เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน ทุกคนยกเว้นผู้อำนวยการและถังลี่ก็ทำหน้าบิดเบี้ยว
ทุกคนเข้าใจดีว่าแม้ว่าตระกูลหลี่จะไม่มีหลี่บู่ฮุย แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งใหญ่เกินพอที่จะจัดการกับโรงเรียนซานชวน
เหตุผลที่พวกเขาตำหนิตระกูลหลี่ก่อนหน้านี้ก็เพราะความภาคภูมิใจของพวกเขาได้ถูกอีกฝ่ายทำลายลงไป
“เฮ้อ มันเป็นความผิดของพวกเราเอง หากพวกเราสนับสนุนหลี่บู่ฮุยตั้งแต่แรก สถานการณ์ในตอนนี้มันอาจจะแตกต่างไปจากเดิมก็ได้ มันง่ายที่จะระบายสียอดดอกไม้ แต่สำหรับการส่งถ่านร้อนในฤดูหนาวมันมีความยากที่แตกต่างกันเกินไป” ผู้อำนวยการส่ายหัวและถอนหายใจ
คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป พวกเขาทำได้เพียงเดินจากไปเงียบ ๆ
ภายในห้องที่ปิดสนิท เป่ยเฟิงนั่งไขว่ห้างพร้อมกับลวดลายสีดำที่ปรากฎบนหน้าอกของเขา รูปแบบของมันสลับซับซ้อนไปมาพร้อมกับมีระลอกคลื่นที่น่าหวาดกลัวปะทุออกมาเรื่อย ๆ
ภายในหน้าอกของเป่ยเฟิง เลือดฉีของเขากำลังหมุนวนไปมาจนกลายเป็นคลื่นขนาดใหญ่ !
เลือดฉีในตอนนี้มันแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าผู้มีพลังระดับราชาพันปีในระดับเดียวกัน มันไม่ได้มีพลังด้อยไปกว่าผู้มีพลังระดับราชาพันปีขั้นสองหรือสามแม้แต่น้อย
ยิ่งกว่านั้นคือเลือดฉีของเขาบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์อย่างมาก เลือดฉีของเขามันกว้างใหญ่จนราวกับมันคือมหาสมุทร ในเวลาเดียวกันมันก็มีน้ำวนที่หมุนอย่างเชี่ยวกรากอยู่ ณ ในกลางมหาสมุทรเลือดฉีแห่งนี้
จากเลือดฉีทั้งหมดของเขาก็ถูกดูดเข้าไปในน้ำวน ในไม่ช้าเลือดฉีทั้งหมดของเขาก็หายไปจนเหลือแต่ความว่างเปล่า
ในไม่ช้ามหาสมุทรที่ไร้ขอบเขตก็ค่อย ๆ หายไปจนหลงเหลือแต่เพียงไข่มุกสีแดงเลือดที่ใจกลางกระแสน้ำวน
ไข่มุกมีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ แต่ทว่ามันกลับบรรจุเลือดฉีทั้งหมดของเป่ยเฟิงเอาไว้ ! ไข่มุกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันไม่มีรูปร่างใด ๆ ที่มันสามารถคงตัวได้เลยซักวินาที
แต่ทว่าเพียงแค่ออร่าที่รั่วออกมาเพียงเล็กน้อยมันก็ทำให้เป่ยเฟิงถึงกับตกใจ พลังเลือดฉีจำนวนนับไม่ถ้วนถูกบีบลงไปในไข่มุกเม็ดนี้ เมื่อฉีทั้งหมดถูกรวมเข้าไปด้วยกันมันทำให้ภายในไข่มุกเต็มไปพลังที่ต่อสู้กันอย่างรุนแรง
เป่ยเฟิงสงบจิตใจจากนั้นก็สังเกตการเปลี่ยนแปลงของไข่มุกเงียบ ๆ
“ตู้ม !”
เวลาผ่านไป ระลอกคลื่นเล็ก ๆ เริ่มปรากฎรอบ ๆ ไข่มุก จากนั้นมันก็ระเบิดจนกลายเป็นเมฆเห็ดเล็ก ๆ
ก่อนที่เป่ยเฟิงจะตอบสนองได้ทัน ไข่มุกก็พองตัวจนใหญ่กว่า 10 เมตร จากนั้นมันก็หดตัวลงจนมีขนาดเท่าเข็มแล้วจากนั้นก็ระเบิด !
เมื่อไข่มุกระเบิด เป่ยเฟิงรู้สึกราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่ากระทันหัน ร่างของเขาสั่นสะเทือนจากนั้นเลือดก็เริ่มไหลออกมาจากมุมปากของเขา แสงเปล่งประกายระยิบระยับค่อย ๆ พุ่งออกมาจากลวดลายที่หน้าอกของเขา !
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังเลือดฉีจำนวนมากที่ระเบิดออกมาจากไข่มุกนั้นมันน่ากลัวกว่าที่เคยเป็นมาซะอีก !
เลือดฉีพุ่งออกมาจากหน้าอกของเขาจากนั้นก็ครอบคลุมร่างกายของเขาเอาไว้ !
“แคว๊ก !”
เสียงแตกดังขึ้นในร่างของเป่ยเฟิง แม้ว่าเสียงมันจะเป็นเสียงแตกเพียว ๆ ไม่มีสิ่งใด แต่ทว่าเสียงของมันหากคนอื่นได้ยินจะทำให้เขาต้องหูหนวกทันที !
เสียงที่น่ากลัวดังขึ้นต่อเนื่องในห้อง ในไม่ช้าด้วยความถี่ของเสียงมันก็ทำให้ทั้งห้องสั่นสะเทือน
เป่ยเฟิงใช้ความพยายามอย่างมากในการชำระล้างเส้นเลือดของเขา แต่แม้ว่าเขาจะพยายามไปมากแค่ไหนเขาก็ล้างมันไปได้แค่ 1 ใน 1,000 เท่านั้น แต่ทันใดนั้นเส้นเลือดในสัดส่วน 1 ต่อ 100 % ทั้งหมดในร่างของเขาก็ถูกชำระล้าง !
1 ใน 100 อาจดูไม่มากนัก แต่ความจริงแล้วมันเป็นจำนวนที่น่ากลัวมาก มันมากขนาดที่ว่าเป่ยเฟิงจำเป็นต้องใช้สมุนไพรจิตวิญญาณจำนวนมาก มันมากขนาดที่ว่าเขาสามารถนำพวกมันมาชำระล้างเส้นเลือดได้มากกว่า 10 รอบ !
ยิ่งเขาพัฒนามากขึ้นเท่าไหร่ ราคาที่ต้องใช้ก็ยิ่งมากตามขึ้น ต่อให้เป็นเส้นเลือดเพียงเส้นเดียวมันก็ต้องใช้สมุนไพรล้ำค่าจำนวนไม่น้อย !
แม้ว่าเส้นเลือดจะถูกชำระล้างเพียง 1 % แต่มันก็เพียงพอที่จะยกระดับความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิงเพิ่มเป็นสองเท่า !
ของเหลวสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนถูกขับออกมาจากเส้นเลือดหลังจากนั้นเลือดฉีของเขาก็เริ่มสร้างและปรับปรุงเส้นเลือดของเขาเพื่อทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เป่ยเฟิงในตอนนี้สามารถควบคุมและใช้เลือดฉีได้ราบรื่นอย่างมาก นอกจากนี้ปริมาณและคุณภาพเลือดฉีของเขาก็สูงกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกันถึง 10 เท่าเลยทีเดียว !
“นี่คือสิ่งตอบแทนที่ได้มาจากการหลอมรวมเลือดฉีโดยสมบูรณ์แบบ !” เป่ยเฟิงกำหมัดแน่นจนเกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บออกมา
เป่ยเฟิงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการหลอมรวมเลือดฉีให้ได้สมบูรณ์แบบมันจะมีประโยชน์มากขนาดนี้ ตอนนี้เส้นเลือดจำนวนมากของเขาถูกชำระล้างแล้ว รากฐานของเขาในตอนนี้มาถึงระดับที่มั่นคงจนหาคนเทียบได้ยากมาก !
“กิ กิ !’
“จ๊อก จ๊อก !”
ก่อนที่เป่ยเฟิงจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ ทันใดนั้นความรู้สึกหิวโหยก็ปะทุขึ้นมา มันทำให้ริมฝีปากของเขาถึงกับกระตุกและดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว
ความหิวโหยกระทันหันแบบนี้มันรุนแรงจนเป่ยเฟิงไม่สามารถต้านทานได้แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม มันจึงอธิบายได้ไม่ยากว่าความหิวโหยนี้มันทรงพลังแค่ไหน
เป่ยเฟิงรู้สึกราวกับอวัยวะภายในของเขาบิดเกรียวเข้าหากัน เขาจึงรีบหยิบหินวิญญาณระดับสูงออกมาจากแหวนมิติจากนั้นก็บดขยี้มันทันที !
“ฟิ้ว !”
หินวิญญาณระดับสูงนั้นเต็มไปด้วยฉีจำนวนมาก ในไม่ช้าเป่ยเฟิงก็บดขยี้พวกมันไปหลายพันก้อน จากนั้นหลิงฉีจำนวนมากก็ไหลเวียนไปทั่วห้องด้วยจำนวนมหาศาล !
หลิงฉีในห้องมันมีมากจนดูคล้ายกับหมอก มันสามารถที่จะสัมผัสพวกมันได้ด้วยซ้ำ !
ร่างกายของเป่ยเฟิงเต็มไปด้วยหมอกสีขาวหลายชั้น เขาค่อย ๆ ดูดซับหลิงฉีจำนวนมากเข้าไปอย่างต่อเนื่อง !
หลังจากผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หลิงฉีจำนวนมากก็ถูกดูดซับจนหมด ในขณะเดียวกันตอนที่เขาดูดซับหลิงฉีนั้นเขารู้สึกหิวน้อยลงมาก แต่ทว่าทันทีที่เขาดูดซับพวกมันจนหมดความรู้สึกหิวอย่างรุนแรงก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง
“ข้ายังหิวอยู่ เป็นไปได้ยังไงกัน หรือว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่หลิงฉีจะหยุดยั้งได้ ! เนื้อ ข้าต้องการกินเนื้อ !”
และความหิวในครั้งนี้มันน่ากลัวมากกว่าเดิม ความหิวมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของเป่ยเฟิงอย่างบ้าคลั่งจนเกือบจะทำให้เขาเกือบเป็นบ้า
“ตู้ม !’
เป่ยเฟิงยืนขึ้นแล้วทุบประตู ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวประตูที่แข็งแรงก็ถูกแยกออกเป็นสองส่วนในทันที !
ร่างกายของเป่ยเฟิงจางหายไปและไปปรากฎตัวอีกที่พร้อมกับปลดปล่อยพลังระดับราชาพันปีออกมา !
“อะไร ? เกิดอะไรขึ้น ?”
“นั่นท่านหัวหน้าตระกูล !”
“พวกเจ้าทุกคนรีบไปหาอาหารที่เต็มไปด้วยธาตุเหล็กมาซะ ยิ่งสูงยิ่งดี ! ข้าต้องเห็นอาหารพวกนั้นภายใน 10 นาที ! นอกจากนี้รีบนำอาหารอะไรก็ได้เข้ามาในคฤหาสน์ให้เร็วที่สุด !” เสียงของเป่ยเฟิงดังก้องไปทั่วคฤหาสน์
“หะ ?”
“เจ้าจะยืนบื้อตรงนั้นไปเพื่ออะไร ? เร็วรีบไปทำตามคำสั่งของข้า ! รีบไปร้านอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วเอาอาหารที่ถูกปรุงสุกทั้งหมดกลับมาเดียวนี้ ! เร็วเข้า !”
ทุกคนต่างนิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำพูดของเป่ยเฟิง แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็รีบวิ่งออกไปทุกทิศทางเหมือนมดที่บ้าคลั่งทันที
ในไม่ช้าวัตถุจำนวนมากก็หลั่งไหลเข้าไปในห้องครัวและพ่อครัวก็เริ่มวุ่นวาย
“ท่านหัวหน้าตระกูล เกิดอะไรขึ้น ?”
“มออ !”
“ท่านพ่อ มีอะไรผิดปกติงั้นรึ ?”
ในไม่ช้าหลี่ปู้และคนอื่น ๆ ก็รีบมาที่นี่ทันทีและพวกเขาก็เห็นเป่ยเฟิงในสภาพแห้งเหี่ยว มันราวกับว่าเขาขาดสารอาหารอย่างแรง มันทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก
“อย่าสนใจข้า รีบไปบอกพวกเขาให้รีบทำอาหารซะ ไม่ต้องจัดจานให้สวยงาม ข้าต้องการอาหารเดียวนี้ !”
สภาพของเป่ยเฟิงในตอนนี้หลงเหลือแต่เพียงผิวหนังหุ้มกระดูก เขาไม่มีกล้ามเนื้อมากนัก นี่เป็นผลจากการใช้เลือดฉีในการชำระล้างเส้นเลือดมากเกินไป
นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะการขาดความรู้ของเป่ยเฟิง หากเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เขาคงเตรียมการให้ดีกว่านี้
“มออ ?’
หลี่ปู้และคนอื่น ๆ รีบวิ่งออกไปหลงเหลือแต่เพียงฮ่านกุยและเจ้ากระต่าย ฮ่านกุยโมโหอย่างมากเพราะมันอยากรู้ว่าทำไมมนุษย์ที่โหดร้ายคนนี้ถึงมีสภาพแบบนี้ได้
กู่ฉีมองฮ่านกุยที่กำลังขยับตัวจะไปรบกวนเป่ยเฟิง หลังจากนั้นมันก็เอาอุ้งมือของมันตบหัวของฮ่านกุย
“กี้ กี้ !”
“ป้าป !”
“มออ !”
ฮ่านกุยหันกลับมามองด้วยใบหน้าโง่ ๆ ของมัน ทำไมเจ้าตัวนี้มันชอบทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล ?
“มอออ !”
ฮ่านกุยที่เพิ่งถูกทุบตีมา แม้ว่ามันจะโกรธแต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ ทันใดนั้นมันก็เหลือบไปเห็นดวงตาสีเขียวคู่หนึ่งกำลังหันมามองมันพร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมาจากปากของเป่ยเฟิง ทันใดนั้นมันก็กระโดดหนีไปไกลหลายเมตรด้วยความกลัว
“กี้ กี้ !”
เมื่อเห็นอย่างนั้นกู่ฉีก็ส่ายหัวแล้วเดินไปหาฮ่านกุยจากนั้นก็ลากมันออกไปเหมือนหมาที่ตายไปแล้ว
กลับมาที่เป่ยเฟิง เขาจำได้ว่าเขาเคยรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดแบบนี้เมื่อนานมาแล้ว ความหิวโหยที่เลวร้ายนี้มันสามารถทำให้เขาบ้าถึงกับเขมือบได้ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่เจ้ากระต่ายและลูกน้องของมัน
เมื่อครู่นั้นเป่ยเฟิงเกือบจะต้านทานความหิวของตัวเองไม่ไหว หากไม่ใช่เพราะกู่ฉีลากฮ่านกุยออกไป เจ้าตัวโง่นั่นอาจจะจบชีวิตลงด้วยการถูกเขากินไปในไม่ช้า
“ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว” เป่ยเฟิงพูดกับตัวเองในขณะมองกู่ฉีลากฮ่านกุยออกไป
เมื่อฮ่านกุยเห็นความหิวโหยในสายตาของเป่ยเฟิง มันก็เข้าใจทุกอย่างได้ในทันที !
มันรีบหันหลังกลับไปแล้ววิ่งหนีไปทันที ความเร็วของมันเร็วจนกู่ฉีถึงกับพูดไม่ออก
หัวใจของฮ่านกุยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เจ้ามนุษย์น่ากลัวเกินไป ปกติแล้วเขาจะไม่ได้ทำอะไรมากนัก แต่ใครจะไปคิดกันว่าอีกฝ่ายจะน่ากลัวยิ่งกว่ากู่ฉีซะอีก !
“ยังไม่เสร็จอีกงั้นเหรอ !” เป่ยเฟิงคำรามด้วยความหิว
“ท่านหัวหน้าตระกูล อาหารเกือบจะพร้อมแล้ว !” คนรับใช้ตอบกลับด้วยใบหน้าที่ขมขื่น ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ท่านหัวหน้าตระกูลได้ตะโกนถามไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง !
เป่ยเฟิงในตอนนี้ไม่อยู่ในโหมดที่คิดอะไรได้อีกต่อไป ทุกคนในตระกูลหลี่ต้องระมัดระวังอย่างมากในการตอบคำถามของเขาแต่ละครั้ง
“เร็ว ! อย่าไปสนใจรสชาติของมัน ข้าต้องการให้มันเร็วกว่านี้ !” เป่ยเฟิงคำรามออกมา ใบหน้าของเขาซีดเพราะความหิว เขาเคี้ยวสมุนไพรเพื่อบรรเทาความหิว แต่นอกเหนือจากความหิวที่เพิ่มขึ้นแล้วมันไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเขาเลย
“ท่านหัวหน้าตระกูล มาแล้วขอรับ ! อาหารมาแล้ว !”
หน้าผากของคนรับใช้เต็มไปด้วยเหงื่อ เพียงแค่ไม่กี่นาทีแต่สำหรับพวกเขามันราวกับผ่านไปนานหลายปี เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเป่ยเฟิงแย่ลงทุกวินาทีมันทำให้พวกเขากังวลอย่างมาก พวกเขาถึงกับสาปแช่งพวกพ่อครัวที่ทำอาหารช้าแม้ว่าพวกเขาจะพยายามด้วยความสามารถทั้งหมดที่มีก็ตาม