Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 552

ตอนที่ 552

เมื่อพวกเป่ยเฟิงเข้าไปในที่พักแล้ว ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติยกเว้นแต่พวกจมูกยาวทั้งหลายที่ดูผิดหวัง

แต่คนที่ฉลาดย่อมรู้สึกถึงพายุที่กำลังมาเยือนเนื่องจากพวกเขาเห็นคนของหอการค้าชิงโจวอยู่รอบ ๆ

“ท่านหัวหน้าตระกูล มีบางคนกำลังสอดแนมเรา” หลี่ปู้รายงานให้เป่ยเฟิงฟัง

“อย่าไปสนใจ ถ้ามันกล้าปรากฎตัวต่อหน้าพวกเราก็แค่ฆ่าทิ้งซะ”

เป่ยเฟิงนั่งอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอม เขาพูดให้หลี่ปู้สบาย ๆ แต่แววตาของเขาดุร้ายมาก

“ไม่ได้มีเพียงหอการค้าชิงโจวเท่านั้น มันยังมีผู้ฝึกตนหลายคนที่กำลังสอดแนมเราเช่นกัน ดูเหมือนการค้าที่เรากับหอการค้าตงหลินจะถูกเปิดเผยออกมาแล้ว”

หลี่ปู้กังวลว่าเงินจำนวนมหาศาลนี้จะดึงดูดผู้คนจำนวนมากเข้าไปจนยากจะจัดการได้

“หอการค้าตงหลิน …” เป่ยเฟิงพึมพำพร้อมกับขมวดคิ้ว ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะรุกรานหอการค้าตงหลิน

“ข้าเข้าใจแล้ว ไปบอกคนอื่น ๆ ให้ระวังตัวไว้” เป่ยเฟิงบอกก่อนจะกลับไปนอน

ย้อนกลับมาที่หอการค้าตงหลิน เหลียนเป่ยกำลังมองดูลูกน้องของเขาที่สร้างปัญหา

“นักประเมิน เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมการค้าของเราถึงรั่วไหลออกไปได้ ?”

ตรงหน้าเหลียนเป่ยคือเหล่าพนักงานและชายวัยกลางคน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดใหญ่

เมื่อได้ยินเสียงที่จริงจังของเหลียนเป่ย ใบหน้าของจางกานมืดลงและเขาก็คุกเข่าบนพื้นทันที “ผู้จัดการ มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าขอเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้แด่เพียงผู้เดียว ข้าสมควรตาย”

“ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าสมควรตายงั้นก็ตายไปซะ” เหลียนเป่ยสะบัดแขน จากนั้นแสงไฟสีขาวก็กระพริบวูบวาบ

แม้แต่พนักงานของเขาก็ไม่กล้าส่งเสียงกรีดร้องออกมา

“ดูเหมือนมีบางคนจะลืมกฎของเราไป ข้าคิดว่ามันคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องจำได้ เอาล่ะ นำหัวของเจ้านี้ไปมอบให้กับลูกค้าของเราซะ”

เมื่อเห็นเหลียนเป่ยจริงจังขนาดนี้ ไม่มีใครกล้าคัดค้านใด ๆ ทั้งนั้น หัวหน้าของพวกเขาคือผู้มีพลังระดับราชาพันปีขั้น 6 ซึ้งไม่แปลกที่ลูกน้องอย่างพวกเขาจะกลัวเขามาก !

“หยานไป๋กับคนอื่น ๆ จะมาตอนไหน ?” ภายในหอการค้าชิงโจว มีกลุ่มคนกำลังนั่งประชุมกันอยู่ ซึ้งหนึ่งในนั้นคือพานหยุนเฟ่ยและที่ปรึกษาสูงวัยของเขา

“นายท่าน ท่านหยานไป๋และคนอื่น ๆ จะมาถึงในอีก 2 วัน” ชายชราตอบด้วยความเคารพจากนั้นก็กล่าวเสริม “ถึงจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือที่หอการค้าของเราและพนักงานปิดบังเอาไว้ แต่ดูเหมือนลูกค้าของเราจะลดลงไปถึง 10%”

“ไม่ต้องกังวลไป ถึงแม้ลูกค้าเราจะหายไปแต่เราสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อสั่งสอนอีกฝ่ายได้ง่ายขึ้น เราต้องให้คนอื่นรู้ว่าเราไม่ใช่พวกที่จะรุกรานได้ง่าย ๆ !”

พานหยุนเฟ่ยไม่ได้กังวลเพราะเขารู้ดีว่าตราบใดที่ทั้ง 3 คนมารวมตัวกัน หอการค้าชิงโจวจะไม่มีวันล้ม

เวลาผ่านไป

เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นพร้อมกับระเบิดพลังออกมาจนทำให้ทั้งห้องราวกับถูกพายุถล่ม กระเบื้องสีขาวบนพื้นแตกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับกระแจที่ระเบิด

“ในที่สุดก็สำเร็จ !” เป่ยเฟิงตะโกนด้วยความดีใจ ในที่สุดเขาก็มาถึงจุดสูงสุดของร้อยปีที่แท้จริง !

“ท่านหัวหน้าตระกูล เกิดอะไรขึ้น ?”

หลี่ปิงรีบวิ่งเข้ามาและสำรวจรอบ ๆ ด้วยความกังวล

“ไม่มีอะไร อ่อใช่ เรือรบมาถึงแล้วใช่ไหม ?” เป่ยเฟิงถามพร้อมกับบอกให้หลี่ปิงใจเย็นลง

“ท่านหัวหน้าตระกูล เรือรบกำลังจะมาถึงในอีก 15 นาทีหากไม่มีการล่าช้าใด ๆ หลายวันมานี้ข้าได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับหอการค้าชิงโจวได้จำนวนมาก นอกเหนือจากพานหยุนเฟ่ยที่สู้กับกู่ฉีในวันนั้น พวกเขายังมีผู้ที่มีพลังระดับราชาพันปีอีก 2 คน !”

จากการบอกเล่าดูเหมือนหยานไป๋จะเก่งกว่าพานหยุนเฟ่ยอย่างมาก แต่คนที่อันตรายที่สุดคือหลู่ซีมู่ ดูเหมือนเขาจะมีพลังระดับราชาพันปีขั้น 3

หลี่ปิงบอกข้อมูลให้เป่ยเฟิงฟังช้า ๆ แน่นอนว่าส่วนที่น่ากังวลที่สุดไม่ใช่ศัตรูในที่โล่ง แต่มันยังมีศัตรูในที่มืดอีกด้วย

“จงเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อเรือรบมาถึงในเวลานั้นจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น หากข้าคิดถูกละก็ เรือรบลำนี้น่าจะเป็นเรือรบที่หอการค้าชิงโจวส่งมาเพื่อมาหาเรื่องโดยเฉพาะ” เป่ยเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง สำหรับเขา หอการค้าชิงโจวคือศัตรูตัวจริง ส่วนผู้ฝึกตนที่อยู่ในที่มิดที่รอใช้ประโยชน์ของสถานการณ์นั้นไม่ได้มีอะไรให้กังวล

ราชาพันปีไม่ใช่คนที่ล้อเล่นด้วยได้ เป่ยเฟิงเชื่อว่าไม่มีคนมากนักที่กล้ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ค่ะ !” หลี่ปิงพยักหน้าเห็นด้วยเพราะเธอก็คิดแบบนั่น

“กู่ฉี การเตรียมการของแกไปถึงไหนแล้ว” เป่ยเฟิงเชื่อมต่อกับกู๋ฉีในใจและถามมันโดยตรง

“กี้ กี้ !”

เจ้ากระต่ายส่ายหัวเบา ๆ

“ไม่เป็นไร อย่าไปฝืนมันเลย ดูเหมือนการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากไม่น้อย” เป่ยเฟิงไม่ได้ใส่ใจมากนัก ชีวิตของผู้ฝึกตนนั้นคือการต่อสู้โดยเดิมพันด้วยชีวิต มันไม่มีทางที่ทางเดินของเขาจะราบรื่นไปตลอดทาง

กู่ฉีดื่มน้ำเทียนจุนเข้าไป ในขณะเดียวกันมันก็กินสมุนไพรเพิ่อพยายามทำลายคอขวดไปยังระดับต่อไป แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว

ความเร็วในการฝึกฝนของสัตว์อสูรนั้นช้ากว่ามนุษย์อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นกู่ฉีเพิ่งจะทำลายคอขวดมาไม่นาน ดังนั้นมันย่อมมีผิดหวังบ้างเล็กน้อย

ถึงอย่างนั้นเจ้ากระต่ายตัวนี้ก็ยังพัฒนาตัวเองจนมาถึงระดับจุดสูงสุดของราชาพันปีขั้นสองได้ !

ด้วยทักษะที่มันมี ต่อให้เป็นราชาพันปีขั้นสี่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับมัน !

ทันใดนั้นวัตถุขนาดใหญ่ก็ปรากฏเหนือเมฆ !

เรือรบที่ยาวหลายกิโลเมตรปรากฎบนท้องฟ้า การยิงปืนใหญ่หลักเพียงครั้งเดียวของมันทรงพลังพอ ๆ กับการโจมตีเต็มกำลังของผู้มีพลังระดับราชาพันปี !

มันดูราวกับปราสาทลอยฟ้าที่ส่องแสงสีฟ้าออกมา

มันคือภาพที่ยอดเยี่ยมมากที่ในชีวิตคน ๆ หนึ่งจะได้เห็นซักครั้ง !

ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับเรือรบลำนี้มาก เมื่อมันลงมาถึงพื้นก็เกิดแรงลมมหาศาลที่กระจายออกไป

“ช่างเป็นโลกที่มหัศจรรย์จริง ๆ ถึงแม้ข้าจะอาศัยอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยวิถีแห่งการต่อสู้ แต่เทคโนโลยีมันกลับก้าวหน้าไปไกลมาก” เป่ยเฟิงตื่นเต้นมาก เทคโนโลยีของที่นี่ก้าวหน้าไปได้ไกลกว่าโลกใบเดิมมาก น่าเสียดายที่คนที่นี่ให้ความสำคัญกับอาวุธมากกว่าความเป็นอยู่ของประชาชน

หลังจากเรือรบลงจอดถึงพื้น ทุกคนรู้สึกได้ว่าการต่อสู้ใกล้เข้ามาแล้ว ผู้ฝึกตนจำนวนมากบินอยู่เหนือเป่ยเฟิงและเฝ้ารอการต่อสู้ด้วยความตื่นเต้น !

“ไปกันเถอะ ข้าอยากรู้เหมือนกันว่าหอการค้าชิงโจวจะมีดีซักแค่ไหน”

เป่ยเฟิงเดินนำหลี่ปู้และคนอื่น ๆ ออกจากที่พักโดยไม่สนใจการจ้องมองของคนรอบ ๆ

“หึ โชคครั้งใหญ่เลยนะเนี่ย ข้าละอยากรู้จริง ๆ ว่าใครจะลงมือก่อน”

“ใช่ ๆ … แต่ข้าได้ยินมาว่าหอการค้าชิงโจวจริงจังมากในการกำจัดพวกเขาทั้งหมด !”

“มันยากที่จะพูด อย่าลืมว่ายังมีคนอื่นที่รอปล้นโชคครั้งนี้อยู่ด้วย”

ผู้ชมรอบ ๆ รู้สึกกระตือรือร้นมาก

“โอ้ ? ไม่ ดูนั่นพวกมันกำลังไปทางนั้น !”

ผู้ฝึกตนคนหนึ่งเปล่งเสียงด้วยความประหลาดใจเมื่อพวกเขาเห็นเป่ยเฟิงและคนของเขามุ่งหน้าไปทิศหนึ่ง

“อะไรกัน ? พวกเขามุ่งหน้าออกจากเมือง ? พวกเขาไม่รู้หรือยังไงว่าพวกเขาเสมือนเนื้อฉ่ำ ๆ สำหรับผู้ฝึกตนที่หิวโหยพวกนี้ ?”

ไม่มีใครเข้าใจได้ว่าทำไมพวกเขาถึงไปที่นั่น การอยู่นอกเมืองหมายความว่าใครจะทำอะไรก็ได้โดยไม่มีกฏ !

ในไม่ช้าผู้ฝึกตนจำนวนมากก็เริ่มติดตามกลุ่มของเป่ยเฟิงไป

“น่าสนใจ พวกมันออกมาทั้งหมดเลยงั้นหรอ ?”

“ชายคนนี้กล้าหาญจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เขาอ่อนแอ”

บางคนชื่นชมเป่ยเฟิงและบางคนก็เวทนาเขา แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาคือคนบ้าหรือไม่ก็มั่นใจในตัวเองมากเกินไป

“ดูเหมือนข้าจะไม่ได้ต่อสู้มานานเกินไป มันเลยทำให้บางคนลืมไปแล้วว่าหอการค้าชิงโจวของเราทำลายศัตรูยังไง !”

“ไอ้มันฝรั่งบัดซบ ใครมันกล้าตัดแขนลูกของข้า ?!”

เมื่อประตูห้องโดยสารขนาดใหญ่เปิดขึ้น ชายสองคนที่น่าเกรงข้ามก็ก้าวออกมาพร้อมกับผู้ฝึกตนในชุดคลุมสีม่วงอีก 10 กว่าคน ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ที่ระดับสี่ของร้อยปี พวกเขาผ่านการต่อสู้มาจำนวนมากทำให้บรรยากาศรอบ ๆ เต็มไปด้วยจิตสังหาร !

เมื่อเห็นชายสองคนที่น่ากลัวปรากฎตัวขึ้น พานหยุนเฟ่ยก็ยิ้มและทักทาย “พี่หยาน พี่หลู่”

หยานไป๋ข้ามพิธีรีตองทั้งหมดและถามขึ้น “น้องหยุน เจ้าคนที่ทำลูกชายข้าพิการมันอยู่ไหน ?!”

“พี่หยาน มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่คิดว่าพวกมันจะกล้าปะทะซึ้ง ๆ หน้ากับข้า นอกจากนี้ดูเหมือนพวกมันจะแข็งแกร่งกว่าข้า ข้าจึงไม่สู้กับพวกมันเพราะกลัวว่าจะทำให้หยานฮั่วตกอยู่ในอันตราย”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พานหยุนเฟ่ยรู้สึกว่าตัวเองผิดอย่างมาก

“เจ้าอย่าได้ตำหนิตัวเอง เจ้าพวกนั้นมันอยู่ไหน ?” หลู่ซีมู่กล่าวขัดขวางการพูดคุยของทั้งคู่เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัด

“ไม่ต้องห่วง พี่หลู่ ข้าได้ให้คนจับตามองพวกมันอยู่”

พานหยุนเฟ่ยและพวกเขาคุยกันเล็กน้อยจากนั้นก็มีคนวิ่งเข้ามาหาเขา

“นายท่าน เป้าหมายออกจากเมืองไปแล้ว !” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งรีบมารายงานกับพานหยุนเฟ่ย

“อะไรนะ ? พวกมันคิดหนีงั้นรึ ?”

“ใครจะไปคิดกันว่าพวกมันจะเลือกเส้นทางไปนรกมากกว่าที่จะไปสวรรค์ !”

หลู่ซีมู่และหยานไป๋ในตอนนี้มีความคิดที่แตกต่างกันมาก

หลู่ซีมู่คิดว่าอีกฝ่ายพยายามหนีเข้าไปในภูเขาร้อยทำลายเพื่อซ่อนตัว

ส่วนหยานไป๋นั่นคิดว่าพวกมันกำลังแส้หาเรื่องตายเพราะว่านอกเมืองมันไม่มีกฏห้ามใด ๆ อีกต่อไป

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท