สายตาของเป่ยเฟิงมองไปที่ด้านหน้าด้วยความรู้สึกสั่นกลัวเล็กน้อย
การปะทะกันแต่ละครั้งของสัตว์อสูรทั้งสองตัวนั้นสามารถฆ่าเขาได้ง่าย ๆ แม้แต่คลื่นพลังที่กระจายออกมาก็ยังไม่ใช่สิ่งที่เขาจะหยุดได้
ทุกสิ่งทุกอย่างคงได้แต่หวังพึ่งโชคของเขา ว่าเขาจะรอดหรือจะตาย
‘ความก้าวหน้ามาพร้อมกับสิ่งที่ต้องแลก ! ถึงแม้พวกมันจะแข็งแกร่ง แตข้าจะปลอดภัยแน่นอนหากรักษาระยะห่างเพียงพอ ข้าต้องการแค่เลือดของพวกมันเล็กน้อย ข้าไม่ต้องการศพของพวกมัน !’
เป่ยเฟิงจัดเรียงความคิดของเขาก่อนจะเริ่มตามแผน !
เป่ยเฟิงก้าวไปข้างหน้าหลายพันเมตร เขาระมัดระวังอย่างมากในตอนนี้
“กี้ กี้ !”
กู่ฉีเดินตามเป่ยเฟิง มันรู้ดีว่าการติดตามเป่ยเฟิงมาคือเรื่องที่ถูกต้อง
ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังใจกลางการปะทะหลังจากที่สัตว์อสูรทั้งสองย้ายพื้นที่ไปปะทะที่อื่นแล้ว
พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยรอยไหม้และหินสีขาวที่หลงเหลืออยู่บนพื้น มันดูราวกับว่ามันเป็นภูเขาไฟที่เพิ่งก่อตัวขึ้นมาใหม่
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบ ๆ ร้อยเมตรถูกทำลายไปจนหมด ลาวาและควันไฟจำนวนมากปะทุออกมาจากพื้นดินอย่างต่อเนื่อง
เป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความคาดหวังเมื่อเห็นภาพนี้ เขาคิดไว้ว่าซักวันหนึ่งเขาจะแข็งแกร่งเหมือนพวกมัน !
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าพวกมันน่าจะมีพลังอยู่ที่ระดับราชาพันปีขั้นสูงสุด !
‘เลือดสีทอง ! หยางบริสุทธิ์มันเป็นกรรมพันธุ์ที่มันสืบทอดมาหรือว่ามันกลั่นในภายหลังกัน ?’
เป่ยเฟิงมองไปที่หยดเลือดสีทองที่ราวกับดวงอาทิตย์ ทุกหยดมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นและกำลังส่องประกายอยู่
หยดเลือดเหล่านี้ตกลงมาจากเบื้องบนราวกับฝน !
เพียงหยดเดียวมันก็ทำให้เป่ยเฟิงเต็มไปด้วยความหวัง
จากการสังเกตุของเขา เป่ยเฟิงไม่สามารถบอกได้ว่ามันมีหยางบริสุทธิ์เหมือนกับของเขาหรือไม่
“โฮก !” ลึกลงไปในจิตวิญญาณของเป่ยเฟิง เลือดสีม่วงทองปรากฎออกมาหนึ่งหยด จากนั้นมันก็แปรสภาพกลายเป็นมังกรก่อนจะคำรามออกมาเงียบ ๆ
‘นี่มันการก่อเกิดใหม่ของเลือดมังกร ! อย่าบอกข้านะว่าสัตว์อสูรเต่าตัวนั้นมันเป็นมังกรเต่า ?’
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติและตระหนักได้ทันทีว่าเสือสองตัวไม่สามารถอยู่ภูเขาเดียวกันได้ !
มังกร – สง่างาม แข็งแกร่ง มันกำเนิดมาจากแก่นแท้ของสวรรค์และโลก – มันคือสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าได้สร้างขึ้น !
มังกรจริง ๆ มีอยู่น้อยมาก แต่ทว่าผู้ที่มีสายเลือดมังกรนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจะถือว่าเป็นสัตว์อสูรประเภทมังกร !
ตราบใดที่สามารถปลุกสายเลือดมังกรขึ้นมาได้ มันก็มีความเป็นไปได้ที่ซักวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นมังกร !
เป่ยเฟิงรู้สึกได้ถึงมังกรขนาดเล็กที่อยู่ในร่างของเขาได้ตื่นขึ้นมา จากนั้นหยดเลือดที่อยู่บนพื้นก็เริ่มสั่นสะเทือน !
