หลังจากทำลายโซ่ไปได้ 2 เส้น ง้าวสวรรค์ก็สั่นอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงสั่นสะเทือนออกมามากมาย !
ทั้งห้องตกอยู่ในความเย็นจัด ง้าวสวรรค์สั่นสะเทือนอย่างแรงแต่โซ่ทั้ง 7 ที่เหลือก็ไม่มีท่าทีจะแตกสลายไป สุดท้ายง้าวสวรรค์ก็เงียบสงบลง
หลี่ปู้ลืมตาขึ้นช้า ๆ และความตั้งใจที่จะสู้ของเขาก็เปล่งประกายในดวงตา !
“มันมีทักษะต่อสู้และฝึกตนถูกผนึกอยู่ในง้าวนั่น ! หนึ่งในนั้นมันมีลักษณะคล้ายคลึงกับเสือดาว เพียงแค่ 2 ขั้นแรกของมันก็มีพลังเทียบเท่ากับข้าในตอนนี้แล้ว นี้มัน !” หลี่ปู้พึมพำในขณะกุมง้าวในมือของเขา
ง้าวนี้มีน้ำหนักกว่า 30,000 จิน มันเหมาะกับการต่อสู้ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ เพียงแค่ถือมันเขาก็รู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ที่ลี้ลับ มันราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของเขา
หลี่ปู้นั่งไขว่ห้างโดยวางง้าวสวรรค์ไว้บนตัก เขาเริ่มฝึกวิชาและทักษะที่อยู่ในง้าว
เคล็ดการฝึกตนที่ถูกผนึกอยู่ในง้าวนั่นมีชื่อว่า วิชาไร้ต้าน มันไม่ใช่ไร้ต้านภายใต้สวรรค์ แต่มันคือไร้ต้านที่คู่ต่อสู้ต้องหวาดกลัว !
แม้ว่ามันจะมีเพียง 2 ขั้นแรก แต่ตราบใดที่เขาฝึกมันสำเร็จบางทีมันอาจจะปลดล็อคการฝึกฝนขั้นต่อไปก็เป็นไปได้
“โชคดีที่พลังฉีของข้าเข้ากันได้กับวิชาไร้ต้าน ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น”
หลี่ปู้ปิดตาลงและเคล็ดการฝึกฝน 2 ขั้นแรกก็ปรากฏในใจเขา ความจริงที่ว่าเขาไม่จำเป็นต้องละทิ้งการฝึกฝนปัจจุบันและเริ่มฝึกใหม่อีกครั้งนี้มันทำให้เขาโล่งใจอย่างมาก
จากจุดนี้เห็นได้ชัดว่าวิชาไร้ต้านนั่นไม่เหมือนใคร มันไม่ได้ฝึกกันง่าย ๆ
การเปลี่ยนเคล็ดการฝึกฝนมันไม่ใช่เรื่องง่าย
เพียงแค่อาศัยเคล็ดการฝึกฝนขั้นกลางก็สามารถพัฒนามาถึงจุดสูงสุดของร้อยปีได้ใน 10 ปีก็เพียงพอที่จะบอกแล้วว่าความสามารถของเขายอดเยี่ยมแค่ไหน ดังนั้นภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็สามารถทำความเข้าใจสองขั้นแรกของวิชาไร้ต้านได้แล้ว
ในขณะที่หลี่ปู้กำลังฝึก ทันใดนั้นเกิดพลังงานสีเงินขาวขึ้นช้า ๆ ในร่างของเขา พลังงานนี้มีความหนาเท่าเส้นผมเท่านั้น
แค่พลังงานนี้กับคล้ายกับความกระจ่างใสในใจของหลี่ปู้ !
พลังงานสีเงินขาวนี้ถูกสร้างมาจากแก่นแท้ของเลือดและฉีที่ถูกผสานเข้าด้วยกัน มันไร้สิ่งสกปรกและบริสุทธิ์มากกว่าพลังงานในร่างของเขาในตอนนี้ถึง 2 เท่า !
แก่นแท้พลังงานของหลี่ปู้ค่อย ๆ เปลี่ยนกลายเป็นพลังงานสีเงินขาว ชั้นของเหลวที่แปรสภาพเป็นของแข็งสีดำ ๆ ค่อย ๆ ถูกขับออกมาจากร่างของเขา มันส่งกลิ่นเหม็นที่น่าขยะแขยงมาก
อย่างไรก็ตาม หลี่ปู้หมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ทำให้เขาไม่ได้สังเกตเห็นมัน
พลังงานสีเงินขาวพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ในไม่ช้ามันก็มีความหนาเท่าด้ามง้าวที่กำลังวนเวียนอยู่ในร่างของเขา
“แฮ่ก …”
ใบหน้าของหลี่ปู้บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเมื่อพลังงานที่แสนคมไหลผ่านเลือดและเนื้อของเขาทุก ๆ ส่วน เซลล์ในร่างของเขามันรู้สึกราวกับถูกยิงทะลุด้วยลูกธนูนับหมื่น
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ปู้รู้สึกราวกับวิญญาณของเขากำลังจะสลายไป ร่างกายของเขาพังทลายลงด้วยความเจ็บปวด มันเปลี่ยนจากความเจ็บปวดเป็นการด้านชา ทันใดนั้นร่างของเขาก็สั่นอย่างรุนแรงราวกับผู้ชายที่กำลังจะตายเพราะความหิวกระหายกลางทะเลทรายแล้วจู่ ๆ ก็มีน้ำสีเงินปรากฏตรงหน้า
เซลล์ทั้งหมดในร่างของเขารู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเห็นพลังงานสีเงินขาวไหลเวียนมา พวกมันรีบดูดซับอย่างรวดเร็ว
“มันจบแล้ว ?’
หลี่ปู้ลืมตาที่แดงก่ำ ทันทีที่เขาพูดเขาก็ตกใจกลัว เสียงของเขามันแหบแห้งอย่างมาก
เขาเหลือบมองสิ่งสกปรกบนร่างของเขา แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเมินมัน หลังจากที่ต้องทนทารมานมาเป็นเวลานาน กลิ่นเหม็นพวกแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก
พลังจิตของเขาพุ่งออกมาและห่อหุ้มร่างของเขาจนทำให้เขาสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้อย่างชัดเจน !
“นี่คือร่างกายของข้า !” หลี่ปู้นพูดด้วยความตกใจ
แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่ามันจะมากขนาดนี้ !
ทุกเซลล์ในร่างของเขามันมีลักษณะเหมือนผลึก มันเต็มไปด้วยพลังมหาศาล อวัยวะทั้งห้าและอวัยวะภายในทั้ง 6 ของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสงหลากสีหลายชั้น
เลือดและฉีของเขาราวกับเตาหลอม หลี่ปู้รู้สึกได้ว่าแม้เขาจะไม่ได้ใช้พลัง เพียงแค่พึ่งพาความแข็งแกร่งในร่างของเขาก็เพียงพอที่จะเอาชนะผู้เชี่ยวชาญขั้นสี่ของร้อยปี !
กระดูกสีขาวของเขาเองก็ส่องแสงแวววาวสีเงนและดูเหนียวแน่น มีลวดลายที่ลึกซึ้งจำนวนนับไม่ถ้วนเชื่อมโยงกันไปมาตามกระดูกของเขา
พลังงานใหม่นี้เขาสามารถควบคุมมันได้ง่ายมาก นอกจากนี้ความบริสุทธิ์ของมันก็ยังมากกว่าเดิมถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับเคล็ดการฝึกฝนก่อนหน้านี้ของเขา !
“ถึงข้าจะไม่ได้พัฒนาขึ้นแต่กลับมาอยู่ในชั้นต้นของขั้นสี่ของร้อยปี แต่ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าตอนที่มีพลังขั้นสูงสุดก่อนหน้านี้ซะอีก !’
หลี่ปู้ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ จากนั้นชั้นพลังงานสีเงินขาวก็ไหลไปตามผิวหนังของเขาเพื่อขจัดพลังงานที่ไม่บริสุทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วน
“เพ้ง !’
อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาหายไปแล้ว ผิวของเขาในตอนนี้ดูดีขึ้นมาก เขาเหยียดมือออกไปแล้วกำหมัดแน่นจนเกิดเสียงดังราวกับอากาศถูกบดขยี้ !
ใบหน้าของหลี่ปู้เปล่งประกายด้วยความดีใจ เขายกง้าวสวรรค์ขึ้นมาอย่างช้า ๆ !
“ฟุบ !”
แสงสีเงินขาวเปล่งประกายจนเกิดรอยลึกบนผนังห้องลับ
แต่ก่อนที่เขาจะทดสอบความแข็งแกร่งอีกครั้ง เขารู้สึกได้ถึงการหมุนของโลก เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้งเขาก็กลับมาอยู่ที่ภูเขา
มันไม่ได้มีเพียงหลี่ปู้ มันยังมีคนอื่น ๆ อีกประมาณสิบคนปรากฏตัวพร้อมกันในเวลาเดียวกัน แต่ละคนนั้นถืออาวุธที่แตกต่างกันออกไป
ทุกคนมองไปรอบ ๆ ด้วยความตกใจ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความระแวง
“บูมม !”
“แกร๊ก !”
ทันใดนั้นภูเขาก็สั่นสะเทือน ทุกคนรีบบินขึ้นไปบนฟ้าโดยไม่ลังเล
พวกเขาเห็นหมอกที่อยู่รอบตัวหายไปและตามมาด้วยเสียงดังกึกก้องไปทั่วภูเขา !
คนหลายร้อยคนที่อยู่ในระหว่างการทดสอบก็ร่วงลงไปพร้อมกับหมอก ถึงแม้พวกเวกเขาจะบินหน้าแต่ก็ทำได้เพียงเอาตัวรอดแล้วมองไปยังภูเขาที่ค่อย ๆ พังทลายลงหายไป ใบหน้าของพวกเขาว่างเปล่าและมีหลายคนที่เปลี่ยนไปมา
“อาวุธมันมีเพียงไม่กี่สิบชิ้น พวกมันคือคนที่ทำสำเร็จแต่พวกเราไม่ !” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งตะโกนขึ้นเมื่อเห็นกลุ่มของหลี่ปู้
เสียงตะโกนเพียงหนึ่งเดียวกลับทำให้บรรยากาศรอบ ๆ เปลี่ยนไปทันที
ผู้ฝึกตนหลายร้อยคนที่ออกมามือเปล่าล้วนมองดูพวกเขาด้วยสายตาโลภ
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ รู้สึกได้ว่าสถานการณ์เริ่มย่ำแย่ ในหมู่พวกเขามีคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มตอบโต้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นคนพวกนี้เขาจึงไม่ลังเลที่จะตะโกนขึ้น “คนจากแก๊งเปลวเพลิงสีแดงอยู่ไหน !”
“แก๊งเปลวเพลิงสีแดงอยู่ที่นี่แล้ว !” เสียงกว่าร้อยเสียงดังขึ้นจนทำให้คนรอบ ๆ ตกใจกลัว
ใบหน้าของคนรอบ ๆ เปลี่ยนไปทันที แก๊งเปลวเพลิงสีแดงไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมควรไปยั่วยุ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงยืนมองการรวมตัวกันของพวกเขา
“ผู้เชี่ยวชาญของนิกายอีกาไม้อยู่ไหน ? รีบมารับข้าเร็ว !”
ผู้นำของกลุ่มอื่น ๆ เริ่มก้าวออกมาแล้วให้คนของพวกเขาพาออกไป มันทำให้หลี่ปู้และคนอื่น ๆ ที่ไม่มีคนพรรคพวกเริ่มรู้สึกเจ็บปวด
สุดท้ายก็หลงเหลือเพียงแค่ 7 คน คนอื่น ๆ ถูกพาตัวกลับไปยังกลุ่มของตัวเองอย่างปลอดภัยแล้ว
นอกเหนือจากหลี่ปู้แล้วอีก 6 คนเองก็ดูไม่เต็มใจนัก พวกเขาไม่ได้ก้าวออกมาแม้ว่าจะมีผู้นำกลุ่มอื่น ๆ ออกมารับพวกเขา
นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ดีว่าเมื่อพวกเขากลับไปที่กลุ่ม อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาได้รับมามันจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาอีกต่อไป
“มันช่างน่าประะหลาดใจจริงที่คนพวกนี้ไม่ได้รับเคล็ดการฝึกฝนจากอาวุธของพวกเขา”
หลี่ปู้เมินทั้ง 6 คนที่อยู่รอบตัว หลังจากมองแรงกดดันของพวกเขาแล้วเขารู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป
“หมาป่าน้อย พวกเราใช้ทรัพยากรไปจำนวนมากเพื่อดูแลแก แต่ตอนนี้แกแค่ได้ผลประโยชน์ไปนิดหน่อยแกก็ไม่ฟังคำสั่งของข้างั้นแล้วรึ !”
ชายชราที่ดูเหมือนหัวหน้ากลุ่มยืนอยู่กลางอากาศและพูดด้วยความพูดอันชอบธรรม “ในความคิดของข้า ทำไมพวกเราไม่ฆ่าพวกมันที่กล้าทรยศพวกเราล่ะ ?” เขายิ้มจากนั้นก็โบกแขน “ทำไมเราไม่ร่วมมือกันจัดการพวกมัน ? สำหรับอาวุธเราก็แค่แบ่งบันกันไปมันจะไม่ดีกว่านี้งั้นรึ ?”
ทุกคนสั่นเล็กน้อยพร้อมกับมองไปที่ชายชรา พวกเขาทุกคนกำลังคิดว่าควรจะออกห่างจากเจ้าแก่นี้ในในอนาคต ไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่าเจ้าแก่นี้มันจะทำอะไรกับพวกเขาในอนาคต
“ข้าไม่มีอะไรให้ปฏิเสธ”
“งั้นก็ตกลงแล้ว”
ผู้นำกลุ่มอีก 4 กลุ่มพยักหน้า มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ชิ้นเนื้อหลุดไปจากมือพวกเขา
“พวกแกน่าจะเห็นด้วยตัวเองแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะมาระแวงกันเองอีกต่อไป ตอนนี้พวกเราได้สมบัติที่ต้องการมาแล้วแต่เจ้าพวกสารเลวพวกนี้มันต้องการจะขโมยสมบัติขพงกวเราไป !”
“ใช่ ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกนอกจากจะฆ่าแล้วหาทางหนีไปให้ได้ !”
“ไม่มีใครพูดได้หรอกว่าใครถูก ใครผิด แต่พวกเราไม่สามารถมานั่งรอความตายอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป พวกเราต้องร่วมมือกัน !”
ผู้เชี่ยวชาญอีก 6 คนยืนรวมกันและมองไปที่หลี่ปู้
หลี่ปู้หันไปมองรอบ ๆ ก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ก้าวออกไปข้างหน้าและตะโกนขึ้น “สู้ !’
“สู้ !”
“สู้ !”
จิตสังหารที่ทรงพลังค่อย ๆ แผ่ออกมาจากร่างของหลี่ปู้ มันราวกับเขาเหมือนเทพเจ้าแห่งสงครามที่มาจุติลงบนโลกมนุษย์ มันราวกับเขามีความสามารถติดตัวในการแพร่ขยายอำนาจที่ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกได้ว่าถูกกระตุ้นจนกระหายเลือดมากยิ่งขึ้น อีก 6 คนเองก็ไม่น้อยหนา พวกเขาจับอาวุธแน่นแล้วกู้ก้องคำรามไปบนท้องฟ้าเช่นกัน
“ไอ้บัดซบ ฆ่ามัน !”
ผู้ฝึกตนหลายร้อยคนพุ่งไปข้างหน้าเพื่อสังหารกลุ่มของลหี่ปู้ !
“ตายซะ !” ใช้ประโยชน์จากการที่ยังไม่ถูกรุมล้อม หลี่ปู้พุ่งนำออกไปโดยทิ้ง 6 คนไว้ข้างหลัง เขาฟันง้าวสวรรค์ไปข้างหน้าทันที !
“แก๊ง !”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของขั้นร้อยปียกค้อนทองแดงขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตีของหลี่ปู้ แต่ก่อนที่เขาจะตอบสนองได้ทัน เขาก็ถูกสับตัวขาดครึ่งไปพร้อมกับค้อนของเขา !
การต่อสู้เริ่มกระจายวงกว้าง หลี่ปู้เองก็แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เขารู้สึกราวกับยิ่งเขาสู้มากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น !
ทุกครั้งที่เขาสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ กระแสพลังงานก็จะพุ่งเข้าไปในง้าวสวรรค์ ในขณะเดียวกันก็ฒ๊พลังงานจากง้าวสวรรค์ส่งมาสนับสนุนเขาเช่นกันทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกขั้น
ทั้ง 7 คนรวมกลุ่มกันต่อสู้และเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน โดยอีก 6 คนนั้นล้อมและปกป้องหลี่ปู้เอาไว้ ซึ้งไม่มีใครรู้เลยว่ามีอะไรผิดปกติกับการกระทำของพวกเขา
ผู้เชี่ยวชาญครึ่งก้าวราชาพันปีที่อยู่ไม่ไกลมองดูการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
“เจ้านั่นมันมาจากไหนกัน ? มันแข็งแกร่งจริง ๆ น้องเจี้ยงจำมันได้หรือไม่ ?”
ออร่าเย็น ๆ พุ่งออกมาจากร่างของผู้เชี่ยวชาญครึ่งก้าวราชาพันปีในขณะที่เขาเฝ้ามองคนของเขาที่ถูกสังหารราวกับผักปลา
“พี่ใหญ่เต๋า ก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปบนภูเขา ดูเหมือนจะเคยเห็นมันมาก่อน” ชายร่างสูงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อพูดโดยไม่หันหลังกลับ ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตั้งใจที่จะสู้
“เจ้านั่นเองรึ มันซ่อนตัวได้ดีเยี่ยมจริง ๆ ถึงมันจะซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้สุดท้ายมันก็ยังอ่อนแอกว่าข้าอยู่นิดหน่อย !” ชายวัยกลางคนที่ดูเย็นชาพูดขึ้นพร้อมกับเพ่งมองหลี่ปู้ เขาดูเหมือนงูพิษที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดเพื่อรอเหยื่อเข้ามา