พระราชวังแห่งดวงดาวที่น่าสะพรึงกลัวได้ปรากฎตัวขึ้นที่ใจกลางเมือง แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลออกไปหลายสิบลี้แต่ก็ยังเห็นมันได้ ระลอกคลื่นที่น่าสะพรึงกลัวทะยานออกมาอย่างต่อเนื่อง มันทำให้แม้แต่ผู้ที่เฝ้ามองยังรู้สึกหวาดกลัว !
ร่างกายของเป่ยเฟิงอยู่ใจกลางของความปั่นป่วน สมุนไพรและเม็ดยาล้ำค่าจำนวนมากถูกกลืนหายเข้าไปในท้องของเขาราวกับพวกมันเป็นน้ำ เคล็ดบัญญัติกฎสวรรค์เองก็ไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง
พลังบริสุทธิ์ของยาเริ่มกระจายออกมาจากเขาจนครอบคลุมไปทั่วห้อง พลังมันหนาขนาดที่จับตัวกันเป็นหมอกสีเขียวที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาล !
“มนุษย์ทำตามกฎแห่งสวรรค์ โลกก่อร่างสร้างกฎแห่งดวงดาวขึ้นมา สวรรค์และโลกไหลไปตามธรรมชาติ จงกลั่นข้า !”
เป่ยเฟิงนั่งไขว่ห้างพร้อมกับใบหน้าที่สงบและไร้อารมณ์ พลังจิตจำนวนมากของเขากระจายออกไปครอบคลุมตัวเขาทุกส่วน
ชั้นเลือดจำนวนมากถูกขับออกมาจากร่างของเป่ยเฟิง จากนั้นมันก็ระเหยกลายเป็นหมอกเลือดลอยอยู่ในอากาศทันที
มหาสมุทรแห่งพลังจำนวนมากไหลเข้าไปในร่างของเขา พลังจากเม็ดยากว่า 50 % ถูกนำมาเสริมสร่างความแข็งแกร่งที่กระดูกสันหลังของเขา !
ด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กระดูกสันหลังของเป่ยเฟิงค่อย ๆ ปรากฎออกมาจากหลังของเขา มันโหนกใหญ่จนดูราวกับกระดูกสันหลังของมังกรตัวใหญ่ !
สีของกระดูกเปลี่ยนเป็นสีแดงเนื่องจากอุณหภูมิที่หลังของเขานั้นร้อนอย่างมาก ในไม่ช้าเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาก็ลุกไหม้สลายหายไป !
“กระดูกสันหลังเหมือนมังกร เลือดฉีเหมือนไฟ !”
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ไหลออกมาจากกระดูกสันหลังของเขา เซลล์เก่าทั้งหมดในกระดูกสันหลังของเขาถูกทำลายลงพร้อมกับสิ่งสกปรกสีดำจำนวนมากที่ถูกขับออกมาจากรูขุมขนของเขา !
‘เลือดฉีของข้าบริสุทธิ์และทรงพลังกว่าคนปกติ เพราะรากฐานที่มั่นคั่งและแข็งแกร่งเกินไปของข้า มันคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะสร้างกระดูกสันหลังใหม่เสร็จ’
ไขกระดูกสันหลังของเป่ยเฟิงหายไปอย่างสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันพลังจากยาจำนวนมากก็ไหลเข้าไปในร่างของเขาแล้วพุ่งเข้าไปในกระดูกสันหลังของเขา
เลือดสีแดงเข้มในกระดูกสันหลังของเขาเริ่มเปลี่ยนไป สามารถมองเห็นสีเงินได้จากสีแดงแล้วในตอนนี้
เมื่อเลือดสีเงินเริ่มปรากฎ จิตวิญญาณภายในร่างของเขาก็ยิ่งบ้าคลั่งยิ่งขึ้น มันดูดซึมพลังจากเม็ดยาจำนวนมากบ้าคลั่งกว่าเดิม !
เลือดสีเงินงดงามอย่างมาก มันดูพิเศษและมีความหนืดสูง
เลือดสีเงินเพียงเส้นเดียวมันกลับมีพลังงานฉีที่เกินกว่าเลือดสีแดงทั้งหมดในร่างของเป่ยเฟิงด้วยซ้ำ !
โลกภายนอก มีหลุมขนาดใหญ่เปิดขึ้นบนท้องฟ้าพร้อมกับพลังจากดวงดาวจำนวนมากหล่นลงมาจากท้องฟ้า ทันใดนั้นก็มีบางอย่างที่คล้ายอาวุธทุกชนิดปรากฎขึ้นในแต่ละลำแสง !
หอกสีแดงลอยอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าตกใจออกมา มันทำให้คนที่มองต้องหวาดกลัว
ค้อนสีเหลืองปรากฎตัวขึ้นในลำแสงดวงดาว มันปลดปล่อยแรงกดดันแห่งขุนเขาออกมา มันราวกับว่ามันไม่ใช่ค้อน แต่มันคือภูเขาขนาดใหญ่แทน !
นี่เป็นเพียงอาวุธสองชิ้นที่พุ่งลงมาก่อน เหนือพวกมันขึ้นไปยังมีอาวุธคล้ายกันอีกเป็นแสนชิ้น !
อาวุธทั้งสองพุ่งลงมาแล้วเริ่มทุบพระราชวังแห่งดวงดาวด้วยความพลังที่ทรงพลัง !
“ตู้ม !”
“แกร๊ก !”
“ชิ้ง !”
พระราชวังแห่งดวงดาวเริ่มพังทลายภายใต้การโจมตีของอาวุธเหล่านี้ แต่ในไม่ช้าพลังดวงดาวจำนวนมหาศาลก็เริ่มซ่อมแซมมันจนกลับมาอยู่ในสภาพเดิมอย่างรวดเร็ว
มันราวกับว่าพลังแห่งดวงดาวมีสติปัญญาในตัวของมัน แล้วพระราชวังแห่งดวงดาวนั้นต้องการที่จะกลืนกินพวกมัน แต่ทว่าพวกมันนั้นไม่ยินยอมที่จะถูกกลืนกิน ดังนั้นพวกมันจึงเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นอาวุธเพื่อที่จะทำลายพระราชวังแห่งดวงดาวนี้ทิ้งให้ได้ !
‘ท่านหัวหน้าตระกูลฝึกฝนเคล็ดอะไรกันแน่ ?’ หลี่ปู้เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความตกใจ พลังของอาวุธเหล่านี้มันเทียบเท่ากับการโจมตีอันทรงพลังของผู้เชี่ยวชาญขั้นครึ่งก้าวราชาพันปี !
และด้วยจำนวนของมันที่มีมากเป็นร้อยเป็นพัน แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับมัน !
แต่ตอนนี้พระราชวังแห่งดวงดาวกลับป้องกันการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ! ในความเป็นจริงแล้วความแข็งแกร่งในด้านการป้องกันของพระราชวังแห่งดวงดาวมันสูงมาก มันสูงขนาดที่ว่ามันเมินเฉยต่อการโจมตีเหล่านี้ได้ !
“เคล็ดการฝึกฝนอะไรกันที่ท่านพ่อฝึกฝนอยู่ ทำไมมันถึงทำให้เกิดความวุ่นวายได้ขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่เขากำลังจะทำลายคอขวดไปยังระดับราชาพันปี !”
“ไม่ถูกต้อง … พลังเหล่านี้ไม่ใช่เลือดฉี แต่มันคือพลังแห่งดวงดาว มันเป็นพลังที่สามารถมองเห็นได้แต่สัมผัสไม่ได้ เคล็ดการฝึกฝนอะไรกันที่ถึงกับต้องใช้พลังแห่งดวงดาวที่น่ากลัวเหล่านี้ ?”
ผู้คนของตระกูลหลี่พูดคุยกัน พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ด้านใน เป่ยเฟิงแบ่งการควบคุมเป็นสองอย่าง มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วคอยทำตราประทับที่ซับซ้อนอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันเขาก็ควบคุมการเปลี่ยนแปลงในร่างของเขาไปด้วย
‘หลังจากใช้ทรัพยากรไปจำนวนมากมันก็ยังคงไม่เพียงพอ โชคดีที่ข้าเตรียมการล่วงหน้าเอาไว้ก่อน’ เป่ยเฟิงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการทำลายคอขวดไปยังระดับราชาพันปี แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเขาจะต้องใช้ทรัพยากรที่เกินกว่าที่เขาคำนวณเอาไว้ !
ด้วยการสะบัดมือของเขา หินวิญญาณระดับสูง 100,000 ก้อนก็ลอยออกมาจากแหวนมิติของเขา มันทับซ้อนกันจนกลายเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ ข้าง ๆ เขา ในเวลาเดียวกันเขาก็เริ่มกลืนสมุนไพรจิตวิญญาณจำนวนมากลงไป สมุนไพรเหล่านี้มันเป็นสมุนไพรล้ำค่าที่เจ้ากู่ฉีขโมยมา เพียงแค่ต้นเดียวมันก็มีค่าขนาดที่ว่าแม้แต่ราชาพันปีก็ยังต้องการมัน
เคล็ดบัญญัติกฎแห่งสวรรค์เป็นเสมือนหลุดดำที่ลึกที่สุด ไม่ว่าเขาจะขว้างสมุนไพรจิตวิญญาณไปกี่ชนิด มันก็ไม่มีร่องรอยของคลื่นกระเพื่อมแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามเป่ยเฟิงรู้ดีว่าสมุนไพรเหล่านี้ไม่ได้สูญเปล่าไปเพราะเขารู้สึกได้ถึงความร้อนจากกระดูกสันหลังที่ร้อนยิ่งขึ้น
“บู้ม !”
“แกร๊ก !”
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน เสียงแตกก็ดังออกมาจากส่วนบนสุดของกระดูกสันหลังของเขา !
หลังจากนั้นเป่ยเฟิงก็ค้นพบการเปลี่ยนแปลงมากมายในกระดูกสันหลังของเขา กระดูกสันหลังของเขามีทั้งหมด 9 ส่วนและแต่ละส่วนก็มีความทนทานที่ไม่มีใครเทียบได้ราวกับมันคือเสาสวรรค์ !
ในเวลาเดียวกันสิ่งกีดขวางที่อยู่ส่วนลึกที่สุดของกระดูกสันหลังของเขาก็ถูกทำลายลงเงียบ ๆ กระแสเลือดสีเงินเริ่มไหลออกมาจากกระดูกสันหลังของเขาพร้อมกับปลดปล่อยพลังฉีที่น่ากลัว มันค่อย ๆ ไหลไปตามร่างกายส่วนต่าง ๆ ของเป่ยเฟิง !
“แกร๊ก !”
เมื่อเลือดสีเงินไหลผ่านร่างกายทุกส่วนของเขา เนื้อ กระดูกและหลอดเลือดทั้งหมดของเขาก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้น !
ในไม่ช้าเลือดสีเงินก็เริ่มปรากฎในร่างของเขา เลือดสีเงิน 1 หยดเทียบเท่ากับการกลั่นเลือด 100 หยดในร่างของเขา
เวลาผ่านไปช้า ๆ เป่ยเฟิงยังคงนั่งนิ่ง ในเวลาเดียวกันแรงกดดันที่น่าตกใจก็หมุนรอบตัวเขาราวกับเขาคือเสือที่กำลังจำศีล
“ชั้วะ !”
เลือดสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมจากร่างของเขา จากนั้นมันก็ล้างเลือดและเนื้อทั้งหมดของเขา !
หากมีใครยืนอยู่ข้างเขา คน ๆ นั้นจะได้ยินเสียงเลือดไหลราวกับแม่น้ำดังขึ้นในร่างของเขา
พระราชวังแห่งดวงดาวเองในตอนนี้มันเต็มไปด้วยรูนขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ในเวลาเดียวกันกลิ่นอายของมันก็เริ่มสงบเงียบลงราวกับว่ามันเป็นเพียงสิ่งก่อสร้างธรรมดา ๆ
ในตอนนี้หลงเหลืออาวุธเพียง 18 อันที่ลอยอยู่เหนือพระราชวังแห่งดวงดาว ในขณะเดียวกันอาวุธทั้ง 18 ชิ้นที่ปรากฎมันปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมากระจายครอบคลุมทั่วท้องฟ้า !
อาวุธทั้ง 18 ชิ้นนั่นมันราวกับมีตัวตนอยู่จริง ๆ แต่เมื่อมองไปในท้องฟ้าจะเห็นว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น มันไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความแข็งแกร่งดั้งเดิมของมัน !
แต่ถึงอย่างนั่นพวกมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้ แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับราชาพันปีก็อาจถูกสังหารได้ด้วยการโจมตีจากอาวุธทั้ง 18 ชิ้นนี้ !
“ทำไมอาวุธพวกนี้ดูคุ้น ๆ นัก” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งพึมพำในขณะจ้องมองไปยังด้านบน
มีอาวุธหนึ่งชิ้นที่ดูเหมือนร่มธรรมดา ๆ ยกเว้นก็แต่ลวดลายสุนัขจิ้งจอกที่มีชีวิตชีวาอยู่บนตัวผ้าร่ม
ผู้ฝึกตนอีกคนพยักหน้าและพูดต่อ “อย่างที่เจ้าพูด ทำไมข้าถึงคุ้น ๆ กับมันนัก”
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไรพวกเขาก็ไม่สามารถจำได้ มันราวกับว่าพวกเขาจำไม่ได้ว่าเคยเห็นร่มนี้จากที่ไหน !
สถานการณ์ในตอนนี้ผิดปกติอย่างมาก หากมันเป็นแค่หนึ่งหรือสองคนมันจะไม่เป็นอะไร แต่ทว่ามันมีมากกว่าหนึ่งพันคนที่พบว่าร่มนี้ดูคุ้น ๆ อย่างมาก !
ในเวลาเดียวกันอาวุธทั้ง 18 ชิ้นก็ปลดปล่อยพลังของมันออกมา
เจดีย์หมุนอยู่กลางอากาศอย่างช้า ๆ แม้ว่ามันจะสูงเพียง 100 เมตร แต่เมื่อเทียบกับพระราชวังแห่งดวงดาวแล้วมันเล็กกว่ามาก แต่ทว่าพลังที่เล็ดลอดออกมาจากมันไม่ใช่สิ่งที่ใครจะประมาทได้
“ตู้ม !”
เจดีย์พุ่งลงไปปะทะกับพระราชวังแห่งดวงดาวจนทำให้ตัวพระราชวังถึงกับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
การโจมตีของเจดีย์มันราวกับส่งสัญญาณ ในไม่ช้าอาวุธที่เหลือก็พุ่งลงไปทันที !
“แก๊ง แก๊ง !”
เสียงระฆังทั้ง 8 แปดด้านพระราชวังแห่งดวงดาวดังขึ้นเบา ๆ เพื่อพยายามต้านทานการโจมตีของอาวุธเหล่านี้
เป่ยเฟิงลืมตาขึ้นและเงยหน้าขึ้นไปมองราวกับเขาสามารถมองผ่านขึ้นไปด้านบนได้
เขาเห็นว่าพระราชวังแห่งดวงดาวเกือบจะพังทลายลงแล้วหลังจากถูกโจมตีด้วยอาวุธทั้ง 18 ชิ้น
แต่ทุกครั้งที่มันใกล้พังทลาย พลังดวงดาวจำนวนมากจะหลั่งไหลเข้าไปฟื้นฟูมันจนสมบูรณ์จากนั้นมันก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม !
“หากต้องการทำลายคอขวดไปยังระดับราชาพันปี ข้าจะต้องสร้างพระราชวังแห่งดวงดาวที่เป็นของข้าคนเดียว พระราชวังแห่งดวงดาวธรรมดา ๆ มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ของข้ามีถึง 10 ชั้น ข้าอยากรู้นักว่ามีใครในนิกายหยินหยางที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ในเรื่องรากฐานที่มั่นคงได้เท่าข้าหรือเปล่า” เป่ยเฟิงพูดพึมพำกับตัวเองในขณะที่เขากำลังจดจ่ออยู่กับการรวบรวมพลังให้ตัวเอง
ในขณะเดียวกัน เลือดฉีของเขาในตอนนี้ก็เปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นเลือดเงินหมดแล้ว อย่างไรก็ตามมันยังคงไม่พอ กระแสเลือดฉีของเขาในตอนนี้ยังคงอยู่เพียงครึ่งก้าวราชาพันปี
สิ่งที่เป่ยเฟิงตั้งเป้าเอาไว้คือการทำลายคอขวดไปยังระดับราชาพันปีในครั้งเดียว เขาจะไม่มีทางหยุดอยู่แค่นี้เด็ดขาด
รากฐานที่มั่นคงของเป่ยเฟิงนั้นมาถึงจุดวิกฤติของการเปลี่ยนแปลงแล้ว เขารู้ตั้งแต่เลือดของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเงินแล้ว
เคล็ดบัญญัติกฎสวรรค์ไหลเวียนอย่างต่อเนื่องจากนั้นมันก็ทะยานไปยังขั้นที่ 4 !
เขาพยายามทำลายคอขวดผ่านไปให้ได้ แต่มันก็ยังไม่สำเร็จ !
เลือดของเป่ยเฟิงเปลี่ยนเป็นสีเงินโดยสมบูรณ์แล้วในตอนนี้ มันดูตระการตาอย่างมาก เลือดฉีของเขาในตอนนี้ราวกับแม่น้ำที่เต็มไปด้วยพลังที่กำลังไหลผ่านเส้นเลือดและคอยไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขา กล้ามเนื้อและเนื้อของเขาแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่เลือดสีเงินไหลผ่าน
‘ร่างกายของข้าแข็งแกร่งขึ้นมากในตอนนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่คนที่มีพลังต่ำกว่าราชาพันปีจะเทียบได้ ถึงข้าจะต้องเผชิญหน้ากับผู้มีพลังระดับราชาพันปีก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ทว่า ขีดจำกัดของข้ามันไม่น่าจะจบเพียงแค่นี้’
เป่ยเฟิงยังคงไม่พอใจ เขารู้สึกว่าเขายังไม่ถึงขีดจำกัด โดยปกติแล้วผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ที่ต้องการจะทำลายคอขวดไปยังระดับราชาพันปีจะต้องใช้เวลาปรับสภาพร่างกายเป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้พวกเขายังต้องเปลี่ยนเลือดของพวกเขาให้เป็นเลือดสีเงินอย่างช้า ๆ แต่เป่ยเฟิงแตกต่างออกไป เขามาถึงระดับนี้ได้โดยไม่ลำบากมากนักและมันก็ยังห่างไกลจากขีดจำกัดของเขา !