ภายใต้การจับตามองของเป่ยเฟิง หยดเลือดสีทองเริ่มสว่างมากขึ้น มันค่อย ๆ กระเพื่อมพลังออกมาแรงยิ่งขึ้น !
จากนั้นหยดเลือดสีทอง 10 หยดก็ลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะรวมตัวกันจนมีรูปร่างหลากหลายไปมาจากนั้นก็กลายมาเป็นเต่ามังกร !
จากความแข็งแกร่งของฉีที่มันปล่อยออกมา มีความเป็นไปได้ว่ามันหลอมรวมเลือดฉีได้ 80% !
ทันใดนั้นมันก็คำรามพร้อมกับหันมามองเป่ยเฟิง ในไม่ช้ามันก็ส่งฉีที่น่าสะพรึงกลัวมาหาเขา !
‘เหมือนจะเป็นปัญหาแล้ว ด้วยพลังของข้าในตอนนี้มันไม่มีปัญหาหากจะสู้กับอีกฝ่ายที่หลอมรวมเลือดฉีได้ 70% แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายที่หลอมรวมเลือดฉีได้ 80% มันเป็นปัญหาไม่น้อย’
เป่ยเฟิงมองดูด้วยความกังวล
‘หืม ? ไม่ถูกสิ สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งก็จริง แต่มันไม่มีทางที่สัตว์อสูรมังกรตัวเล็ก ๆ แค่นี้จะเทียบได้กับมังกรดั้งเดิมที่ทรงพลังได้ !’
เป่ยเฟิงลืมนึกถึงสิ่งสำคัญไป เลือดตรงหน้าใช่ว่าจะสามารถจดจำความทรงจำของร่างต้นเอาไว้ได้เสมอไป
เมื่อคิดได้อย่างนั้น เป่ยเฟิงก็สำรวจมังกรตัวเล็ก ๆ ไปมาจากนั้นก็ตระหนักได้ว่ามันแตกต่างจากเดิม
‘ดูเหมือนข้าจะคิดถูก ถึงจะไม่ถูกไปทั้งหมดก็ตาม ! ถึงเจ้ามังกรจิ๋วนี้แม้จะมีพลังฉีแต่มันยังขาดจิตวิญญาณ ใช่แล้ว ! มันยังขาดจิตวิญญาณ !’
หลังจากเข้าใจแล้วเป่ยเฟิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากความเข้าใจของเป่ยเฟิง เขามั่นใจได้แล้วว่าที่มันตื่นขึ้นมาเพราะมันคือสัญชาตญาณที่ต้องการปกป้องตัวเอง
“ดาบพลังจิต !”
เป่ยเฟิงไม่ได้เลือกที่จะสู้กับมัน เขามีวิธีที่ง่ายกว่านั้น
ดาบพลังจิตเป็นสิ่งที่เป่ยเฟิงใช้ มันช่วยทำให้เขาสามารถควบคุมพลังจิตของเขาได้ดีขึ้น
พลังจิตมากมายปะทุออกมาจากร่างของเขาปรากฎตรงหน้าเขาจากนั้นก็รวมตัวกันจนกลายเป็นดาบสีเงินโปร่งแสง !
แม้ว่าสภาพดาบจะดูไม่ดีนัก แต่มันก็ทำให้คนจำนวนมากหันมาสนใจได้เพราะความแปลกของมัน ผู้ที่มีพลังระดับต่ำจะได้รับบาดเจ็บหนักทันทีที่ได้มองดาบเล่มนี้ !
เป่ยเฟิงโบกดาบของเขาจากนั้นคลื่นพลังก็ขยายตัวในอากาศและก็ทำให้เต่ามังกรสั่นสะท้าน !
“โฮก ! ” ถึงแม้ว่ามันจะอ่อนแอ แต่เต่ามังกรก็คำรามด้วยความโกรธ
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูราวกับว่ามันกำลังจะแตกสลายได้ตลอดเวลา
ทันทีที่ดาบผ่าลงมา เป่ยเฟิงก็บอกได้เลยว่าอีกฝ่ายอ่อนแอแค่ไหน
แม้ว่าเซลล์จะสามารถเก็บความทรงจำบางส่วนได้แต่มันก็มีขีดจำกัด
มันเป็นไปไม่ได้ที่เซลล์จะจดจำถึงเจ้าของร่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อให้เป็นสัตว์อสูรมังกรก็ตาม !
ทรงความจำที่เหลือจะถูกส่งต่อไปได้ก็ต่อเมื่อมันค่อย ๆ แบ่งตัวกัน
เมื่อใช้ดาบพลังจิตของเขา เป่ยเฟิงก็สามารถกำจัดความทรงจำของเซลล์ได้ทันที !
หลังจากฟาดดาบลงมา สัตว์อสูรมังกรก็หยุดสั่นลง จากนั้นมันก็ค่อย ๆ สลายกลายเป็นหยดเลือดสีทอง 10 หยด
เป่ยเฟิงกวักมือจากนั้นหยดเลือดก็เข้ามาอยู่ในมือของเขากลายเป็นลูกบอลสีทอง
ด้วยความคิด เขาเก็บลูกบอลสีทองไว้ในแหวนมิติทันที เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่ใช่เวลาที่จะดูหรือกินมัน
สัตว์อสูร 2 ตัวยังคงสู้กันอยู่และนั้นก็ทำให้เมฆที่อยู่รอบ ๆ ไกลกว่าพันลี้กระจายออกไป แม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางวันแต่มันก็ปรากฎดวงดาวให้เห็นบนท้องฟ้า
ดาวที่ควรปรากฎในตอนกลางคืนได้มาปรากฎตัวในตอนกลางวัน ดวงดาวเหล่านั้นส่องสว่างราวกับเป็นดวงอาทิตย์ !
ระหว่างทางลง เป่ยเฟิงและกู่ฉีไม่สามารถหยุดรอยยิ้มที่เก็บเกี่ยวมาได้เลย ในแหวนมิติของเป่ยเฟิงเขาสามารถเก็บก้อนเลือดได้ถึง 2 ก้อน
ก้อนเลือดทั้งสองก้อนมีขนาดเท่ารถม้า ก้อนหนึ่งเป็นสีทองอีกก้อนเป็นสีแดง
“บูม !”
“ฟิ้ว !”
เสียงระเบิดดังขึ้นด้านหน้าทำให้เป่ยเฟิงหยุดเดิน เลือดทั้งสองประเภทพุ่งลงมาปะทะบนพื้นจนกลายเป็นบ่อน้ำ ซึ้งบ่อน้ำที่ว่ามันเต็มไปด้วยก้อนเลือดขนาดใหญ่ ! แต่ละบ่อมันมีขนาดใหญ่กว่าที่เขาเก็บมาเกือบ 20 เท่าได้ !
ก่อนที่เป่ยเฟิงจะได้เข้าไปใกล้บ่อ พลังสีทองก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้านบน
“บูม”
“ซู้มม !”
เหมือนแผ่นดินไหว 10 ริกเตอร์ ผืนดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง การโจมตีครั้งนี้มันเกิดขึ้นใกล้กับเป่ยเฟิงอย่างมาก !
แม้ว่าระยะห่างของเป่ยเฟิงกับการโจมตีครั้งนี้จะอยู่ไกล 10 กิโลเมตร แต่ทว่าเพียงแค่ระลอกคลื่นของมันก็ส่งเป่ยเฟิงบินไปได้ไกล !
เมื่อเป่ยเฟิงบินออกไปได้สักพักก็มีปีกสีดำคู่หนึ่งปรากฎขึ้นด้านหลังเขา จากนั้นปีกมันก็เหยียดออกไปก่อนจะครอบคลุมตัวเขาราวกับผ้าห่ม มันพยายามปกป้องเขาจากแรงกระแทก
ถึงอย่างนั้นเป่ยเฟิงก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากคลื่นพลังอยู่ดี เนื่องจากแรงกระแทกที่รุนแรงจำนวนมากที่พุ่งเข้ามา ทำให้ปีกของเขาคงอยู่ได้เพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่มันจะสั่นสะเทือนอีกครั้งพร้อมกับร่วงลงมาจากท้องฟ้า
เมื่อมันถึงพื้นมันก็ละลายทันทีราวกับหิมะภายใต้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง !
หลังจากที่ปีกแตกสลายหายไป เป่ยเฟิงก็ขยับมือของเขาจากนั้นร่างหมียักษ์ก็ปรากฎขึ้นครอบคลุมร่างกายของเป่ยเฟิง
“บดขยี้ภูผา !”
เนื่องจากปีกช่วยเขาได้ไม่น้อย ทำให้เขายังพอมีแรงจะขยับตัวได้