หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วเป่ยเฟิงก็สงบเลือดฉีของเขา เขารู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์เปล่า ๆ
‘ข้ามองข้ามอะไรไป ?’
เลือดฉีของเป่ยเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ถึงแม้มันจะช้าลงจากปกติก็ตาม
เมื่อเห็นว่าแก่นแท้แห่งชีวิตในร่างเริ่มจางลง เป่ยเฟิงก็เริ่มกังวลมากขึ้น
‘น้ำเทียนจุน !’
ด้วยความคิด เป่ยเฟิงหยิบน้ำเทียนจุนออกมา โดยปกติแล้วน้ำเทียนจุนมีไว้เพื่อเพิ่มการรับรู้และจิตสัมผัส แม้มันอาจจะไม่ได้ผลแต่เขาก็ไม่มีอะไรให้เสียหาย
เป่ยเฟิงไม่ลังเลใด ๆ เขารีบกลืนมันลงไปในทันที
ความเย็นสบายค่อย ๆ กระจายออกมาก่อนจะพุ่งไปที่หัวของเป่ยเฟิง
ละอองสีเทาปกคลุมหัวของเป่ยเฟิงจากนั้นเซลล์ที่หัวของเขาก็ดูดซับมันเอาไว้
“กึง !”
ทันใดนั้นหัวของเป่ยเฟิงก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น เสียงมันราวมีฟ้าผ่าปรากฎขึ้นในหัวของเขา !
ประกายแสงวิญญาณจำนวนมากปะทุขึ้นในใจของเป่ยเฟิง
แต่ทว่าสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป มันยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ในไม่ช้าเป่ยเฟิงก็เริ่มหมดกำลังใจ
“จงเชื่อมั่น ! ข้าต้องเชื่อมั่น !”
เป่ยเฟิงได้สติ จากนั้นก็คว้าประกายแสงจิตวิญญาณในใจของเขา !
ทันใดนั้นเขารู้สึกราวกับว่ารับรู้ได้ถึงบางอย่าง เขาจึงตัดสินใจทันที
“ท่องไปในอิสระ ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ !”
เป่ยเฟิงส่งเลือดฉีจำนวนมหาศาลของเขาไปยังประตูทองคำ จากนั้นเลือดฉีของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นแร้งพุ่งออกไป !
“บูมมม !”
แร้งขนาดใหญ่บินด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก มันกระแทกประตูอย่างแรงจนเกิดบุบลึกลงไปในประตู
เพียงแค่บุบลึกมันก็ทำให้เป่ยเฟิงมั่นใจมากยิ่งขึ้น !
‘ต้องแบบนี้ ! มันต้องเป็นแบบนี้ !’
รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของเป่ยเฟิงในขณะที่เขาพยายามกลับมาทำเช่นเดิมอีกครั้ง
“ใครจะไปคิดกันว่าวิถีแห่งเต๋าคือกุจแจสำคัญในการเปิดประตู … ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมมีผู้ฝึกตนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถผสานเลือดฉีได้อย่างสมบูรณ์” เป่ยเฟิงพึมพำ แม้ว่ามันจะดูเหมือนง่าย แต่ความเป็นจริงแล้วการเข้าใจวิถีแห่งเต๋าได้อย่างถ่องแท้นั้นส่วนมากมีเพียงผู้มีพลังระดับหมื่นปี
ผู้ที่สามารถเข้าใจวิถีแห่งเต๋าได้อย่างถ่องแท้ทั้งที่มีพลังเพียงราชาพันปีนั้นถือว่าเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ชั้นยอด
ถ้าพูดถึงความหายาก มันหายากที่แม้แต่ตระกูลมหาอำนาจและร่ำรวยยังแทบไม่ปรากฎตัว หากในตระกูลของพวกเขามีซักคนที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้ปรากฎตัว มันถือว่าเป็นโชคดีของพวกเขาอย่างมาก !
“กึง !”
ทุกครั้งที่เกิดการปะทะ หน้าอกของเป่ยเฟิงจะเริ่มขยายรูมากยิ่งขึ้น ตอนนี้มันเผยให้เห็นอวัยวะภายในของเขาแล้ว
ประกายวิญญาณขนาดเท่ากำปั้นลอยออกมาเงียบ ๆ จากรูหน้าอกของเป่ยเฟิงพร้อมกับเสียงสั่นสะเทือนที่ดังอย่างต่อเนื่อง
“แกว๊ก !”
หัวของเป่ยเฟิงโล่งและแจ่มใสมาก เขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อที่จะทำการระเบิดพลังครั้งสุดท้าย !
“หยินน !”
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าวิถีแห่งเต๋าของเขาได้เลื่อนระดับมาอยู่ที่ขั้นสองแล้ว !
แร้งพุ่งขึ้นไปบนฟ้าสูงกว่าหมื่นจั้ง มันพร้อมที่จะดิ่งลงมาด้วยพลังเต็มที่ของมันแล้ว !
เมื่อมันพุ่งขึ้นไปบนฟ้า วงแหวนคลื่นเสียงสีดำก็พุ่งออกมาจากปากของมันก่อนจะกระแทกเข้ากับประตู !
แร้งในตอนนี้มีขนาดใหญ่มาก มันใหญ่ขนาดที่ว่าปกคลุมได้ทั้งท้องฟ้า !
ในขณะเดียวกัน ร่างจำลองของแร้งเสมือนจริงก็ปรากฎด้านหลังของเป่ยเฟิงพร้อมกับทำท่าเหมือนกับแร้งในร่างของเขา !
“หยินน !”
แร้งขนาดใหญ่พุ่งลงมาที่ประตูพร้อมกับกรงเล็บที่เปล่งประกาย
“แก๊ง !’
กรงเล็บของมันปะทะเข้ากับประตูจนเกิดคลื่นพลังกระจายออกไปทุกทิศทาง !
ประตูสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงพร้อมกับรอยยุบขนาดใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงไม่ยอมเปิด
“จงทะลวงให้ข้า !” เป่ยเฟิงตะโกนด้วยความโกรธพร้อมกับปลดปล่อยฉีจำนวนมากไปทั่วห้องลับ แรงกดดันของเขามันทรงพลังขนาดที่ทำให้ห้องลับเริ่มทรุดตัวลง หินที่ตกลงมาใกล้กับเป่ยเฟิงนั้นถูกพลังบางอย่างบดขยี้สลายหายไป !
“หยินน !”
แร้งเปิดปากแล้วหันไปยังทิศเป่ยเฟิง จากนั้นก็สูดเลือดฉีของเขาเข้าไป !
กระแสเลือดฉีไหลเข้าไปในท้องของแร้งจากนั้นร่างของมันก็เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดง !
จากนั้นปีกของมันก็แข็งเหมือนมีดและมีคลื่นพลังสีแดงเปล่งประกายออกมาราวกับเลือดจากนั้นมันก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะพุ่งลงมาที่ประตูอีกครั้ง !
“แกร๊ก !”
เสียงแตกจากการปะทะดังขึ้น เป่ยเฟิงได้ยินเสียงที่แตกบางอย่างดังขึ้นที่ประตู
แต่สุดท้ายเขาก็ผิดหวังเพราะประตูยังคงอยู่ มีเพียงรอยร้าวเท่านั้นที่ปรากฎ
เป่ยเฟิงชี้ไปที่แร้งจากนั้นก็พูดขึ้น “เผามัน !”
“ตู้ม !”
แร้งขนาดใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีแดง ความร้อนที่แผ่ออกมามันราวกับพร้อมจะเผาผลาญทุกสรรพสิ่ง !
แร้งที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟเริ่มหดตัวลง ในไม่ช้ามันก็มีขนาดไม่ถึงร้อยจั้ง
แม้ว่ามันจะขนาดเล็กลงแต่ฉีของมันกลับไม่สามารถมองข้ามได้ เพียงแค่การกระพือปีกของมันก็ทำให้พื้นรอบ ๆ ถึงกับสั่นสะเทือนราวกับไม่สามารถต้านทานพลังของมันได้ !
เป่ยเฟิงเปิดปากและพูดขึ้น “ตัดมัน !’
“แกร๊ก !”
“บู้ม !”
หลังจากเสียงระเบิดค่อย ๆ หายไป เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังจิตของเขาถูกทำลายโดยพลังที่เกิดจากการปะทะกันของทั้งคู่ เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นในร่าง เป่ยเฟิงทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ เขาพยายามปลอบใจตัวเอง เขาทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว หากยังทำลายประตูไม่ได้อีกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
ทันใดนั้นเสียงเพลงราวจากสวรรค์ก็ดังออกมาจากหน้าอกของเป่ยเฟิง มันนิ่มนวลและอ่อนโยน มันค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ เป่ยเฟิงหายใจเข้าลึก ๆ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ยินเนื้อเพลง แต่เพียงแค่นี้มันก็ไพเราะและทำให้เขาผ่อนคลายอย่างมาก
“สำเร็จ !”
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าความพยายามทั้งหมดของเขาไม่ได้ทิ้งลงท่อระบายน้ำ หลังจากพยายามมาอย่างหนักในที่สุดเขาก็บรรลุมาถึงระดับราชาพันปี !
ด้วยความคิด ประตูค่อย ๆ พังลงพร้อมกับเลือดฉีจำนวนมากที่โคจรเป็นวงกลม
‘การเปลี่ยนแปลงยังคงต้องใช้เวลาต่อไป แต่ได้เวลาของข้าแล้ว ตอนนี้มันถึงเวลาของมรดกยินหยางแล้ว !’
เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นจากนั้นแก่นแท้ของชีวิตก็ไหลเข้าไปในประตู พลังแห่งชีวิตจำนวนมหาศาลไม่ได้สร้างภาระให้กับเขาอีกต่อไป ตอนนี้มันได้กลายเป็นอาหารเสริมของเขาแล้ว
แม้แต่เคล็ดบัญญัติกฎสวรรค์ของเขาที่มาถึงขั้นสี่ก็ยังช่วยยกระดับคุณภาพของเลือดฉีของเขาอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน เลือดฉีสีทองที่ซ่อนตัวอยู่ในเลือดสีเงินของเขาก็พุ่งผ่านประตูไปเช่นกัน จากนั้นมันก็เริ่มครอบคลุมเลือดฉีของเป่ยเฟิงไปได้ 1 % !
อย่าได้ดูถูกพลังของ 1 % เพราะเลือดฉีสีทองเพียง 1% เป็นกุจแจสำคัญที่ช่วยยกระดับความสามารถของเป่ยเฟิงให้สูงยิ่งขึ้น !
ถึงแม้ฉีทั้งสองจะมารวมตัวกัน แต่ทว่ามันกลับยังไม่มีพลังวิญญาณใด ๆ ปรากฎขึ้นมา
ท้องฟ้าเหนือตระกูลหลี่มันดูมืดราวกับเกิดสุริยุปราคา
อาคารขนาดใหญ่ถูกถล่มเกลื่อนกลาดไปทุกหนทุกแห่ง พื้นแตกเป็นรอยร้าวจำนวนมาก
ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่หลี่ปู้และคนอื่น ๆ เองก็ถูกบังคับให้ถอยออกมาไกลถึง 3 กิโลเมตร ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ สามารถเข้าไปใกล้ได้แม้แต่น้อย
เหนือท้องฟ้า อาวุธทั้ง 18 ชิ้นและฉีสีเทาที่เปลี่ยนเป็นดาบได้ต่อสู้กันเอง !
พลังทำลายที่เกิดจากปะทะของอาวุธมันมหาศาลจนแม้แต่ตัวตนระดับราชาพันปีเองก็ถูกบดขยี้ได้หากเข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ !
ดาบสีเทาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นพร้อมกับพระราชวังแห่งดวงดาวที่ลดขนาดลง
“ชิ้ง !”
ดาบฟันไปที่ร่มสีดำ มันปะทะกันจนเกิดประกายไฟขนาดใหญ่
“แก๊ง !”
ระฆังสีเขียวปลดปล่อยฉีสีเขียวออกมา ด้วยการขยับเพียงครั้งเดียวมันก็หยุดอาวุธทุกชิ้นที่เข้ามาหามัน !
พระราชวังแห่งดวงดาวลดขนาดลงมาเหลือ 10 จั้ง ในขณะเดียวกันทั่วตัวพระราชวังแห่งดวงดาวนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยการโจมตีของอาวุธทุกชนิดเต็มไปหมด
“จงปรากฎ !”
เสียงดังออกมาจากซากปรักหักพัง เป่ยเฟิงปรากฎตัวออกมาพร้อมกับทำตราประทับที่มือนับร้อยครั้งก่อนจะส่งไปยังพระราชวังแห่งดวงดาว !
จากนั้นพระราชวังแห่งดวงดาวก็สั่นสะเทือนก่อนที่จะปลดปล่อยพลังแห่งดวงดาวออกมาจำนวนมาก !
“แกร๊ก !”
พื้นที่รอบ ๆ พระราชวังแห่งดวงดาวเริ่มบิดเบี้ยวจากนั้นมันก็ค่อย ๆ พังทลายลงเผยให้เห็นมิติลึกลับ !
เมื่อมิติถูกเปิดออก อาวุธทั้ง 19 ชิ้นก็ถูกดูดเข้าไปในมิตินั้นราวกับถูกหลุมดำดูดเข้าไป !