Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 588

ตอนที่ 588

หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วเป่ยเฟิงก็สงบเลือดฉีของเขา เขารู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์เปล่า ๆ

‘ข้ามองข้ามอะไรไป ?’

เลือดฉีของเป่ยเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ถึงแม้มันจะช้าลงจากปกติก็ตาม

เมื่อเห็นว่าแก่นแท้แห่งชีวิตในร่างเริ่มจางลง เป่ยเฟิงก็เริ่มกังวลมากขึ้น

‘น้ำเทียนจุน !’

ด้วยความคิด เป่ยเฟิงหยิบน้ำเทียนจุนออกมา โดยปกติแล้วน้ำเทียนจุนมีไว้เพื่อเพิ่มการรับรู้และจิตสัมผัส แม้มันอาจจะไม่ได้ผลแต่เขาก็ไม่มีอะไรให้เสียหาย

เป่ยเฟิงไม่ลังเลใด ๆ เขารีบกลืนมันลงไปในทันที

ความเย็นสบายค่อย ๆ กระจายออกมาก่อนจะพุ่งไปที่หัวของเป่ยเฟิง

ละอองสีเทาปกคลุมหัวของเป่ยเฟิงจากนั้นเซลล์ที่หัวของเขาก็ดูดซับมันเอาไว้

“กึง !”

ทันใดนั้นหัวของเป่ยเฟิงก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น เสียงมันราวมีฟ้าผ่าปรากฎขึ้นในหัวของเขา !

ประกายแสงวิญญาณจำนวนมากปะทุขึ้นในใจของเป่ยเฟิง

แต่ทว่าสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป มันยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ในไม่ช้าเป่ยเฟิงก็เริ่มหมดกำลังใจ

“จงเชื่อมั่น ! ข้าต้องเชื่อมั่น !”

เป่ยเฟิงได้สติ จากนั้นก็คว้าประกายแสงจิตวิญญาณในใจของเขา !

ทันใดนั้นเขารู้สึกราวกับว่ารับรู้ได้ถึงบางอย่าง เขาจึงตัดสินใจทันที

“ท่องไปในอิสระ ทะยานขึ้นสู่สวรรค์ !”

เป่ยเฟิงส่งเลือดฉีจำนวนมหาศาลของเขาไปยังประตูทองคำ จากนั้นเลือดฉีของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นแร้งพุ่งออกไป !

“บูมมม !”

แร้งขนาดใหญ่บินด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก มันกระแทกประตูอย่างแรงจนเกิดบุบลึกลงไปในประตู

เพียงแค่บุบลึกมันก็ทำให้เป่ยเฟิงมั่นใจมากยิ่งขึ้น !

‘ต้องแบบนี้ ! มันต้องเป็นแบบนี้ !’

รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของเป่ยเฟิงในขณะที่เขาพยายามกลับมาทำเช่นเดิมอีกครั้ง

“ใครจะไปคิดกันว่าวิถีแห่งเต๋าคือกุจแจสำคัญในการเปิดประตู … ไม่น่าแปลกใจเลยทำไมมีผู้ฝึกตนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถผสานเลือดฉีได้อย่างสมบูรณ์” เป่ยเฟิงพึมพำ แม้ว่ามันจะดูเหมือนง่าย แต่ความเป็นจริงแล้วการเข้าใจวิถีแห่งเต๋าได้อย่างถ่องแท้นั้นส่วนมากมีเพียงผู้มีพลังระดับหมื่นปี

ผู้ที่สามารถเข้าใจวิถีแห่งเต๋าได้อย่างถ่องแท้ทั้งที่มีพลังเพียงราชาพันปีนั้นถือว่าเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ชั้นยอด

ถ้าพูดถึงความหายาก มันหายากที่แม้แต่ตระกูลมหาอำนาจและร่ำรวยยังแทบไม่ปรากฎตัว หากในตระกูลของพวกเขามีซักคนที่มีพรสวรรค์ขนาดนี้ปรากฎตัว มันถือว่าเป็นโชคดีของพวกเขาอย่างมาก !

“กึง !”

ทุกครั้งที่เกิดการปะทะ หน้าอกของเป่ยเฟิงจะเริ่มขยายรูมากยิ่งขึ้น ตอนนี้มันเผยให้เห็นอวัยวะภายในของเขาแล้ว

ประกายวิญญาณขนาดเท่ากำปั้นลอยออกมาเงียบ ๆ จากรูหน้าอกของเป่ยเฟิงพร้อมกับเสียงสั่นสะเทือนที่ดังอย่างต่อเนื่อง

“แกว๊ก !”

หัวของเป่ยเฟิงโล่งและแจ่มใสมาก เขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อที่จะทำการระเบิดพลังครั้งสุดท้าย !

“หยินน !”

เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าวิถีแห่งเต๋าของเขาได้เลื่อนระดับมาอยู่ที่ขั้นสองแล้ว !

แร้งพุ่งขึ้นไปบนฟ้าสูงกว่าหมื่นจั้ง มันพร้อมที่จะดิ่งลงมาด้วยพลังเต็มที่ของมันแล้ว !

เมื่อมันพุ่งขึ้นไปบนฟ้า วงแหวนคลื่นเสียงสีดำก็พุ่งออกมาจากปากของมันก่อนจะกระแทกเข้ากับประตู !

แร้งในตอนนี้มีขนาดใหญ่มาก มันใหญ่ขนาดที่ว่าปกคลุมได้ทั้งท้องฟ้า !

ในขณะเดียวกัน ร่างจำลองของแร้งเสมือนจริงก็ปรากฎด้านหลังของเป่ยเฟิงพร้อมกับทำท่าเหมือนกับแร้งในร่างของเขา !

“หยินน !”

แร้งขนาดใหญ่พุ่งลงมาที่ประตูพร้อมกับกรงเล็บที่เปล่งประกาย

“แก๊ง !’

กรงเล็บของมันปะทะเข้ากับประตูจนเกิดคลื่นพลังกระจายออกไปทุกทิศทาง !

ประตูสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงพร้อมกับรอยยุบขนาดใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงไม่ยอมเปิด

“จงทะลวงให้ข้า !” เป่ยเฟิงตะโกนด้วยความโกรธพร้อมกับปลดปล่อยฉีจำนวนมากไปทั่วห้องลับ แรงกดดันของเขามันทรงพลังขนาดที่ทำให้ห้องลับเริ่มทรุดตัวลง หินที่ตกลงมาใกล้กับเป่ยเฟิงนั้นถูกพลังบางอย่างบดขยี้สลายหายไป !

“หยินน !”

แร้งเปิดปากแล้วหันไปยังทิศเป่ยเฟิง จากนั้นก็สูดเลือดฉีของเขาเข้าไป !

กระแสเลือดฉีไหลเข้าไปในท้องของแร้งจากนั้นร่างของมันก็เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดง !

จากนั้นปีกของมันก็แข็งเหมือนมีดและมีคลื่นพลังสีแดงเปล่งประกายออกมาราวกับเลือดจากนั้นมันก็ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนที่จะพุ่งลงมาที่ประตูอีกครั้ง !

“แกร๊ก !”

เสียงแตกจากการปะทะดังขึ้น เป่ยเฟิงได้ยินเสียงที่แตกบางอย่างดังขึ้นที่ประตู

แต่สุดท้ายเขาก็ผิดหวังเพราะประตูยังคงอยู่ มีเพียงรอยร้าวเท่านั้นที่ปรากฎ

เป่ยเฟิงชี้ไปที่แร้งจากนั้นก็พูดขึ้น “เผามัน !”

“ตู้ม !”

แร้งขนาดใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีแดง ความร้อนที่แผ่ออกมามันราวกับพร้อมจะเผาผลาญทุกสรรพสิ่ง !

แร้งที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟเริ่มหดตัวลง ในไม่ช้ามันก็มีขนาดไม่ถึงร้อยจั้ง

แม้ว่ามันจะขนาดเล็กลงแต่ฉีของมันกลับไม่สามารถมองข้ามได้ เพียงแค่การกระพือปีกของมันก็ทำให้พื้นรอบ ๆ ถึงกับสั่นสะเทือนราวกับไม่สามารถต้านทานพลังของมันได้ !

เป่ยเฟิงเปิดปากและพูดขึ้น “ตัดมัน !’

“แกร๊ก !”

“บู้ม !”

หลังจากเสียงระเบิดค่อย ๆ หายไป เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังจิตของเขาถูกทำลายโดยพลังที่เกิดจากการปะทะกันของทั้งคู่ เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นในร่าง เป่ยเฟิงทำได้เพียงแค่รอเท่านั้น

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ เขาพยายามปลอบใจตัวเอง เขาทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว หากยังทำลายประตูไม่ได้อีกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว

ทันใดนั้นเสียงเพลงราวจากสวรรค์ก็ดังออกมาจากหน้าอกของเป่ยเฟิง มันนิ่มนวลและอ่อนโยน มันค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อย ๆ เป่ยเฟิงหายใจเข้าลึก ๆ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ยินเนื้อเพลง แต่เพียงแค่นี้มันก็ไพเราะและทำให้เขาผ่อนคลายอย่างมาก

“สำเร็จ !”

เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าความพยายามทั้งหมดของเขาไม่ได้ทิ้งลงท่อระบายน้ำ หลังจากพยายามมาอย่างหนักในที่สุดเขาก็บรรลุมาถึงระดับราชาพันปี !

ด้วยความคิด ประตูค่อย ๆ พังลงพร้อมกับเลือดฉีจำนวนมากที่โคจรเป็นวงกลม

‘การเปลี่ยนแปลงยังคงต้องใช้เวลาต่อไป แต่ได้เวลาของข้าแล้ว ตอนนี้มันถึงเวลาของมรดกยินหยางแล้ว !’

เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นจากนั้นแก่นแท้ของชีวิตก็ไหลเข้าไปในประตู พลังแห่งชีวิตจำนวนมหาศาลไม่ได้สร้างภาระให้กับเขาอีกต่อไป ตอนนี้มันได้กลายเป็นอาหารเสริมของเขาแล้ว

แม้แต่เคล็ดบัญญัติกฎสวรรค์ของเขาที่มาถึงขั้นสี่ก็ยังช่วยยกระดับคุณภาพของเลือดฉีของเขาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน เลือดฉีสีทองที่ซ่อนตัวอยู่ในเลือดสีเงินของเขาก็พุ่งผ่านประตูไปเช่นกัน จากนั้นมันก็เริ่มครอบคลุมเลือดฉีของเป่ยเฟิงไปได้ 1 % !

อย่าได้ดูถูกพลังของ 1 % เพราะเลือดฉีสีทองเพียง 1% เป็นกุจแจสำคัญที่ช่วยยกระดับความสามารถของเป่ยเฟิงให้สูงยิ่งขึ้น !

ถึงแม้ฉีทั้งสองจะมารวมตัวกัน แต่ทว่ามันกลับยังไม่มีพลังวิญญาณใด ๆ ปรากฎขึ้นมา

ท้องฟ้าเหนือตระกูลหลี่มันดูมืดราวกับเกิดสุริยุปราคา

อาคารขนาดใหญ่ถูกถล่มเกลื่อนกลาดไปทุกหนทุกแห่ง พื้นแตกเป็นรอยร้าวจำนวนมาก

ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่หลี่ปู้และคนอื่น ๆ เองก็ถูกบังคับให้ถอยออกมาไกลถึง 3 กิโลเมตร ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ สามารถเข้าไปใกล้ได้แม้แต่น้อย

เหนือท้องฟ้า อาวุธทั้ง 18 ชิ้นและฉีสีเทาที่เปลี่ยนเป็นดาบได้ต่อสู้กันเอง !

พลังทำลายที่เกิดจากปะทะของอาวุธมันมหาศาลจนแม้แต่ตัวตนระดับราชาพันปีเองก็ถูกบดขยี้ได้หากเข้าไปแทรกแซงการต่อสู้ !

ดาบสีเทาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นพร้อมกับพระราชวังแห่งดวงดาวที่ลดขนาดลง

“ชิ้ง !”

ดาบฟันไปที่ร่มสีดำ มันปะทะกันจนเกิดประกายไฟขนาดใหญ่

“แก๊ง !”

ระฆังสีเขียวปลดปล่อยฉีสีเขียวออกมา ด้วยการขยับเพียงครั้งเดียวมันก็หยุดอาวุธทุกชิ้นที่เข้ามาหามัน !

พระราชวังแห่งดวงดาวลดขนาดลงมาเหลือ 10 จั้ง ในขณะเดียวกันทั่วตัวพระราชวังแห่งดวงดาวนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยการโจมตีของอาวุธทุกชนิดเต็มไปหมด

“จงปรากฎ !”

เสียงดังออกมาจากซากปรักหักพัง เป่ยเฟิงปรากฎตัวออกมาพร้อมกับทำตราประทับที่มือนับร้อยครั้งก่อนจะส่งไปยังพระราชวังแห่งดวงดาว !

จากนั้นพระราชวังแห่งดวงดาวก็สั่นสะเทือนก่อนที่จะปลดปล่อยพลังแห่งดวงดาวออกมาจำนวนมาก !

“แกร๊ก !”

พื้นที่รอบ ๆ พระราชวังแห่งดวงดาวเริ่มบิดเบี้ยวจากนั้นมันก็ค่อย ๆ พังทลายลงเผยให้เห็นมิติลึกลับ !

เมื่อมิติถูกเปิดออก อาวุธทั้ง 19 ชิ้นก็ถูกดูดเข้าไปในมิตินั้นราวกับถูกหลุมดำดูดเข้าไป !

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท