๆ นั้นหมายความว่าแร่นี้คือแร่ที่มีความแข็งสูงมาก การสูญเสียกระบี่ระดับต่ำไปมันไม่มีค่าเลยเมื่อเทียบกับการขุดแร่นี้ออกมาและส่งมอบไปให้กับนิกาย เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะได้รับกระบี่ชิ้นอื่นที่เขาต้องการ !

“ครับท่าน !”

ศิษย์สายนอกที่มาด้วยกันรีบวิ่งออกไปทันที

“ไม่ ไม่ต้องแล้ว ข้าจะไปแจ้งเรื่องนี้ให้กับทางนิกายเอง !”

เว่ยซุยบิงพูดขึ้นจากนั้นร่างของเขาก็หายไปโดยทิ้งไว้เพียงลี่เที่ยนและคนอื่น ๆ ที่กำลังมองจุดที่เขาหายไปด้วยความสับสน

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท