คำสาประดับ 1 สามารถใช้ได้ 9 ครั้งต่อวันและมันจะส่งผลกับสัตว์อสูรขั้นสามของร้อยปีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันมีโอกาสที่จะฆ่าสัตว์อสูรขั้นสองได้อยู่ หากไม่สามารถฆ่าได้แต่อย่างน้อยก็ทำให้บาดเจ็บสาหัสได้
คำสาประดับ 2 สามารถใช้ได้ 6 ครั้งต่อวัน และมันจะส่งผลกับสัตว์อสูรขั้นสี่ของร้อยปีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันมีโอกาสที่จะฆ่าสัตว์อสูรขั้นสามได้อยู่ หากไม่สามารถฆ่าได้แต่อย่างน้อยก็ทำให้บาดเจ็บสาหัสได้
ส่วนคำสาปขั้น 3 นั้นส่งผลกับสัตว์อสูรระดับราชาพันปีเพียงเล็กน้อย มันยังมีโอกาสที่จะฆ่าสัตว์อสูรขั้นสี่ของร้อยปีเช่นกัน
ต้องยอมรับเลยว่าพลังนี้มันเหนือกว่าทุกพลัง มันไม่มีทางป้องกันใด ๆ ได้ และใครก็ตามที่กล้าเป็นศัตรูกับเป่ยเฟิง เขาก็สามารถสาปแช่งอีกฝ่ายทำให้ต้องโชคร้ายได้ !
แม้ว่าเขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ภายใต้ “กฏ” แต่มันก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ใครจะป้องกันได้ หากปราศจากสมบัติล้ำค่าที่เพิ่มโชคหรือสมบัติที่ใช้ป้องกันที่ทรงพลัง มันก็ไม่มีทางทำลายคำสาปได้
หลังจากทดลองอยู่ครู่หนึ่ง เป่ยเฟิงก็หยุดใช้พลังคำสาปแห่งภัยพิบัติ
ในขณะเดียวกัน กอริลลาหลังเงินสูง 3 เมตรกำลังมองมนุษย์ตัวเล็กที่กำลังวิ่งเข้ามาในอาณาเขตของมัน กอริลลาตัวนี้มีพลังขั้นสี่ของร้อยปี มันไม่ได้อ่อนแอกว่าสัตว์อสูรขั้นสี่ของร้อยระดับสูงสุดแม้แต่น้อย
“ฮู่ ฮู่ !”
กอริลลาหลังเงินถือกล้วยสีชมพูหนา ๆ เท่าต้นขาผู้ใหญ่ไว้ในมือ กลิ่นหอมที่เล็ดลอยออกมาจากกล้วยหอมดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่ามันคือผลไม้จิตวิญญาณบางอย่าง
เป่ยเฟิงเดินเข้าไปหากอริลลาอย่างใจเย็น ทุกก้าวที่เขาก้าวออกไปมันทำให้เกิดรอยแตกบนพื้น
“บูม !”
เป่ยเฟิงเพิ่มความเร็วจากนั้นขาที่ทรงพลังของเขาก็กระโดดออกไปพร้อมกับหลุมขนาดใหญ่กว่า 30 เมตรด้านหลัง ร่างของเขาพุ่งออกไปหากอริลลา !
“ฮู่ ฮู่ !”
กอริลลาหลังเงินถือกล้วยสีชมพูขนาดใหญ่ไว้ในมือ จากนั้นก็ยื่นมือออกมาบังตาในขณะที่มันมองเห็นเป่ยเฟิงที่ราวกับประกายแสงสีทองที่พุ่งเข้ามาหามัน
กำปั้นทรงพลังของเป่ยเฟิงหยุดชะงักพร้อมกับตัวเขาที่มองกอริลลาที่อ่อนแอด้วยความตกใจ
“ข้าจะโจมตีมันได้ยังไง ในเมื่อมันอ่อนโยนขนาดนี้ !” เป่ยเฟิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีในขณะที่เดินไปข้างหน้าแล้วยื่นมือออกไปแตะกอริลลา
กอริลลาใช้ความพยายามอย่างมากในการมองเป่ยเฟิง จากนั้นมันก็พยายามส่งกล้วยของมันให้เป็นของขวัญกับเขา ! ใครมันจะไปฆ่าสิ่งมีชีวิตที่อ่อนโยนแบบนี้ได้ ?
“ข้าจะอยากรู้จริง ๆ ว่ามันมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ได้ยังไง ?”
เป่ยเฟิงส่ายหัวแล้วเดินจากไปพร้อมกับกล้วยในมือ
“บูมม !”
“โฮะ โฮะ โฮะ !”
เสียงดังก้องตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเนื่องจากมีแขนขนาดใหญ่กระแทกเข้ากับหลังเป่ยเฟิง ด้วยการทุบเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เป่ยเฟิงจมลงไปในพื้นพร้อมกับหลุมขนาดใหญ่ที่กว้างกว่า 50 เมตร พื้นทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างแรง
“ท่านหัวหน้าตระกูล !”
“ฆ่ามัน !”
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที ใครจะไปคิดกันว่ากอริลลาที่มีแต่กล้ามเนื้อจะเต็มไปด้วยเล่ห์กล ! ดูจากพื้นที่ถูกทำลายและเสียงที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่าหมัดนั้นต้องหนักมากแน่นอน !
กอริลลามองหมัดขนาดใหญ่ของมันพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ยกับการชนะมนุษย์ที่โง่เขลา
“แข็งแกร่งจริง !” เสียงดังออกมาจากหลุมพร้อมกับร่างมนุษย์ที่กระโดดออกมาแล้วบินไปอยู่ข้าง ๆ หลี่ปู้และคนอื่น ๆ
“ท่านหัวหน้าตระกูล ! ข้าน้อยสมควรตาย !” หลี่ปู้และคนอื่น ๆ รีบล้อมรอบเป่ยเฟิงพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว พวกเขาหวาดกลัวมากว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับหัวหน้าตระกูล ..
“ไม่เป็นไร อย่าไปใส่ใจมาก” เป่ยเฟิงไม่คิดเลยว่าสัตว์อสูรจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ด้วยพลังจิตของเขาทำให้เขาเห็นการโจมตีฉับพลันของมันได้ทัน แต่เพราะอีกฝ่ายเร็วเกินไปรวมไปถึงเขายังควบคุมร่างกายไม่ดีพอ ทำให้การลอบโจมตีของมันทำได้สำเร็จ
“แกร๊ก !”
เขาขยับร่างกายไปมาจนเกิดเสียงดังออกมาจากกระดูก มีรอยสีแดงที่ระหว่างไหล่ของเขาซึ้งเกิดจากการถูกทุบจากกอริลลา
มันเจ็บนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ในไม่ช้ารอยสีแดงก็หายไปในไม่กี่วินาที
“ถอยไป ข้าอยากจะเล่นกับมันสักหน่อย”
“ท่านหัวหน้าตระกูล การที่ท่านลงมือเองมันมากเกินไป ได้โปรดให้เราจัดการกับลิงตัวนี้ด้วยเถอะ” หลี่ปู้กล่าวด้วยความกังวล
“ข้าจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 !” เป่ยเฟิงหันกลับมามองหลี่ปู้และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ครับท่าน !” หลี่ปูได้แต่ก้มหน้าลง อย่างไรก็ตามทั้ง 10 คนล้วนแต่เต็มไปด้วยความกังวล หลี่ปิงหยิบธนูนภาน้ำแข็งของเธออกมาพร้อมกับลูกธนูที่คล้ายสกรูพร้อมกับปลดปล่อยพลังเยือกแข็งออกมา จากนั้นก็เล็งไปที่กอริลลาหลังเงิน
เหตุการณ์ผิดพลาดมันสมควรเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ต่อจากนี้ไปมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
“ฮู่ ฮู่ !”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกอริลลาหลังเงินหายไปเมื่อเห็นเป่ยเฟิงมาปรากฏตรงหน้า หลังจากนั้นมันก็คำรามด้วยความโกรธจากนั้นก็ทุบหน้าอกของมัน !
“ทำไมแกไม่ตาย ! ทำไมแกถึงไม่ตาย !’
เมื่อมันโกรธ ร่างของมันก็สูงขึ้นจาก 3 เมตรเป็น 5 เมตร
ขนสีเงินด้านหลังโบกสะบัดไปตามสายลม กล้ามเนื้อของมันโป่งพองจนดูน่ากลัวราวกับมันเพิ่งถูกปลุกให้ตื่นจากการหลับไหล
ฟันแหลม ๆ สีขาวยาว 2 ซี่ปรากฏออกมาจากปากทำให้มันดูแตกต่างจากสัตว์อสูรก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง !
เป่ยเฟิงไม่กลัวแม้แต่น้อย ร่างของเขาแข็งแกร่งเทียบเท่าราชาพันปี นอกจากนี้หลินฉีของเขาก็อยู่ที่ขั้นสี่ของร้อยปี !
กำปั้นขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับกำปั้นขนาดเล็ก เป่ยเฟิงยังคงไม่ขยับใด ๆ ต่างกับกอริลลาหลังเงินที่ถอยหลังออกไปไกลถึง 10 เมตร
กอริลลามองดูกำปั้นของมันด้วยความตกใจ มนุษย์ตัวเล็กตรงหน้าดูเหมือนจะแข็งแกร่งมาก !
