Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 512

ตอนที่ 512

เป่ยเฟิงมีสีหน้าแปลก ๆ บนหน้าของเขา มันเป็นแค่กระต่ายนักเลงแต่ทำไมพวกมันถึงหื่นขนาดนี้กัน ? หากมันกลายร่างเป็นหมาพุดเดิ้ลจริง ๆ นั่นจะกลายเป็นภาพที่เขาไม่อยากจดจำมากที่สุด

“ด้วยคนเพียงแค่นี้แต่คิดจะทำลายรังของพวกกระต่ายนักเลงทั้งหมด ? นี้มันเหมือนสิ่งที่คนโง่ชอบพูดเพ้อฝันถึงสิ่งอันยิ่งใหญ่ ข้าละอยากรู้จริง ๆ ว่าเจ้าพวกที่ซ่อนอยู่ในเงามืดมันกำลังคิดอะไรกันอยู่ ?”

เป่ยเฟิงยืนอยู่นอกถ้ำมองไปที่ไกล ๆ ไม่มีใครรู้เช่นกันว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากการต่อสู้ได้จบลง มีมนุษย์หลายพันคนถูกสังหาร เมื่อนับรวมจำนวนคนที่เหลือรอบในตอนนี้เหลือน้อยกว่า 500 คนเสียอีก มันเป็นอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก

ผู้นำของทั้ง 4 กลุ่มรู้สึกปวดใจอย่างมากกับการสูญเสียครั้งนี้ พวกเขารวมตัวกันและปรึกษากันเป็นเวลานานจากนั้นก็รวมกลุ่มเป็นกองกำลังเดียวกันอีกครั้ง

กระต่ายนักเลงเองก็ถูกสังหารไปไม่น้อยเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะการมาของกระต่ายนักเลงที่มีพลังขั้นสี่ระดับสูงสุด จำนวนที่พวกมันจะถูกสังหารคงมีมากกว่านี้

น่าเสียดายที่กระต่ายนักเลงมีจำนวนมากเกินไปอยู่ดี อย่างน้อยที่ยืนอยู่บริเวณนี้ก็มีไม่ต่ำกว่าหมื่นตัว นอกจากนี้พวกมันส่วนใหญ่มีพลังขั้นร้อยปี ด้วยความช่วยเหลือจากไผ่จักรพรรดิสวรรค์มันคงขึ้นอยู่กับเวลาที่มันจะพัฒนาเป็นขั้นสี่ของร้อยปี

ทางออกเดียวในตอนนี้คือการฆ่าพวกมันให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นหากการต่อสู้ถูกลากยาวออกไปมันจะกลายเป็นเปิดโอกาสให้พวกมันฆ่าล้างพวกเขาได้

ชุยหยุนเทียนมองไปที่แคมป์ที่มีแสงไฟอยู่ไกลออกไป ใบหน้าไร้อารมณ์ราวกับพระเจ้าของเขามองแสงไฟในแคมป์ด้วยท่าทางเหยียดหยามโลกมนุษย์

“เตรียมการไปถึงไหนแล้ว ?”

เขาพูดเบา ๆ

ชายชุดดำปรากฏด้านหลังชุยหยุนเทียน เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งและตอบด้วยความเคารพ “นายน้อย การเตรียมการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่การถวายเครื่องบูชาไม่กี่อย่างเท่านั้น”

“อืม ไปจัดการซะ”

ชุยหยุนเทียนพยักหน้า

“ครับ !”

ชายชุดดำหายตัวไปราวกับก้อนควัน

ค่ำคืนมาเยือนพร้อมกับดวงจันทร์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆมืด ตอนนี้ทั้งป่ามืดอย่างมืด มันมืดขนาดที่ว่าไม่สามารถมองเห็นมืดของตัวเองที่เหยียดออกไปข้างหน้าได้เลย

เงาดำจำนวนมากพุ่งออกมาจากป่าพร้อมกับดาบยาวสีดำในมือ

หลายชีวิตถูกฆ่าเงียบ ๆ เงาดำเหล่านี้ราวกับหุ่นยนต์นักฆ่าที่รวดเร็วและแม่นยำ !

ชายชุดดำกว่า 70 คนยืนอยู่บนต้นไม้ที่ไกลออกไป ในมือของเขาถือลูกบอลสีแดงเท่ากำปั้นไว้

ลูกบอลมันราวกับของเหลวที่เหมือนจะมีชีวิต มันเปลี่ยนแปลงไปมา

หลังจากนั้นเขาก็เอาหม้อทองแดงขนาดใหญ่เท่ากะโหลกมนุษย์ออกมาวางไว้ข้างหน้า หลังจากนั้นก็โยนลูกบอลที่เหมือนของเหลวสีแดงลงไป

“ซี๊ ซี๊ !”

เมื่อมันถูกโยนลงไปในหม้อก็เกิดเสียงกัดกร่อน

ของเหลวสีแดงระเหยอย่างรวดเร็วและเลือดสด ๆ จำนวนมากก็ปรากฏขึ้นในหม้อ

หม้อทองแดงยังคงอยู่ในสภาพเดิม หลังจากนั้นชายชุดดำแต่ละคนก็เดินไปที่หม้อแล้วเทเลือดที่อยู่ในหม้อออกมาทั้งหมด

หลังจากนั้นไม่นานผลึกเลือดสีแดงบาง ๆ ที่ก่อตัวขึ้นเหมือนขนมที่ด้านล่างหม้อก็ค่อย ๆ เผยโฉม

หลังจากเก็บผลึกเลือดด้วยความระมัดระวังเสร็จแล้ว ชายชุดดำก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เตรียมถอย”

มีเสียงคำสั่งดังขึ้น

ชายชุดดำคนอื่น ๆ ไม่ปริปากใด ๆ เขาจับดาบในมือไว้แน่น

ในค่ายที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างหนักหน่วง มีคนหลายร้อยคนกำลังลาดตระเวนด้วยความระมัดระวัง นี่คือภูเขาร้อยทำลายและพวกเขาก็อยู่ไม่ไกลจากรังของพวกกระต่ายนักเลง มันจึงไม่มีใครกล้าประมาท

“สิ่งเดียวที่มีค่าจากพวกกระต่ายนักเลงก็คือแกนอสูรของมัน แต่ถึงอย่างนั่นทำไมหัวหน้าถึงยังยืนหยัดที่จะล่าพวกมันด้วย ?”

“ใครจะไปรู้ ? บางทีหัวหน้าอาจจะต้องการช่วยกำจัดหายนะของผู้คนก็ได้ ?”

“ฮ่าฮ่า ครั้งสุดท้ายที่ข้าเห็นกระต่ายนักเลงขั้นสี่ของร้อยปีนั้นก็เมื่อ 40 กว่าปีก่อน แต่ทำไมตอนนี้กระต่ายนักเลงขั้นสี่ของร้อยปีถึงมีเยอะมากขนาดนี้กัน ?”

คนจำนวน 10 กว่าคนกำลังคุยกันในขณะเดินลาดตระเวนบริเวณขอบที่ตั้งของค่าย

ทุกคนลังเลเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไม่มีใครต้องการพูดถึงกระต่ายนักเลงขั้นสี่ของร้อยปีมากนักนอกจากนี้พวกเขาก็ยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าในอดีตเคยมีกระต่ายนักเลงขั้นสี่ของร้อยปี

“พี่ใหญ่หลิน พี่กำลังจะบอกว่ามันมีบางอย่างทำให้พวกกระต่ายนักเลงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ด้วยระยะเวลาสั้น ๆ ?” ชายคนหนึ่งถามพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวล

หลินหลี่หัวเราะเบา ๆ และพูดขึ้น “คิกคิก ทำไมแกคิดว่าหัวหน้าถึงอยากจะฆ่าล้างพวกกระต่ายนักเลงโดยไม่สนว่าต้องเสียอะไรไปบ้าง ? ข้าเดาว่าอีก 3 กลุ่มเองก็มาที่นี่เพราะเหตุผลเดียวกัน”

ในเวลาเดียวกันเขาก็พยายามคิดให้ออกว่าเพราะอะไรมันถึงทำให้กระต่ายนักเลงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

หลินหลี่สาปแช่งในใจพร้อมกับคิดอย่างโศกเศร้า ‘น่าเสียดายที่ดูเหมือนพวกเรายังไม่น่าไว้ใจพอ ! พวกเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรกัน ! ฮึ่ม เมื่อถึงเวลาอย่ามาโทษข้าละกันว่าเห็นแก่ตัว !’

เมื่อได้ยินทุกคนกำลังพูดถึงสมบัติประเภทต่าง ๆ เขาได้แต่ส่ายหัวช่วยไม่ได้ แต่ก็ไม่ลืมจะเย้ยหยันคนงี่เง่าเหล่านี้ในใจ

‘หืม ? นั่นอะไร ?’

หลินหลี่เห็นแสงสีแดงจาง ๆ เขาเอื้อมมือออกไปแล้วมองเห็นลูกบอลขนาดเล็กเท่าเมล็ดงากำลังเปล่งแสงสว่างสีแดงจาง ๆ

ก่อนที่หลินหลี่จะรู้ว่ามันคืออะไร ทันใดนั้นลูกบอลสีแดงก็เปล่งแสงสว่างออกมาฉับพลันและหายเข้าไปในฝ่ามือของเขา !

ร่างกายของเขาแข็งทื่อจากนั้นจุดสีแดงเล็กเท่าเมล็ดงาก็ปรากฏในฝ่ามือของเขา โดยมีจุดสีแดงเป็นจุดศูนย์กลาง ในมือช้าจุดสีแดงก็แผ่ขยายไปทั่วร่างของเขา !

“แคว๊ก !”

กล้ามเนื้อของหลินหลี่ขยายใหญ่ขึ้นจนราวกับลูกโป่ง เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ เพราะร่างกายที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า !

อีก 9 คนมองหลินหลี่ด้วยความตกใจ

ชายคนหนึ่งถามด้วยความกังวล “พี่ใหญ่หลิน ? เกิดอะไรขึ้น ?”

“แกร๊ก !”

หลังจากนั้นไม่นานร่างของหลินหลี่ก็ภายไป ปากของเขาเหยียดยาวจนถึงหู ฟันของเขายาวและแหลมคม เขาหายตัวไปแล้วไปปรากฏตัวตรงหน้าชายคนนั้นแล้วกัดที่คอของเขา !

“ฆ่ามัน ! ฆ่ามันซะ มันไม่ใช่พี่ใหญ่หลินอีกต่อไปแล้ว !”

สิ่งที่เกิดขึ้นมันเร็วเกินไป ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าร่างขนาดใหญ่นี้จะเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ นอกจากนี้ยังไร้เสียงอีกด้วย คนอื่น ๆ รีบใช้ทักษะและวิชาต่าง ๆ ของพวกเขาทันที

ในความมืดในป่า มีแสงสีแดงแปลก ๆ ลอยขึ้นไปมาอย่างนุ่มรวลราวกับหิ่งห้อยตัวน้อย

แสงสีแดงลอยเข้าไปในค่ายเงียบ ๆ แม้ว่าความเร็วของมันจะช้า แต่มันก็ไม่ได้เบี่ยงเบนทิศทางเดิมของมันเลย

สัตว์อสูรที่ขวางทางจะถูกมันจู่โจมทันที แม้ว่าจุดแสงเหล่านี้จะดูช้า แต่เมื่อพวกมันเข้าใกล้เป้าหมายในระยะ 3 เมตรแล้วความเร็วของมันจะเร็วเท่ากระสุนปืน !

ทันใดนั้นป่าใหญ่ก็มีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปมาก ไม่มีเสียงสัตว์อสูรคำรามใด ๆ นอกจากนี้ก็ไร้เสียงของแมลง

“มีบางอย่างผิดปกติ ข้ารู้สึกได้ถึงบางอย่าง”

ภายในเต็นท์ที่ใหญ่ที่สุดของเต็นท์หัวหน้าทั้ง 4 ค่าย ชายวัยกลางคนที่มีประสบการณ์สูงมากลืมตาขึ้นพร้อมกับแสงวิบวับในตา ชายคนนี้ดูเหมือนนักปราชญ์มากกว่านักรบกระหายเลือด

“พี่ใหญ่ พี่คิดมากไปหรือเปล่า พวกเรามีพี่น้องตั้งเยอะกำลังลาดตระเวนอยู่ ต่อให้มีสัตว์อสูรระดับราชาพันปีปรากฏตัวขึ้นมาจริง ๆ มันก็ฆ่าพวกเราทุกคนที่นี่เงียบ ๆ ไม่ได้หรอก” ชายร่างสูงและเต็มไปด้วยมัดกล้ามพูดขึ้นด้วยท่าทางเบื่อหน่าย เขากวัดแกว่งอาวุธแปลก ๆ ในมือ อาวุธนี้ดูเหมือนเบ็ดและใบมีดมารวมกัน

“บางทีอาจเป็นเพราะต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์มันสำคัญเกินไปจนทำให้ความรู้สึกของข้าถดถ่อยลง”

คนอีก 6 คนในเต็นท์เองก็ไม่ได้พูดอะไร มิตรภาพอันยาวนานหลายทศวรรษมันเป็นไปไม่ได้ที่จางจุนจะซ่อนอะไรจากพวกเขา

“อ๊ากก !”

เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความกลัวดังขึ้นในค่าย !

“แย่แล้ว ! เกิดอะไรขึ้น !”

ความไม่สงบในใจของเขาพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดทันที ด้วยการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยคมดาบมานานหลายปีทำให้เขาสามารถบอกได้อย่างง่ายดายเลยว่าเสียงกรีดร้องเมื่อครู่เป็นเสียงของคนที่ใกล้จะตาย !

“สัตว์ประหลาด อ๊ากก !”

“อ๊ากก !”

“วิ่งเร็ว ! ข้าหยุดมันไว้ไม่ไหวแล้ว !”

เสียงกรีดร้องจำนวนมากดังขึ้นพร้อมกับเสียงคำราม

จางจุดเป็นผู้ที่วิ่งนำหน้าออกมาพร้อมกับพี่น้องที่ไว้ใจได้ทั้ง 5 ของเขาที่อยู่ด้านหลัง เมื่อได้ยินเสียงเขาได้แต่ขมวดคิ้วแล้วรวบรวมหลินฉีไว้ในลำคอ จากนั้นก็อ้าปากและตะโกน “อย่า -“

แสงสีแดงที่ดูอ่อนแอหลายสิบอันหันไปยังทิศทางของจางจุนทันทีที่สัมผัสได้ถึงหลินฉีของเขา จากนั้นแสงเหล่านั้นก็พุ่งทะลุเกราะกำแพงหลินฉีของเขาได้อย่างง่ายดายแล้วกลายเป็นรอยแดงจำนวนมากบนร่างของเขา

คำพูดของจางจุนติดอยู่ในลำคอของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงพร้อมกับร่างกายที่หลอมรวมเข้ากับความมืด

“พี่ใหญ่ ?”

ทั้ง 5 คนที่อยู่ด้านหลังจางจุนเต็มไปด้วยความสับสน จุดแสงเหล่านั้นเร็วเกินไป แม้แต่จางจุนที่มีพลังครึ่งก้าวราชาพันปียังไม่สามารถตอบสนองได้ทัน !

เมื่อเห็นจางจุนหายเข้าไปในเงามืด ที่เหลืออีก 5 คนก็สับสนเข้าไปใหญ่

“อย่าตื่นตระหนัก ถึงเราจะไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใคร แต่มันดูเหมือนอยู่ใกล้เรามาก เฝ้าอยู่ตรงนี้ 2 คนเพื่อรอเรากลับมา ส่วนอีก 3 คนไปพาพี่ใหญ่กลับมา !”

ชายร่างกายยำผู้เต็มไปด้วยมัดกล้ามขมวดคิ้วแล้วพูดกับคนอื่น ๆ พร้อมกับเงี่ยหูฟัง

“เอ๊ะ พี่ พี่ใหญ่ ?”

ชายร่างกำยำมองไปที่แขนที่ยื่นทะลุออกมาจากหน้าอกข้างขวาของเขา แขนนี้เต็มไปด้วยเกล็ดและมันห่อหุ้มไปด้วยชั้นของเจราติน กรงเล็บที่แหลมคมยื่นออกมาจากนิ้วมือ มีเสียงแปลก ๆ ออกมาจากแขนราวกับมันเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่าง !

“โฮก !”

มืออีกข้างของจางจุนแทงทะลุหน้าอกของชายร่างกำยำ จากนั้นเขาก็กระชากมันด้วยพละกำลังมหาศาลจนร่างของชายกำยำแยกเป็น 2 ส่วน เลือดและอวัยวะจำนวนมากสาดกระจายไปทั่วอากาศ

“ไม่ !”

“นั่นไม่ใช่พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ตายไปแล้ว ! สิ่งที่อยู่ในร่างของเขาไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากปีศาจ !”

หลายคนไม่คิดเลยว่าจางจุนจะเป็นฝ่ายลงมือก่อน ทั้ง 4 คนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง พวกเขาระเบิดพลังออกมาเต็มที่ !

เขาโค้งยาวยื่นออกมาจากหูของจางจุน ตอนนี้เขาราวกับสัตว์อสูรในรูปลักษณ์ของมนุษย์

ทั้ง 4 คนไม่ได้อ่อนแอ มี 2 คนอยู่ขั้นสี่ของร้อยปีขั้นสูงสุดและอีก 2 คนอยู่ขั้นสี่ของร้อยปีขั้นสูง ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาในตอนนี้มันทรงพลังมาก !

เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มปะทะกัน ใบหน้าของจางจุนก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายและโหดเหี้ยม เขาทนต่อแรงกระแทกเข้ามาแล้วชกไปที่ชายคนหนึ่งที่มีพลังขั้นสี่ระดับสูง จากนั้นชายคนนั้นร่างก็ระเบิดกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย !

“แกร๊ก !”

ง้าวที่พุ่งเข้าหาหัวของจางจุนถูกป้องกันเอาไว้โดยเขาของเขา การปะทะกันของง้าวและเขามันเกิดประกายไฟก่อนที่ทั้งคู่จะแตกเป็นชิ้น ๆ !

เพียงเวลาแค่ 5 นาที รูปลักษณ์ของจางจุนเปลี่ยนไปมาก เขาของเขาหักไปข้างหนึ่งพร้อมกับบาดแผลขนาดใหญ่ที่ปรากฏบนหน้าอก แม้แต่แขนขวาของเขาก็ขาด

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท