Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 605

ตอนที่ 605

หลิงฉีจำนวนมากไหลเข้าไปในร่างกายของเป่ยเฟิงทำให้กล้ามเนื้อของเขาเปล่งประกาย !

เมื่อหลิงฉีไหลเข้าไปในอกของเขา มันก็ทำให้เลือดฉีของเขาแข็งแกร่งมากขึ้น !

‘ไม่พอ ! มากกว่านี้ !’ เป่ยเฟิงกรีดร้องในใจ แม้ว่าเขาจะดูดซับหลิงฉีจำนวนมหาศาลเข้าไปแต่เขาก็ยังไม่พอใจ !

ด้วยความคิด เป่ยเฟิงหยิบหินวิญญาณระดับสูงออกมาหลายพันก้อน จากนั้นเขาก็บดขยี้พวกมันแล้วดูดซับพวกมันเข้าไป !

หลังจากนั้นเขาก้หยิบมันออกมาอีก ในไม่ช้าเขาก็ดูดซับพวกมันไปมากกว่าหมื่นก่อนภายในเวลาเพียง 10 นาที !

มันเป็นจำนวนที่น่ากลัวมากและนั่นหมายถึงเขาสูญเสียไปมากเช่นกัน !

“กี้ กี้ !”

เจ้ากระต่ายตกตะลึงกับฉากตรงหน้าอย่างมาก

นี่ไม่ใช่การเก็บตัวในระยะเวลาสั้น ๆ งั้นหรอ ? ทำไมเจ้านี่ถึงมาอยู่ในระดับนี้ได้ ?

… มันจะไม่ยอมทน ! เจ้ากู่ฉีเข้าร่วมและเริ่มดูดซับหลิงฉีเพื่อพัฒนาตัวมันเองด้วย !

การเปลี่ยนแปลงปะทุขึ้นในร่างของเป่ยเฟิง เขารู้สึกราวกับว่ามีอุโมงค์ที่มืดมิดปรากฎในร่างของเขา มันยืดยาวออกไปไกลหลายร้อยเมตรและจากนั้นมันก็พบกับกระแสน้ำที่กำลังไหลเชี่ยว

เมื่อมันยืดยาวออกไปจนพบกับกระแสน้ำ ตัวกระแสน้ำเองก็มีน้ำไหลลงมาใส่มันหนึ่งหยด และจากนั้นน้ำก็ไหลกระจายออกไปทุกทิศทาง !

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลง เป่ยเฟิงไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ เขาตัดสินใจที่จะบรรลุต่อไป

“ซู้ม !”

หลังจากกระหน่ำพุ่งเข้าไปหลายรอบ เป่ยเฟิงก็รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่ามันใกล้แล้ว !

ด้วยการพุ่งเข้าปะทะหลายสิบครั้งมันทำให้อุโมงค์มันขยายตัวขึ้นหลายสิบเท่า !

กระแสน้ำขนาดเล็กจากเดิมที่ใหญ่เพียงแค่บ่อโคลน ตอนนี้มันเริ่มใหญ่มากขึ้นและไหลเร็วมากขึ้น

เป่ยเฟิงไม่สนใจว่าเขาจะต้องสูญเสียไปอีกมากแค่ไหน เขาบดขยี้หินวิญญาณที่หลงเหลืออยู่ต่อไป !

หลิงฉีไหลออกมาจากหินวิญญาณและซึมซับเข้าไปในร่างกายของเป่ยเฟิง !

เป่ยเฟิงกำลังทำลายคอขวดไปยังราชาพันปีขั้นสี่ ซึ้งหากเขาทำได้เขาก็จะสามารถส่งต่อพลังเข้าไปในร่างของจิ้งจอกน้อยได้ !

ราชาพันปีเป็นระดับพลังที่ยิ่งมีพลังสูงก็สามารถใช้ทักษะหรือวิชาเกี่ยวกับพลังวิญญาณได้มากขึ้น

ความสามารถของพลังวิญญาณจะถูกปลุกขึ้นใหม่อีกครั้งหากบรรลุระดับราชาพันปีขั้นสี่ได้ แต่ถ้าไม่ต้องการก็สามารถกลั่นทักษะหรือวิชาดั้งเดิมของตนเองให้มันพัฒนาขึ้นไปได้

ในไม่ช้าเป่ยเฟิงก็ทำสำเร็จ เขารู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลที่เพิ่มขึ้นในร่าง

จากนั้นพลังจำนวนมากก็พุ่งเข้าไปในร่างกายของจิ้งจอกน้อย

เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังที่ส่งไปมันไม่สามารถเพิ่มพลังให้กับอารมณ์ทั้ง 7 และความปรารถนาทั้ง 6 ได้ อย่าลืมว่านี่คือพลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่และมันเป็นสิ่งที่เหนือการควบคุม !

พลังทั้งหมดที่เขาส่งไปนั้นเพื่อเร่งให้จิ้งจอกน้อยตื่นขึ้น

เป่ยเฟิงพอใจอย่างมาก

เนื่องจากพลังวิญญาณอย่างอารมณ์ทั้ง 7 และความปรารถนาทั้ง 6 มันแข็งแกร่งอย่างมาก มันจึงไม่แปลกที่จิ้งจอกน้อยจะต้องจำศีลเป็นเวลานานหลังจากที่มันตื่นขึ้นมาในครั้งแรก

จากการคาดเดาของเขา เขารู้สึกได้ว่าหากเขาส่งพลังไปให้จิ้งจอกน้อยเรื่อย ๆ ในไม่ช้ามันจะต้องตื่นขึ้นมาแน่ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งทำให้เขาดีใจ

สำหรับการควบคุมพลังวิญญาณอย่างอารมณ์ทั้ง 7 และความปรารถนาทั้ง 6 นั้น เขารู้สึกว่าพลังเหล่าแค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะควบคุมมันได้ !

เป่ยเฟิงรู้สึกว่าในเมื่อพลังที่เขารวบรวมในตอนนี้มีไม่เพียงพอ เขาจึงนำมันมาใช้กับจิ้งจอกน้อยแทน

เป่ยเฟิงรู้สึกได้ว่ามิติในหน้าอกของเขาเปลี่ยนไปเนื่องจากหลิงฉีเข้าไปเรื่อย ๆ

‘มิติในนี้มันดูราวกับโลกใบหนึ่ง’

ความคิดนี้ปรากฎขึ้นมาในใจของเป่ยเฟิง

จากนั้นเป่ยเฟิงก็เริ่มทดลองกับมิติโดยการหาจับแมลงตัวเล็ก ๆ

หลังจากที่บรรลุมาได้ พลังจิตของเป่ยเฟิงในตอนนี้มันมีมากกว่าเดิมหลายเท่าเลยทีเดียว !

ในไม่ช้าเขาก็พบกับแมลงตัวเล็ก ๆ ที่เหมือนไส้เดือน เป่ยเฟิงใช้เลือดฉีของเขาเคลือบมันทำให้มันดิ้นไม่หยุด

จับ !

ด้วยความคิด ในไม่ช้าแมลงตัวเล็กก็หายไป

จากนั้นมันก็ไปปรากฎขึ้นที่กลางหน้าอกของเป่ยเฟิง !

ภายใต้การสังเกตของเขา เจ้าแมลงตัวนี้มันไม่ได้ตื่นกลัวใด ๆ กลับกลายเป็นว่ามันสูบพลังที่อยู่รอบ ๆ เข้าไปแล้วจากนั้นมันก็เริ่มขยายพันธุ์ทันที

“ของจริงงั้นรึ ! งั้นมิตินี่ก็สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ !” เป่ยเฟิงอ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่อ จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “จงหายไป !”

แมลงตัวเล็กมันขยายพันธุ์ได้เร็วมาก ในไม่ช้าตัวมันและลูกหลานของมันก็สลายตัวไปหลังจากที่เป่ยเฟิงพูดจบในทันที !

เป่ยเฟิงในปัจจุบันมีพลังอยู่ที่ราชาพันปีขั้นสี่ เขาแข็งแกร่งขนาดที่ว่าปะทะกับผู้ที่หลอมรวมเลือดฉีได้มากกว่า 90% ได้สบาย ๆ !

ถึงแม้ว่าเขาจะเอาชนะอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เขาก็ไม่มีทางถูกอีกฝ่ายฆ่าเช่นกัน !

เป่ยเฟิงยืนขึ้นจากนั้นก็รีบออกไปจากถ้ำ

เป่ยเฟิงมองไปรอบ ๆ ก่อนจะปลดปล่อยเลือดฉีออกมาครอบคลุมร่าง จากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือฟาดยังภูเขาที่สูงกว่า 100 เมตร !

“ก่อเกิด !”

ฝ่ามือของเขาที่ถูกสร้างจากเลือดฉีพุ่งไปยังภูเขาลูกใหญ่ !

“ตู้มม !”

เหมือนแผ่นดินไหว ดินและหินจำนวนมากกระจายตัวออกไปทันทีที่ฝ่ามือเข้ามาใกล้ !

จากนั้นภูเขาขนาดใหญ่ก็ระเบิดทำให้หินเล็กใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งกระจายไปทุกทิศทาง !

“แกร๊ก !”

เป่ยเฟิงลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า !

หลังจากนั้นภูเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในไม่ช้ายอดเขาก็เริ่มพังทลายลงมาแล้วพุ่งมาด้านหน้าเป่ยเฟิง !

แม้ว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อยอยู่ แต่มันก็ยังอยู่ในขอบเขตที่เขาทนได้

ยอดเขาที่พุ่งมาหาเป่ยเฟิงมันมีขนาดใหญ่มาก มันคาดเดาได้ยากว่ามันหนักเพียงใด

“เปิด !” เป่ยเฟิงตะโกนขึ้นจากนั้นเลือดฉีของเขาก็ถูกเผาผลาญอย่างรวดเร็ว หากเป็นตัวตนระดับราชาพันปีธรรมดา ๆ ต้องมาทำแบบนี้ พวกเขาจะไม่สามารถทนกับมันได้แน่นอน !

เมื่อเป่ยเฟิงเผาผลาญเลือดฉีของเขา ก็มีลวดลายปรากฎตรงหน้าเขา มันเปล่งประกายแสงสีดำออกมาจากนั้นมันก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นหลุมดำที่กว้างกว่า 100 เมตร !

แรงโน้มถ้วงดึงดูดยอดเขาที่พุ่งเข้ามาให้เข้าหาตัวมันเอง !

ภายใต้การเฝ้ามองของเป่ยเฟิง ยอดเขาถูกแบ่งเป็น 5 ส่วนเล็ก ๆ ก่อนจะถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ

ผ่านไป 3 นาทีเขาก็เผาผลาญเลือดฉีจนหมด โชคดีที่เขาสามารถดูดยอดเขาไปจนหมดก่อนที่เลือดฉีของเขาจะหมดลง !

“ฟิ้ว น่ากลัวจริง ๆ ทำไมเลือดฉีของข้าถึงหมดเร็วขนาดนี้กัน”

เป่ยเฟิงไม่คิดเลยว่าเลือดฉีของเขาจะถูกใช้ไปไวขนาดนี้

แต่เขาก็เข้าใจดีว่ามันเป็นเพราะว่าเขาดูดไปทั้งยอดเขา มันจึงเผาผลาญเลือดฉีของเขาอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่เลือดฉีสามารถฟื้นฟูได้ สำหรับเป่ยเฟิงแล้วเพียงแค่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงเขาก็สามารถฟื้นฟูมันได้แล้ว

หลังจากฟื้นฟูเลือดฉีไปได้ครึ่งหนึ่ง เป่ยเฟิงก็ใช้พลังจิตของเขาตรวจสอบมิติตรงหน้าอกของเขา

เขาเห็นก้อนหินจำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในมิติ ด้วยความคิด เขาสั่งให้พวกมันดิ่งลงไปในดินแดนที่เขาสร้างขึ้นมา !

‘ตอนนี้ข้าไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะปลูกไผ่จักรพรรดิสวรรค์ที่ไหน’ เป่ยเฟิงคิดอย่างมีความสุข

สำหรับแสงแดดในการเลี้ยงดู มันไม่จำเป็น

เป่ยเฟิงสำรวจท้องฟ้าในมิติก่อนจะเห็นหยดน้ำที่ลอยอยู่รอบ ๆ

ด้วยความคิด หยดน้ำหลายหยดก็รวมตัวกันแล้วมาลอยอยู่ในมือของเป่ยเฟิง

‘หลิงฉีนี้บริสุทธิ์มาก มันต้องเป็นของเหลวที่เกิดจากหลิงฉีของสวรรค์และโลกแน่นอน !’

ตอนนี้เป่ยเฟิงรู้แล้วว่าหลิงฉีที่เขาดูดซับไปจำนวนมากมันหายไปไหน !

จากนั้นเป่ยเฟิงก็หยิบไผ่จักรพรรดิสวรรค์ออกมาจากแหวนมิติ และเตรียมนำมันไปปลูก

แต่ก่อนที่จะปลูกมัน เขาก็สร้างบ่อน้ำธรรมชาติไว้ก่อน น้ำในบ่อก็ค่อย ๆ ไหลกระจายไปทั่วดินแดน ซึ้งน้ำในบ่อก็เกิดมาจากหลิงฉีที่เขาดูดซับมันมา

ผืนดินทั้งดินแดนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำและพลังชีวิต

แต่ทว่านอกเหนือจากต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์แล้วมันไม่มีพืชชนิดอื่นใดทั้งสิ้น

จากนั้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ก็ถูกปลูกลงดิน ในไม่ช้ารากของมันก็ทิ่มลงไปในดินและเริ่มดูดซับหลิงฉีจำนวนมาก

เมื่อต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์หยั่งรากอย่างมั่นคั่งแล้ว บ่อน้ำก็เต็มไปด้วยน้ำพอดี

“หลิงฉีในบ่อน้ำนี้คือสิ่งที่ข้าดูดซับมันมาก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ไปมันจะถูกมอบให้ต้นไผ่จักรพรรดิสวรรค์ !” เป่ยเฟิงพึมพำ

หินวิญญาณระดับสูงหลายพันก้อนมีส่วนช่วยในการสร้างบ่อน้ำไม่น้อย !

อย่างไรก็ตาม เป่ยเฟิงรู้สึกว่ามันควรจะมีอะไรมากกว่าที่เขาค้นพบ แน่นอนว่าการใช้มิติแห่งนี้ต้องมีประโยชน์มากกว่านี้แน่นอน

แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่สามารถเข้าใจมันได้ดีพอ มันจึงทำให้เขาไม่สามารถใช้มันเพื่อทำอย่างอื่นได้

‘นี่คือผลลัพธ์ของการพัฒนาที่ปราศจากการช่วยเหลือจากระบบและมรดกสืบทอด’

เป่ยเฟิงถอนหายใจ เขารู้สึกว่ามันไร้ประโยชน์สิ้นดีเพราะเขาไม่รู้ว่าจะใช้มิติแห่งนี้ได้ดีขึ้นอย่างไรกัน

เป่ยเฟิงไม่มีทางเชื่อว่ามีเพียงเขาที่สร้างมิติขึ้นมาเองได้ มิติแห่งนี้ปรากฎตัวในตอนที่เขาหลอมรวมเลือดฉีได้ 10% ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่คนอื่น ๆ จะมีมิติของตัวเองเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกตนเหล่านี้สุดท้ายก็ไม่มีทางเทียบได้กับผู้มีพลังระดับหมื่นปี !

และเป็นอย่างที่เขาคิด ไม่ว่าเขาจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมิติอย่างไรเขาก็ไม่สามารถพบสิ่งใดได้ มันราวกับข้อมูลเหล่านี้คือความลับที่ไม่เปิดเผยให้คนภายนอกได้รู้

“ดูเหมือนข้าจะต้องไปเยี่ยมนิกายสวรรค์นิรันดร์ซักหน่อยแล้ว”

เป่ยเฟิงลุกขึ้นอย่างช้า ๆ จากนั้นก็มองไปยังปากถ้ำ

เขามั่นใจในตัวเองมากว่าสามารถเข้านิกายสวรรค์นิรันดร์ได้ หากแม้แต่เขายังเข้าไม่ได้ก็คงไม่มีใครเข้าได้แล้ว

“ก๊ากกก !”

เจ้ากระต่ายร้องโหยหวนอยู่ข้างนอกถ้ำ

ร่างกายของมันเต็มไปด้วยเลือดฉีที่น่าสะพรึงกลัว มันกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ระลอกคลื่นพุ่งออกมาจากร่างของมันกระแทกเข้ากับต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ !

เมื่อสัมผัสได้ถึงฉีอันทรงพลังของมัน เป่ยเฟิงก็รู้ได้ทันทีว่ามันกำลังจะบรรลุราชาพันปีขั้นสี่

อย่างไรก็ตาม เจ้ากระต่ายในตอนนี้มันดูเหมือนกำลังเลือกบางอย่างอยู่ สุดท้ายมันก็กัดฟันตัดสินใจ

จากนั้นดาบสีแดงเลือดก็ปรากฎตรงหน้ามัน ตามมาด้วยระฆังสีแดงปรากฎเหนือหัวของมัน

“ทำลาย ! ทำลายย !”

“ปัง ! ปัง !”

เจ้ากระต่ายอ้าปากคำรามออกมา หลังจากนั้นก็มีเสียงแตกบางอย่างดังขึ้นสองเสียง

จากนั้นก็มีพลังแปลก ๆ ปรากฎขึ้นแล้วไหลเข้าไปในดาบสีแดงเลือดและระฆังสีแดง !

“กิ๊ง !”

“กิ๊ง !”

พลังอันทรงพลังทั้งสองถูกฉีดเข้าไปในระฆังสีแดงและดาบสีแดงเลือดทำให้ฉีของพวกมันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล !

อาวุธทรงพลังทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศราวกับถูกบางอย่างโอมอุ้มอยู่ ผิวของดาบสีแดงเลือดค่อย ๆ เปลี่ยนไป สีแดงของมันค่อย ๆ หายไปจนเกือบทำให้มันโปร่งใส

ส่วนระฆังสีแดงมันกลับมีสีแดงมากกว่าเดิมราวกับมันเปียกโชกไปด้วยเลือด !

แม้แต่ดอกไม้ นกและปลาบนระฆังก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

หากใครมาจ้องมอง พวกเขาจะรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของมัน !

ความสัมพันธ์ระหว่างเป่ยเฟิงและเจ้ากระต่ายเสมือนเจ้านายกับคนใช้ ดังนั้นเป่ยเฟิงจึงรู้ว่าเจ้ากระต่ายตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่

แต่ทว่าเป่ยเฟิงอดไม่ได้ที่จะว่ามัน “แกบ้าไปแล้ว ? แกเลือกที่จะยอมแพ้กับวิชาตัวตายตัวแทนกับวิชาควบคุมเลือดทำไมกัน ?”

เป่ยเฟิงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้ากระต่ายถึงตัดสินใจแบบนี้ ท้ายที่สุดแล้ววิชาควบคุมเลือดมันมีประโยชน์อย่างมาก และไม่ต้องพูดถึงวิชาตัวตายตัวแทนเลย มันทำให้เป่ยเฟิงถึงกับอยากมีเองเลยด้วยซ้ำ

แม้ว่าวิชาตัวตายตัวแทนจะใช้ได้เพียงเดือนละครั้ง แต่มันก็เป็นพลังวิญญาณอันทรงคุณค่า !

มันหมายถึงการมีชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 12 ชีวิตในหนึ่งปี แต่เจ้ากระต่ายหน้าโง่นี่กลับเลือกที่จะทิ้งมันไป !

“กี้ กี้ !”

กู่ฉีอธิบายให้เป่ยเฟิงฟัง

ในที่สุดเป่ยเฟิงก็เข้าใจว่าทำไม แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเสียดายมันแทน “ถึงแกอยากจะจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่แกก็ควรจะเลือกวิชาตัวตายตัวแทนสิ”

“กี้ กี้ !”

เจ้ากระต่ายส่ายหัว

ปากของเป่ยเฟิงกระตุกและพูดขึ้น “เฮ้อ ก็ได้ ๆ แต่อย่ามาเสียใจทีหลังละหากแกถูกฆ่าตายในวันใดวันหนึ่ง’

อันที่จริงเจ้ากระต่ายมันก็ไม่อยากทิ้งวิชาตัวตายตัวแทนเหมือนกัน แต่ทว่านั่นอาจจะกลายเป็นอุปสรรค์ในการพัฒนาของมันได้

มันจึงเลือกที่จะยอมแพ้ต่อพลังวิญญาณนี้และมุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญอย่างดาบแดงเลือดกับระฆังแทน !

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท