Fishing in the Myriad Heavens – ตอนที่ 621

ตอนที่ 621

ทำไมผู้มีพลังระดับหมื่นปีถึงมีชีวิตยืนยาวมานานเป็นพัน ๆ ปีได้ ? นั่นก็เพราะบางเรื่องมันไม่มีค่าให้สนใจ

หากผู้มีพลังระดับราชาพันปีขั้นสูงสุดเล็ดลอดเข้าไปซากโบราณได้ นั้นหมายความว่าเหล่าอัจฉริยะที่มีพลังเพียงร้อยปีจะพบกับหายนะแน่นอน

แต่ในตอนที่พวกเขากำลังจะโจมตีออกไป พวกเขาก็พบว่าอสูรที่เคารพกลับอยู่นิ่ง มันทำให้พวกเขาเข้าใจได้ในทันที

“มันไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจ แต่มันเป็นเพราะไม่มีค่าให้สนใจตั้งแต่แรก ! คนแบบไหนที่ไม่ควรจะสนใจ ? นั่นก็คือคนที่กำลังจะตายไปเอง !”

ในไม่ช้าเหล่าผู้มีพลังระดับหมื่นปีก็สงบลง เขามองลานเทียนราวกับมองคนบ้า

‘หากข้าสามารถหาสมบัติที่อยู่ข้างในพบทั้งหมด บางทีข้าอาจมีโอกาสที่จะบรรลุระดับหมื่นปีก็ได้ ! หลังจากนั้นต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าพวกแก่บัดซบนี้ข้าก็ไม่มีอะไรต้องกลัว !’

ลานเทียนรู้สึกตื่นเต้นจนร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย

ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ !

ตราบใดที่บรรลุระดับหมื่นปีได้ มันจะไม่มีอะไรทำอันตรายเขาได้อีกต่อไป

ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก หากเขามีพลังระดับหมื่นปีมันก็ยังไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะหนีอีกฝ่ายได้ อาจกล่าวได้ว่าเขาสามารถไปที่ไหนก็ได้ที่เขาต้องการ !

สำหรับความสูญเสียที่เขาจะมอบให้กับเหล่า 12 กลุ่ม เขาคิดจะจัดการอัจฉริยะของพวกเขาทั้งหมด

การสร้างความขุ่นเคืองต่อผู้มีพลังระดับหมื่นปีไม่ใช่เรื่องสนุก แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะพวกแก่ ๆ เหล่านั้นได้ แต่ทว่าเขายังคงสามารถจัดการกับเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของอีกฝ่ายได้ !

‘ลืมมันไปก่อน ข้าจะไม่ไล่ฆ่าคนโดยไร้สาระ ข้าต้องหาสมบัติให้เจอก่อน’ ลานเทียนพึมพำกับตัวเอง

ทั้ง 12 กลุ่มได้ส่งอัจฉริยะที่ฉลาดที่สุดของพวกเขาออกมาทั้งหมด หากเขาเริ่มไล่ฆ่าเด็กพวกนั้นมันมีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 12 กลุ่มจะโกรธแค้นเขาจนเขาไม่สามารถพักผ่อนได้จนกว่าเขาจะตาย

“ไอ้โง่”

เป่ยเฟิงส่ายหัว สหายผู้นี้คิดว่าสัตว์อสูรเหล่านี้เป็นคนโง่หรือยังไง คำพูดที่อินทรีเก้าหัวพูดกับเขาในตอนนั้นยังคงดังก้องอยู่ในความคิดของเขา

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันใช้เวลาในการอธิบายนาน แต่ความจริงแล้วทั้งหมดมันเกิดขึ้นในพริบตาเท่านั้น ในไม่ช้าลานเทียนก็ก้าวเท้าแตะไปที่สะพาน !

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มออกตัววิ่งอย่างบ้าคลั่ง !

“ซู้ด !”

“รู้สึกว่าสะพานมันใหญ่ขึ้นหรือเขาตัวเล็กลงไหม ?”

“สะพานนี่มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว !”

ทุกคนที่อยู่บนแท่นหินถึงกับอ้าปากค้าง

แม้กระทั่งผู้มีพลังระดับหมื่นปีที่ต้องการจะพุ่งไปก่อนหน้านี้ก็ตกใจ แต่พวกเขาก็โล่งใจด้วยเช่นกันที่พวกเขาไม่ได้พยายามโจมตีออกไป

สะพานหินแห่งนี้แน่นอนว่ามันไม่ได้เรียบง่าย หากพวกเขาพยายามจับผู้มีพลังระดับราชาพันปีขึ้นไปให้เข้าไปในซากโบราณ ผลตอบแทนของมันคือการตอบโต้กลับ !

ในสายตาของผู้คน สะพานหินยังคงเป็นสะพานหินแบบเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ลานเทียนก้าวขาลงไปแตะสะพานหิน ขนาดของเขาก็ลดหดลงหลายพันเท่าจนมีขนาดเท่าฝุ่น !

มันทำให้สะพานที่ดูทรุดโทรมนี้ดูคล้ายกับดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ ส่วนลานเทียนก็เหมือนมนุษย์ตัวจ้อยที่อยู่บนดาวดวงนั้น !

ในสายตาของผู้คน ลานเทียนได้กลายเป็นฝุ่นละอองไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะทุกคนเป็นผู้ฝึกตน พวกเขาคงไม่มีทางมองเห็นได้ !

“สะพานนี้แปลกเกินไป”

“พวกเราจะเข้าไปจริง ๆ งั้นหรอ ?”

“ทำไมข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจกัน ?”

ผู้ที่ไวที่สุดที่อยู่ด้านหน้า ฉิงริยู่และอีกสองคนหยุดวิ่งและมองหน้ากันไปมาด้วยความไม่แน่ใจ

สถานการณ์ในตอนนี้แปลกมาก ๆ แม้แต่พวกเขาทั้งสามคนที่เติบโตมาพร้อมกับภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน

ผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ที่วิ่งอยู่ด้านหลังเองก็หยุดด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

“เร็ว ดูนั่นสิ !”

“นั่นมันอะไรกัน ?”

ผู้คนมองไปข้างหน้าพร้อมกับอ้าปากค้าง มีบางอย่างเกิดขึ้นบนสะพานอีกครั้ง !

ลานเทียนไม่ได้พบความผิดปกติเกี่ยวกับตัวเองแม้แต่น้อย เขารู้สึกราวกับว่าสะพานมันใหญ่ขึ้นและค่อนข้างกว้างขึ้นเท่านั้น

มองจากข้างนอกมันควรจะยาวประมาณ 100 จั้งเท่านั้น นี่คือระยะทางที่เขาควรจะก้าวข้ามได้ในพริบตา แต่ตอนนี้หลังจากผ่านไปหลายลมหายใจ เขาก็ยังคงไม่เห็นปลายทางของสะพานซักที

‘ยิ่งมันยาวมากแค่ไหน นั่นหมายความว่าสมบัติที่รออยู่มันไม่ใช่ของที่จะหาได้ง่าย ๆ ! นั่นหมายความว่าสมบัติที่ข้าจะได้มันต้องยิ่งใหญ่แน่นอน !’

แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ลานเทียนก็ยังคงวิ่งต่อไปพร้อมกับคิดในแง่ดี

เพียงแค่ทางเข้าก็น่าพิศวงขนาดนี้แล้ว มันบ่งบอกถึงความตายในการหาสมบัติได้เป็นอย่างดี

แต่มีสิ่งที่แปลกประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือทำไมถึงไม่มีใครตามเขามาเลย

ก่อนหน้านี้เขาก้าวสั้น ๆ แต่มันก็เร็วกว่าคนอื่น แต่อย่างน้อยฉิงริยู่และที่เหลือน่าจะตามมาได้ทันแล้วสิ

“แปลก… ทำไมข้าถึงรู้สึกอ่อนแอขนาดนี้ ? ขาของข้าหายไปไหนกัน ? ร่างกายของข้า ? ทำไมข้าถึงขยับไม่ได้ ?” ลานเทียนพึ่มพำพร้อมกับจิตสำนึกของเขาที่ค่อย ๆ จมลงสู่ความมืด

ด้านนอก ทุกคนเห็นว่าลานเทียนที่กำลังวิ่งอยู่นั่นมีเส้นสีขาวเงินจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฎรอบตัวเขา มันค่อย ๆ หันเนื้อของเขาอย่างง่ายดาย !

จากนั้นมันก็ห่อหุ้มรอบตัวเขา !

หลังจากนั้นรอยแตกสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฎบนร่างกายของเขาจากนั้นเขาก็เริ่มแตกสลาย !

เลือดและเนื้อของเขากระจายออกไปทุกทิศทาง จากนั้นมันก็ถูกสะพานดูดซับไปจนไม่หลงเหลืออะไรทิ้งไว้

“เอ๊ะ … ข้ารู้สึกว่าพลังของข้ามันต่ำเกินไป ข้ากลัวว่าข้าจะทำภารกิจสำรวจซากโบราณไม่ได้”

“เดี๋ยวนะ ข้าเพิ่งนึกได้ว่าข้าต้มน้ำร้อนให้ลูกอาบเอาไว้ ข้าต้องกลับไปดูก่อนว่าน้ำมันเย็นลงหรือยัง” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งพูดด้วยความจริงจังจนทำให้ผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ กรอกตามอง

“แค่ก แค่ก ดูเหมือนเถาวัลย์พันดาราจะไม่ได้มีโชคชะตาที่จะกลายเป็นของข้าซะแล้ว”

ผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ยืนอยู่รอบ ๆ สะพานหินเริ่มถอยออกมา

นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน ? พวกเขามาเพื่อแสวงหาสมบัติ ไม่ใช่มาเพื่อฆ่าตัวตาย !

ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาพันปีที่ต่อให้พวกเขารวมพลังกันก็ยังเอาชนะไม่ได้ ตอนนี้ได้ตายไปแล้ว !

สัตว์อสูรที่เคารพส่ายหัวและพูดขึ้น “ไม่จำเป็นต้องตกใจ การโจมตีนั้นมีเพียงผู้มีพลังระดับราชาพันปีขึ้นไปเท่านั้น คนที่เหลือจะไม่เป็นอะไร”

“ก้าวต่อไป โชคชะตาและโอกาสจะมันมาท่ามกลางความเสี่ยงเท่านั้น !”

ผู้คนยังคงลังเล ภาพของลานเทียนยังคงแจ่มชัดอยู่ในความคิดของพวกเขา

ทันใดนั้นฉิงริยู่ก็กัดฟันและพุ่งไปข้างหน้า ก้าวลงบนสะพานหิน !

ทันใดนั้นร่างของฉิงริยู่ก็หดตัวลงจะขนาดเท่าฝุ่น

เมื่อเห็นฉิงริยู่ก้าวไปข้างหน้า ชายหนุ่มจากตระกูลซุยและเด็กหนุ่มสูง 1.7 เมตรจากนิกายอสูรแรกเริ่มก็มองหน้ากันก่อนจะก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล

“ฮ่าฮ่า แม้แต่ผู้หญิงคนนั้นยังมีความกล้าขนาดนี้ แล้วตระกูลซุยของข้าจะมาปอดแหกได้อย่างไร !”

“ข้าเชื่อในกำปั้นของตัวเองเท่านั้น !”

เมื่อทั้งสามคนนำหน้า คนที่เหลือของอีก 12 กลุ่มก็ไม่ลังเลอีกต่อไป

สำหรับคนอื่น ๆ ที่ยังไม่มีความกล้าพอ พวกเขาเพียงแค่ยืนอยู่ตรงทางเข้าด้วยความหงุดหงิด

เวลาผ่านไปช้า ๆ เมื่อไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นกับฉิงริยู่กับคนที่กว่า 1 ใน 3 ที่ก้าวเข้าไปในสะพาน ในที่สุดผู้คนที่อยู่ทางเข้าก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

“รีบเข้าไปเร็ว เราจะปล่อยโอกาสทั้งหมดให้ถูกคว้าไปโดยทั้ง 12 กลุ่มนั้นไม่ได้ !”

“มันต้องเป็นของข้า !’

เมื่อทุกคนก้าวลงไปบนสะพาน มันราวกับปลาซาร์ดีนที่ถูกบรรจุในกระป๋อง มันบีบทุกคนเข้าด้วยกัน

“เอ๊ะ ? ไม่ใช่ว่าลูกของเจ้ายังนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำงั้นรึ ? ทำไมเจ้าไม่ไปดูน้ำว่าเย็นหรือยังล่ะ ?”

“บัดซบ ข้าเพิ่งจำได้ว่าข้ายังไม่มีภรรยา ! ข้าจะไปมีลูกได้ยังไง !” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งกล่าวขึ้นโดยหน้าไม่เปลี่ยนสี เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

“เอ๊ะ ? หรือข้าจำผิดคน ?”

คนที่พูดเกาหัวด้วยความสับสน

ตอนนี้ต่อให้คนที่เกลียดกันมาเจอหน้ากัน พวกเขาก็ไม่สนใจอีกฝ่าย สิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือการก้าวไปข้างหน้าด้วยสองขาด้วยพลังทั้งหมด !

“บัดซบ นานแค่ไหนแล้วที่ข้าไม่ได้วิ่งแบบนี้ !” ผู้ฝึกตนที่อ้วนคนหนึ่งบ่นขึ้น หากอยู่ในระดับเซียนเทียน เขาจะสามารถก้าวไปในอากาศในระยะสั้น ๆ ยิ่งมีพลังระดับสวรรค์ก็จะสามารถบินไปในอากาศได้ตามที่พวกเขาพึงพอใจ !

แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขากลับไปอยู่ในระดับเซียนเทียน ความเร็วของพวกเขามันเชื่องช้ามาก มันช้าขนาดที่พวกเขาฉีกรองเท้าที่คิดว่ากำลังถ่วงน้ำหนักอยู่ทิ้งไปก็ยังช้า

ทำไมพวกเขาถึงไม่บินไปบนอากาศ ? ดูเจ้าพวกที่คิดจะบินไปในอากาศแล้วหล่นลงมาเหมือนหมูนั่นสิ เห็นได้ชัดว่ามันบินที่นี่ไม่ได้

รอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนที่เกิดจากเจ้าพวกบัดซบนั่น มันยิ่งทำให้พวกเขาโกรธยิ่งขึ้น

แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถบินได้ แต่การกระโดดข้ามรอยแตกนั้นง่ายดาย แต่สิ่งที่พวกเขาปวดหัวมากที่สุดคือก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ที่แข็งและแหลมมากที่อยู่ทั่วพื้น !

บัดซบ กระโดดข้ามรอยแตกว่าแย่แล้ว พวกเขายังต้องกระโดดข้ามหินพวกนี้อีก

หินพวกนี้แข็งมาก มันเคยมีคนลงน้ำเหยียบหินลงไปและสุดท้ายก็จบด้วยเท้าของเขาที่ปกคลุมไปด้วยเลือด

ทุกคนได้แต่สาปแช่งในขณะวิ่ง พวกเขารุ้สึกว่ามันมีบางอย่างทำให้หินพวกนี้ทำให้พวกเขาบาดเจ็บได้

มีคนหนึ่งวิ่งชนเข้ากับหินและเขาร้องด้วยความเจ็บปวดจนไม่สามารถวิ่งต่อได้ คนอื่น ๆ ทำได้เพียงแค่มองเขาด้วยความสงสารก่อนจะวิ่งผ่านไป

“พี่ชายคนนั้นเขามีพรสวรรค์ล้ำเลิศจริงหรือเปล่า ? บางทีเขาอาจเป็นคนแรกที่ตายเพราะความเจ็บปวดก่อนจะเข้าไปในซากโบราณก็ได้”

“เขาเป็นคนมีพรสวรรค์จริง ๆ เจ้าไม่รู้หรอกว่าความเจ็บปวดที่เกิดจากบาดแผลเล็ก ๆ นั้นมันราวกับว่าถูกดาบฟันถึง 20-30 ครั้ง”

ผู้คนพูดกันเสียงดัง พวกเขามาไกลแล้ว มันจึงไม่มีใครเต็มใจที่จะยอมแพ้

ความเจ็บปวดก็เป็นอีกเรื่อง แต่ก้อนหินเล็ก ๆ พวกนี้มันมีขนาดใหญ่เท่ากับภูเขาในสายตาของผู้คนบนสะพาน !

เมื่อมองฉากตรงหน้า เป่ยเฟิงนึกถึงหุ่นทองแดงตัวหนึ่งที่เขาเห็นในสุสานจักรพรรดิฉิน !

เดิมทีหุ่นทองแดงตัวนั้นไม่ใหญ่ แต่เมื่อยืนต่อหน้าเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นหุ่นทองแดงที่ใหญ่ขึ้นหรือเขาเองที่ตัวเล็กลง

‘ดูเหมือนสะพานนี้จะเป็นสมบัติล้ำค่าเหมือนกัน !’ เป่ยเฟิงคิด

น่าเสียดายที่สะพานไม่ใช่สิ่งที่เขาจะเอามาได้ในตอนนี้ นอกจากนี้มันยังมีสัตว์อสูรอีก 19 เผ่าพร้อมกับสัตว์อสูรที่มีพลังระดับหมื่นปีอยู่ใกล้ ๆ พวกมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำให้ขุ่นเคืองได้

สัตว์อสูรที่เคารพใบหน้าเต็มไปด้วยความโลภในขณะมองสะพาน ในไม่ช้าใบหน้านั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว

สัตว์อสูรเหล่านี้รู้ดีว่าสะพานมันไม่ได้เรียบง่าย แม้ว่าพวกมันต้องการจะข้ามไปเองแต่สุดท้ายสะพานก็ทำลายพวกมัน ใช่แล้ว พวกมันที่มีพลังระดับหมื่นปีเองยังทำอะไรสะพานไม่ได้ !

ในอดีตเคยมีสัตว์อสูรระดับหมื่นปีถึงสองตัวตายไปแบบเดียวกับลานเทียน !

สำหรับสัตว์อสูรระดับราชาพันปี พวกมันพยายามที่จะข้ามสะพานไปแต่สุดท้ายพวกมันก็ตายไปทั้งหมดกว่าร้อยตัว !

เมื่อเห็นผลลัพธ์ สัตว์อสูรทั้ง 19 เผ่าก็รู้ว่าจะดีที่สุดที่จะไม่แตะต้องสะพานนี้ เพราะแม้แต่พวกมันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะตายอย่างไร !

Fishing in the Myriad Heavens

Fishing in the Myriad Heavens

Status: Ongoing

เป่ยเฟิงผู้เหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมือง เขาได้ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ในขณะที่เขากำลังเก็บ [ดอกแอสเตอร์] ที่โผล่อยู่ใกล้ๆรั้วของเขา เขาได้มองไปที่ภูเขาทางใต้ลูกนั้น เขาแค่ไม่คิดว่าการเลี้ยงไก่และเป็ดไม่กี่ตัวจะทำให้ชีวิตเขาเรียบงานและสบายใจขนาดนี้ได้

ยังไงก็ตามใครจะไปคิดว่าชะตากรรมเล่นตลกกับเป่ยเฟิง ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับบ่อน้ำโบราณ หรือจะเรียกว่าบ่อน้ำเวทมนย์ดี ไม่ว่าปลาที่ตกได้ตัวโคตรใหญ่

หรือจะเป็น ไก่ตัวใหญ่ที่เมื่อมันโผล่ออกมาก็ได้วิ่งไล่จิกเขาไปทั่ว เขาได้แต่นึกเสียใจและตะโกนเขาถามสวรรค์ว่า “ถ้าวันนั้นเขาต้องการมังกรแทนที่จะเป็นไก่ มันจะเกิดเชี้ยไรขึ้นกับเขา”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท