ชุยหยุนเทียนยิ้มจาง ๆ และเมื่อดวงตาของทุกคนหันไปมองตามนิ้วของเขา พวกเขาก็แข็งค้างทันที
“ฮ่าฮ่า มันก็แค่กระต่ายนักเลงตัวเดียว มันจะไปทำอะไรได้ ?”
“ตอนแรกข้าคิดว่าแกเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากยิ่ง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่ผ้าไหมดอกไม้ของพวกคนรวย ๆ เท่านั้น”
ผู้ฝึกตนบางคนถึงกับจับท้องในขณะหัวเราะ พวกเขาไม่เห็นว่ากระต่ายตัวนี้จะพิเศษตรงไหน พวกเขาจึงเริ่มหัวเราะเยาะชุยหยุนเทียน
มีผู้ฝึกตนหลายร้อยคนยืนอยุ่ตรงนี้ พวกเขามีจำนวนมากกว่ากลุ่มของชุยหยุนเทียน ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงมีความโลภและไม่เกรงกลัวเท่าไหร่นัก ในเมื่อต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์อยู่ตรงหน้า มีหรือที่พวกเขาจะยอมแพ้ไปได้ ?
นอกจากนี้พวกเขายังอยู่ในอีกมิติ ตราบใดที่พวกเขาฆ่าชุยหยุนเทียนได้ แม้ว่าตระกูลของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถหาตัวคนทำได้
บรรยากาศเริ่มตึงเครียด หลายคนเริ่มจับอาวุธในมือแน่น
“กี้ !”
เสียงที่สั่นสะเทือนสวรรค์และโลกดังขึ้น มันดังข้างในหูทุกคนจนราวกับว่ามีถังน้ำแข็งวางอยู่เหนือหัวพวกเขา
กระต่ายนักเลงขนสีแดงเข้มยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ใต้ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ มันสูงไม่ถึง 2 เมตร แต่ในสายตาของผู้ฝึกตนแล้วมันราวกับภูเขาลูกใหญ่ที่ปรากฏออกมาจากพื้น แรงกดดันมหาศาลของมันได้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด !
“นี้มันแย่กว่าเดิมแล้ว” เป่ยเฟิงมองกระต่ายนักเลงสีแดงเข้มแล้วสบถในใจ
“ความแข็งแกร่งของพวกกระต่ายนักเลงมันเพิ่มเร็วเกินไป มันจึงไม่แปลกที่ในหมู่กระต่ายขั้นสี่ของร้อยปีจะมีตัวใดตัวหนึ่งมีพลังขั้นราชาพันปี !” เป่ยเฟิงรู้ได้ทันทีว่าภารกิจครั้งนี้ยากกว่าเดิมมาก ราชาพันปี … มันเป็นไปยากมากที่เขาจะสู้กับอีกฝ่ายได้
เป่ยเฟิงหันหน้าไปมองชุยหยุนเทียนที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ดูเหมือนพวกนั้นจะไม่แปลกใจหรือกลัวเลยซักนิด เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นรู้อยู่ก่อนแล้วถึงได้ดูสงบมาก ๆ หรือว่าพวกนั้นมีไพ่ลับในมืออีก ?”
“เราถ่วงเวลาอีกไม่ได้แล้ว พี่น้อง ไปฆ่ามันแล้วเอาต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ที่อยู่ข้างหลังของมันมา !”
“ตายซะ !”
ผู้ฝึกตนทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ แรงกดดันของกระต่ายตัวนั้นมันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากพวกเขายังรอต่อไปมันมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะสู้ไม่ได้
กระต่ายนักเลงยืนขึ้นและพลังปีศาจของมันก็พุ่งออกมาจากร่าง ดวงตาที่เย็นชาของมันมองเหล่ามนุษย์พร้อมกับเผยรอยยิ้มราวกับกำลังเยาะเย้ย
“กี้ !”
การโจมตีที่ทรงพลังนับไม่ถ้วนพุ่งมาข้างหน้ามัน กระต่ายนักเลงหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตะโกนเสียงดังออกมา !
ระลอกคลื่นสีแดงเข้มจำนวนมากระเบิดออกมาจากปากของมันกระจายไปทุกทิศทาง !
“ทำลาย !”
“ฟุ่บ !”
ผู้ฝึกตนไม่ได้เกรงกลัวใด ๆ แค่คลื่นเสียงมันไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้อยู่แล้ว
“วิ้ง !”
เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นคลื่นระลอกสีแดงก็พุ่งไปยังทิศทางของผู้ฝึกตนกว่าสิบคนที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ทันที !
‘การเคลื่อนไหวของมันเพียงครั้งเดียวกับทรงพลังขนาดนี้ … นี้คือความแข็งแกร่งของราชาพันปีงั้นรึ ?’
เป่ยเฟิงยืนนิ่ง ๆ มองเหตุการณ์เงียบ ๆ เขายังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีในตอนนี้
“ตูม ! บูม !”
การโจมตีไม่ได้ถูกหยุดทั้งหมด การโจมตีอื่น ๆ ยังคงพุ่งไปหากระต่ายนักเลงจนกลายเป็นระเบิดขนาดใหญ่
“มันตายหรือยัง ? ต่อให้เป็นราชาพันปีมันก็ไม่มีทางรับการโจมตีทั้งหมดขนาดนี้ได้หรอก !”
“เจ้านั่นมันแข็งแกร่งเกินไป ! มันฆ่าผู้ฝึกตนขั้นสี่ของร้อยปีราวกับกำลังฆ่าไก่ !”
“มันคงไม่ได้มีพลังถึงขึ้นราชาพันปีหรอกนะ ?”
กลุ่มผู้ฝึกตนมองเมฆฝุ่นด้วยความไม่สบายใจ
“ราชาพันปีงั้นรึ บัดซบ ! แม้แต่สัตว์อสูรชั้นต่ำที่อ่อนแอขนาดนี้ยังมีพลังไปถึงขั้นราชาพันปีได้ !”
“ถ้าเป็นข้าที่โชคดีแบบนั้น ข้าคงมีพลังมากกว่าเจ้าสัตว์อสูรชั้นต่ำนี้ไปนานแล้ว !”
คนอื่น ๆ มีความคิดที่แตกต่างกันออกไป แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่ากระต่ายนักเลงตัวนี้มีพลังขั้นราชาพันปี !
คนที่คิดได้นั่นคือเหล่าผู้นำของกลุ่มและความแข็งแกร่งของพวกเขาก็อยู่ที่ครึ่งก้าวราชาพันปี อีกเพียงก้าวเดียวพวกเขาก็จะไปถึงราชาพันปีได้ ความรู้สึกของพวกเขาแข็งแกร่งและไวกว่าขั้นสี่ของร้อยปี มันจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้ว่าสัตว์อสูรตัวนี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน !
“ชั้วะ !”
ก่อนที่พวกเขาจะคิดมากไปกว่านี้ เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นจากนั้นกระต่ายนักเลงก็พุ่งออกมาแล้วปรากฏด้านหลังของผู้ฝึกตน
“โป๊ะ !”
กระต่ายนักเลงยื่นอุ้งมืของมันออกไปตบหัวของผู้ฝึกตนคนหนึ่งเบา ๆ จากนั้นหัวของเขาก็หายไปทันที !
แค่นั้นไม่พอ แรงตบมหาศาลมันยังลามไปจนทำให้คอของเขาหายไปด้วย !
“อ๊ากก !”
“มันยังไม่ตาย !”
เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความกลัวดังขึ้น ผู้ฝึกตนที่ถูกกระต่ายนักเลงเข้ามาใกล้ไม่มีใครซักคนมีชีวิตรอดไปได้ ทุกคนถูกฆ่าอย่างง่ายดาย การป้องกันของกระต่ายนักเลงนั้นสูงมาก แม้ว่าจะถูกโจมตีมากมายแค่ไหนแต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้
“บัดซบ แกคิดที่จะนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วดูเสือกัดกันหรือยังไง ?”
“ถ้าพวกเราตาย พวกแกก็มีจุดจบไม่สวยเหมือนกัน !”
ผู้นำของกลุ่มหันมาตะโกนใส่กลุ่มของชุยหยุนเทียน
“แกจะบอกว่าตัวเองเป็นเสือ ? คิกคิก แกไปเอาความมั่นใจขนาดนั้นมาจากไหน ?” ชุยหยุนเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับเป่ยเฟิงและถามขึ้น “เจ้าไม่คิดที่จะติดตามข้าจริง ๆ งั้นรึ ?”
เป่ยเฟิงกระพริบตาหนึ่งครั้งและป้าปาก “ข้า …”
“ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกต่อไป ในเมื่อแกไม่เต็มใจ งั้นก็พักผ่อนไปพร้อมกับความตายซะ ฆ่า !”
ใบหน้าของชุยหยุนเทียนไร้อารมณ์ใด ๆ เขาไม่พูดอะไรอีกเลยนอกจากออกคำสั่งฆ่า
เมื่อได้ยินคำสั่ง ชายชุดดำด้านหลังชุยหยุนเทียนก็พุ่งเข้าสู่การต่อสู้ด้วย แต่พวกเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่กระต่ายนักเลงเท่านั้น พวกเขาเริ่มไล่ล่าทั้งผู้ฝึกตนของมนุษย์และสู้กับกระต่ายนักเลงพร้อมกัน !
ใบหน้าของเป่ยเฟิงน่าเกลียดมากเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งพุ่งใส่เขา การรับรู้ของเขาตื่นตันมากราวกับจะบอกว่าชายชุดดำเหล่านี้ไม่อ่อนแอแม้แต่น้อย
ทุก ๆ คนเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของร้อยปีขั้นสูงสุด มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นถึงครึ่งก้าวราชาพันปี หากมันเป็นหนึ่งต่อหนึ่งเป่ยเฟิงก็ไม่กลัว แต่ทว่าหากมาเป็นกลุ่มนั้นแหละที่จะเป็นปัญหาให้กับเขา
แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เขาทำได้เพียงปะทะกับอีกฝ่ายเท่านั้น
เมื่อได้ปะทะกัน เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงความยากลำบากมากขึ้น ทุกการตวัดดาบของชายชุดดำนั้นเรียบง่ายแต่มันกลับเต็มไปด้วยพลัง มันทำให้เป่ยเฟิงรู้สึกหดหู่
อย่างไรก็ตามมันยังไม่ถึงกับทำให้เขาสิ้นหวังได้ แม้ว่าจะยังไม่ถึงกับใช้พลังที่แท้จริงแต่เป่ยเฟิงก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย ในขณะต่อสู้เขาก็ยังคงมีเวลาว่างพอที่จะดูการต่อสู้รอบ ๆ ด้วย
ชุยหยุนเทียนนังอยู่บนเก้าอี้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยขนหนังสัตว์สีขาว ไม่มีรอยแผลใด ๆ บนหนังเลยแม้แต่น้อย
ข้าง ๆ เขาเป็นชายร่างสูงที่มีเขาสีทองโค้งยาวอยู่บนหัว หัวของเขาโค้งคำนับและมือก็ลดต่ำลงมาราวกับเป็นเพียงผู้รับใช้
การต่อสู้เปลี่ยนไปทันทีที่ชายชุดดำเข้าร่วม ความสมดุลของการต่อสู้ทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ในไม่ช้าผู้ฝึกตนมากกว่าครึ่งก็ถูกฆ่า ในเวลาเดียวกันชายชุดดำจำนวนมากก็ได้รับบาดเจ็บ มีมากกว่าครึ่งที่ถูกสังหารเช่นกัน
ร่างของกระต่ายนักเลงเปียกโชกไปด้วยเลือด เมื่อได้มองมันจะทำให้กระดูกสันหลังถึงกับสั่นสะท้าน
“บัดซบ ! ถึงข้าจะตายแต่ก็ต้องเอาแกไปด้วย !”
ผู้ที่มีพลังครึ่งก้าวราชาพันปีคำรามด้วยความโกรธในขณะเฝ้ามองลูกน้องของเขาตายไปทีละคน เขาคำรามด้วยความโกรธจากนั้นก็แยกร่างชายชุดดำคนหนึ่งเป็นสองส่วน แล้วหลังจากนั้นก็พุ่งไปหาชุยหยุนเทียน !
“ถึงลูกน้องแกจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่แกไม่มีทางแข็งแกร่งกว่าข้าได้หรอก ! ตราบใดที่ข้าจับแกได้ ลูกน้องของแกคงจะยอมแพ้ไปเอง !”
การเคลื่อนไหวของเขาเร็วมาก ชายชุดดำที่ขวางเขาจะถูกสังหารทันที
“ใกล้แล้ว ! ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ใกล้จะเป็นของข้าแล้ว !”
เมื่อเขาเข้าใกล้ชุยหยุนเทียนมากขึ้นเรื่อย ๆ รอยยิ้มแห่งชัยชนะก็ปรากฏบนหน้าของเขาราว จากมุมมองของเขามันราวกับอีกฝ่ายกำลังหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ !
“แก๊ง !”
“ปุก !”
ทันใดนั้นฝ่ามือสีทองก็พุ่งมาด้านหน้า ฝ่ามือนั้นเต็มไปด้วยเปลวไฟสีทองจากนั้นนิ้วมือข้างหนึ่งก็ยื่นออกมากดไปที่หน้าอกของชายที่มีพลังขึ้นก้าวราชาพันปี !
คนที่อยู่ข้าง ๆ ชุยหยุนเทียนลดแขนกลับมา ในเวลาเดียวกันเกล็ดบนแขนของเขาก็หายไปกลับเป็นแขนปกติ
“พี่ใหญ่ !”
“หนีเร็ว ! รีบหนีเร็วเข้า !”
“ไปกันเถอะ ! พวกเราต้องกระจายข่าวนี้ไปข้างนอกเพื่อบอกว่าเราเห็นเขาตายได้ยังไง !”
ผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ รู้สึกหวาดกลัวทันทีที่เห็นชายคนนั้นตายโดยที่ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้ พวกเขาจึงไม่ลังเลใด ๆ แล้วเริ่มวิ่งหนีแยกย้ายกันไป
เป่ยเฟิงรู้สึกไม่สบายใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นคนรอบ ๆ หนีไปในขณะที่เขากำลังปะทะกับชายชุดดำอยู่
“ปัง ! “
“ปัง !”
เสียงการต่อสู้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ฝึกตนคนหนึ่งหนีไปยังหน้าผาได้แล้วเตรียมจะกระโดดลงไป แต่ทันใดนั้นเขาก็ปะทะเข้ากับสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นและถูกสะท้อนกลับมาด้วยแรงอันทรงพลัง
“ค่ายกล ! พวกเราติดกับแล้ว !”
“ต้องเป็นมันแน่ ๆ ! พวกมันต้องการฆ่าพวกเราทั้งหมด !”
ในที่สุดพวกเขาก้รู้ตัว ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดเหลือเพียงแค่กลุ่มของชุยหยุนเทียนเท่านั้น มันไม่มีใครอีกแล้ว !
“อินทรีหมี ทำลาย !”
ใบหน้าของเป่ยเฟิงก็เปลี่ยนไปทันที ใครจะไปคิดกันว่ากลุ่มของชุยหยุนเทียนจะเล่นใหญ่ขนาดนี้ ตอนนี้เขาไม่สามารถยื้อการต่สู้ได้อีกต่อไป เขาจึงใช้พลังเต็มที่กระแทกไปยังยอดเขาไปที่ค่ายกล !
ราวกับหมีที่ตื่นจากการจำศีล เลือดและฉีของเป่ยเฟิงพุ่งสูงขึ้น การต่อยครั้งนี้บางทีมันอาจทำให้ผู้ที่พลังครึ่งก้าวราชาพันปียังบาดเจ็บสาหัส !
ความแข็งแกร่งของเขาหากเปรียบก็วิถีแห่งเต๋าคือเชือกกับกาว ส่วนเลือดและฉีก็เหมือนอารมณ์ แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นหรือรู้สึกได้ถึงเต๋า แต่มันก็เพิ่มความแข็งแกร่งของเขาไปได้ถึง 1 ใน 3 !
การใช้พลังฉับพลันของเป่ยเฟิงทำให้การต่อสู้หยุดลงและทุกคนก็หันมามองเขา ดวงตาของพวกเขากำลังเฝ้ารอคอยดูว่าการโจมตีนี้จะทำลายค่ายกลได้หรือไม่ !
อินทรีหมี ทำลายที่ใช้ควบคู่ไปกับวิถีแห่งเต๋าของเป่ยเฟิงได้กระแทกเข้ากับกำแพง !
“บูม !”
เสียงระเบิดดังขึ้นจำนวนมาก จากนั้นชั้นของรอยร้าวจำนวนมากก็แผ่ขยายราวกับใยแมงมุมอยู่บนฟ้า !
การโจมตีด้วยอินทรีหมี ทำลาย นั้นทำให้เกิดรอยร้าวจำนวนมาก แต่ทว่ามันกลับไม่สามารถทะลุออกไปได้ !
‘อย่างที่ข้าคิดไว้ไม่ผิด คน ๆ นี้เข้าใจวิถีแห่งเต๋าและดูเหมือนไม่ใช่เพียงแค่ช่วยเริ่มต้นเท่านั้น ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่จุดสูงสุดของขั้นแรก’
ดวงตาของชุยหยุนเทียนเปล่งประกาย ‘นี่คือพลังของวิถีแห่งเต๋า ? คน ๆ นี้มีพลังขั้นสี่ของร้อยปีขั้นแรกเท่านั้น แต่เขากลับสามารถระเบิดพลังเทียบเท่าครึ่งก้าวราชาพันปีออกมาได้อย่างง่ายดาย’
ระลอกคลื่นค่อย ๆ จางหายไปพร้อมกับรอยร้าวที่เหมือนใยแมงมุมที่ค่อย ๆ หายไปเช่นกัน การโจมตีที่เทียบเท่ากับครึ่งก้าวราชาพันปีกลับไม่สามารถทำลายค่ายกลลงได้ !
ภายใต้การรวมพลังของกระต่ายนักเลงและชุยหยุนเทียน กลุ่มผู้ฝึกตนของมนุษย์ที่หลงเหลือได้ถูกฆ่าตายไปจำนวนมาก ขณะเดียวกันกระต่ายนักเลงตัวนั้นก็ฆ่าชายชุดดำไปจำนวนมากเช่นกัน