Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 528

ตอนที่ 528

รอยแตกสีดำมันดูน่ากลัวราวกับสามารถดูดวิญญาณออกไปจากร่างได้ หากมองดูจากระยะไกลก็จะเห็นถึงใยแมงมุมสีดำขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนอากาศ

ผู้คนรวมตัวกันอยู่กันอีกที่และมองดูภูเขาสูงหลายพันเมตรที่ค่อย ๆ พังทลายลง

ไม่กี่นาทีต่อมาพื้นที่ที่มันถล่มราวกับเค้กที่ถูกขุดออกไป มันกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึกหลายพันเมตรและในภายภาคหน้ามันก็จะกลายเป็นทะเลสบายขนาดใหญ่แทน

ผู้คนรอบ ๆ รู้สึกโล่งใจ โชคดีที่พวกเขาออกมาเร็ว หากออกมาช้ากว่านี้ซักนาทีเป็นไปได้ว่าจะหายไปพร้อมกับภูเขานั่น

ที่ยืนอยู่ตรงนี้หลงเหลือแค่เพียงร้อยกว่าคนเท่านั้น พวกเขาคือคนที่หนีออกมาได้ทันและเฝ้ามองการถล่มของภูเขา แต่ทว่าส่วนใหญ่คนที่เหลือถูกฝังลงไปพร้อมกับภูเขาลูกนั้นเสียมากกว่า

ต้องมีพลังแค่ไหนกันถึงจะมีพลังทำได้ขนาดนั้น ? เป่ยเฟิงคิดเงียบ ๆ พร้อมกับแรงบันดาลใจที่ปะทุในใจของเขา !

“ไปกันเถอะ”

เป่ยเฟิงนำหลี่ปู้และคนอื่น ๆ หายไปจากแถวนั้นอย่างรวดเร็ว

ในอีกด้าน หลี่ปิงและคนอื่น ๆ กำลังปะทะกับหมาป่าไม้เขียว หมาป่าเหล่านี้ถือว่าอ่อนแอที่สุดในหมู่ขั้นสี่ของร้อยปี แต่พวกมันในตอนนี้มีจำนวนมากกว่า 20 ตัวกำลังล้อมหลี่ปิงและคนอื่น ๆ อยู่

ไม่ว่าพวกมันจะอ่อนแอแค่ไหนพวกมันก็ยังเป็นถึงสัตว์อสูรขั้นสี่ของร้อยปี โดยปกติแล้วต้องใช้คนถึง 2 คนถึงจะสู่กับมันตัวเดียวได้

มีเพียงหลี่ปิงและอีกคนที่มีพลังขั้นสี่ของร้อยปีที่พอจะสู้กับหมาป่าพวกนี้แบบตัวต่อตัวได้

“รองหัวหน้า รีบถอยเถอะ พวกเรายื้อไม่ได้อีกต่อไปแล้ว “

หนึ่งในผู้คุ้มกันพูดออกมาพร้อมจับหน้าอกของเขาไว้แน่น สามารถมองเห็นรอยบากลึกกว่า 3 นิ้วที่กำลังมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่องได้ นอกจากนี้ยังมองเห็นหัวใจของเขาที่เผยให้เห็นได้โดยตรง

“ไม่ ! พวกเราทุกคนในตอนนี้ก็เหมือนภาระของท่านหัวหน้าตระกูล ! ถ้าพวกเราต้องการติดตามท่านต่อไปพวกเราจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ พวกเราต้องกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความตาย ! กับอีแค่หมาป่าไม้เขียว 20 ตัวยังจัดการไม่ได้แล้วพวกเราจะปกป้องท่านหัวหน้าตระกูลได้ยังไงกัน !” หลี่ปิงปฏิเสธทันที

แม้ว่าหลี่ปิงจะเป็นผู้หญิง แต่เธอก็แน่วแน่และตัดสินใจได้เด็ดขาดราวกับเป็นผู้ชาย

ทีมผู้คุ้มกันทั้งหมดเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก ความผูกพันของพวกเขานั้นแน่นแฟ้นอย่างมาก มันถึงจุดที่จะเรียกว่าครอบครัวเดียวกันก็ไม่ผิด โดยจะมีหลี่ปู้และหลี่ปิงที่โตมากที่สุดในกลุ่มพวกเขา

เมื่อหลี่ปู้ไม่ได้อยู่ที่นี่ การตัดสินใจทั้งหมดจึงทำโดยหลี่ปิง

ผู้คุ้มกันที่พูดเมื่อครู่ทำได้เพียงเงียบลง เขาไม่สนใจบาดแผลของเขาอีกต่อไป เขาเหวี่ยงดาบของเขาใส่หมาป่าไม้เขียวด้วยความดุร้ายอีกครั้ง !

หากไม่ได้อยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังพวกเขาก็จะไม่เข้าใจถึงความสิ้นหวัง ! ในตอนนี้ไม่มีใครที่ก้าวถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว สิ่งที่พวกเขาทำคือการยกดาบแล้วฟันออกไปอย่างต่อเนื่อง !

พวกเขาถูกฝึกฝนมาอย่างดี เมื่อทุกคนเริ่มต่อสู้ด้วยความสามัคคีมันทำให้พวกเขาระเบิดพลังที่ใช้สู้กับหมาป่าไม้เขียวได้

การโจมตีของพวกเขาผสานกันอย่างลงตัว ทักษะและวิชาทั้งหลายถูกใช้ออกมาอย่างคล่องแคล่ว การร่วมมือกันโจมตีและเคลื่อนไหวแต่ละครั้งเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ แต่ละคนให้ความสนใจไว้ที่ด้านหน้าของพวกเขาเท่านั้นเพราะพวกเขาได้วางความวางใจทางด้านหลังไว้กับสหายของพวกเขาเอาไว้

หมาป่าไม้เขียวค่อย ๆ ตายลงด้วยน้ำมือของพวกเขา ในไม่ช้าหลังจากผ่านไปไม่ถึง 10 นาที มีหมาป่าไม้เขียวหลงเหลือเพียง 5 ตัวเท่านั้น ทั้ง 5 ตัวหางขดอยู่ที่หว่างขาของมันด้วยความหวาดกลัว

ฝั่งมนุษย์ทั้ง 9 เองก็บาดเจ็บสาหัสมากเช่นกัน พลังฉีส่วนใหญ่ของพวกเขาหมดแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือไม่มีใครซักคนที่ล้มลง ร่างของพวกเขาปกคลุมไปด้วยเลือดจำนวนมาก มันมีทั้งเลือดของตัวเองและเลือดจากหมาป่าไม้เขียว

“อะวู้ววววววววว !”

หมาป่าไม้เขียวที่ตัวใหญ่กว่าตัวอื่น ๆ ปรากฏตัวขึ้น จากนั้นเงยหน้าขึ้นหอนไปบนท้องฟ้าด้วยเสียงโหยหวน

“ราชาหมาป่า !”

“ฆ่ามันแล้วทุกอย่างจะจบลง !

เมื่อหลี่ปิงรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ออกมาจากหมาป่าไม้เขียวตัวใหญ่ ดวงตาของเธอก็หรี่ลง มันแข็งแกร่งกว่าเธอมาก !

“ราชาหมาป่าตัวนี้เป็นแค่จ่าฝูงขนาดเล็ก เรายังมีความหวังอยู่”

สิ่งที่ทำให้หลี่ปิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกก็คืออุ้งเท้าข้างซ้ายของราชาหมาป่านั้นดูเหมือนจะบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้และดูเหมือนจะยังฟื้นฟูไม่เต็มร้อย โอกาสชนะของเธอยังคงไม่เป็นศูนย์

หมาป่าไม้เขียวค่อย ๆ ยืนขึ้นแล้วยกขาข้างซ้ายพยุงตัวเองด้วยสามขา อย่างไรก็ตามหมาป่าตัวอื่น ๆ กลับรู้สึกว่าฉากนี้ไม่ตลกแม้แต่น้อย แต่กลับกลายเป็นว่ามันคือความภาคภูมิใจที่ไม่สามารถบรรยายได้ !

“ฆ่า !”

หลี่ปิงและคนอื่น ๆ พุ่งเข้าหาราชาหมาป่าทันทีที่มันเข้ามาในระยะ 20 เมตร เธอพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ลังเลและตะโกนเสียงดังก่อนจะยกดาบขึ้นมาฟันมัน

ระยะทางเพียง 20 เมตร เพียงกระพริบตาก็ไปถึงแล้ว ในไม่ช้าหลี่ปิงก็อยู่ตรงหน้าราชาหมาป่าในระยะ 3 เมตร !

“ฟิ้ว !”

เสียงตวัดดาบดังขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าดาบนี้เร็วแค่ไหน มันมีหลงเหลือเพียงลำแสงสีขาวเท่านั้นที่เกิดจากภาพติดตาม !

“แก๊ง !”

ใบหน้าของราชาหมาป่าเปลี่ยนเป็นเคร่งครึม มันไม่ได้ถอยแต่กลับก้าวไปข้างหน้าราวกับกำลังรอให้คอโดนตัด มันยกอุ้งเท้าขวาขึ้นมาแล้วยืมแรงปะทุบนพื้นดินแล้วโจมตีไปที่ดาบด้วยกรงเล็บของมัน !

ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันจนเกิดประกายไฟพร้อมกับเสียงแสบแก้วหู

ถึงแม้ราชาหมาป่าจะมีขนาดใหญ่ แต่เพราะมันมีบาดแผลที่ขาซ้ายที่ยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์ทำให้มันถูกบังคับให้ถอยหลังมากกว่าหลี่ปิงถึง 10 ก้าว !

แขนขวาที่ถือดาบของหลี่ปิงสั่นเล็กน้อย หลังจากต่อสู้มายาวนานทำให้พลังของเธอในตอนนี้เหลือน้อยจนถึงขั้นที่เป็นอันตราย แต่แทนที่จะถอยเธอยังคงเดินหน้าไล่ฟันราชาหมาป่าไม่หยุด เธอเสมือนเงาที่คอยไล่ตามมัน เธอบีบเค้นพลังเลือดฉีดที่แห้งเหือดในร่างแล้วแทงดาบออกไปยังราชาหมาป่า !

การแทงครั้งนี้มันเป็นสิ่งที่เพิ่งเรียนรู้มา หากจะเรียกก็เหมือนกับโนวิสย์ที่เพิ่งเรียนรู้ทักษะนักดาบ แม้ว่าจะดูดีแต่มันก็ไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น [*โนวิสย์=มือใหม่]

“โฮก !”

ราชาหมาป่ากระโดดด้วยขาหลังที่ทรงพลังจนเกิดรอยลึกที่ด้านหลังมัน การถูกทุบตีโดยมนุยษ์ตัวจ้อยมันทำให้มันรู้สึกอัปยศอย่างมาก หลังจากที่ถอยมานานในที่สุดมันก็ตัดสินใจพุ่งเข้าหาหลี่ปิงด้วยการโจมตีที่ดุดันที่สุด !

ราชาหมาป่าพุ่งเข้าใส่หลี่ปิงเหมือนรถบรรทุกขนาดเล็ก ร่างเล็ก ๆ หากเปรียบเทียบก็เหมือนหลี่ปิงเป็นมนุษย์ที่กำลังจะถูกช้างพุ่งชน หรืออีกความหมายก็คือเหมือนเรือแพเล็กที่อยู่กลางมหาสมุทรที่พร้อมจะพลิกคว่ำได้ตลอดเวลา !

คนรอบ ๆ เองไม่สามารถช่วยเธอได้ พวกเขาได้แต่กำมือแน่น แม้ว่าพวกเขาจะสนิทกันจนดูเหมือนครอบครัวเดียวกัน แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ต้องการแข็งแกร่งกว่าคนรอบตัวพวกเขา

เคยมีคำพูดไว้ว่าการต่อสู้ไม่มีอันดับหนึ่งและอันดับสอง พวกเขาทั้งหมดเพิ่งจะเข้าใจความหมายของมันเมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงความจริงที่ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาน้อยไปกว่าท่านหัวหน้าตระกูลมากแล้ว และในตอนนี้พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายก็ทำได้เพียงพึ่งพาความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อเอาตัวรอดไปให้ได้ จุดนี้มันทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บใจอย่างมากในฐานะผู้ชาย แต่กลับกันมันก็กลายเป็นการจุดไฟในตัวพวกเขาด้วยเช่นกัน

กรงเล็บราชาหมาป่าพุ่งเข้าใส่ดาบ แต่ทันใดนั้นดาบกลับหลบเลี่ยงกรงเล็บมันไปได้อย่างง่ายดายและแทงเข้าหามันโดยตรงอีกครั้ง !

ราชาหมาป่าก็ไม่ลังเลใด ๆ เช่นกัน มันเปลี่ยนวิถีของกรงเล็บของมันไปตามวิถีดาบเช่นกัน ราชาหมาป่าไม้เขียวตัวนี้ไม่เหมือนหมาป่าไม้เขียวตัวอื่น มันสู้และฆ่ามามากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ การได้เป็นราชาหรือจ่าฝูงก็เพียงพอจะพิสูจน์แล้วว่ามันไม่ได้อ่อนแอ !

วิถีของดาบเปลี่ยนไป 9 ครั้ง มันเปลี่ยนไปมาจนสุดท้ายพลังที่ใช้แทงและความเร็วนั้นลดลงไปมาก

“แก๊ง !”

ราชาหมาป่าเยาะเย้ยผ่านดวงตาพร้อมกับเผยฟันขาวเรียงแถวออกมา ด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับสายฟ้า มันกัดดาบจนหักไปครึ่งหนึ่ง !

ทันทีที่ดาบหักไปครึ่ง ส่วนที่หักไปก็พุ่งไปบนฟ้าราวกับดาวตกที่บินข้ามทองฟ้า มันเร็วอย่างมาก จากนั้นดาบอีกครึ่งในมือหลี่ปิงก็ระเบิดพลังมหาศาลเป็นครั้งที่สองแล้วแทงเข้าไปในหัวของราชาหมาป่า !

พลังที่ระเบิดนั่นพุ่งทะลุผ่านหัวของราชาหมาป่าลึกจนไปถึงแกนพลังแล้วทำลายมันลงไปพร้อมกัน !

แต่ก่อนที่มันจะหลบวิถีดาบอีกครั้งมันก็รู้สึกได้ว่าความแข็งแกร่งของมันหายไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่การยกอุ้งเท้าขึ้นมาก็ยากมาก

ในไม่ช้ามันก็เริ่มรู้สึกง่วงอย่างมาก มันพยายามที่จะลืมตาเพื่อเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายต่อ แต่สิ่งที่มันเห็นก็คือโลกสีแดง

“ตุ้บ !”

ราชาหมาป่าทรุดตัวลงบนพื้นพร้อมกับปากของมันที่มีดาบฉิงเฟิงแทงเข้าไปครึ่งหนึ่งหลงเหลือแต่เพียงด้ามจับให้เห็นเท่านั้น เลือดจำนวนมากค่อย ๆ ไหลออกมาจากหัวพร้อมกับดวงตาที่ปิดลงของมัน

มือที่เหมือนหยกยังคงจับด้ามดาบเอาไว้ หลี่ปิงทรุดตัวลงบนพื้นพร้อมกับราชาหมาป่า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงไม่ยอมถอนดาบออกมา

“โฮ่ง โฮ่ง !”

หมาป่าไม้เขียวอีก 5 ตัวส่งเสียงครวญครางก่อนจะรีบวิ่งหนีไปทันทีเมื่อเห็นราชาหมาป่าตายลง

“ตุ้บ !”

เมื่อเห็นหมาป่าตัวอื่นหนีไปแล้ว ผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ ก็ทรุดตัวลงกับพื้นทันที พวกเขาอ้าปากค้างเพื่อหอบหายใจออกมา

พลังกายและพลังฉีของทุกคนถูกใช้ไปจนหมด เมื่ออันตรายหายไปแล้วมันทำให้พวกเขาสามารถผ่อนคลายได้สักที

“เร็ว พารองหัวหน้าไปจากที่นี่ก่อน ที่นี่กลิ่นเลือดมันแรงเกินไป มันอาจจะล่อสัตว์อสูรขั้นสี่ตัวอื่นมาได้ ถ้ามันโผล่หัวมาซักตัวละก็มันฆ่าพวกเราได้ง่าย ๆ แน่”

หลังจากพักผ่อนไม่กี่นาที พวกเขาก็พาหลี่ปิงที่หมดสติออกไปทันที

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาหนีไป เสียงคำรามกึกก้องและเสียงการต่อสู้ก็ดังขึ้นโดยมีสัตว์อสูรหลายตัวกำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงศพของหมาป่าไม้เขียว

เป่ยเฟิงและคนอื่น ๆ เองก็กำลังเดินตัดป่ามาอย่างรวดเร็วเช่นกัน สัตว์อสูรที่โจมตีพวกเขาจะถูกฆ่าอย่างรวดเร็วด้วยหลี่ปู้ สิ่งที่หลงเหลือเอาไว้จากพวกมันคงมีเพียงศพเปล่า ๆ เนื่องจากของล้ำค่าไม่ว่าจะเป็นหนังหรือฟันที่มีค่าจะถูกเอาไปด้วยทั้งหมด

ความแข็งแกร่งของหลี่ปู้ตอนนี้มีมากกว่าเมื่อก่อนมาก ความต้องการในด้านอาหารเองก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สำหรับพลังของเขาในตอนนี้มาถึงระดับสูงสุดของร้อยปีแล้ว

พลังของเขาถูกเปลี่ยนให้บริสุทธิ์กว่าแต่ก่อนมาก นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์จำนวนมากที่อยู่ในหัวของเขา

หน่ำซ้ำด้วยการใช้เนื้อและสมุนไพรระดับสูงเข้าช่วย มันทำให้การพัฒนาของเขาเร็วขึ้นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะกลับไปจุดเริ่มต้นแต่เขาในตอนนี้ก็มาถึงขั้นสูงสุดของร้อยปีโดยไม่ติดคอขวดใด ๆ เลย

กู่ฉีมองดูเนื้อสัตว์อสูรสีทองที่ถูกย่างไฟพร้อมกับสายตาที่ดูถูก มันหยิบเอาแครอทออกมาแล้วเคี้ยวมันด้วยท่าทางเมินเฉย

ปากของเป่ยเฟิงกระตุกเล็กน้อยในขณะมองดูมัน เขาอยากรู้มากว่ามันมีแครอทกี่อันในแหวนมิติของมัน เมื่อมันทำอะไรซักอย่างมันก็จะเคี้ยวแครอท เมื่อมันไม่ได้ทำอะไรมันก็จะเคี้เยวแครอท มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่ามันมีที่แอบเอาไว้อีกกี่อัน !

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท