ในไม่ช้าผู้ฝึกตนคนสุดท้ายก็ถูกฆ่า พื้นที่ทั้งหมดเต็มไปด้วยซากศพและเลือดที่ไหลรวมกันจนกลายเป็นแม่น้ำ
ชายชุดดำเหลืออยู่เพียง 20 คน ระฆังที่ครอบคลุมตัวกระต่ายสีแดงเองก็จางลงไปมาก เป่ยเฟิงเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มีใครมายุ่งด้วย
“หากนับตั้งแต่อดีต คงมีแค่แกตัวเดียวที่มาถึงขั้นราชาพันปีด้วยสายเลือดกระต่ายชั้นต่ำได้ แกนี่น่าประทับใจจริง ๆ”
ชุยหยุนเทียนเหยียดหลังอย่างเกียจกร้าจก่อนจะยืนขึ้นแล้วมองกระต่ายนักเลง
ขนของกระต่ายแกว่งไปมาตามสายลมเบา ๆ มันยืนนิ่ง ๆ โดยดวงตาของมันยังคงจับจ้องไปที่สิ่งมีชีวิตรูปร่างเหมือนมนุษย์ข้าง ๆ ชุยหยุนเทียน
“มันไม่ง่ายเลยกว่าจะก้าวมาได้ไกลขนาดนี้ นอกจากนี้โซ่ตรวนทางสายเลือดของแกที่ถูกจำกัดไว้ในอนาคตก็ไม่มีอีกต่อไปหากแกติดตามข้า ข้ารับรองได้เลยว่าแกจะมีอนาคตและยังมีชีวิตรอดต่อไปได้” ชุยหยุนเทียนกล่าวอย่างใจเย็นราวกับทุกอย่างอยู่ในมือของเขา
โดยไม่รอให้กระต่ายนักเลงตอบ เขาหันไปทางเป่ยเฟิง “ขอเสนอที่ให้เจ้ายังคงเหมือนเดิม เจ้าสามารถมาเข้าร่วมกับตระกูลชุยของข้าได้เหมือนกัน”
“มนุษย์ แกฆ่าญาติของข้าแล้วยังต้องการขโมยโชคของข้า แกเอาความคิดขยะแบบไหนกันมาคิดว่าข้าจะติดตามคนอย่างแก ?”
ใบหน้าของกระต่ายนักเลงไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย มันอ้าปากและพูดช้า ๆ
“แกน่าจะรู้ว่าตัวแกเองไม่ใช่กระต่ายนักเลงสายเลือดชั้นต่ำอีกต่อไป พูดอีกอย่างก็คือแกได้ทำลายขีดจำกัดสายเลือดแล้ว ตอนนี้แกมันไม่ใช่กระต่ายนักเลงอีกแล้ว” ชุยหยุนเทียนกล่าวอย่างจริงจัง
การฝึกฝนเป็นเสมือนเส้นทางการวิวัฒนาการที่มั่นคง มันจะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พลังของกระต่ายนักเลงขนสีแดงในตอนนี้ … มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากกระต่ายนักเลงปกติไปแล้ว
“ตาย !”
กระต่ายนักเลงเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็คำรามออกมาจนทำให้ชายชุดดำที่อยู่รอบ ๆ สะดุ้ง
“พวกแกไปฆ่าเจ้านั่นซะ ส่วนชิหลิน แกไปฆ่าเจ้ากระต่ายบัดซบนั่น !”
ชุยหยุนเทียนส่ายหัว เขาไม่พูดอะไรมากนอกจากออกคำสั่งอย่างใจเย็น
กลุ่มชายชุดดำทั้ง 20 คนพุ่งไปหาเป่ยเฟิงราวกับซอมบี้ ใบหน้าของพวกเขาไร้อารมณ์ใด ๆ
“ศิลปะแห่งดวงดาว วงแหวนแห่งดวงดาว !”
เป่ยเฟิงมองไปที่คนชุดดำอย่างใจเย็น จากนั้นเขาก็ประทับตราด้วยมือทั้งสองข้างของเขา
พระราชวังแห่งดวงดาวหมุนเวียนพลังจิตช้า ๆ จากนั้นก็ปล่อยคลื่นพลังงานดวงดาวที่หนาแน่นไปที่มือของเขา
วงแหวนสีน้ำเงินล้อมรอบวงแหลมปรากฏในมือของเป่ยเฟิง จากนั้นเขาก็สะบัดนิ้วมือทำให้มันไปตกที่กลุ่มชายชุดดำ
กลุ่มชายชุดดำทุกคนรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาจมลึกลงไป ความเร็วของพวกเขาลดไปถึง 1 ใน 3 !
“เกิดอะไรขึ้น ?”
“นี้มันความสามารถอะไรกัน ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกอะไรเลย ?”
“ค่ายกลงั้นรึ ?”
แม้ว่าใบหน้าของพวกเขาจะดูไม่เปลี่ยนแปลงนัก แต่ทว่าความจริงแล้วพวกเขาตกใจมาก มันแปลกประหลาดเกินไป
แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นฉับพลัน แต่พวกเขาก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าทั้ง 20 คนก็รุมล้อมเป็นค่ายกลล้อมเป่ยเฟิง จากนั้นก็พุ่งไปหาเป่ยเฟิงทุกทิศทาง !
“ศิลปะแห่งดวงดาว แสงแห่งดวงดาว !”
เป่ยเฟิงทำตราประทับอีกครั้ง จากนั้นแสงสว่างก็ปรากฏรอบตัวเขา
“เจ้านี้มันแปลก ๆ ต้องรีบฆ่ามันให้เร็วที่สุด !” ชายชุดดำคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก คู่ต่อสู้คนนี้มันแปลกเกินไปจริง ๆ หากพวกเขาไม่รีบฆ่าให้เร็วที่สุดพวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก
“แก๊ง !”
ลำแสงสีดำพุ่งข้ามท้องฟ้าจนดูราวกับแยกท้องฟ้าเป็น 2 ส่วน
ความเร็วของเป่ยเฟิงเพิ่มขึ้นถึง 1 ใน 3 ส่วนคู่ต่อสู้ของเขากลับลดไปถึง 1 ใน 3 ความเร็วนี้มันช่วยเพิ่มระยะห่างของทั้งคู่อย่างมาก !
ดังคำกล่าวที่ว่าทักษะอย่างเดียวในโลกที่ไม่สามารถทำลายได้นั้นคือความเร็ว เมื่อความเร็วของใครคนหนึ่งเร็วกว่าอีกฝ่ายมากเกินไปถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งกว่าก็ตาม แต่สุดท้ายก็สู้ฝ่ายที่มีความเร็วมากกว่าไม่ได้อยู่ดี
ร่างกายของเป่ยเฟิงกระพริบไปมา จากนั้นเขาก็ปรากฏตรหน้าชายชุดดำแล้วใช้กรงเล็บหมีที่หุ้มฝ่ามือของเขาทุบไปที่ลำแสงของดาบ !
“แก๊ง !”
ประกายไฟลุกพริบเมื่อกรงเล็บของเป่ยเฟิงปะทะเข้ากับลำแสงดาบ เขาออกแรงเล็กน้อยจากนั้นพลังของกรงเล็บก็พุ่งทะลุลำแสงดาบไปยังฝ่ามือของชายชุดดำ !
เป่ยเฟิงสามารถสังหารอีกฝ่ายโดยการทุบที่เกิดจากการไม่ตั้งใจ !
ลำแสงดาบจำนวนมากกระพริบมาที่เขา มือของเป่ยเฟิงสั่นเบา ๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรนั่นเพราะเขาเร็วเกินไป ! เขาเร็วจนที่ว่าไม่มีใครตอบโต้เขาได้ !
อีกด้าน ชิหลินหลังจากที่ได้รับคำสั่งของชุยหยุนเทียนแล้วรอยยิ้มก็ค่อย ๆ ปรากฏบนหน้าของเขา จากนั้นชั้นเกล็ดก็ค่อย ๆ ปรากฏทั่วร่างกายของเขา มันดูราวกับเขากำลังถูกปกคลุมไปด้วยชั้นของเกล็ดทองคำ
แต่หากมองใกล้ ๆ จะเห็นได้ว่าเกล็ดสีทองเหล่านั้นมันถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ !
หางยาว ๆ ค่อย ๆ งอกออกมาจากกระดูกสันหลังของเขา แรงกดดันของเขาค่อย ๆ พ่งสูงขึ้นจนทะลุขีดจำกัดของขั้นร้อยปี !
กระต่ายนักเลงไม่ได้เกรงกลัวใด ๆ ระฆังสีแดงเองก็หมุนไปรอบ ๆ ก่อนจะปะทะเข้ากับชิหลิน !
“บูม !”
ก้อนหินขนาดใหญ่แตกเป็นชิ้น ๆ ราวกับเกิดแผ่นดินไหว ก้อนหินจำนวนมากพุ่งกระจายออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ !
การปะทะกันของราชาพันปีมันถึงกับทำให้ภูเขาถูกทำลาย !
กระต่ายนักเลงราวกับเหนือกว่า ร่างของมันถูกปกป้องด้วยระฆังขนาดใหญ่ที่แม้แต่ชิหลินเองก็ยังไม่สามารถทำลายได้ด้วยเวลาสั้น ๆ !
‘แย่จริง ๆ ดูเหมือนว่ายอดเขาทั้งลูกจะตกอยู่ในค่ายกลแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีไปได้ ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะนั่นก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับข้าอยู่ดี !’
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของเป่ยเฟิง
‘ดูเหมือนข้าจะต้องทำความเข้าใจเทักษะพันกระเรียนให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางหนีไปได้แน่’
เป่ยเฟิงแยกความคิดออกเป็น 2 ส่วนทันที เขาใช้ส่วนหนึ่งสู้กับชายชุดดำและอีกส่วนเพื่อทำความเข้าใจทักษะพันกระเรียน
ทักษะพันกระเรียนคือทักษะต้องห้าม เหตุผลที่มันถูกเรียกว่าต้องห้ามก็เพราะมันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวสำหรับผู้พิทักษ์แห่งดวงดาว !
มันใช้พลังงานของจักรวาลและพลังจิตของตัวเอง มันจะส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมากกว่าและทำให้ต้องยอมจำนนกับเขา
นอกจากนี้สิ่งมีชีวิตที่ถูกผลกระทบของทักษะพันกระเรียนนั้นจะไม่ได้รับผลข้างเคียงใด ๆ กลับกันมันจะกลายเป็นประโยชน์เสียมากกว่า ! สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะสามารถปลดล็อคศักยภาพที่ซ่อนอยู่ได้ด้วยทักษะพันกระเรียน !
เป่ยเฟิงไม่มีวิธีอื่นแล้วในตอนนี้ นี่คือความหวังเดียวของเขาในตอนนี้
เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมากที่ต้องใช้ทักษะที่เกินขอบเขตความแข็งแกร่งของเขา นอกจากนี้เขายังไม่เคยพยายามฝึกมันด้วยซ้ำ เพราะเขากลัวว่าด้วยพลังที่อ่อนแอของเขาจะทำให้มันเกิดผลย้อนกลับ
แต่เขาในตอนนี้ถูกบังคับให้ต้องทำความเข้าใจมัน ฝ่ายตรงข้ามนั้นดุร้ายและแข็งแกร่งเกินไป มันทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากเสี่ยงเท่านั้น
การต่อสู้ของกระต่ายนักเลงและชิหลินนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในไม่ช้าความแข็งแกร่งของชิหลินก็เพิ่มขึ้นมาถึงราชาพันปีแล้ว !
แต่กระต่ายนักเลงในตอนนี้ดูเหมือนมันเข้าใจพลังวิญญาณมากขึ้น ! ตอนนี้เสียงระฆังที่อยู่รอบ ๆ มันได้หายไปแล้ว แต่ทว่ามันกลับไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาแม้แต่น้อย
“โฮก !”
ชิหลินอ้าปากคำราม ลูกไฟสีทองขนาดใหญ่เท่ากำปั้นก็ระเบิดออกมาพุ่งไปที่กระต่ายนักเลง !
กระต่ายนักเลงก็ไม่น้อยหน้า มันกระแทกเข้ากับเอวของชิหลิน !
“บูม !”
ร่างกายของชิหลินพุ่งกระแทกไปยังก้อนหินที่อยู่ด้านหลัง !
“แกร๊ก !”
ระฆังสีแดงรอบตัวกระต่ายนักเลงเริ่มแตกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องจากถูกลูกไฟสีทองเผาไหม้รอบตัว สุดท้ายพลังของระฆังก็ค่อย ๆ ไหลกลับเข้าไปในร่างของกระต่ายนักเลง
“ปัง !”
ชิหลินกระโดดออกมาราวกับกระสุนปืน
เขาบาดเจ็บสาหัสมากตอนนี้ กล้ามเนื้อบนหายไป 1 ใน 3 ซึ้งรวมไปถึงส่วนเนื้อบนเอวที่หายไปด้วย นอกจากนี้ชิ้นส่วนอวัยวะภายในและลำไส้ของเขาก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
“มันเพิ่งมาถึงขั้นราชาพันปีเมื่อไม่นานมานี้ แต่ทำไมมันถึงมีพลังมากขนาดนี้กัน ?”
ชุยหยุนเทียนหรี่ตามองพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของชิหลินดี ความสามารถของเขานั้นคือหนึ่งในล้าน โดยปกแล้วคนที่มีพลังขั้นร้อยปีจะดูดซับผงฟอสฟอรัสแดงได้แค่ 2 ถึง 3 เม็ด คนที่มีพรสวรรค์มากหน่อยจะดูดซับได้ถึง 10 เม็ด
แต่ทว่าจางจุนนั้นแตกต่างกัน ผงฟอสฟอรัสแดง 3,600 เม็ดถูกเขาดูดซับคนเดียวไปแล้ว 3,000 เม็ด !
เมื่อใครบางคนที่ได้รับผงฟอสฟอรัสได้ตายไป ผงในร่างของเขาก็จะถูกดุดซับโดยชิหลินอีกที !
“โฮก !”
มือของชิหลินประสานด้วยกันจากนั้นก็ทุบไปที่กระต่ายนักเลงราวกับค้อนยักษ์ !
“บูม !”
พื้นสั่นสะเทือนอย่างแรง จากนั้นรอยแตกขนาดใหญ่ก็ค่อย ๆ กระจายออกมา
ร่างของกระต่ายนักเลงราวกับดาวตก มันกระแทกเข้ากับค่ายกลอย่างแรง !
เมฆฝุ่นขนาดใหญ่ลอยขึ้นไปในอากาศ เนื่องจากอยู่ในค่ายกลทำให้ไม่สามารถใช้พลังจิตมองได้ มันจึงไม่มีทางบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเมฆฝุ่น
อย่างไรก็ตามทุกคนรู้สึกได้ว่าแรงกดดันที่อยู่ในเมฆฝุ่นนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง !
กระต่ายนักเลงกลิ้งอยู่บนพื้น มันเงยหน้าขึ้นแล้วร้องโหยหวนออกมา !
คลื่ยเสียงที่ปล่อยออกมาทำให้ตาและหัวทุกคนหมุนไปมา
แรงลมที่ทรงพลังระเบิดขึ้น จากนั้นมันก็ทำให้เมฆฝุ่นหายไป !
ที่ใจกลางการต่อสู้ ชิหลินเองก็กำลังดูดซับผงฟอสฟอรัสสีแดงจากสิ่งมีชีวิตตัวอื่น ๆ ที่ตายในการต่อสู้อยู่ !
มีจุดสีแดงจำนวนมากปรากฏขึ้นรอบ ๆ เกล็ดสีทองของชิหลิน ลวดลายสีแดงจำนวนมากขยายไปยังจุดอื่น ๆ ราวกับใยแมงมุมที่ซับซ้อน
ในไม่ช้าจุดสีแดงก็ปรากฏทั่วร่างของชิหลิน !
หากมีใครนับดี ๆ จะพบว่าจุดสีแดงมีทั้งหมด 3,600 จุด !
หลอดเลือดดำที่ขาดค่อย ๆ ผสานกัน กล้ามเนื้อของเขาค่อย ๆ ปรากฏเนื้อเยื่อ ร่างกายของเขาค่อย ๆ สั่นพร้อมกับเกล็ดสีทองที่ค่อย ๆ ล่วงหล่นทีละชิ้นจนเผยผิวที่เหมือนหยก !
แต่ละเกล็ดมีขนาดเท่าเล็บมือ มันดูราวกับใบไม้สีทอง แต่ทว่ามันดูเต็มไปด้วยพลังที่สามารถทำลายตึกทั้งชั้นได้ !
“เจ้านี้ถึงกับดูดซับผงฟอสฟอรัสแดงไปได้ถึง 3,600 เม็ด !”
ใบหน้าของชุยหยุนเทียนซับซ้อน ผงฟอสฟอรัสแดงส่วนใหญ่ผลิตเพื่อเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้กลับมีใครบางคนรวบรวมผงฟอสฟอรัสแดงจำนวนมากไว้กับตัวได้สำเร็จ ! แม้แต่ชุยหยุนเทียนเองก็ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเกล็ดทองคำแต่ละเกล็ดร่วงจนหมด ร่างของชิหลินก็ค่อย ๆ ถูกห่อหุ้มด้วยชั้นเกราะสีใส
“แก๊ง !”
เท้าอันทรงพลังของกระต่ายนักเลงกระแทกเข้ากับโล่ที่ห่อหุ้มชิหลิน แต่ทว่ามันทำได้เพียงสร้างระลอกคลื่นบนโล่เท่านั้น
แรงระเบิดจำนวนมากพุ่งใส่โล่ แต่ทว่ากลับทำอะไรไปถึงชิหลินไม่ได้ !
“กี้ !”
กระต่ายนักเลงคำรามพร้อมกับยกกรงเล็บขึ้นมาแล้วแทงไปข้างหน้า
ดาบฮั่นแปดเหลี่ยมสีแดงปรากฏขึ้นแต่ละนิ้ว !
“พลังวิญญาณคู่ !” ชุยหยุนเทียนมองด้วยความตกใจ
ใครจะไปคิดกันว่าวันนี้จะมีเรื่องทำให้เขาประหลาดใจมากขนาดนี้ !
ไม่ว่าจะเป็นชิหลิน เป่ยเฟิงหรือกระต่ายนักเลง พวกมันล้วนเป็นอัจฉริยะที่สวรรค์โปรดปราน !
“แก๊ง !”
ในไม่ช้าดาบแต่ละอันก็ค่อย ๆ รวมกันจนกลายเป็นดาบสีแดงเลือดแบบเต็มตัว มันค่อย ๆ สั่นสะเทือนเบา ๆ
ในขณะเดียวกัน แรงกดดันของกระต่ายนักเลงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มันถือดาบด้วยมือเดียวจนดูราวกับกระต่ายนักดาบไร้พ่าย คลื่นหลิงฉีของดาบที่เต็มไปด้วยความคมค่อย ๆ ไหลไปทั่วร่างของมัน