“ระดับพลังมันแตกต่างกันเกินไป พวกเราต้องแยกย้ายกันหนี !”
ชายที่สง่างามที่มีพลังราชาพันปีคนหนึ่งพูดขึ้น
“อืม พวกเราต้องโจมตีพร้อมกันเพื่อผลักเขาให้ถอยหลัง หลังจากนั้นไม่ว่าเราจะมีชีวิตหรือเราจะตาย ก็ได้แต่ปล่อยให้สวรรค์กำหนด !”
“หากข้าต้องตายไปจริง ๆ ข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะแก้แค้นให้ข้า !”
คนอื่น ๆ พยักหน้าราวกับพวกเขาเตรียมพร้อมที่จะตาย
ความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิงแข็งแกร่งเกินไป แม้อีกฝ่ายจะมีเพียงคนเดียวแต่กลับสามารถกดดันพวกเขาถึง 5 คนได้อย่างอยู่หมัด มันถึงขั้นที่ว่าพวกเขาไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่น้อย
หากพวกเขาวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน มันมีความเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครซักคนที่จะหนีไปได้ !
สำหรับกลยุทธ์การแยกย้ายกันหนี แน่นอนว่าพวกเขาได้แต่หวังพึ่งโชคชะตาที่เป่ยเฟิงเลือกให้เท่านั้น
“หืม ตายอยู่ที่นี่แหละ ! มังกรเสือ จู่โจม !”
การโจมตีของเป่ยเฟิงทวีความรุนแรงมากขึ้น การโจมตีทุกครั้งของเขามันทำให้อากาศสั่นสะเทือน พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง
มังกรและเสือต่างเกือบหนุนกันและกัน ก่อนที่การโจมตีของเป่ยเฟิงจะไปถึงพวกเขา พวกเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่หนักหนากำลังกดดันพวกเขาอยู่
“ตอนนี้แหละ ! โจมตี !”
“พลังวิญญาณ ปืนใหญ่ทหารพันนาย !”
“ผนึกชีวิตและความตาย !”
สิ้นสุดเสียง ทุกคนก็รีบใช้พลังวิญญาณของพวกเขาโดยทันที
เพราะการปรากฎของพลังจำนวนมาก มันทำให้ผู้มีพลังระดับร้อยปีที่เฝ้าดูอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับต้องถอยหลังช้า ๆ
“โฮก !” เป่ยเฟิงคำรามและร่างของเขาก็สูงขึ้นถึง 7 เมตร แม้ว่าร่างกายของเขาจะดูใหญ่ แต่ทว่าเขากลับยังคงเหมือนมนุษย์ ไม่เหมือนลูกโป่งอีกต่อไป !
ด้วยร่างนี้มันทำให้ความแข็งแกร่งของเป่ยเฟิงนั้นเพิ่มสูงขึ้น 30-50 % !
“วายุและเมฆา จงขจัด !”
เป่ยเฟิงทำตราประทับที่มือ จากนั้นเขาก็โคจรมันรอบตัว ในไม่ช้าลมและเมฆก็ปรากฎตัวที่ด้านหลังเขา
ต่อจากนั้นพวกมันก็ผสานกันจนมันดูราวกับว่าลมและเมฆได้มารวมตัวกันกลายเป็นหยดของเหลวคล้ายน้ำ
หยดของเหลวนี้มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับเล็บมือ แต่ทว่าแรงกดดันของมันที่ปล่อยออกมานั้นหนักหน่วงไม่น้อย มันพุ่งลงมาจากด้านหลังของเป่ยเฟิงด้วยความเร็วราวกับอุกกาบาตถล่มลงมาจากท้องฟ้าปะทะเข้ากับพลังวิญญาณทั้งหลาย !
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ร่างของมนุษย์คนหนึ่งเปล่งประกาย เขาคือชายที่ดูสง่างามที่พูดเป็นคนแรก เขาใช้ประโยชน์ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังโจมตีถอยหนีไป !
“น่ารังเกียจ !”
“พวกเราอุตสาไว้ใจแก !”
‘ไอ้พวกโง่เอ้ย ยังไงซะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการปกป้องชีวิตของตัวเอง ! พวกแกจะไปแก้แค้นอีกฝ่ายเพียงเพราะพวกแกเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ ? ข้าล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่าคนปัญญาอ่อนแบบพวกแกมีชีวิตจนบรรลุระดับราชาพันปีมาได้ยังไงกัน’ ชายคนนั้นหัวเราะในใจเบา ๆ แม้ว่าพวกเขาจะแยกย้ายกันหนี แต่สุดท้ายโอกาสรอดก็มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น
ตรงกันข้ามกับการที่ปล่อยให้เจ้าโง่ทั้ง 3 คนคอยถ่วงเวลาให้ส่วนเขาก็แค่หนีไป
ตราบใดที่เขายังมีชีวิตรอด ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไร้ความหมาย ความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง ? ไร้สาระ !
‘ต้องยกย่องความฉลาดของข้า ไอ้เจ้าพวกโง่ !’
เป่ยเฟิงไม่ได้คาดคิดเลยว่าคนพวกนี้ที่ดูเหมือนเป็นพี่น้องกันจะทรยศกันได้เร็วขนาดนี้ เมื่อเห็นว่าคนอื่น ๆ กำลังด่าชายที่หนีไป เป่ยเฟิงก็เย้ยหยัน “ในตอนนี้พวกแกยังจะกล้าหันไปสนใจคนอื่นด้วยงั้นรึ ? ไม่ต้องห่วง ผู้ชายคนนั้นหนีไม่รอดแน่นอน เดียวข้าจะไปลากมันมาอยู่เคียงข้างพวกแกเอง !”
จากนั้นของเหลวที่เหมือนน้ำก็ปะทะเข้ากับพลังวิญญาณของทั้งสามคนจนเกิดแรงระเบิด !
พลังของวายุและเมฆานั้นแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ?
เพียงแค่หยดน้ำเพียงหยดเดียว มันก็ราวกับพลังที่ไร้จุดสิ้นสุด ในไม่ช้าพลังวิญญาณของทั้ง 3 ก็แตกสลาย !
“บูม !’
หลุมอุกกาบาตลึกหลายร้อยเมตรปรากฎบนพื้น ภายในนั้นมีชายสามคนนอนหมดสติพร้อมกับอาการบาดเจ็บสาหัส
นี่เป็นเพียงการโจมตีเบา ๆ ของเป่ยเฟิง ไม่อย่างนั้นชายทั้งสามคนถูกสังหารไปแล้ว
เมื่อเห็นชายที่หลบหนีนั้นหนีไปได้ไกลหลายสิบกิโลเมตร เป่ยเฟิงก็ก้าวออกไปเพียงก้าวเดียว
“แปดก้าวไล่ล่าจั๊กจั่น !”
เลือดฉีของเป่ยเฟิงปะทุขึ้น จากนั้นเพียงก้าวเดียวเขาก็ปรากฎตัวขึ้นในระยะที่ไกลออกไปถึง 3-4,000 เมตร !
ชายคนนั้นหันกลับมามองและเพียงแค่แวบเดียว ใบหน้าของเขาก็ซีดจาง
“พลังวิญญาณ เผาผลาญโลหิต !” ดวงตาของเขาส่องประกายความโหดเหี้ยม เขาใช้พลังวิญญาณโดยไม่ลังเล !
เขาเผาผลาญเลือดฉีของตัวเองไปถึง 40% เพื่อแลกกับความเร็วที่เพิ่มขึ้น !
ทันใดนั้นหมอกสีแดงก็ปรากฎตัวขึ้นรอบ ๆ ตัวเขาพร้อมกับความเร็วของเขาที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า !
เพียงแค่ขยับ เขาก็ปรากฎตัวออกไปไกลกว่าจุดเดิมถึง 2-3 กิโลเมตร !
ในไม่ช้าระยะห่างของเขากับเป่ยเฟิงก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง !
เป่ยเฟิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ไกลออกไป อย่างที่คิด พลังวิญญาณของคน ๆ นั้นช่างเหมาะกับนิสัยของเขาจริง ๆ
“บูม !”
ร่างกายของเป่ยเฟิงสั่นจากนั้นจิตสังหารของเขาก็ปะทุ
หากผู้มีพลังระดับราชาพันปีที่หลอมรวมเลือดฉีได้ 90% มายืนขวางทางเป่ยเฟิง พวกเขาก็คงถูกเป่ยเฟิงสังหารได้ด้วยการต่อยเพียงครั้งเดียว !
เมื่อเขาก้าวออกไปก้าวที่สอง แม้แต่เป่ยเฟิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย มันราวกับว่าเขากำลังเคลื่อนย้ายในระยะทางเพียงสั้น ๆ แต่ทว่ามันไกลไปไกลกว่า 10,000 เมตรด้วยการก้าวเพียงครั้งเดียว !
แม้ว่าแปดก้าวไล่ล่าจั๊กจั่นจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นสองเท่าได้ แต่มันก็ยังคงเป็นวิชาที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวอยู่ดี !
ความเร็วคือพลังของมัน !
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ไกลกว่าเขาเกือบ 30,000 เมตร เป่ยเฟิงก็หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะก้าวออกไปเป็นก้าวที่สามโดยไม่ลังเล !
ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง ผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง แม้ว่าเขาจะมีพลังระดับราชาพันปี แต่การใช้แปดก้าวไล่ล่าจั๊กจั่นก็ยังคงสร้างภาระมหาศาลให้กับร่างกายเขา
ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงอยู่ในขอบเขตที่ร่างกายของเขารับไว้ มันจึงไม่ทำร้ายเขามากเกินไปนัก
“ฟู่ว !”
เมื่อเท้าของเขาแตะพื้น เขาก็ปรากฎตัวอีกครั้งโดยระยะห่างอยู่ห่างจากอีกฝ่ายไม่ถึง 10,000 เมตร !
“เป็นไปได้ยังไงกัน ! จงเผาผลาญ !”
มันราวกับเขาเห็นผีในตอนกลางคืน อีกฝ่ายก้าวเพียงก้าวเดียวแต่ไปไกลถึงหมื่นเมตร นี่เป็นพลังของผู้มีพลังระดับราชาพันปีจริง ๆ งั้นหรือ ?
เขารีบเผาผลาญเลือดฉีของเขาอีกครั้งทันที ตอนนี้เขาเผาผลาญเลือดฉีของเขาไปแล้ว 70% เขาเผาผลาญมันเพื่อเพิ่มความเร็วขึ้นอีกครั้ง !
การเผาผลาญเลือดฉีเพียง 40% นั้นไม่มีปัญหาใด ๆ แต่หากเป็น 70% มันจะส่งผลกระทบต่อรากฐานของเขา อย่างน้อยที่สุดเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปีในการฟื้นฟูรากฐานของเขา !
แต่เมื่อเทียบกับชีวิตเล็ก ๆ ของเขาแล้ว ตอนนี้มันคุ้มค่าที่จะทำ
เมื่อเห็นพลังของอีกฝ่ายปะทุขึ้นอีกครั้งพร้อมกับร่างของเขาที่พุ่งออกไปราวกับดาวหางสีแดงบนท้องฟ้า มันทำให้เป่ยเฟิงลังเลและหยุดไล่ล่าเขาในที่สุด
ตอนนี้การใช้ก้าวที่สี่ของแปดก้าวไล่ล่าจั๊กจั่น มันยังเป็นภาระที่หนักเกินกว่าร่างกายของเขาจะรับไว้ เขาไม่อยากจะลองเสี่ยงมัน
‘แต่แกคิดว่าทุกอย่างมันจะจบลงแบบนี้จริง ๆ งั้นรึ ?’
เป่ยเฟิงมองไปที่อีกฝ่ายที่อยู่ห่างออกไปไกลกว่า 20,000 เมตร เขาหัวเราะเย็นชา หากเขาไล่ล่าอีกฝ่ายต่อไปแน่นอนว่าไม่สามารถไล่ล่าได้ทันแน่ แต่ทว่ามันใช่ว่าเขาจะทำไม่ได้ !
“พันรูปร่าง !”
เป่ยเฟิงยกมือขึ้นจากนั้นคันธนูขนาดใหญ่ก็ปรากฎตรงหน้าเขา !
ธนูมันใหญ่อย่างมาก มันใหญ่กว่า 4 จั้งเลยทีเดียว !
ตัวคันธนูนั้นเบามาก แต่มันมีความหนาเท่ากำปั้น มีมังกรสีดำที่ดูมีชีวิตชีวาม้วนไปมาบนตัวคันธนู !
‘แกยังจะหนีไปได้ ?’
เป่ยเฟิงยกคันธนูขึ้นจากนั้นลูกธนูยาว 3 เมตรก็ปรากฎ เขาง้างมันเล็งไปที่ดาวหางสีแดงที่กำลังจะหายไป
พลังจิตของเขาปะทุจากนั้นก็ล็อคเป้าหมายไปที่วิถีแห่งเต๋าของอีกฝ่ายโดยตรง !
เป่ยเฟิงที่กำลังถือธนูอยู่นั่นดูสงบราวกับทะเลสาบที่มีภูเขาอันหนักแน่นอยู่ข้าง ๆ !
‘ในระยะพลังจิตของข้า มันไม่ควรจะพลาด !’
ความคิดนี้ปะทุในใจของเขา
“ชั้วะ !”
“ฟิ้ว !”
หลังจากเล็งไปสักพัก เป่ยเฟิงก็ปล่อยลูกธนูออกโดยไม่ลังเล เสียงในตอนปล่อยมันดังราวกับเสียงคำรามของมังกรที่มีชีวิต คันธนูสั่นเล็กน้อยราวกับว่ามันกำลังตื่นเต้น !