ในใจโจววูตอนนี้อยากจะฆ่าทหารในค่ายบาปทั้งสิบทุกคน แม้ว่าเขาจะเคยเป็นนายพลที่น่าเคารพแต่ความสามารถของเขาค่อย ๆ ถดถอยลงไปเพราะพลังอำนาจและเงินตรา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ต่อสู้มาเป็นเวลานาน แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ไปได้
ม้ามังกรที่เขาขี่อยู่มีขนาดใหญ่มาก มันปลดปล่อยพลังฉีที่แข็งแกร่งออกมา
เมื่อม้ามังกรเดิน มันจะพ่นเปลวไฟสีแดงออกมาจากจมูก
เลือดฉีอันทรงพลังปะทุออกมาจากตัวมันบ่งบอกได้ว่ามันคือม้ามังกรชั้นยอด !
ผู้ฝึกตนธรรมดา ๆ ไม่สามารถควบคุมมันได้ !
“อะไรนะ ?”
“อดีตองค์จักรพรรดิ์ได้สร้างสัญญานี้ขึ้นมา แต่ข้าได้ยินมาว่ามีคนคัดค้านที่จะปล่อยพวกเขาไป นอกจากนี้พวกเขายังบอกอีกว่าครอบครัวของพวกเขาก็ถูกลูกหลงนี้ไปด้วย !”
“มีหลายคนพยายามที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับค่ายร้อยสงครามของพวกเรา แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่ทำแบบนั้นกับค่ายบาปทั้งสิบกัน ?”
ทหารจากค่ายร้อยสงครามพูดคุยกันหลังจากได้ยินสิ่งที่ชายชราพูด
“นายท่าน พวกเราต้องสู้ต่อหรือไม่ ?” ผู้ช่วยของจินวูเซียถามอย่างระมัดระวัง ท้ายที่สุดแล้วทหารของค่ายร้อยสงครามต่างบาดเจ็บหนักเป็นจำนวนมาก แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนคนมากกว่าทหารของค่ายบาปทั้งสิบ แต่ศัตรูของพวกเขากลับมีความมุ่งมั่นและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ มันยากที่จะบอกว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ !
หากพวกเขาต่อสู้อีกครั้ง ทหารของค่ายร้อยสงครามจะกลายเป็นตำนานจริง ๆ แม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะค่ายบาปทั้งสิบได้ก็ตาม
“คำสั่งของฝ่าบาท ข้าต้องทำตามคำสั่ง”
ใบหน้าของจินวูเซียซับซ้อน เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายได้หรือไม่ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องทำตามคำสั่งของยงซวน
“คำสั่งของฝ่าบาท ! ทหารค่ายร้อยสงคราม เตรียมพร้อมสังหารพวกกบฎ !”
โจววูเดินออกมาพร้อมกับม้ามังกรของเขา จากนั้นก็ยึดอำนาจการสั่งการของจินวูเซียทันที
จินวูเซียสับสน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาได้แต่ทำตามคำสั่งของโจววู
“ฆ่า !”
ทหารทั้งสองฝ่ายปะทะกันอีกครั้ง ฝ่ายหนึ่งเต็มไปด้วยกำลังใจ ในขณะที่อีกฝ่ายกลับเงียบเชียบ
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองฝ่ายก็แยกและยืนตรงกันข้ามกันอีกครั้ง
ค่ายบาปทั้งสิบเหลือทหารเพียง 1,000 คน แต่ละคนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
อีกด้าน ค่ายทหารร้อยสงครามหลงเหลือทหารเพียง 10,000 คน
“อดทนไว้ กองหนุนใกล้จะมาถึงแล้ว พวกเขาจะช่วยกำจัดพวกกบฎ ข้าขอให้คำมั่นสัญญาเลยว่าฝ่าบาทจะต้องตอบแทนพวกเจ้าหลังการต่อสู้แน่นอน !”
โจววูแสร้งทำเป็นสงบ แม้ว่าเขาจะตกใจในความแข็งแกร่งของค่ายบาปทั้งสิบก็ตาม
เขาไม่ได้ปรากฎตัวที่แถวหน้าอีกต่อไป เขากลับมายืนอยู่ด้านหลังทหารของค่ายร้อยสงครามและมีทหารหนึ่งพันคนคอยระวังความปลอดภัยให้เขา
จินวูเซียและคนของเขาไม่ได้สนใจรางวัลแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่พวกเขาเสียใจคือเหล่าพี่น้องที่ตายไปในสงคราม
“เตรียมขบวน ใช้ขบวนเขาสามยอด ตราบใดที่พวกเราซื้อเวลาให้กองหนุนได้ก็พอ” โจววูออกคำสั่ง
ในฐานะที่เป็นเมืองหลวง เป็นธรรมดาที่กองหนุนจะอยู่นอกเมือง แม้ว่าพวกเขาจะอยู่นอกเมือง แต่ใครจะไปคิดกันว่ากับแค่กองทัพกบฎจะสามารถยืนต่อหน้าค่ายร้อยสงครามและกองทหารยู่หลิงได้นานขนาดนี้
ทหารของค่ายบาปทั้งสิบได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ ต่อให้อีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า พวกเขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย
“นายพลโจว ท่านใช้ชีวิตของพี่น้องข้ามากเกินไปแล้ว” จินวูเซียปฎิเสธคำสั่งของโจววูเซียทันที
ทหารของค่ายบาปทั้งสิบนั้นต่อให้พวกเขาต้องตายก็ไม่สนใจ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าอีกฝ่าย
ยิ่งไปกว่านั้นคือขบวนสามยอดเขานั้นเป็นขบวนรูปแบบป้องกัน ถ้ามันถูกทำลายเท่ากับทหารของค่ายร้อยสงครามถูกสังหารทั้งหมด !
หากมันเป็นคำสั่งต่อกองทัพอื่น พวกเขาคงทำตามโดยไม่ลังเล !
แต่กองทัพที่เผชิญหน้าอยู่นั้นแตกต่างออกไป กองทัพปกติจะยอมแพ้ทันทีที่เสียทหารไปครึ่งหนึ่ง แต่ทหารของค่ายบาปทั้งสิบกลับปฏิเสธ พวกเขาจะยืนหยัดต่อสู้ไม่ว่าสถานการณ์จะแย่แค่ไหนก็ตาม
และในตอนนี้ทหารของค่ายร้อยสงครามก็อยากจะหยุดมันเพียงแค่นี้ ความแตกต่างของทหารค่ายร้อยสงครามและค่ายบาปทั้งสิบก็คือทหารจากค่ายร้อยสงครามคือชนชั้นสูงที่ถูกเลือกมาจากทหารหลายแสนคน นอกจากนี้มีหลายคนได้สร้างครอบครัวของตัวเองขึ้นมาแล้ว
ดังนั้นการทำตามคำสั่งนี้มันมีโอกาสที่ทหารจากค่ายบาปทั้งสิบจะบุกทะลวง หากพวกเขาทำได้เท่ากับความตายของค่ายร้อยสงคราม !
“เพ้ย ! องค์เหนือมอบอำนาจให้กับข้า ท่านได้สั่งให้ข้าจัดการดูแลทุกอย่างที่อยู่ที่นี่และเจ้าต้องทำตามที่ข้าพูด หรือว่าท่านนายพลจินจะต่อต้านคำสั่งงั้นรึ ?”
โจววูอารมณ์เสีย เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าจินวูเซียจะไม่ทำตามคำสั่งของเขา มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะหาเรื่องจินวูเซีย
“นายท่าน ตาแก่นี้กำลังหาชีวิตของพวกเราเป็นเรื่องตลก เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในสงครามแม้แต่น้อย นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่พยายามจะหาประโยชน์จากค่ายร้อยสงครามมานักต่อนัก”
ผู้ช่วยจินวูเซียและทหารจากค่ายร้อยสงครามต่างมองโจววูด้วยความโกรธ
“อะไร ? พวกแกไม่ได้ยินคำสั่งของข้าหรือยังไง ? หรือพวกแกคิดจะกบฎไปด้วยงั้นรึ !”
แม้ว่าทหารของค่ายร้อยสงครามจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่โจววูจะต้องเกรงกลัว
“กบฎงั้นรึ ! มันช่างน่าขันนัก”
เสียงก้องกังวาลทำให้ทหารค่ายร้อยสงครามเงียบลงทันที
“นายทานพลจินผู้มากความสามารถในการยุยงผู้อื่น ข้าจะรายงานคำพูดเมื่อกี้ต่อองค์จักรพรรดิค์ !”
โจววูหัวเราะอย่างเย็นชา เขาไม่พอใจอีกฝ่ายมานานแล้ว เขาพยายามที่จะแทรกแซงเรื่องของค่ายร้อยสงครามและพยายามที่จะเอาทรัพยากรของอีกฝ่ายมานานแล้ว
ค่ายร้อยสงครามเต็มไปด้วยทรัพยากร นอกจากนี้พวกเขายังสามารถพัฒนาทักษะและความสามารถของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำไมเขาต้องทำดีกับพวกมันด้วย ?
ชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีแดงอายุประมาณ 18 ปี ก้าวออกมาและพูดขึ้น ” ข้าเป็นคนพูด!”
“หลิวเจีย แกทำบ้าอะไร แกไม่อยากมีชีวิตต่ออีกแล้วหรือยังไงกัน !”
“ทำไมเขาถึงพูดแบบนั้นกัน …”
ทุกคนในค่ายร้อยสงครามถึงกับอ้าปากค้าง
“กบฎสินะ ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะชดใช้ชีวิตของน้องสาวข้ายังไง ! แกช่วยบอกข้าหน่อยสิว่าคนอย่างแกจะหาความยุติธรรมให้กับความตายของน้องสาวข้ายังไงกัน ในเมื่อข้าได้จดหมายจากพี่สาวของข้า เธอบอกว่าน้องสาวถูกบังคับทรมานโดยโจววูจนต้องตาย !”
หลิวเจียวางแผนจะแก้แค้นโจววูเมื่อเขามาถึงเมืองหลวง แต่ใครจะไปคิดกันว่าค่ายร้อยสงครามจะต้องเผชิญหน้ากับสงครามในทันที เนื่องจากเขาต้องสู้กับค่ายบาปทั้งสิบ เขาไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตรอดไปได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป
ม้ามังกรของหลิวเจียสูญเสียขาไปแล้ว นอกจากนี้มันยังมีบาดแผลที่หน้าอกอีกด้วย
หลังจากได้ยินคำพูดของหลิวเจีย จินวูเซียก็ตกใจมากส่วนคนอื่น ๆ ของค่ายร้อยสงครามก็รู้สึกโกรธมาก
ทั้ง ๆ ที่เขาต้องเป็นแนวหน้าไปต่อสู้เพื่อครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง ใครจะไปคิดกันว่าจะมีคนกล้าแตะต้องครอบครัวของพี่น้องของพวกเขา
หลิวเจียคือตัวอย่างของวันนี้ แต่ใครจะเป็นคนต้องถูกแตะต้องเป็นคนต่อไป เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นครอบครัวของพวกเขา ?
ทหารของค่ายร้อยสงครามพูดคุยกัน พวกเขาไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของพวกเขา
หากพวกเขาไม่ได้ยินสิ่งที่หลิวเจียพูด พวกเขาก็ไม่อยากนึกถึงอนาคตของพวกเขาแม้แต่น้อย
“อะไร น้องสาวแก ? น้องสาวแกเป็นใคร พอดีข้าเล่นกับผู้หญิงหลายคน ข้าจำไม่ได้แล้วว่ามีใครบ้าง แล้วแกเป็นใคร แกอยากจะแก้แค้นให้กับน้องสาวของแกงั้นหรอ ?” โจววูถามเย้ยหยัน เจ้าคนชั้นต่ำแบบนี้คิดจะแก้แค้นเขา มันช่างไร้เดียงสานัก !
จินวูเซียจ้องมองโจววูและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ระวังคำพูดของท่านด้วย ท่านนายพลโจว”
จากนั้นเขาก็หันไปมองหลิวเจีย “ไม่ต้องกังวล ข้าจะทวงคืนความยุติธรรมให้เจ้าเอง !”
“ท่านนายพลจินช่างอ่อนโยนจริง ๆ คิดงั้นไหม ? ท่านคิดจะขุดหลุมใส่ตัวเองเพียงเพื่อเจ้าพวกไร้ประโยชน์เหล่านี้งั้นหรือ ?” โจววูพูดเย้ยหยัน
“นายท่าน”
ผู้ช่วยของจินวูเซียอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่สามารถพูดได้ เขาได้แต่มองจินวูเซียที่กำลังมองโจววูอยู่
“เกิดอะไรขึ้น ?”
จินวูเซียมองดวงตาของโจววู ก่อนจะหันไปสนใจผู้ช่วยของเขา เขาเกรงว่าเขาจะอยากฆ่าอีกฝ่ายมากขึ้นไปได้หากเขายังคงจ้องมองอยู่ !
คำพูดของโจววูอาจกล่าวได้ว่ามันเป็นอันตรายต่อขวัญกำลังใจของทหารค่ายร้อยสงคราม !
จินวูเซียคิดว่าหลังจากการต่อสู้จบลง เขาจะกำจัดเจ้าแก่นี้ให้ได้โดยไม่สนใจว่ามันจะถูกหรือผิด
เมื่อเห็นสายตาที่เย็นชา โจววูถึงกับสั่นสะท้าน เขาตัดสินใจว่าจะต้องสังหารจินวูเซียให้ตายในคืนนี้ มันจะดีที่สุดหากเป็นฝีมือของค่ายบาปทั้งสิบ
“ท่าน ข้าไม่แน่ใจว่าควรจะพูดเรื่องนี้ดีไหม” ผู้ช่วยมองด้วยความลังเล
“พูดมา !” จินวูเซียกดเสียงหนัก
“ข้าน้อยคิดว่าพวกราชวงศ์และเหล่าขุนนางชั้นสูงมันฆ่าง่ายกว่าพวกทหารของค่ายบาปทั้งสิบ …”
ผู้ช่วยของเขาดูโล่งอกอย่างมากหลังจากอัดอั้นมานาน
“บูม !”
แม้ว่าเสียงของเขาจะไม่ดัง แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้คนรอบ ๆ ได้ยินคำพูดของเขา เมื่อคำพูดของเขาจบมันก็ทำให้คนอื่นรู้สึกได้เช่นกัน !
ใช่ ! ค่ายบาปทั้งสิบเหมือนกระดูกแข็ง ๆ
ส่วนราชวงศ์และพวกขุนนางเหมือนเนื้อนุ่ม ๆ !
“ทำไมมันแปลก ๆ ?”
“แต่ข้าคิดว่าไม่นะ !”
“ข้าเกลียดคนแบบพวกมันมานานแล้ว ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี เราควรจะคว้ามัน !”
ดวงตาของทหารจากค่ายร้อยสงครามสว่างวาปพร้อมกับความทะเยอทะยานที่เปิดเผยในดวงตาของพวกเขา
ในทางกลับกัน เหล่าราชวงศ์และขุนนางทั้งหลายในห้องประชุมนั้นกลับไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในค่ายร้อยสงคราม
“เสียกองทัพไปเปล่า ๆ”
ขุนนางบางคนถอนหายใจด้วยความเสียใจ หากค่ายร้อยสงครามและค่ายบาปทั้งสิบร่วมมือกัน บางทีมันอาจทำให้ประเทศไป๋ยูวพัฒนาขึ้นได้มากกว่านี้ !
โอ้ ? มันไม่ควรจะเป็นแค่เสียกองทัพไปเฉย ๆ สิ !
มันเป็นการเสียกองทัพไปถึงสองกองทัพ ! ขุนนางหลายคนเหลือบมองกันและกัน พวกเขารู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้ส่งผลร้ายแรงต่อค่ายร้อยสงครามและทำให้ค่ายบาปทั้งสิบถูกทำลาย หรือนี่จะเป็นจุดจบของประเทศไป๋ยู่ว !
“ยังจะรออะไรกันอีก ? ข้าสั่งให้ทำตามคำสั่งของข้า ไปกำจัดพวกกบฎซะ !”
เมื่อเห็นว่าทหารหยุดต่อสู้มานานกว่า 5 นาที มันก็ทำให้ยงซวนโกรธ
“พวกแกกล้าขัดคำสั่ง ? ข้าจะแจ้งเรื่องให้ฝ่าบาทแล้วสั่งให้กำจัดคนในครอบครัวพวกแกทั้งหมด !” โจววูระเบิดความโกรธและนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก
นี้มัน – แผนการที่จินวูเซียคิดจะถ่วงดุจเอาไว้สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์
“ฟังคำสั่งข้า ! ยงซวน ผู้ครองดินแดนและเหล่าขุนนางที่ทุจริตนั้นได้ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ วันนี้พวกเราต้องกลายเป็นกบฎเพื่อที่จะทวงคืนความยุติธรรมแด่ประเทศไป๋ยู่ว !”
สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว จินวูเซียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตามน้ำไป หากพวกเขาไม่กบฎตอนนี้พวกเขาอาจจะต้องสูญเสียไปมากกว่านี้ ดังนั้นในเมื่อมีแค่สองทางเลือก เขาก็ตัดสินใจที่จะกบฎแทน !