ชายและสัตว์ปะทะกันไปมา ทุกหมัดนั้นเต็มไปด้วยพลัง คลื่นกระแทกที่ทรงพลังระเบิดกระจายออกไปทุกทิศทาง !
ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้คนหลายสิบคนโอบล้อมถูกทำลายด้วยการต่อยเพียงครั้งเดียวของกอริลลา !
เป่ยเฟิงหลบหมัดจากนั้นก็ใช้ขาขวาเตะไปที่หัวของกอริลลา !
กอริลลาหลังเงินพยายามหลบเท้าที่ห่อหุ้มด้วยขวานมังกร จากนั้นมันก็หลบสำเร็จแต่ทว่าขวานมังกรนั้นกลับแยกต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของมันได้อย่างง่ายดาย !
“ภูเขาเหล็ก ปะทะ !”
“ฮู่ ฮู่ !”
ชายและสัตว์ปะทะกันอย่างดุเดือด ไหล่ของเป่ยเฟิงเอียงไปข้างหน้าเหมือนหมีที่ดูเงอะงะ จากนั้นเขาก็กระแทกร่างกายเข้ากับกอริลลา !
กอริลลาหลังเงินเองก็ไม่ถอย ดวงตาของมันเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับน้ำลายเหนียว ๆ ไหลออกมาจากปากของมัน ทันใดนั้นแขนของมันก็ขยายใหญ่ขึ้น 3 เท่าพร้อมกับความร้อนที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา จากนั้นมันก็ทุบไปที่เป่ยเฟิง !
หัวของมังกรปรากฏที่มือซ้ายของเป่ยเฟิง ร่างของมันขนดไปมาอยู่ที่แขนของเขาพร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันที่น่ากลัวออกมา !
มือซ้ายของเขาปะทะเข้ากับมือขวาของกอริลลา ในขณะเดียวกันไหล่ขวาของเขาก็กระแทกเข้ากับหน้าอกของกอริลลา
ภูเขาเหล็ก ปะทะ มันคือทักษะที่เขาเลียนแบบมาจากหมีกระแทกตอนที่มันใช้ร่างของมันชนเข้ากับต้นไม้ มันเป็นทักษะที่หมายถึงการระเบิดพลัง !
กอริลลาหลังเงินยืดแขนซ้ายออกไป แขนข้างนี้มันปลดปล่อยพลังฉีที่เย็นยะเยือกออกมาราวกับต้องการแช่แข็งโลก !
“แกร๊ก !”
ไหล่ของเป่ยเฟิงยังคงพุ่งต่อไปด้วยความมั่นคงราวกับภูเขา ในขณะที่มันกระแทกเข้ากับมือซ้ายของกอริลลาที่มันต่อยออกมา มันก็เกิดเสียงดังของกระดูกแตก !
“บูมมม !”
ทุกสิ่งรอบตัวทั้ง 2 ถูกทำลายลงทันที !
ฝุ่นและทรายบินว่อนไปทุกทิศทาง กอริลลาหลังเงินขนาดใหญ่นอนอยู่บนพื้นพร้อมกับหน้าอกที่เต็มไปด้วยเลือด เลือดสีเงินอ่อน ๆ ไหลออกมาจากปากของมันอย่างต่อเนื่อง มันพยายามดิ้นรนแต่สุดท้ายก็ขาดพลัง
พื้นยุบลงไปจนเกิดรอยแตกขนาดใหญ่กว่า 100 เมตร ต้นไม้รอบ ๆ เองก็ถูกทำลายรวมไปถึงมีบางส่วนงออยู่ในทรงแปลก ๆ ราวกับเพิ่งเจอพายุเฮอริเคนมา
เป่ยเฟิงมองไปที่มือของเขาพร้อมกับขมวดคิ้ว
มือข้างหนึ่งยังคงมีรอยไหม้อยู่ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งมีความเย็นเล็กน้อย
“แกร๊บ !”
เป่ยเฟิงปัดมือไปมาจากนั้นน้ำแข็งที่เกราะอยู่รอบ ๆ มือก็แตกสลายหายไป
น้ำแข็งเหล่านี้มันพยายามจะทำลายแขนของเขาให้ได้ แต่มันถูกเลือดฉีที่ร้อนเหมือนไฟของเขาหยุดเอาไว้
“ตอนแรกข้าจะปล่อยแกไปแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ”
เป่ยเฟิงส่ายหัวและมองกอริลลาหลังเงินที่กำลังมองเขาด้วยท่าทางอ้อนวอน จากนั้นเขาก็ขึ้นไปเหยียบหน้าอกของกอริลลาแล้วก็ก้าวลงมา
ลูกบอลฉีหมุนวนไปมาจากนั้นก็ระเบิดขึ้นทำลายอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของกอริลลา แกนปีศาจของมันเองก็บินออกมาจากร่างและตกอยู่ในมือของเป่ยเฟิง หลังจากนั้นเขาก็เก็บแกนของมันเอาไว้ในแหวนมิติ
หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางกันต่อ เป่ยเฟิงไม่ค่อยอยากกินอะไรมากนักในตอนนี้เนื่องจากเห็นสภาพของกอริลลาไป
ไกลออกไป มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้า ในขณะที่พวกเขาวิ่งอยู่ก็ไม่ลืมจะหันไปมองด้านหลัง
“ไอ้สัตว์อสูรบัดซบเอ้ย ! ถ้าข้ามีชีวิตรอดไปได้ ข้าสาบานเลยว่าจะฆ่ากระต่ายนักเลงทุกตัวที่เจอในอนาคต !”
“หยุดไร้สาระแล้วพยายามรักษาพลังเอาไว้ ทนอีกหน่อย พวกเราไกลออกจากอาณาเขตของกระต่ายบัดซบพวกนั้นได้แล้ว”
“ข้าไม่เคยรู้สึกบัดซบแบบนี้มาก่อนเลยซักครั้งในชีวิต !”
กลุ่มผู้ฝึกตนสบถสาปแช่งในขณะวิ่ง กระต่ายนักเลงจำนวนมากวิ่งไล่ล่าพวกเขาอยู่ นอกจากนี้มันยังฆ่าเพื่อนของพวกเขาไปจำนวนมาก
มันไร้ความหวังที่จะให้ทหารที่ประจำการอยู่รอบ ๆ ภูเขาร้อยทำลายมาช่วยพวกเขา ตราบใดที่บนภูเขาไม่มีสัตว์อสูรโจมตี พวกทหารก็จะไม่ขยับตัว
นั่นคือกฏ หากไม่ใช่เพราะกฏเหล่านี้สัตว์อสูรที่ทรงพลังหลายพันตัวคงออกมาจากรังของมันแล้วบุกโจมตีไปแล้ว การส่งทหารเข้าไปในภูเขาร้อยทำลายเท่ากับการท้าทายสัตว์อสูรเหล่านั้น !
กระต่ายนักเลงสามารถกระโดดทีเดียวได้ไกลหลายร้อยเมตร ความเร็วของมันก็เร็วอย่างมาก
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่มันมีชีวิตรอดมานานหลายปี นั่นเพราะพวกมันมีความสามารถโดยธรรมชาติ ความสามารถในการเก่งเรื่องหนี !
ผ่านไปไม่นาน กระต่ายนักเลงหลายร้อยตัวก็ปรากฏด้านหลังพวกเขา กระต่ายเหล่านี้ถืออาวุธที่มันปล้นมาจากมนุษย์
บางตัวลากดาบขนาดใหญ่ บางตัวลากดาบที่ยาวกว่า 3-4 เมตร บางตัวลากไม้กอล์ฟที่มีน้ำหนักหลายพันจิน หนึ่งในนั้นถือระเบิดโยนไปมาอยู่ด้วย !
เห็นได้ชัดว่ากระต่ายพวกนี้ฉลาดและเคลื่อนที่ได้คล่องแคล่วมาก มันไม่สนใจเลยว่าระเบิดจะระเบิดขึ้น ครึ่งหนึ่งของกระต่ายเหล่านี้มีพลังอยู่ที่ขั้นสี่ของร้อยปี แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของมันจะด้อยกว่าสัตว์อสูรในระดับเดียวกัน แต่มันก็อาศัยจำนวนเอาชนะได้ !
กลุ่มผู้ฝึกตนประกอบไปด้วยชายและหญิง 11 คน ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของร้อยปี อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกับพวกมัน
กระต่ายนักเลงรวดเร็วมาก กล้ามเนื้อขาของมันพริ้วไหว แรงระเบิดจากการกระโดดของมันก็น่าตกใจเช่นเดียวกัน !
“ถ้าข้าต้องตายจริง ๆ อย่างน้อยก็ต้องมีคนตายไปกับข้าด้วย !” หนึ่งในนั้นล้มลง จากนั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความสิ้นหวังและอิจฉา จากนั้นเขาก็ใช้แส้ในมือไปรัดคนตรงหน้าคนหนึ่งแล้วดึงกลับมาหาเขา !
“แกมันบ้าไปแล้ว ! ข้าจะฆ่าแกซะ !”
เมื่อถูกจับได้ คน ๆ นั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสับสนเนื่องจากตัวเขาถูกหยุดเอาไว้หลายวินาที แต่แค่ไม่กี่วินาทีก็เพียงพอที่กระต่ายนักเลงจะไล่ตามเขาทัน เขาไม่มีเวลาให้สนใจอะไรอีกต่อไปจึงดึงดาบออกมาจากไอ้บัดซบเมื่อกี้แล้วผลักมันออกไป